เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 90 ตัวร้ายและนางเอก
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 90 ตัวร้ายและนางเอก
ตอนที่90 : ตัวร้ายและนางเอก
“งั้นพรุ่งนี้เช้า เราให้ทุกคนมารวมตัวกันก่อนเวลา แล้วให้ชินโดอธิบายรายละเอียดเมนูเพื่อให้ทุกคนช่วยกันตัดสินใจ แบบนั้นดีไหม?”
“อืม ฉันจะอธิบายรายละเอียดของแต่ละเมนูให้ทุกคนฟัง แล้วสุดท้ายก็ให้โหวตตัดสินใจกันอีกครั้ง แบบนั้นน่าจะดีที่สุดล่ะนะ”
“วิธีนี้น่าจะสงบที่สุดนั่นแหละ ถ้าปล่อยให้พวกมือใหม่เรื่องทำขนมเถียงกันเองคงไม่ลงตัวหรอก ยังไงชินโดในฐานะหัวหน้าทีมทำอาหารต้องคุมงานนี้อยู่แล้ว”
ในตอนที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ผมกับฮิเมโนะก็เริ่มสรุปแผนการต่อไป
แค่พิจารณาผลสำรวจต่อไปก็คงไม่มีความคืบหน้าอะไร
เพราะงั้น เราตัดสินใจว่าจะให้ผมอธิบายรายละเอียดของเมนูที่เสนอทีละเมนูแล้วค่อยเปิดโหวตกันใหม่อีกครั้ง
ถึงจะบอกว่ายังพอมีเวลาเหลือก่อนถึงวันงาน แต่ห้องของพวกเราดูเหมือนจะออกตัวช้ากว่าห้องอื่นๆ
อย่างห้องของมาชิโระที่อยู่ติดกัน พวกเขาได้ข้อสรุปเรียบร้อยและเริ่มเตรียมงานไปไกลแล้ว ห้องอื่นๆก็คงคล้ายกัน
เพื่อไล่ตามให้ทันพวกเขา ห้องของเราต้องเร่งเตรียมงานให้ราบรื่นโดยไม่แพ้ห้องอื่น
แต่ถึงอย่างงั้นก็ต้องระวังไม่ให้รีบร้อนจนเกินไป
ถึงจะอยู่ในตำแหน่งที่เหมือนหัวหน้าชั้นเรียน แต่ผมซึ่งเป็นตัวร้ายไม่ได้มีอำนาจในการพูดอะไรมากนัก
ผมต้องพยายามรวบรวมความคิดเห็นของทุกคนและทำให้การพูดคุยลงตัวที่สุดเท่าที่จะทำได้
“งั้นเรื่องที่เหลือไว้พรุ่งนี้ต่อแล้วกัน ฉันจะเตรียมเนื้อหาที่ต้องอธิบายให้ทุกคนฟังเอง”
“อ่าา ฝากด้วยนะ ส่วนฉันจะไปบอกเรื่องที่คุยกับชินโดวันนี้ในแชตกลุ่มก่อน เพราะอยากให้ทุกคนมาเจอกันแต่เช้า แบบนี้งานจะได้คืบหน้าเร็วขึ้น”
“อืม ขอบคุณมากนะ แล้วก็อย่าลืมเชิญฉันเข้ากลุ่มด้วยล่ะ การถูกทิ้งไว้ข้างนอกแบบนี้มันเหงานะ”
“จริงด้วยสิ เอาเป็นว่าเรื่องนั้นให้ฉันจัดการให้เอง ฉันจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจเอง”
ฮิเมโนะลุกขึ้นจากที่นั่งพลางปัดกระโปรงของเธอ
แม้จะใช้เวลาพูดคุยกันไปนานพอสมควร แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าเราได้เตรียมงานเทศกาลวัฒนธรรมไปอีกขั้น
ในตอนนั้นเอง ผมสังเกตเห็นฮิเมโนะกำลังจ้องมองมาที่ผมอย่างตั้งใจ
“มีอะไรรึเปล่า? หรือว่ายังมีเรื่องอะไรอยากพูดอีกหรอ?”
“มีสิ ถึงงานวัฒนธรรมจะสำคัญก็เถอะ แต่อย่าลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดล่ะ”
“เรื่องที่ฟุเสะคาวะเปลี่ยนไปสินะ แน่นอน ฉันไม่ลืมหรอก”
“สำหรับฉันแล้ว เรื่องนั้นเป็นหัวข้อหลักเลยล่ะ พอไม่มีความคืบหน้าก็แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน”
“อืม… ถึงฉันอยากจะช่วยให้เร็วที่สุดก็เถอะ”
ผมเข้าใจถึงความรู้สึกที่ฮิเมโนะมีต่อฟุเสะคาวะ ไรโตะเป็นอย่างดีจากการอ่านเนื้อเรื่องต้นฉบับ
ในฐานะนางเอกหลักคนหนึ่งและในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก เธอเป็นคนที่ได้เห็นฟุเสะคาวะ ไรโตะในระยะที่ใกล้ที่สุด
ในต้นฉบับ เธอทำทุกอย่างเพื่อฟุเสะคาวะ ไรโตะ แสดงออกถึงความสำคัญที่มีต่อเขาผ่านการกระทำต่างๆ
ในฐานะคนที่เคยเชียร์ฮิเมโนะในต้นฉบับ ผมเองก็อยากจะรู้เหตุผลของการเปลี่ยนไปของฟุเสะคาวะ ไรโตะให้เร็วที่สุดเหมือนกัน
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ได้ง่ายๆ
พฤติกรรมแปลกๆของฟุเสะคาวะ ไรโตะมักเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์ที่ต่างไปจากต้นฉบับ
ทุกครั้งที่ตัวร้ายอย่างผมหรือมาชิโระทำให้เกิดสถานการณ์นอกเหนือจากเนื้อเรื่อง ฟุเสะคาวะ ไรโตะก็จะแสดงท่าทางที่ไม่เหมือนพระเอกออกมา
หมายความว่า ถ้าต้องการตอบสนองต่อความต้องการของฮิเมโนะ ผมจำเป็นต้องสร้างสถานการณ์ที่นอกเหนือจากต้นฉบับขึ้นมาอีกครั้ง
พอเป็นแบบนี้ บางทีเราอาจจะได้เห็นเหตุผลและต้นตอของความเปลี่ยนแปลงนั่น และถ้าคอยสังเกตอย่างระมัดระวังก็อาจเข้าใกล้คำตอบได้
แต่การสร้างสถานการณ์นอกเหนือจากต้นฉบับในงานเทศกาลวัฒนธรรมครั้งนี้อาจเป็นเรื่องยาก
ถึงแม้จะมีการแบ่งหน้าที่ในเตรียมงานที่ต่างจากต้นฉบับ แต่ภาพรวมของเรื่องราวยังคงเหมือนเดิม
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด สุดท้ายแล้วร้านคาเฟ่ขนมหวานของห้องสองก็จะประสบความสำเร็จเหมือนกับในต้นฉบับ
ถึงผมอยากทำให้มันแตกต่างเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง แต่การจะทำให้ความสำเร็จของคาเฟ่เปลี่ยนไปจากตั้นฉบับนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ในต้นฉบับ แม้จะมีการขัดขวางจากชินโด ริวสุเกะในฐานะตัวร้าย ฟุเสะคาวะ ไรโตะก็ยังสามารถรวมใจเพื่อนในห้องและทำให้ร้านประสบความสำเร็จได้
สำหรับคาเฟ่คาเฟ่ของห้องสอง ความสำเร็จนั้นเหมือนเป็นชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
(เทศกาลวัฒนธรรมเป็นอีเวนต์ใหญ่ใน ‘Fusekoi’ จะเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องคงทำไม่ได้ง่ายๆแน่…)
ในตอนที่ผมกำลังคิดหาวิธีที่จะสร้างสถานการณ์นอกเหนือในขอบเขตของเทศกาลวัฒนธรรม ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อ๊ะ! ริวสุเกะ ยังอยู่ในห้องนี้นี่เอง! ดูนี่สิ ฉันทำเสร็จแล้วล่ะ!”
เสียงสดใสร่าเริงดังมาจากหน้าประตูห้องเรียน
พอผมหันไปมอง ก็พบกับเทพธิดา… ไม่สิ มาชิโระ เพื่อนสมัยเด็กของผมต่างหาก
วันนี้เธอก็ยังน่ารักเหมือนเดิม
มาชิโระวิ่งเข้ามาหาผมอย่างดีใจ พร้อมยื่นสมุดที่ถืออยู่ให้ผมดู
“โอ้ มาชิโระ เสร็จแล้วเหรอ?”
“ใช่ เมื่อวานมันยังเป็นแค่ร่างคร่าวๆ แต่ฉันอยู่ทำต่อหลังเลิกเรียนจนแก้ไขรายละเอียดเสร็จหมดเลย ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน แต่ในที่สุดก็ทำเสร็จจนได้แหละ!”
มาชิโระยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวเล็กๆอย่างน่ารักพลางเปิดสมุดให้ดู
ในนั้นคือภาพวาดชุดเมดที่เต็มไปด้วยระบายและลวดลายอย่างละเอียด ซึ่งเมื่อวานเธอเคยให้ดูภาพร่างมาก่อนแล้ว
พลางถือสมุดให้อยู่ในระดับสายตา เธอก็เริ่มอธิบายรายละเอียดของภาพอย่างกระตือรือร้น
“ตรงที่มีริบบิ้นเด่นๆฉันเพิ่มระบายใหญ่ไว้ที่ช่วงอก แล้วก็มีริบบิ้นอีกอันตรงช่วงเอวด้วยนะ จากนั้นก็จีบกระโปรงสั้นๆให้บานออกนิดหน่อย จับคู่กับถุงน่องสีดำ…”
“โห— ฉันว่าทำออกมาได้ดีมากเลยนะ แบบนี้ต้องนิยมแน่เลย”
“น่ารักจนต้องถูกใจทุกคนแน่ๆเลยแหละ! ต่อไปก็ให้เพื่อนในห้องดูก่อน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็เตรียมจัดหาวัสดุเพื่อพร้อมใช้ในวันงานจริง”
“สุดยอดไปเลยนะ มาชิโระ เธอพยายามมากจริงๆ แค่ช่วงสั้นๆแต่ทำออกมาได้ถึงขนาดนี้ น่าชื่นชมสุดๆเลย”
“ขอบคุณนะ ริวสุเกะ พอนายชมแบบนี้…มันรู้สึกดีมากเลยอ่ะ”
“นี่ อย่าเขินแบบนี้สิ…เดี๋ยวฉันก็เขินไปด้วยหรอก”
“เอะเหะเหะ ก็ฉันพยายามเต็มที่เพราะอยากให้ริวสุเกะชมด้วยนี่นา…”
“อะ อืม… เอาเป็นว่า ฉันรอดูผลงานจริงในวันงานอยู่นะ จะคอยเชียร์เต็มที่เลย”
มาชิโระที่ดูเขินอายจนเอาสมุดมาปิดหน้าไว้นั้นน่ารักจนหัวใจของผมเต้นแรงไม่หยุด
ความรู้สึกอยากลูบหัวเธอพุ่งขึ้นมาจนแทบหยุดไม่อยู่ แต่สุดท้ายก็ต้องระงับไว้ก่อนเพราะยังอยู่ในห้องเรียน
ในตอนที่ผมกับมาชิโระกำลังคุยกัน ฮิเมโนะที่เฝ้ามองอยู่ก็พูดขึ้นด้วยท่าทีเหนื่อยใจ พร้อมกับเดินมาตบไหล่ผมเบาๆและกระซิบข้างหูว่า
“นี่ ชินโด… พวกนายเป็นแบบนี้กันตลอดเลยเหรอ?”
“อ๊ะ อืม… ก็ คงงั้นมั้ง?”
“เหรอ… เหมือนรู้สึกอิ่มยังไงไม่รู้ ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ…”
“เอ๊ะ? เดี๋ยวดิ อยู่ๆเธอพูดอะไรเนี่ย?”
ฮิเมโนะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วพูดว่า “ไม่รู้ตัวเลยสินะ…”
ผมได้แต่ยืนงง ส่วนมาชิโระก็ยังคงเขินไม่หยุด
บรรยากาศในห้องตอนนั้นเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด ฮิเมโนะเลยหันไปทางมาชิโระแล้วพูดว่า
“เธอคือ อามานัตสึ มาชิโระ จากห้องสองใช่ไหม? ฉันชื่อฮิเมโนะ คาเร็น อยู่ห้องเดียวกับชินโด เราเคยเจอกันตอนเล่นวอลเลย์บอลชายหาดใช่ไหม? จะเรียกฉันว่าฮิเมโนะหรือคาเร็นก็ได้ ตามสบายเลย”
“อะ อื้อ! ถ้างั้น…คุณคาเร็นก็แล้วกัน!”
“ดีเลย งั้นฉันก็ขอเรียกเธอด้วยชื่อเหมือนกันนะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ คุณมาชิโระ”
“ค่า คุณคาเร็น! ฝากตัวด้วยนะ จะดีใจมากเลยล่ะถ้าได้สนิทกัน”
“หุหุ นั่นสินะ เรามาสนิทกันเถอะ ว่าแต่… ชุดเมดที่เธอวาดไว้นี่น่ารักมากเลยนะ ฝีมือการวาดก็สวย เข้าใจง่ายมากๆเลยด้วย”
“วะ หวาา ขอบคุณมากนะคะ…!”
มาชิโระดูเขินแต่ก็ยิ้มอย่างมีความสุข พลางแกว่งตัวไปมา ผมยาวดำขลับของเธอแกว่งไหวเหมือนหางลูกหมาที่กำลังดีใจ น่ารักจริงๆ
ฮิเมโนะเองก็ดูเหมือนจะหลงเสน่ห์ความน่ารักของมาชิโระเข้าเหมือนกัน เธอจึงมองมาชิโระด้วยสายตาอ่อนโยน
ส่วนผมที่ยืนดูภาพสองคนนี้พูดคุยกันอย่างสนิทสนมนั้น รู้สึกประทับใจซะเหลือเกิน
นี่เป็นภาพที่ไม่มีในต้นฉบับแน่ ตัวร้ายอย่างมาชิโระและหนึ่งในนางเอกหลักอย่างฮิเมโนะกำลังพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร
ในต้นฉบับ ทั้งสองคนเป็นฝ่ายตรงข้ามกันตลอด แต่ตอนนี้ พวกเธอกลับดูเข้ากันได้ดี
ผมรู้สึกได้ว่าความพยายามของพวกเราที่เปลี่ยนแปลงอนาคตของต้นฉบับนั้นได้ผลจริงๆ
(อนาคตแบบนี้…มีอยู่จริงสินะ ไม่สิ นี่คืออนาคตที่พวกเราสร้างมันขึ้นมาต่างหาก)
ตั้งแต่ที่ผมเกิดใหม่ในโลกนี้ พวกเราก็พยายามมาโดยตลอด
ผ่านทั้งความลำบากและความเจ็บปวด แต่ก็ช่วยกันฝ่าฟันมาได้
ความพยายามพวกนั้นบรรลุผลสำเร็จแล้ว
ภาพของตัวร้ายในอดีตที่พูดคุยกับนางเอกในต้นฉบับได้อย่างสนิทสนมแบบนี้ เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าสำหรับผมเลยทีเดียว
(TL : แจ้งข่าว : เดี๋ยวตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (27/12/67) ผมจะกลับตจว.ไปฉลองปีใหม่แล้วครับ แต่คอมยังอยู่กรุงเทพ ผมมีตอนดองไว้3ตอน เพราะงั้นตอนที่94เป็นต้นไปอาจจะต้องรอหลังปีใหม่เลยนะ)
(TL2 : ตอนที่ดองไว้อยากให้ลงพรุ่งนี้รวดเดียวเลยหรือทยอยลงวันละตอนดีงับ?)