เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 89 การวางแผนกับฮิเมโนะ
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 89 การวางแผนกับฮิเมโนะ
ตอนที่89 : การวางแผนกับฮิเมโนะ
หลังเลิกเรียน
ผมนั่งอยู่คนเดียวในห้องเรียน
สายลมพัดผ่านหน้าต่างที่ลืมปิดไว้ ทำให้ผ้าม่านสีขาวปลิวไสว
ในห้องเรียนที่ไม่มีใครอยู่ ผมนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย
สนามกีฬาด้านล่าง มีชมรมกรีฑาและชมรมฟุตบอลกำลังฝึกซ้อมอย่างขยันขันแข็งและถัดไปหน่อยก็เห็นชมรมเทนนิสกำลังฝึกอยู่ที่สนามเทนนิส
ผมนึกว่าการได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นร่วมกับเพื่อนในชมรมและออกแรงฝึกซ้อมไปด้วยกันก็ดูจะเป็นอะไรที่ดีเหมือนกัน ระหว่างนั้นก็รอให้ ฮิเมโนะ กลับมา
“บอกให้รอแท้ๆ…ฮิเมโนะจะกลับมาเมื่อไหร่เนี่ย?”
หลังจากเลิกเรียน ฮิเมโนะก็เรียกผมไว้บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยและให้ผมอยู่ในห้องเรียน
แต่ตัวเธอเองกลับถูกอาจารย์เรียกไปที่ห้องพักครู
เพราะเมื่อวานเธอน่าจะโดดเวรทำความสะอาดแล้วไปนั่งคุยกับผมที่ร้านกาแฟแทน
บางทีอาจารย์ประจำชั้นที่ขึ้นชื่อว่าเข้มงวดคงจะตำหนิเรื่องนี้
ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางเดิน จากนั้นประตูห้องเรียนก็ถูกเปิดออก
ผมหันไปมองและเห็นฮิเมโนะที่ดูเหมือนจะรู้สึกผิด ก่อนเจ้าตัวจะเดินถอนหายใจเข้ามาในห้อง
“โดนบ่นจนยับเลยล่ะ ให้ตายสิ แค่โดดเวรไปวันเดียว ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้นเลย”
“กลับมาช้าจริงๆนั่นแหละ โดนดุเรื่องเวรทำความสะอาดสินะ?”
“ก็ประมาณนั้นล่ะ โดนว่ามาเรื่องไม่มีความรับผิดชอบ ดีที่ไม่ต้องเขียนรายงานขอโทษ ไม่งั้นล่ะแย่แน่เลย”
ฮิเมโนะเดินเข้ามาใกล้และนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆผม ผมเท้าคางมองเธออย่างสำรวจ
ผมทวินเทลสีฟ้าสะบัดไหวในสายลม ดวงตากลมโตที่ขนตายาวงอน และใบหน้างดงามราวกับตุ๊กตา เธอทำหน้าดูเบื่อหน่ายพร้อมทั้งนั่งไขว่ห้าง
ในฐานะยางเอกหลักของ “Fusekoi” แค่เธอนั่งแล้วทำหน้าบึ้งก็ยังดูมีเสน่ห์เหลือเกิน
“ก็เห็นใจอยู่หรอก เมื่อวานเรื่องที่เราคุยกันสำคัญกว่าการทำเวรจริงๆนี่นะ”
“ใช่น่ะสิ เรื่องของไรโตะน่ะ ฉันอดไม่ได้จริงๆ ก็เลยออกไปจากห้องเรียนซะงั้น เขาสำคัญกับฉันมากจริงๆนะ”
“วันนี้ที่อยากคุยกับฉันก็คงเรื่องของฟุเสะคาวะอีกเหมือนกันใช่ไหม?”
“อืม ฉันแค่อยากรู้ว่ามีความคืบหน้าอะไรบ้างรึเปล่า”
“เดี๋ยวนะ เรื่องแบบนี้มันจไปรู้ภายในวันเดียวได้ยังไง? ไหนจะงานวัฒนธรรมที่เราต้องจัดการอีก”
“นั่นสินะ ขอโทษที ฉันคงใจร้อนเกินไป เพราะรักไรโตะมากไปหน่อยน่ะ”
“รักมากจนหยุดไม่อยู่เลยเหรอ…นี่เธอไม่ได้คิดจะปิดบังความรู้สึกของตัวเองเลยสินะ ฉันควรจะเรียนรู้ความตรงไปตรงมานี้จากเธอบ้างนะเนี่ย”
“ไรโตะน่ะไม่เข้าใจความรู้สึกคนอื่น ยังไงเขาก็ไม่รู้หรอกว่าฉันคิดยังไง จะว่าไปก็เป็นคนที่ทำให้ปวดหัวจริงๆ”
พระเอกในแนวฮาเร็มมักจะซื้อบื้อเป็นธรรมดา พวกเขาจะไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนชอบตัวเอง แบบนี้มันก็เหมาะกับแนวรักโรแมนติกทั่วไปอยู่หรอก
ระหว่างที่ผมคิดว่าเป็นหน้าที่ของเหล่านางเอกแล้วมองเธออย่างไม่ใส่ใจ ฮิเมโนะก็เริ่มหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากด
ดูเหมือนเธอจะได้รับข้อความทาง RINE และกำลังตอบอย่างคล่องแคล่ว
“เรื่องของไรโตะอาจไม่มีความคืบหน้าก็จริง แต่ถ้าพูดถึงงานเทศกาลวัฒนธรรม มันกำลังคืบหน้าไปเรื่อยๆเลยนะ ตอนนี้ในแชตกลุ่มของห้องเราได้ทำแบบสอบถามแล้วก็รวบรวมคำตอบได้ประมาณ 80% แล้วล่ะ”
“แชตกลุ่มของห้อง? หมายความว่าไง?”
“เอ๊ะ? อ้อ…จริงสิ ชินโด…นายไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี่นา”
ฮิเมโนะทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ เธอหันมองหน้าผมสลับกับหน้าจอสมาร์ทโฟนของเธอ
ดูเหมือนว่าตอนต้นเทอม เพื่อนๆในห้องได้สร้างกลุ่มแชตในแอป RINE ขึ้นมา แต่ผมกลับไม่ได้รับเชิญให้เข้ากลุ่มนั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องนี้…แต่ก็คงไม่แปลกหรอก
ก่อนที่ผมจะมาอยู่ในร่างนี้ ชินโด ริวสุเกะ เป็นนักเรียนหัวรั้นที่ขึ้นชื่อเรื่องก่อปัญหา คนอย่างเขาคงไม่ได้รับเชิญให้เข้ากลุ่มแชตของเพื่อนในห้องอยู่แล้ว
ฮิเมโนะหัวเราะแห้งๆ แล้วแสดงหน้าจอมือถือให้ผมดู
“อย่างนี้นี่เอง ห้องเรามีกลุ่มใน RINE ด้วยสินะ แถมยังใช้ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับเมนูที่ฉันเสนออีก”
“ใช่แล้ว เดี๋ยวฉันจะให้ไรโตะเชิญนายเข้ากลุ่มเอง เพราะยังไงนายก็เป็นกรรมการจัดงานเทศกาลวัฒนธรรม การเข้ากลุ่มไว้ก็น่าจะสะดวกกว่า”
“อืม แบบนั้นจะช่วยให้งานคืบหน้าต่อไปได้ง่ายขึ้น แล้วผลการรวบรวมแบบสอบถามเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“แบบนี้ไงล่ะ ดูเอาเองดีกว่า”
ฮิเมโนะแตะหน้าจอมือถือ เปิดผลการรวบรวมคำตอบให้ดู
และสิ่งที่ปรากฏคือ…
“…นี่มันอะไรเนี่ย ทำไมเมนูที่เลือกถึงกระจายกันขนาดนี้ล่ะ?”
“ก็เมนูที่นายเสนอไว้น่ากินทุกอย่างเลยนี่ ทุกอย่างดูดีแถมทำตามง่ายอีก ใครจะไปเลือกแค่อย่างเดียวลงล่ะ”
“ถึงงั้นก็เถอะ…นี่มันเกินคาดจริงๆแฮะ”
ผมมองผลการรวบรวมแบบสอบถามด้วยความตกใจ
เมนูขนมที่ผมเสนอไว้สำหรับคาเฟ่ขนมหวานในงานเทศกาลมีทั้งหมด 8 เมนู และคิดว่าจะใช้ผลสำรวจเพื่อลดจำนวนเมนูลง แต่คะแนนโหวตกลับกระจายเท่าๆกันในทุกเมนูซะงั้น
แปลว่าตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเมนูไหนมาทำจริง
ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอาหาร ผมคงต้องอธิบายรายละเอียดของแต่ละเมนูและฟังความคิดเห็นของทุกคนให้ละเอียดกว่านี้…
ผมไม่คิดเลยว่าผลจะกระจายแบบนี้จนได้แต่กุมขมับ
ที่ฮิเมโนะมองว่านี่คือความคืบหน้า ต้องยอมรับเลยว่าเป็นข้อดีของเธอจริงๆ
“แบบนี้แย่ล่ะสิ…ต้องหาวิธีเลือกเมนูให้ได้ซักอย่างแล้ว”
“ฉันว่าน่าจะเอาทั้ง 8 เมนูเลยนะ ทุกอย่างเป็นเมนูที่น่าภูมิใจของเรานี่นา”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เธอคิดว่าพวกเด็กม.ปลายที่ไม่เคยชินกับการทำอาหารจะทำได้ถึง 8 เมนูเหรอ?”
“ก็ขึ้นอยู่กับนายไงล่ะ ในเมื่อนายถนัดทำขนมอยู่แล้วนี่”
“ไม่ไหวหรอก…แค่นี้ก็หนักพอแล้ว แถมยิ่งมีเมนูมากเท่าไหร่ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เสี่ยงเกินงบที่ห้องมีให้แน่ๆ”
“จริงด้วย…จะทำยังไงดีนะ”
ฮิเมโนะหรี่ตาลง หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาไถหน้าจออีกครั้ง
ดูเหมือนเธอกำลังอ่านความคิดเห็นในแชตกลุ่ม ผมได้แต่มองเธอเงียบๆระหว่างรวบรวมความคิด
ในชีวิตที่แล้ว งานเทศกาลวัฒนธรรมจะเป็นหน้าที่ของพวกที่เพียบพร้อม ผมแค่รับคำสั่งและทำตามเหมือนมดงานตัวเล็กๆเท่านั้น
แต่พอมาอยู่ในโลกของ “Fusekoi” ครั้งนี้ผมได้รับโอกาสให้เป็นแกนนำของห้องเรียน และได้จัดการงานเทศกาลด้วยตัวเอง ผมถึงได้รู้ว่าการรวบรวมคนจำนวนมากให้ทำเรื่องเดียวกันมันยากขนาดไหน
ในเรื่องต้นฉบับ พระเอกอย่าง ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ผ่านความลำบากจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ คาเฟ่ขนมหวานของเขากลายเป็นร้านที่ขายดีที่สุดในงานจนได้รับการยกย่องจากสภานักเรียน
ผมนึกชื่นชมในความสามารถของเขา และในขณะเดียวกันก็อยากทำให้งานเทศกาลครั้งนี้ประสบความสำเร็จไม่แพ้เขาด้วย
ถึงจะเป็นตัวร้าย แต่ผมก็ไม่อยากแพ้พระเอกหรอก
และด้วยความมุ่งมั่นนี้ ผมกับฮิเมโนะเลยช่วยกันระดมความคิดเห็นและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้งานเทศกาลครั้งนี้เป็นจริงขึ้นมา