เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 86 น้องสาวขี้อ้อน
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 86 น้องสาวขี้อ้อน
ตอนที่86 : น้องสาวขี้อ้อน
ฤดูใบไม้ร่วงนั้นเต็มไปด้วยของอร่อย
ฤดูนี้มีวัตถุดิบมากมายที่ชวนน้ำลายสอ ทั้งเกาลัด มันหวาน และฟักทอง เป็นช่วงเวลาที่อาหารอร่อยที่สุดในรอบปี
งานวัฒนธรรมจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมซึ่งอยู่ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงพอดี
ผมใช้ปากกาจดไอเดียเมนูขนมที่จะนำไปขายในงาน โดยคิดจากบรรยากาศของฤดูกาลนี้
มันหวาน พุดดิ้งฟักทอง มัฟฟินเกาลัด… ขนมพวกนี้น่าจะขายได้ดี แต่จะเวิร์กจริงรึเปล่านะ?
ไม่ใช่แค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงความง่ายในการทำ การเก็บรักษา ความรวดเร็วในการเสิร์ฟและรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดด้วย ผมเลยตั้งใจคิดอย่างจริงจัง
“พี่ชาย ดูจริงจังมากเลยนะ คิดอะไรอยู่เหรอ?”
“เรื่องขนมที่จะขายในงานวัฒนธรรมน่ะ พี่ต้องคิดเมนูแล้วก็สูตรขึ้นมา”
“หวา สมกับเป็นพี่ชายจริงๆ ขนาดในห้องเรียนยังเป็นที่นิยมเลยนะ”
“ไม่ได้เป็นที่นิยมหรอก เพื่อนในห้องที่พี่พอจะสนิทด้วยก็คงมีแค่เรโอะ ส่วนมาชิโระอยู่คนละห้อง ถ้าไม่ใช่ช่วงพักก็ไม่ค่อยได้คุย อีกคนคือนิชิคาวะ แต่เจ้านั่นก็อยู่คนละห้องเหมือนกัน”
“คุณเรโอะที่มาหาพี่ตอนเช้าอ่ะเหรอ? เขาอยู่ห้องเดียวกับพี่สินะ”
“ใช่ แล้วไมน่ะ ตอนคุยกับเรโอะดูจะตื่นเต้นมากเลยนะ”
“ก็เพราะประหม่านี่นา นอกจากพี่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่หนูได้คุยกับคนหล่อๆแบบนั้น แต่คุณเรโอะเขามีออร่าหรูหราแบบผู้ดีสุดๆไปเลยเนอะ”
“อะไรล่ะนั่น ไมนี่เว่อร์จริงๆนะ”
“ไม่ใช่ซะหน่อย คุณเรโอะที่โรงเรียนต้องมีสาวๆชอบเยอะใช่ไหมล่ะ? หรือว่าเขาจะมีแฟนแล้วเหรอ?”
“ไม่มีหรอก ไม่เคยพูดว่าอยากมีด้วยมั้ง เรื่องความรักเขาคงไม่ได้คิดอะไรมากหรอก”
ในเนื้อเรื่องต้นฉบับของ ‘Fusekoi’ ก็ไม่มีพูดถึงว่าเรโอะมีแฟน ทั้งที่เขาหล่อขนาดนั้น น่าจะมีคนมากมายที่อยากคบกับเขา แต่จนถึงตอนนี้ผมก็ไม่เคยได้ยินข่าวลือเรื่องแฟนของเขาเลย
ถึงเขาจะเป็นมิตรและสุภาพกับทุกคน แต่ก็ไม่เคยแสดงท่าทีว่าจะมีแฟน
บางทีเขาอาจจะทุ่มเทให้กับบาสจนไม่มีเวลาสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆ หรือไม่ก็มีเหตุผลบางอย่างที่ซ่อนอยู่… ซึ่งก็ยังเป็นปริศนา
ไม่นั่งฟังเรื่องของเรโอะด้วยสีหน้าครุ่นคิด พร้อมกับพึมพำเบาๆขณะที่เธอกอดแขนแน่นและเริ่มใช้ความคิด
“ว่าแต่ พี่นี่ก็ชวนตกใจอยู่เหมือนกันนะ หนูคิดว่าพี่จะเป็นที่นิยมในห้องเรียนแล้วก็มีเพื่อนเยอะแยะซะอีก”
“ไม่มีทางหรอก ตอนเทอมแรกพี่โดดเรียนไปตั้งหลายครั้ง แถมยังเป็นที่รู้จักในฐานะเด็กเกเรด้วย มีแต่คนกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ ถึงช่วงนี้พี่จะตั้งใจเรียนมากขึ้นแล้วก็เถอะ แต่คนที่อยากเป็นเพื่อนกับพี่ยังมีน้อยอยู่ดี”
เพื่อเพิ่มจำนวนเพื่อน ผมอยากใช้โอกาสงานวัฒนธรรมทำงานร่วมกับทุกคนในห้องและสร้างผลงานที่น่าประทับใจ อีกทั้งยังอยากให้คนในห้องอื่นๆได้รู้ว่าผมไม่ใช่เด็กเกเรที่น่ากลัว แต่เป็นนักเรียนธรรมดาที่ตั้งใจและจริงใจ
ตอนสอบปลายภาคเทอมแรก ผมได้วางรากฐานบางไว้แล้ว และงานวัฒนธรรมนี้ก็จะเป็นโอกาสสร้างความไว้วางใจกับเพื่อนร่วมชั้นมากขึ้น ผมเลยตั้งใจรวบรวมไอเดียทั้งหมดลงในสมุดโน้ต
ไมแอบชะโงกดูสมุดโน้ตที่เต็มไปด้วยสูตรขนมของผม ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างสนุกสนาน
“พี่พยายามเต็มที่เพื่อเตรียมงานวัฒนธรรมอยู่นี่เอง สุดยอดเลยนะ!”
“ก็ต้องทำอยู่แล้วล่ะ ไมเองก็รอดูได้เลย แล้วก็ห้องของมาชิโระน่ะนะ จะทำร้านเมดคาเฟ่ล่ะ น่าสนใจไม่ใช่เล่นเลยเนอะ”
“ชุดเมดของพี่มาชิโระ…!? ถ่ายรูปได้ไม่จำกัดด้วยไหม? ถ้าได้หนูจะถ่ายจนเมมมือถือเต็มเลย!”
“ในโรงเรียนเขาห้ามถ่ายรูปนักเรียนนะ เดี๋ยวนี้เรื่องความเป็นส่วนตัวเขาเข้มงวดมากเลย”
“โธ่! ชุดเมดของพี่มาชิโระต้องน่ารักมากแน่ๆเลยแท้ๆ!”
“เสียใจด้วยนะ สิ่งที่เธอทำได้จำภาพของมาชิโระในชุดเมดไว้ในหัวให้ดีๆก็พอ”
ผมลูบหัวไมที่กำลังบ่นอุบอิบ ซึ่งมันก็ช่วยให้อารมณ์เธอดีขึ้นอย่างง่ายดาย น้องสาวคนนี้ช่างเอาใจง่ายเหลือเกินในบางเรื่อง
“ฮิฮิ… แค่พี่ลูบหัว หนูก็ไม่สนอะไรแล้ว”
“งั้นก็พอใจแล้วสินะ ไปอาบน้ำเลยไป”
“ค่าๆ หนูพอใจมาก! พี่เองก็สู้ๆกับเตรียมงานวัฒนธรรมนะ บ๊ายบาย!”
หลังจากเสร็จธุระแล้ว ไมก็กระโดดดึ๋งๆออกจากห้องไป
แม้จะเป็นน้องสาวที่ทั้งอ้อนและเอาแต่ใจ แต่ผมก็อดเอ็นดูเธอไม่ได้ เพราะในชาติก่อนผมเป็นลูกคนเดียวและอยากมีน้องสาวสักคนมาตลอด การที่ไมเข้ามาออดอ้อนและเต็มไปด้วยพลังบวกแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าช่างน่ารักจริงๆ
ด้วยกำลังใจจากไม ผมเลยตั้งใจคิดเมนูสำหรับงานวัฒนธรรมต่อไป