เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 83 เดินอ้อมนิดหน่อย
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 83 เดินอ้อมนิดหน่อย
ตอนที่83 : เดินอ้อมนิดหน่อย
เนื่องจากบ้านของยุยอยู่คนละทางกับบ้านของผม หลังจากแยกกับเธอ ผมเลยได้กลับบ้านพร้อมกับมาชิโระแค่สองคน
เนื่องจากมัวแต่พูดคุยเรื่องเทศกาลวัฒนธรรม เวลาจึงล่วงเลยจนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงของพระอาทิตย์ตก และเพราะก่อนหน้านี้ผมยังมีไปคุยกับฮิเมโนะ ทำให้วันนี้กลับช้ากว่าปกติ
“นี่ก็เย็นมากแล้ว มาชิโระยังโอเคอยู่ไหม?”
“อืม วันนี้ฉันไม่มีธุระอะไรเป็นพิเศษหรอ อีกอย่างการตัดสินใจเรื่องชุดเมดที่จะใส่ในงานเทศกาลก็สำคัญมาก วันนี้ได้ริวสุเกะช่วยไว้เยอะเลย รู้สึกโล่งใจขึ้นล่ะ”
“ห้องหนึ่งนี่ทำงานหนักจริงๆนะ ห้องพวกเราวันนี้เพิ่งเริ่มคุยเรื่องกิจกรรมที่จะจัดกันเอง”
“แค่นั้นก็นับว่าเร็วแล้วล่ะ แล้วห้องของริวสุเกะจะจัดอะไรเหรอ?”
“พวกเราก็จะทำของกินเหมือนกัน คิดว่าจะขายขนมหวาน ตั้งใจจะทำขนมให้อร่อยที่สุดจนทุกคนต้องประทับใจเลย คอยดูได้เลย”
“หรือว่าริวสุเกะจะเป็นคนทำขนมในงานเทศกาลด้วย?”
“ฉันเป็นคนคิดสูตรน่ะ แน่นอนว่าฉันจะลงมือทำด้วย แล้วก็จะช่วยกันทั้งห้อง”
“งั้นริวสุเกะก็เหมือนหัวหน้าทีมทำอาหารเลยล่ะสิ แบบนี้ต้องอร่อยสุดๆแน่เลย!”
มาชิโระที่รู้ฝีมือการทำอาหารของผมดีส่งยิ้มสดใสออกมา ผมเองก็อยากจะพยายามทำขนมที่ดีที่สุดเพื่อตอบรับความคาดหวังของเธอเช่นกัน รอยยิ้มของมาชิโระทำให้ผมยิ่งอยากมุ่งมั่นมากขึ้น
“ห้องของฉันไม่ได้เน้นเรื่องอาหารมากนัก คิดว่าอาจจะเป็นอะไรที่ทำง่ายๆอย่างยากิโซบะ ส่วนชุดนี่แหละที่เราเน้นเต็มที่เลย”
“ห้องเราสวนทางเลยสินะ นอกจากอาหาร เรื่องชุดเราคงไม่ลงทุนอะไรมากหรอก อาจจะปรับให้ดูดีนิดหน่อย แต่คงไม่ได้มีชุดเท่าห้องของมาชิโระแน่”
ด้วยงบประมาณที่จำกัด การจัดงานแต่ละห้องจึงออกมาแตกต่างกัน ถึงจะจะเป็นกิจกรรมประเภทเดียวกัน แต่นี่แหละคือความสนุกของเทศกาลวัฒนธรรม การได้เดินชมรอบโรงเรียนและเปรียบเทียบเอกลักษณ์ของแต่ละห้องก็เป็นเสน่ห์ที่ไม่ควรพลาด
“นี่เป็นเทศกาลวัฒนธรรมครั้งแรกตอนม.ปลายเลยนะ ตื่นเต้นจัง คงจะต่างจากตอนม.ต้นเยอะเลยใช่ไหม!”
“น่าจะนะ งานแสดงในโรงยิมก็คงคุณภาพสูงขึ้นด้วย แล้วก็ยังมีวงดนตรีของชมรมดนตรีให้ฟังด้วย”
“แถมยังมีซุ้มขายอาหารอีก ฉันก็ตื่นเต้นสุดๆเลยล่ะ!”
ถึงจะยังมีเวลาอีกนานก่อนจะถึงวันงาน แต่ผมกับมาชิโระก็แทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว ทั้งเรื่องกิจกรรมที่จะจัด อาหารที่จะได้กิน ความคาดหวังของเรายิ่งพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ มาชิโระเองก็ยิ้มอย่างสดใส ดวงตาสีฟ้าใสของเธอเปล่งประกาย
“ในงานเทศกาล ฉันจะเสิร์ฟขนมหวานที่ดีที่สุดให้มาชิโระ รอกินได้เลย”
“ส่วนฉันจะใส่ชุดเมดที่น่ารักที่สุดมาต้อนรับคุณนะคะ นายท่าน!”
“ห้องของมาชิโระคงมี ‘นายท่าน’ แห่กันมาเยอะแน่ๆ มาชิโระน่ารักซะขนาดนี้แล้วยังแต่งชุดเมดมาเสิร์ฟอีก”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่ใส่ชุดเมดมาดูแลลูกค้าเฉยๆเอง”
“เพราะแค่นั่นแหละ ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ อาจมีแถวต่อคิวยาวหลายชั่วโมงก็ได้”
“เวอร์ไปแล้ว! ฉันว่าซุ้มขนมหวานของริวสุเกะจะคิวยาวกว่านะ เพราะขนมพิเศษที่ริวสุเกะทำต้องอร่อยมากแน่ๆ!”
ถึงผมจะตั้งใจทำขนมหวานสุดความสามารถ แต่ถ้าต้องเทียบกับมาชิโระในชุดเมดสุดน่ารัก พลังดึงดูดของเธอคงเหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ในเรื่องต้นฉบับ ร้านขนมหวานของห้องสองจะชนะรางวัลยอดเยี่ยมในงานเทศกาล แต่ในสถานการณ์นี้ที่มีมาชิโระเปฌนนางเอกสาวที่งดงามที่สุดจะมาร่วมงานด้วย บางทีผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงก็ได้
ระหว่างที่ความคาดหวังและความกังวลผสมปนเปอยู่ในใจ ผมกับมาชิโระก็ใช้เวลาบนเส้นทางกลับบ้านสองคนด้วยกันจนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“วันนี้ไม่ต้องเดินไปส่งถึงอพาร์ตเมนต์เหรอ?”
“อืม แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ ขอบคุณนะ ริวสุเกะ ที่มาหาฉันหลังเลิกเรียน”
“เมื่อวานไม่ได้เจอมาชิโระเพราะเธอเป็นหวัด พอได้เจอหน้าเธออีกครั้งก็ค่อยรู้สึกโล่งใจหน่อย ช่วงนี้จะยุ่งกับการเตรียมงานเทศกาลคงไม่ค่อยได้เจอกันเลยอยากใช้เวลาร่วมกันให้มากๆเท่าที่จะทำได้น่ะ”
“ริวสุเกะนี่ขี้โกงจังนะ พูดแบบนี้แล้วฉันจะไม่ดีใจได้ยังไงล่ะ”
มาชิโระหน้าแดงเล็กน้อยพลางขยับปากเหมือนกำลังลังเล ผมเองก็รู้สึกเขินขึ้นมาจนต้องเบือนสายตาหนีเพื่อกลบเกลื่อน
ถึงจะรู้ว่าต้องกลับแล้ว แต่เราทั้งคู่เหมือนจะหาจังหวะบอกลากันไม่ได้ เพราะการได้อยู่กับมาชิโระทำให้รู้สึกสบายใจจนเผลอคิดว่าอยากอยู่ด้วยกันอีกสักหน่อย
ดูเหมือนผมจะไม่ได้คิดแบบนี้คนเดียว มาชิโระเองก็ใช้นิ้วเล็กๆของเธอจับชายเสื้อผมไว้แล้วมองช้อนขึ้นมาด้วยสายตาออดอ้อนจากดวงตาสีฟ้าใส
“มาชิโระดูเหมือนยังไม่อยากกลับบ้านเลยนะ?”
“เอ๋… โดนจับได้ซะแล้ว? ฉันอยากอยู่กับริวสุเกะอีกสักหน่อยน่ะ”
“พอมาชิโระพูดแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันใจสั่นไปหมดเลยนะ”
“ก็คุณมาชิโระเป็นอัจฉริยะด้านการทำให้ริวสุเกะคุงใจเต้นแรงนี่นา!”
มาชิโระยิ้มขี้เล่นแล้วดึงชายเสื้อของผมเบาๆ ท่าทางเหมือนกำลังบอกให้ผมไปด้วยกัน ความไร้เดียงสาและความน่ารักแบบนั้นทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้
“ริวสุเกะ แวะเที่ยวที่ไหนสักที่ก่อนกลับบ้านไหม? มาทำอะไรสนุกๆด้วยกันเถอะ”
“งั้นจะลองเป็นเด็กดื้อสักวันก็แล้วกัน ช่วงนี้ฉันก็กลับบ้านตรงเวลาแทบทุกวันเลยนี่นะ”
“เอะเหะเหะ คืนนี้ต้องสนุกแน่เลยนะคะ นายท่านขา?”
ก่อนหน้านี้ การได้ออกไปเที่ยวกับมาชิโระตอนกลางคืนเป็นเรื่องปกติสำหรับเรา แต่พักหลังๆมานี้ผมตั้งใจกลับบ้านตรงเวลาเสมอ ผมว่าบางทีการได้ใช้เวลาช่วงเย็นกับมาชิโระอีกสักหน่อยก็น่าจะดี
ผมเดินเคียงข้างมาชิโระที่ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ภายใต้ท้องฟ้าที่เริ่มมืดลงเล็กน้อย เราสองคนเริ่มออกเดินไปด้วยกันพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า