เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 80 สาเหตุ
ตอนที่80 : สาเหตุ
หลังเลิกเรียน ผมก็กำลังจะไปหามาชิโระ
วันนี้ดูเหมือนเธอจะยุ่งตั้งแต่เช้าและตอนพักกลางวันเราก็ไม่ได้เจอกันเลย
ผมอยากแสดงให้เธอเห็นว่าผมหายป่วยและกลับมาแข็งแรงดีแล้ว แล้วในชั้นเรียนของพวกเราก็จะเริ่มเตรียมงานวัฒนธรรมเร็วๆนี้ด้วย ถ้าเป็นแบบนั้น เราอาจจะมีเวลาพูดคุยกันน้อยลง
เพราะงั้น ผมจึงอยากเจอเธอให้ได้วันนี้ ผมสะพายกระเป๋าขึ้นไหล่แล้วกำลังจะมุ่งหน้าไปที่ชั้นเรียนของมาชิโระในห้อง 1 แต่ตอนที่ผมกำลังจะก้าวออกจากห้องเรียน――
“นี่ ชินโดคุง มีเรื่องอยากคุยด้วยหน่อย สะดวกไหม?”
“ฮิเมโนะ คาเร็น…”
ที่หลังประตูห้องเรียนที่เปิดอยู่ ฮิเมโนะ คาเร็นยืนกอดอกและรออยู่
ปกติแล้วหลังเลิกเรียน เธอจะกลับบ้านพร้อมกับฟุเสะคาวะ ไรโตะอย่างสนิทสนมเสมอ แต่วันนี้เธอกลับมารอผมอยู่หน้าห้องเรียน
ฮิเมโนะมองผมด้วยสายตาไม่พอใจ ผมรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อยและเพื่อนร่วมชั้นที่เห็นเหตุการณ์ก็เริ่มซุบซิบกันเบาๆ
“เห้ยๆ ดูเหมือนชินโดจะทำให้คุณฮิเมโนะโกรธแล้วว่ะ”
“คุณฮิเมโนะคนนั้นจะโกรธเนี่ย… ต้องเป็นเพราะชินโด ริวสุเกะไปทำอะไรแย่ๆไว้แน่เลยใช่ไหม?”
“นั่นสิ ก็เขาเป็นพวกไม่เอาไหนนี่นะ…”
ผมเกือบถอนหายใจออกมาโดยไม่ตั้งใจ ก่อนจะยิ้มขำแบบปลงๆ ฮิเมโนะก็จ้องเขม็งไปที่เพื่อนร่วมชั้นที่กำลังซุบซิบอยู่
“ฉันไม่ได้โกรธอะไรหรอกนะ พวกนายเลิกพูดอะไรมั่วๆสักทีจะได้ไหม?”
ด้วยความน่าเกรงขามของเธอ เพื่อนร่วมชั้นต่างก็ปิดปากเงียบกันหมด ฮิเมโนะหันหน้ากลับมาทางผมพร้อมกับถอนหายใจ
“ชินโดคุง มีเวลาไหม? มาคุยกันหน่อยสิ”
“มีเวลารึเปล่าเหรอ… เธอแน่ใจนะว่าจะคุยกับฉัน?”
“แน่ใจสิ แต่ชินโดคุงนั่นแหละที่โอเคแน่เหรอ? ฉันคิดว่านายกำลังจะไปหาเพื่อนสมัยเด็กที่ออกไปเที่ยวด้วยกันอยู่บ่อยๆใช่ไหมล่ะ?”
“ก็ใช่แหละ แต่… ถ้าถามว่ามีเวลาไหม ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
มาชิโระยังอยู่ในห้องเรียนเพื่อเตรียมงานวัฒนธรรมจนดึก ถ้าจะเจอกันล่ะก็ ตอนไหนก็ได้ ผมไม่ต้องรีบไปหาเธอหรอก
จากสีหน้าจริงจังของฮิเมโนะ ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เธอจะพูดต้องสำคัญแน่นอนและมันอาจจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องของ ‘Fusekoi’ อย่างมาก
นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ไม่เคยมีในต้นฉบับ ถ้าผมมองข้ามไปอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา ผมรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์แบบนั้น เลยตัดสินใจฟังสิ่งที่ฮิเมโนะจะพูด
“ว่าแต่เรื่องที่เธอจะพูดเนี่ย… พูดที่นี่ได้เลยเหรอ?”
“พูดที่นี่ไม่ได้หรอก… เพราะมีคนอยู่เยอะ… ฉันอยากคุยกับนายแบบสองต่อสองน่ะ”
ฮิเมโนะเหลือบมองเพื่อนร่วมชั้นในห้องแล้วสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ผมเลยก้าวออกไปนอกห้องเรียนทันที
“ถ้างั้น มีร้านกาแฟเงียบๆใกล้โรงเรียน เราไปที่นั่นกันดีไหม?”
“อืม ฉันไม่อยากให้คนอื่นในโรงเรียนได้ยิน เพราะงั้นเลยอยากเลี่ยงการคุยในโรงเรียนน่ะ”
“เข้าใจแล้ว งั้นไปกันเถอะ”
พอผมเริ่มเดิน ฮิเมโนะ คาเร็นก็เดินตามมาเงียบๆ เราเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าตรงทางออกและออกจากโรงเรียนไป
ร้านกาแฟที่ผมพูดถึงเป็นร้านที่ลูกค้าค่อนข้างสงบ มีเมนูอาหารหลากหลายและกาแฟที่มาสเตอร์ทำก็อร่อยด้วย เป็นร้านโปรดของผมเลย
บางครั้งผมก็พามาชิโระมานั่งชิวด้วยกัน ที่นี่เหมือนเป็นร้านลับของพวกเราเพราะนักเรียนโรงเรียนคิโอะไม่ค่อยมากัน
เมื่อเปิดประตูร้าน เสียงกระดิ่งดังขึ้น มาสเตอร์หันมามองพวกเรา และเพราะเป็นช่วงเย็นวันธรรมดา ภายในร้านเลยเงียบมาก มีแค่เราสองคนเท่านั้น พวกเราเลยได้นั่งที่โต๊ะมุมในสุด
ผมและฮิเมโนะ คาเร็นนั่งตรงข้ามกัน เราเปิดเมนูดู แต่การสนทนาก็เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปกติถ้าเป็นมาชิโระกับผม เราจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศของร้านกาแฟไปพร้อมกัน แต่ฮิเมโนะ คาเร็นกลับทำหน้าตาเคร่งเครียดเหมือนมีอะไรในใจ ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
หลังจากความเงียบอันยาวนาน ฮิเมโนะก็วางศอกทั้งสองลงบนโต๊ะและประสานมือไว้ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียดออกมาแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาจริงจัง
“เอ่อ…ก่อนอื่น ขอบคุณนะที่สละเวลามาคุยกับฉัน”
“ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องสำคัญนี่นา จะให้ทิ้งไว้เฉยๆคงไม่ได้ด้วยสิ”
“นั่นสินะ ถ้าโดนทิ้งไว้ ฉันคงเจ็บปวดน่าดู”
ฮิเมโนะ คาเร็นยิ้มออกมาเล็กน้อยหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าเครียดมาตลอด ผมเลยโล่งใจขึ้นมาบ้าง
…เอาล่ะ คงต้องรอดูว่าเธอจะพูดอะไรต่อ
ดูเหมือนเธอไม่ได้จะมาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีหรืออะไรแบบนั้น ตอนที่คุยกันเรื่องงานโรงเรียน ฮิเมโนะพูดสนับสนุนผม แต่ตอนนี้เธอกลับดูจริงจังและเคร่งเครียด
ฮิเมโนะ คาเร็นเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่ช่วยเสริมเรื่องราวของพระเอกได้เป็นอย่างดี
ตามเนื้อเรื่องเดิม เธอไม่มีทางมาพูดคุยกับผมที่เป็นตัวร้ายแบบตัวต่อตัวแน่
แต่ตอนนี้เธออยู่ตรงหน้าผม มันทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย
“ชินโดคุง ก่อนอื่นฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ อยากถามอะไรล่ะ?”
“…เรื่องที่นายกลับมาโรงเรียนอีกครั้งน่ะ หลังจากเข้าคิโอะ นายก็หยุดมาโรงเรียนหลังช่วงโกลเด้นวีคใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันเริ่มโดดเรียนตั้งแต่นั้นนั่นแหละ”
“แต่สักพักนายก็กลับมาเรียนอีกครั้ง แถมยังดูเหมือนเป็นตนดีมากๆแตกต่างจากช่วงม.ต้นลิบลับเลย”
สิ่งที่เธอพูดตรงกับช่วงเวลาที่ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกของ “Fusekoi”
ช่วงเวลาที่ผมตัดสินใจจะเปลี่ยนตัวเองจากตัวร้ายเป็นคนใหม่
ทั้งหมดเพื่อรอยยิ้มของมาชิโระ
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่มีในเนื้อเรื่องเดิม และมันคงดูผิดปกติในสายตาของฮิเมโนะ คาเร็น
“ใช่ ฉันยอมรับว่าฉันเปลี่ยนไปก็จริง แต่เหตุผลที่ฉันเปลี่ยนมันจำเป็นต้องบอกเธอด้วยเหรอ? เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนี่”
“ก็จริงที่เราไม่สนิทกัน อันที่จริงฉันไม่ชอบนายเลยด้วยซ้ำ ถ้าเลือกได้ ฉันคงไม่อยากยุ่งกับนายหรอก”
“แต่ตอนนี้เธอกลับอยากรู้อะไรเกี่ยวกับฉัน ถึงขนาดมาดักรอฉันไว้ก่อนออกจากห้องเรียน มันไม่แปลกเหรอ?”
“…นายอยากพูดอะไรแน่?”
“แค่อยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้เธอเริ่มสนใจในตัวฉัน ถ้าเธอเล่ามา ฉันก็ยินดีตอบคำถามของเธอ”
“เข้าใจล่ะ ถ้าอยากจะถามต่อ ฉันต้องพูดก่อนสินะ”
ฮิเมโนะ คาเร็นทำหน้าจริงจังก่อนจะกัดริมฝีปากราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
แล้วเธอก็พูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ
“…มันแปลกไป ไรโตะดูเปลี่ยนไป ตั้งแต่นายกลับมาเรียน”