เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 79 การเปลี่ยนแปลงของ ฮิเมโนะ คาเร็น
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 79 การเปลี่ยนแปลงของ ฮิเมโนะ คาเร็น
ตอนที่79 : การเปลี่ยนแปลงของ ฮิเมโนะ คาเร็น
“เอาล่ะ ทุกคน ขอบคุณที่สละเวลามารวมตัวกันนะ ต่อไปนี้เราจะตัดสินใจกันว่าห้องสองของเราจะจัดอะไรในงานเทศกาลวัฒนธรรม ถ้าใครมีไอเดียอะไรช่วยยกมือขึ้นมาเลย”
ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ซึ่งอาสารับหน้าที่เป็นตัวแทนการจัดงานเดินขึ้นไปยืนหน้าชั้นและกล่าวกับเพื่อนร่วมชั้น
ภายในห้องเรียน เริ่มมีเสียงพูดคุยกันดังขึ้น ทุกคนต่างพากันแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างคึกคัก
ยังมีเวลาอีกเยอะก่อนจะถึงวันงานเทศกาล เพราะงั้นเลยไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรือกดดัน แค่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นร่วมกันก็พอ
ในเนื้อเรื่องเดิม ชินโด ริวสุเกะจะสร้างความวุ่นวายและทำให้การพูดคุยออกนอกเรื่องอยู่บ่อยๆ แต่แน่นอนว่าผมในตอนนี้จะไม่ทำแบบนั้น ผมเพียงแค่กอดอกยืนมองเพื่อนๆที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและอดยิ้มในใจไม่ได้เมื่อเห็นบรรยากาศเหล่านี้
แต่ฟุเสะคาวะ ไรโตะกลับมองมาทางผมด้วยสีหน้าจริงจัง ราวกับไม่พอใจกับท่าทีที่แตกต่างไปจากเนื้อเรื่องเดิมของผม
ถึงอย่างนั้น ผมคิดว่าถ้าผมอยู่นิ่งๆไม่ก่อเรื่อง การพูดคุยก็จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีเสียมากกว่า
ในตอนที่คิดเช่นนั้น ฮานาซากิ ยูนะก็ยกมือขึ้น ทำให้ผมหันสายตาไปทางเธอ
“เอ่อ… คาเฟ่ขนมหวานเป็นยังไงบ้างคะ? ฉันกับไรโตะคุงพูดคุยกันก่อนหน้านี้ คิดว่ามันน่าสนใจมากเลยค่ะ!”
ฮานาซากิ ยูนะเริ่มอธิบายเรื่องที่ได้คุยกับฟุเสะคาวะ ไรโตะไว้
เธอพูดถึงการหลีกเลี่ยงไม่ให้ซ้ำกับคาเฟ่เมดของห้องข้างๆและเน้นว่าเด็กผู้หญิงชอบของหวานที่ทั้งน่ารักและอร่อย ทำให้ข้อเสนอนี้ดูมีเสน่ห์ในแบบของเธอ
เธอยังเสริมว่าคาเฟ่ขนมหวานเป็นที่นิยมในโรงเรียนอื่นเหมือนกันและเป็นไอเดียที่สามารถทำรายได้ดี
เรโอะที่นั่งฟังอยู่พยักหน้าอย่างเห็นด้วยพร้อมรอยยิ้ม
“อืม คาเฟ่ขนมหวานก็ดีนะ ห้องหนึ่งเน้นไปที่ชุดคอสตูม ส่วนเราก็จะเน้นที่ขนมหวานเพื่อดึงดูดคน”
เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของฮานาซากิ ยูนะ และการพูดคุยก็เริ่มดำเนินไปในทิศทางของการจัดคาเฟ่ขนมหวาน
ในที่สุด การพูดคุยก็จบลงอย่างรวดเร็วอย่างที่คาดไว้ โดยมีข้อสรุปว่าจะเสนอเมนูที่หลากหลายและเริ่มระดมไอเดียกัน
ไอเดียที่เพื่อนในห้องเสนอมาก็ เช่น แพนเค้ก ช็อกโกแลตกล้วย และน้ำแข็งไส ซึ่งเข้ากับสภาพอากาศที่ยังร้อนอยู่ รวมถึงเรื่องการตัดสินใจว่าจะทำขนมเองหรือจะรับขนมเข้ามา
ในช่วงที่การพูดคุยกำลังดำเนินไป ผมยกมือขึ้น
นี่เป็นจังหวะเดียวกับที่ในเนื้อเรื่องเดิม ชินโด ริวสุเกะจะพูดแทรกสร้างปัญหา
ฟุเสะคาวะ ไรโตะหันมามองผมด้วยสายตาดุดัน
“อะไรล่ะ ชินโด ริวสุเกะ มีอะไรจะค้านรึไง?”
“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น จริงๆแล้ว ฉันถนัดเรื่องทำขนมมากเลย เพราะเคยทำงานพิเศษในคาเฟ่ขนมหวานที่ได้รับความนิยมมากน่ะนะ มีแต่เมนูที่ดูดีและอร่อยสำหรับผู้หญิง ฉันจำสูตรพวกนั้นได้ แล้วก็คิดว่าถ้าเราจะเปิดคาเฟ่ขนมหวานฉันน่าจะช่วยได้เยอะเลย”
คำพูดของฉันทำให้ฟุเสะคาวะ ไรโตะถึงกับเปลี่ยนจากสีหน้าดุดันเป็นแปลกใจและคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง
“นายบอกว่าทำขนมเก่ง? พูดเล่นรึเปล่าเนี่ย?”
“ฉันพูดจริง งานนี้ทุกคนตั้งใจกันมาก ฉันเองก็อยากใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มีช่วยทำให้คาเฟ่ของเราออกมาดีที่สุด เชื่อฉันเถอะ”
ฟุเสะคาวะ ไรโตะยังคงมองผมด้วยสายตาคมกริบและเพื่อนร่วมชั้นก็ต่างจับตามองสถานการณ์อย่างใจจดใจจ่อ
บรรยากาศในห้องเรียนเริ่มอึดอัดขึ้นเล็กน้อย จนกระทั่งเรโอะลุกขึ้นยืนและพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“ถ้าริวสุเกะจะช่วยเรื่องทำขนม ผมเห็นด้วยสุดๆเลยนะ ฝีมือทำอาหารของริวสุเกะผมรับประกันได้เลย ขนมที่ออกมานอกจากจะดูดีแล้วต้องอร่อยมากแน่นอน”
“เดี๋ยวนะ เรโอะ! นั่นมันชินโด ริวสุเกะเลยนะ… คนที่มีข่าวลือว่าเป็นนักเลง จะมาชอบทำขนมเนี่ยนะ? มันไม่เข้ากันเอาซะเลย แถมยังจะอาสามาช่วยเราอีก มันดูแปลกเกินไปแล้ว!”
“พูดเกินไปนะ ไรโตะ ก็จริงที่เมื่อก่อนริวสุเกะเคยเป็นนักเลมาก่อนง แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่คนที่จะทำร้ายใครอีกแล้ว กลับกัน เขากลายเป็นคนที่พร้อมจะช่วยเหลือและปกป้องคนอื่น เป็นคนที่พึ่งพาได้เลยล่ะ”
“ถึงอย่างงั้นก็เถอะ…”
ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ตัวเอกของเรื่องนี้ ดูเหมือนจะยังมองว่าผมเป็นคนเลวด้วยสัญชาตญาณของเขา เขาอาจคิดว่าผมทำเป็นช่วย แต่จริงๆแล้วกำลังวางแผนอะไรบางอย่างที่ไม่ดีอยู่ก็ได้
ในดวงตาของฟุเสะคาวะ ไรโตะยังคงมีแววของความเป็นปรปักษ์ เขาทำให้เรโอะเองถึงกับยิ้มเจื่อนด้วยความลำบากใจ
ผมเองก็อยากให้ข้อเสนอของผมได้รับการตอบรับ แต่ถ้าผมพูดอะไรไปมากกว่านี้ สถานการณ์อาจยุ่งยากขึ้นก็ได้
ถ้าผมพูดมากเกินไป ความขัดแย้งระหว่างผมกับฟุเสะคาวะ ไรโตะก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น เหมือนในเนื้อเรื่องเดิม
แต่ผมไม่ได้อยากจะขัดขวางกิจกรรมของห้องที่ฟุเสะคาวะ ไรโตะและเหล่านางเอกสาวช่วยกันจัดเลย ถ้าบรรยากาศตึงเครียดตอนนี้ อาจส่งผลเสียต่อการเตรียมตัวในภายหลัง หรือทำให้เทศกาลวัฒนธรรมล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
เพราะงั้น ผมเลยคิดว่าจะยอมถอยเพื่อให้เรื่องมันสงบ… แต่ในตอนนั้นเอง
“—มีคนที่เก่งเรื่องทำขนมอาสามาช่วย มันก็ดีไม่ใช่เหรอ? ไรโตะ ฉันเข้าใจว่านายรู้สึกไม่สบายใจ แต่ครั้งนี้นายควรรับฟังข้อเสนอของชินโดคุงนะ ฉันว่ามันจะเป็นผลดีมากกว่า”
เสียงชัดเจนและหนักแน่นดังก้องในห้องเรียน
สายตาของทุกคนในห้องหันไปจับจ้องผู้พูด หรือก็คือ ฮิเมโนะ คาเร็น
เธอเป็นหนึ่งในนางเอกของเรื่อง “Fusekoi” สาวน้อยแสนอ่อนโยนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของฟุเซกาวะ ไรโตะ
แต่ในตอนนี้เธอกลับสนับสนุนข้อเสนอของผมและไม่ได้ยืนอยู่ข้างฟุเสะคาวะ ไรโตะ การกระทำของเธอทำให้ผมเองก็ตกใจไม่ต่างกัน
การที่เธอเลือกที่จะสนับสนุน “ตัวร้าย” อย่างผม มันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในเนื้อเรื่องเดิม
ผมจ้องมองฮิเมโนะ คาเร็นด้วยความประหลาดใจ แต่พอเธอรู้ตัว เธอกลับเบือนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมทำสีหน้าหงุดหงิด
“เอาล่ะๆ เพื่อให้เทศกาลวัฒนธรรมของเราราบรื่น ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะทะเลาะกันนะ ทุกคนควรสามัคคีกันและช่วยกันทำให้คาเฟ่ขนมหวานออกมาดีที่สุด ใครมีข้อโต้แย้งไหม?”
“ก-ก็จริงอย่างที่คาเร็นพูดนั่นแหละ…”
ฟุเสะคาวะ ไรโตะที่ดูเหมือนไม่อยากขัดใจฮิเมโนะ คาเร็น ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ
ฮานาซากิ ยูนะมองสถานการณ์อย่างสับสน ส่วนเรโอะกลับดูพอใจที่เรื่องที่ผมเสนอไปต่อได้
ฟุเสะคาวะ ไรโตะยังคงขมวดคิ้ว แต่เขาหันกลับไปหน้าชั้นเรียนเพื่อสรุปการประชุม
“งั้น… พวกเรามาเริ่มทำกันเถอะ คาเฟ่ขนมหวานของเราต้องออกมาดีที่สุด! สำหรับเมนูขนม ให้ชินโด ริวสุเกะเป็นคนรับผิดชอบ ส่วนการแบ่งหน้าที่อื่นๆ ค่อยหาจังหวะมาพูดคุยกันอีกที สำหรับวันนี้แยกย้ายได้!”
การประชุมครั้งแรกสำหรับเทศกาลวัฒนธรรมจบลงด้วยดี
ถึงผมจะยังเป็น “ตัวร้าย” และยังมีปัญหากับฟุเสะคาวะ ไรโตะ แต่สุดท้าย ห้องสองก็ตัดสินใจเลือกคาเฟ่ขนมหวานเหมือนในเนื้อเรื่องเดิม
ยังไงก็เถอะ มีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิมเลย
นั่นคือ การที่ฮิเมโนะ คาเร็น หนึ่งในนางเอก เลือกที่จะสนับสนุนผมแทนที่จะยืนอยู่ข้างฟุเสะคาวะ ไรโตะ
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ผมมองเธอที่นั่งเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าหงุดหงิด แล้วก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงทาทีที่เปลี่ยนไป…