เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 72 ข้าวกล่องที่เต็มไปด้วยกำลังใจของมาชิโระ
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 72 ข้าวกล่องที่เต็มไปด้วยกำลังใจของมาชิโระ
ตอนที่72 : ข้าวกล่องที่เต็มไปด้วยกำลังใจของมาชิโระ
พิธีเปิดภาคเรียนดำเนินไปอย่างราบรื่น และช่วงเวลาพักกลางวันก็มาถึงอย่างรวดเร็ว
โรงเรียนมัธยมปลายคิโอะที่ผมเรียนอยู่มีการเรียนในคาบบ่ายแม้ในวันเปิดภาคเรียนก็ตาม และตอนนี้ก็ถึงเวลากินอาหารกลางวันในห้องเรียน
เรโอะ ที่ปกติจะไปทานอาหารกลางวันที่ห้องเรียนอื่น วันนี้กลับมานั่งที่โต๊ะของผมแทน
“ริวสุเกะ นายโอเคไหม? หวัดเป็นเรื่องที่ต้องดูแลตั้งแต่แรกๆนะ อย่าฝืนล่ะะ”
“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ เรโอะ แต่ร่างกายฉันไม่ได้แย่ขนาดนั้น”
“ถ้าอย่างงั้นก็ดีแล้วล่ะ คุณมาชิโระเองก็เป็นห่วง นายดูแลตัวเองด้วยนะ”
เรโอะ เพื่อนสนิทที่มาเป็นเพื่อนกินข้าวกับฉันในช่วงพักกลางวันทั้งยังคอยเป็นห่วงผมที่กำลังเป็นหวัดด้วย
เขานั่งลงที่เก้าอี้ที่ว่าง เปิดกล่องอาหารกลางวันและคอยดูแลผมอยู่ใกล้ๆ
เรโอะเป็นเด็กหนุ่มรูปงามที่มีผมสั้นสีเงินเซ็ตอย่างเรียบร้อย ดวงตาสีเทาดูสุภาพและเปล่งประกายอย่างสง่างาม บรรยากาศรอบตัวเขาดูสุขุมและมั่นคง
เขาไม่แค่เก่งเรื่องกีฬาแต่ยังเก่งเรื่องเรียนด้วย เขาใจดีและพึ่งพาได้อย่างมากอีกต่างหาก
ข้างๆ เขาคือ นิชิคาว่า เคียวยะ เพื่อนอีกคนที่รีบมาหาผมในช่วงพักกลางวันเเหมือนกัน และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งเคี้ยวข้าวแบบมูมมามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยข้าวติดเต็มไปหมด
“โธ่เว้ย ตอนปิดเทอมริวสุเกะก็ดูแข็งแรงแท้ๆ ทำไมอยู่ดีๆถึงได้มาเป็นหวัดแบบนี้นะ”
“นิชิคาว่า ฉันเองก็คิดเหมือนกัน แค่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ยังปกติดีอยู่เลย”
“ไม่ได้จะอวดหรอกนะ แต่ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเป็นหัวเลยสักครั้งล่ะ”
นิชิคาว่าพูดพร้อมทำหน้าภูมิใจแล้วยกนิ้วโป้งขึ้นอย่างมั่นใจ
เรโอะที่มองท่าทางนั้นยักไหล่อย่างอ่อนใจ
“เคียวยะ… เขาบอกว่าคนบ้าจะไม่เป็นหวัดไม่ใช่หรอ?”
“เห้ยๆ เรโอะ เหมือนนายกำลังบอกว่าฉันเป็นหวัดแต่ไม่รู้ตัวเลยนะ บอกเลยว่าไม่ใช่! ฉันไม่เคยเป็นหวัดจริงๆนะ”
“อืมๆ ตอนม.ต้นที่หน้าดูแดงๆเพราะมีไข้แล้วจมูกน้ำมูกย้อยแต่ก็ยังวิ่งไปทั่วนั่น คงเป็นผมที่เข้าใจผิดงั้นสินะ”
(นิชิคาว่าตอนม.ต้น… แค่คิดก็เห็นภาพเลย)
ภาพของนิชิคาวะที่วิ่งไปทั่วพร้อมใบหน้าที่แดงเพราะไข้และหัวเราะเสียงดังทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา ผมคิดว่าเขาอาจจะไม่รู้ตัวจริงๆว่าตอนนั้นเป็นหวัด
นิชิคาวะตักข้าวเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยก่่อนจะกลืนลงคอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังทำหน้านิ่วเพราะเรโอะล้อเลียน แต่ดูเหมือนรสชาติของข้าวจะทำให้เขากลับมาสดใสอีกครั้ง ความตรงไปตรงมาแบบนี้ก็เป็นเอกลักษณ์ของเขาเหมือนกัน
ตอนที่ผมรู้สึกอบอุ่นจากการดูแลเอาใจใส่ของทั้งสองคนและกำลังจะเริ่มทานอาหารกลางวัน ผมกลับพบความจริงที่น่าตกใจ…
กล่องข้าวกลางวันในกระเป๋าของผมมันหายไป!
“เวรล่ะ… ฉันลืมเตรียมข้าวกล่องเพราะไม่สบาย”
“เหลือเชื่อเลยนะ ที่ริวสุเกะจะลืมอะไรแบบนี้ได้”
“จริงด้วย คนที่เตรียมทุกอย่างเป๊ะ ทั้งหนังสือเรียนไหนจะชุดกีฬาอย่างริวสุเกะลืมของเนี่ยนะ”
ทั้งสองคนพูดแซว ทำให้ผมรู้สึกอายจนหูร้อน แม้จะเป็นเพราะไข้หวัดที่ทำให้สมองล้าไป แต่การลืมข้าวกล่องนี่ถือเป็นเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่เลยทีเดียว ผมถึงขั้นลืมข้าวกล่องที่เตรียมไว้ให้มาชิโระด้วย
ถ้าผมไม่มีอะไรกินตอนกลางวัน ไม่ใช่แค่ผมที่จะลำบากแต่มาชิโระเองก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ผมเลยตัดสินใจว่าจะต้องไปซื้อของจากโรงอาหาร แต่ใตอนนั้นเอง…
จู่ๆ ก็มีเสียงดัง “ตึง!” ขึ้นบนโต๊ะของผม และกล่องข้าวขนาดใหญ่สูงสองชั้นก็ถูกวางลงจนโต๊ะส่งเสียงร้องเอี๊ยดอ๊าด
ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจพร้อมทั้งเหลียวมองไปที่คนรอบข้าง ก่อนจะพบว่าเพื่อนสนิทของผมทั้งสองคนอย่างเรโอะและนิชิคาวาสก็ตะลึงไม่ต่างกัน
ฑอผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็พบกับรอยยิ้มสดใสราวกับนางฟ้าของมาชิโระ
“แท่นแท้น! ข้าวกล่องสุดพิเศษสองชั้นที่เต็มไปด้วยกำลังใจของมาชิโระ เพื่อริวสุเกะโดยเฉพาะค่าา!”
“เอ๊ะ… เอ่อ มาชิโระ นี่มันอะไร…”
“ก็เวลาป่วยต้องกินอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ จะได้หายเร็วๆไงล่ะ”
“ไม่ใช่สิ ฉันหมายถึง… ทำไมมาชิโระถึงทำข้าวกล่องให้ฉันต่างหาก?”
“ก็เมื่อวานฉันบอกทาง RINE ไง ว่าฉันจะเตรียมข้าวให้ริวสุเกะเพราะนายดูไม่สบาย”
“ขอโทษนะ… ฉันจำไม่ได้เลย เพราะตอนนั้นคงเหนื่อยจนคิดว่าฝันไป”
“โธ่… ริวสุเกะเนี่ยน้า แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะวันนี้ฉันจะดูแลนายให้เต็มที่เลย!”
“มาชิโระ…”
“เป็นไง ดีใจไหม?”
“ดีใจมาก… จนอยากจะป่วยทุกวันเลยล่ะ”
“ไม่ได้ รีบหายเร็วๆเถอะนะ เพราะฉันเป็นห่วงสุขภาพของริวสุเกะที่สุด”
“อืม ฉันจะกินข้าวกล่องสุดพิเศษของมาชิโระ แล้วรีบหายจากไข้ทันทีเลย”
ผมรู้สึกดีใจจนแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ที่มาชิโระอุตส่าห์ทำข้าวกล่องมาให้
และผมก็ขอบคุณตัวเองในตอนเช้าที่เหม่อลืมเอาข้าวกล่องมา เพราะถ้าผมเอามาด้วยล่ะก็ ข้าวกล่องสองชั้นพิเศษของมาชิโระก็คงไม่ได้กินแน่
หลังจากนั้น มาชิโระก็หยิบเก้าอี้ว่างมาแล้วนั่งข้างผม
เธอเปิดกล่องข้าวที่เต็มไปด้วยอาหารน่ากินหลากหลายอย่าง ทั้งหมูพันผักทอด ไก่ทอด ไข่หวาน และข้าวปั้นที่อัดแน่นอยู่ในสองชั้น นอกจากนั้นยังมีตะเกียบสองคู่และจานเล็กสำหรับแบ่งอาหารอีกด้วย
เธอยังรินน้ำชาอุ่นๆจากกระติกน้ำและส่งให้ผมอย่างนุ่มนวล การเอาใจใส่แบบนี้ของมาชิโระทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ
“เรโอะคุง นิชิคาว่าคุง ถ้าชอบก็ช่วยกินด้วยนะ ฉันทำเผื่อไว้เยอะเลยล่ะ”
“ห๊า!? อะ…อาหารฝีมือมาชิโระ…จัง ฉะ…ฉันกินได้จริงเหรอ?”
“ฮะฮะ นิชิคาวา่า นายตัวสั่นไปหมดเลยนะ ยังไหวไหมเนี่ย”
นิชิคาว่าดูเหมือนจะไม่อยากเชื่อ เขาถึงกับหยิกแก้มตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่ากำลังฝันหรือเปล่า ก่อนจะเผยยิ้มมีความสุขจนผ่อนลง
“แน่นอนสิ ผมไม่มีทางปฏิเสธคำชวนของคุณมาชิโระหรอก ขอบคุณนะ”
เรโอะตอบอย่างสุภาพ
“อื้ม ฉันรู้ว่าเรโอะคุงจะพูดแบบนี้ ขอบคุณมากเหมือนกันนะ”
“ไม่เลย ต้องขอบคุณเธอต่างหาก ทุกอย่างดูน่ากินจนผมกลัวว่าจะเผลอกินมากไปแล้วเนี่ย”
“เรโอะคุงกินเก่งนี่นา ฉันเห็นนะว่าตอนงานเทศกาลฤดูร้อนนายกินมากกว่านิชิคาว่าคุงอีก”
“ฮะๆ… ก็อาหารมันน่ากินนี่นา แต่ปกติผมคุมอาหารจริงๆนะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนั้นทั้งกลุ่มก็กินจุกันหมดนั่นแหละ มากินกันดีกว่า!”
พวกเราสี่คนพูดคุยและหัวเราะอย่างมีความสุข ก่อนจะพนมมือแล้วกล่าว “จะกินล่ะนะครับ/ค่ะ” พร้อมกัน
ในตอนที่ผมได้ลิ้มรสอาหารแสนอร่อยที่มาชิโระทำมาให้ เราทุกคนก็ใช้เวลาพักกลางวันด้วยความสนุกสนาน
แต่ในขณะเดียวกัน… ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งที่ยืนมองภาพความสุขนั้นจากทางเดินด้วยความอิจฉา โดยที่พวกเราสี่คนไม่ทันสังเกตเลยสักนิด