เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 69 เทศกาลฤดูร้อน (3)
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 69 เทศกาลฤดูร้อน (3)
ตอนที่69 : เทศกาลฤดูร้อน (3)
ในตอนที่มาชิโระกำลังเล่นเกมยิงเป้ากับนิชิคาว่าอยู่อย่างสนุกสนาน ผมก็กำลังนั่งกินทาโกะยากิกับเรโอะอยู่ที่ร้านแผงลอยใกล้ๆ
ปลาแห้งที่โรยบนทาโกะยากิพลิ้วไปตามลม กลิ่นหอมของต้นหอมลอยเข้าจมูกชวนยั่วน้ำลายซะจนอดใจไม่ไหว
พอเอาไม้จิ้มทาโกะยากิลูกกลมๆใส่ปาก รสชาติของซอสและมายองเนสผสมผสานกันได้อย่างลงตัวพร้อมสัมผัสเหนียวหนึบของปลาหมึกที่เคี้ยวแล้วเด้งสู้ฟัน
“อืม อร่อยดีแฮะ”
ผมพึมพำอย่างพอใจพลางพูดคุยกับเรโอะที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ว่าแต่ นายได้ไปเจอหรือเที่ยวอะไรกับฟุเสะคาวะบ้างไหม? ฉันได้ยินว่านายบอกว่าหลังจากจบค่ายฝึก นายก็ว่างมากขึ้นนี่นา”
“ก็บ้างล่ะนะ แต่จะว่าไปเที่ยวกันก็ไม่เชิง”
“พูดแบบนั้น หมายความว่าไงเนี่ย?”
ผมถามกลับ พลางหรี่ตาด้วยความสงสัย
เรโอะเป็นตัวละครเพื่อนสนิทของพระเอก ซึ่งตำแหน่งในเรื่องนี้มีไว้เพื่อให้เขาสนับสนุนฟุเสะคาวะ ไรโตะ ในฐานะเพื่อนสนิทในขณะที่เหล่านางเอกทำหน้าที่เติมสีสันรอบตัวเขา
แต่ตอนนี้เรโอะมาอยู่ที่เทศกาลฤดูร้อนกับผมซึ่งเป็นตัวร้ายในเรื่อง แทนที่จะอยู่กับพระเอก ผมเลยอดคิดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“จริงๆแล้วไรโตะดูแปลกไปนะ ช่วงนี้ผมก็เป็นห่วงเขาเหมือนกัน”
เรโอะพูด พลางทำสีหน้ากังวล
“แปลกยังไงเหรอ?”
“น่าจะตั้งแต่ช่วงสอบปลายภาคนั่นแหละ เขาดูเหม่อลอยบ่อยๆ ถามอะไรก็ไม่ยอมบอก บอกแต่ว่า ‘ไม่มีอะไร’ อย่างเดียว แถมตั้งแต่ปิดเทอมฤดูร้อนเขาก็ทะเลาะกับรุ่นพี่ซากุระมิยะด้วย”
“ทะเลาะ? รุ่นพี่ซากุระมิยะที่เป็นประธานนักเรียนคนนั้นน่ะเหรอ?”
“ใช่ คนที่นายคิดนั่นแหละ”
ผมได้ฟังแล้วก็ถึงกับตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่าฟุเสะคาวะทะเลาะกับหนึ่งในนางเอกของเรื่อง
ตอนที่ผมบังเอิญเจอฟุเสะคาวะที่ชายหาดก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้เห็นซากุระมิยะ มิยูกิ อยู่ด้วย ตอนนั้นผมคิดว่าเธอคงติดธุระเลยไม่ได้มา แต่ใครจะไปคิดว่าเป็นเพราะพวกเขาทะเลาะกัน
“แล้วก่อนหน้านี้ เขาก็ทะเลาะกับคุณฮิเมโนะด้วย ที่ชายหาดเหมือนจะมีการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด แล้วพอแพ้ก็ไปโกรธฮิเมโนะเข้าน่ะสิ”
“การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด…”
ผมยังจำเรื่องนั้นได้ดี มันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ตัวร้ายอย่างผมต้องรับมือกับฟุเซกาวะที่ปลดล็อกพลังในฐานะพระเอกเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขา
ตอนนั้นผมตัดสินใจลุกขึ้นสู้สุดกำลังเพื่อสลัดภาพลักษณ์ของตัวร้ายออก และผลที่ได้คือสามารถเอาชนะพระเอกได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
แต่ไม่คิดเลยว่า หลังจากจบการแข่งขัน ฟุเสะคาวะจะทะเลาะกับฮิเมโนะ คาเร็น
“ดูเหมือนว่าไรโตะจะบอกว่าเหตุผลที่แพ้เป็นเพราะฮิเมโนะเล่นไม่ดี ทำให้พวกเขาทะเลาะเถียงกันหนักเลยล่ะ”
“งั้นหรอ… ฉันว่าฮิเมโนะคงเสียใจมากแน่ๆ”
ผมจำได้ว่าในเกมนั้นฮิเมโนะเล่นอย่างเต็มที่ เธอทุ่มเทสุดตัวเพื่อช่วยเหลือฟุเสะคาวะ
การที่เขาโยนความผิดให้เธอหลังจากที่พยายามเต็มที่ มันน่าผิดหวังจริงๆ
แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจก็คือ ทำไมฟุเสะคาวะถึงเปลี่ยนไปแบบนี้?
ในต้นฉบับ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ เป็นคนอ่อนโยน มีน้ำใจและใส่ใจคนรอบข้างเสมอ
แต่ตอนนี้เขาดูเป็นคนละคน ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากอะไรกันแน่?
แม้จะพยายามคิดหาคำตอบ แต่ข้อมูลที่มีอยู่ก็น้อยเกินไปที่จะสรุปได้ ผมได้แต่สงสัยต่อไปว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร…
“ว่าแต่เรโอะ ทำไมฟุเสะคาวะถึงทะเลาะกับรุ่นพี่ซากุระมิยะล่ะ?”
“ผมก็ไม่รู้รายละเอียดทั้งหมดหรอก แต่เหมือนจะเกี่ยวกับคะแนนสอบปลายภาคน่ะ”
“คะแนนสอบปลายภาคเหรอ? ก็จริงที่ฟุเสะคาวะไม่ได้อันดับหนึ่ง แต่เขาก็ยังได้อันดับสองของชั้นปี แค่นั้นก็ดูดีมากแล้วนี่”
“ผมว่าเขาคงเจ็บใจที่แพ้ให้นายมากกว่า ไรโตะดูเหมือนจะเห็นนายเป็นคู่แข่งคนสำคัญมาตลอดเลยนะ”
“งั้นเหรอ… แพ้ให้ฉันแล้วรู้สึกเจ็บใจสินะ”
“แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอก ริวสุเกะ สอบคือการวัดผลอย่างยุติธรรมและคะแนนก็สะท้อนถึงความพยายามของแต่ละคนอย่างตรงไปตรงมา ถ้าเป็นปกติเขาควรจะชมคนที่ทำได้คะแนนดีกว่า แต่กลับไปโกรธที่ได้อันดับต่ำกว่า ผมว่ามันไม่ถูกต้องเลย จริงไหม?”
“ขอบคุณนะ เรโอะ ที่ช่วยพูดแบบนั้น”
“ผมแค่พูดความจริงเอง ริวสุเกะควรจะภูมิใจในตัวเองได้เต็มที่ การได้คะแนนเต็มทุกวิชาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”
เรโอะพูดพร้อมยิ้มให้ผมด้วยความจริงใจ ความใส่ใจของเพื่อนคนนี้ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“แล้วทางฟุเสะคาวะล่ะ? พวกเขาไม่ได้ทะเลาะกันจนเลิกคบกันไปเลยใช่ไหม?”
“ริวสุเกะก็เป็นห่วงไรโตะด้วยสินะ สมกับเป็นนายเลย ไม่ต้องห่วงไปหรอก ผมเองพยายามอย่างเต็มที่ที่จะช่วยแก้ความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่นๆตั้งแต่กลับมาจากค่ายฉล้วมันก็สำเร็จด้วยดีล่ะนะ”
“เพราะแบบนี้สินะ นายถึงพูดแบบมีนัยยะแบบนั้น บอกว่าแค่เจอกันไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน”
“ก็นะ นั่นแหละ บอกตรงๆเลยว่าตอนนี้ผมเหนื่อยสุดๆ ทั้งจากความล้าที่สะสมมาตอนค่ายกับความเหนื่อยใจจากเรื่องนี้ ตอนนี้ผมแทบจะไม่ไหวแล้ว”
เรโอะหัวเราะเบาๆอย่างเหนื่อยล้า พอมองดูดีๆใต้ตาของเขามีรอยคล้ำ บ่งบอกว่าเขาคงเหนื่อยจริงๆ
ถึงอย่างงั้น สีหน้าของเขากลับดูพอใจเหมือนได้ผลลัพธ์ที่เขาต้องการ
“เพราะแบบนี้ ผมเลยโทรหานายน่ะ ขอโทษด้วยที่มาเป็นก้างขวางคอในเดทเทศกาลฤดูร้อนของนาย”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันเองก็อยากสร้างความทรงจำในเทศกาลฤดูร้อนกับเรโอะและนิชิคาว่าอยู่แล้ว ขอบคุณนะที่ติดต่อมา”
“ดีใจจริงๆที่นายพูดแบบนั้น เวลาที่ผมอยู่กับริวสุเกะ ผมรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่เลย ขอบคุณมากๆนะ”
“ถ้ามีอะไรลำบากใจก็ปรึกษาได้ตลอดล่ะ ฉันจะช่วยทุกอย่างที่ทำได้เลย”
“ขอบคุณนะ ริวสุเกะ คราวหน้าผมจะคอบแทนให้แน่นอน”
เรโอะพูดพร้อมก้มหัวเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิด จริงๆแล้วเขาไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้เลย
ถ้าสิ่งที่เรโอะเล่ามาเป็นความจริง การทะเลาะกับรุ่นพี่ซากุระมิยะจากคะแนนสอบปลายภาค การมีปัญหากับฮิเมโนะที่ชายหาด และการที่เหล่าฮาเร็มรอบตัวฟุเสะคาวะเริ่มแตกร้าว มันแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์รอบตัวพระเอกกำลังพังทลายลงทีละน้อย
ถึงแม้เรโอะจะช่วยซ่อมแซมความสัมพันธ์เหล่านั้นได้ แต่ความมืดมนที่เกิดขึ้นก็คงทิ้งร่องรอยไว้และอาจมีบางสิ่งเกิดขึ้นอีกระหว่างพระเอกกับนางเอกในอนาคต
ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มออกนอกเส้นทางของเนื้อเรื่องต้นฉบับแล้ว ผมไม่อาจคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้
แต่สิ่งที่แน่นอนคือ การที่ตัวร้ายอย่างผมเอาชนะพระเอกได้ทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ผมเลยสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ประมาทและพยายามอย่างเต็มที่ต่อไป
ในตอนที่กำลังคุยเล่นกับเรโอะ มาชิโระกับนิชิคาว่าก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้ากังวล
“ริวสุเกะ ฉันมีเรื่องจะขอ… ตอนนี้สะดวกไหม?”
“หืม? มีอะไรเหรอ มาชิโระ อยากได้รางวัลจากบูธยิงเป้าหรอ?”
“ฉันก็อยากขอเหมือนกันนะ ริวสุเกะ! มาชิโระจังฝากให้ฉันลองยิงตุ๊กตาแมวตัวนั้นอยู่ แต่ยิงยังไงก็ไม่ได้เลยอ่ะ! ฉันคิดว่าถ้าเป็นริวสุเกะ ที่เคยเป็นพรีเดเตอร์ใน Ailex Legends ต้องยิงได้แม่นแน่ๆเลย”
“อือ… ริวสุเกะ ช่วยหน่อยนะ! แมวน้อยตัวนั้นมันน่ารักมากเลย แต่ฉันยิงไม่โดนเลยอ่ะ…”
“จ้าๆ ไว้ใจได้เลย”
“เย้! ขอบคุณนะ ริวสุเกะ”
ทั้งสองคนดูเหมือนจะเล่นบูธยิงเป้ามาตลอดแต่ก็ไม่สามารถคว้าตุ๊กตาแมวตัวนั้นมาได้ พอผมตอบตกลงอย่างง่ายดาย มาชิโระก็ดูตื่นเต้นและรีบพาผมไปยังบูธยิงเป้าทันที
ผมจ่ายเงินแล้วรับปืนของเล่นกับกระสุนไม้ก่อนจะเริ่มเล็งเป้าหมายอย่างจริงจัง
ตุ๊กตาแมวสามสีที่มาชิโระอยากได้ดูเหมือนจะทำมาดีมาก มันแข็งแรงจนยิงโดนแบบธรรมดาอาจไม่ทำให้มันขยับได้เลย ไม่แปลกที่ทั้งสองคนจะล้มเลิกความพยายาม
ผมเล็งเป้าอย่างรอบคอบ เล็งไปที่ฆัวซึ่งอยู่สูงกว่าจุดศูนย์ถ่วงพร้อมกับควบคุมลมหายใจ ด้านหลังผมได้ยินเสียงกลั้นหายใจของมาชิโระ เรโอะ และนิชิคาว่า
ผมค่อยๆดึงไกปืน และเมื่อเสียง “ปัง!” ดังขึ้น กระสุนก็พุ่งตรงไปกระแทกที่หัวของตุ๊กตา
ตุ๊กตาแมวสามสีสั่นโอนเอนก่อนจะล้มลงไปด้านหลัง
มาชิโระกระโดดดีใจอยู่ข้างหลังผม เรโอะกับนิชิคาว่าก็ปรบมือชื่นชม
“สุดยอดเลย! ยิงโดนครั้งเดียวได้เลย ริวสุเกะเท่มาก!”
“จริงด้วย! ฝีมือจับปลาทองของนายก็ดี แต่ฝีมือยิงปืนก็ดีไม่แพ้กันเลยนะเนี่ย”
“สมกับเป็นพรีเดเตอร์ทั้งในเกมและในชีวิตจริง พึ่งพาได้จริงๆ”
ถึงจะรู้สึกเขินกับคำชม แต่ผมก็รับตุ๊กตาแมวสามสีจากเจ้าของร้านแล้วยื่นให้มาชิโระ
เธอรับไปพร้อมรอยยิ้มสดใสแล้วกอดตุ๊กตาในอ้อมแขนแน่นก่อนจะลูบมันอย่างอ่อนโยน แค่ดูก็รู้เธอชอบมันมาก
“เอะเหะเหะ ขอบคุณนะ ริวสุเกะ แมวน้อยตัวนี้จะได้ไปอยู่ในห้องของฉันเพิ่มอีกตัวแล้ว”
“ถ้าอยากได้อะไรอีกก็บอกฉันได้นะ มาชิโระ”
“อื้ม! ถ้ามีคราวหน้าฉันจะขอร้องอีกนะ ริวสุเกะ!”
มาชิโระกอดตุ๊กตาไว้แน่นพลางเอาหน้าซบมันด้วยท่าทางน่ารักและดูมีความสุข ผมเองก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม
“งั้นเอาล่ะ ริวสุเกะ คราวนี้ไปลองบูธแกะน้ำตาลกันเถอะ! เหมาะสำหรับคนใจสุดๆ”
“แย่หน่อยนะ เคียวยะ คราวนี้อาจเป็นโอกาสโชว์ฝีมือของผมบ้างแล้วล่ะ”
“ฉันก็เก่งการแกะนะ! งั้นเรามาแข่งกันดีกว่าใครแกะได้เร็วที่สุด!”
“ได้สิ มาชิโระ ฉันจะโชว์ทักษะที่ฝึกมาจากเกมให้ดู”
พวกเรามุ่งหน้าไปยังบูธถัดไปด้วยความกระตือรือร้น เพลิดเพลินกับเวลาที่แสนสนุกกับคนสำคัญและดื่มด่ำบรรยากาศครึกครื้นของเทศกาลฤดูร้อนต่อไป