เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 57 ทะเลกับตัวร้าย (7)
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 57 ทะเลกับตัวร้าย (7)
ตอนที่57 : ทะเลกับตัวร้าย (7)
ผมกับมาชิโระลุกขึ้นออกจากใต้ร่มชายหาดและเดินตามไมไปยังสถานที่จัดการแข่งขัน
เสา2ต้นปักอยู่บนชายหาดทรายขาว พร้อมกับตาข่ายที่ขึงสำหรับวอลเลย์บอลชายหาด ด้วยความที่ชายหาดนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ผู้เข้าร่วมแข่งขันจึงมีจำนวนมาก
ผู้เข้าแข่งขันมีตั้งแต่กลุ่มเด็กม.ต้น ม.ปลาย คนที่มากับครอบครัว ไปจนถึงทีมของผู้ใหญ่ วัยและเพศก็ต่างกันไป แต่ทุกคนล้วนแสดงออกถึงความสนุกสนานในการเล่นวอลเลย์บอลชายหาดกันทั้งนั้น
ในตอนที่อยู่ในมุมหนึ่งของสนาม ผม มาชิโระ และไมยืนดูการแข่งขันของทีมอื่นไปพร้อมกับทบทวนกติกา
“เกมนี้แข่งกันทีมละ 3 คน ใครถึง 15 แต้มก่อนชนะ เพราะมีผู้เข้าร่วมเยอะ เลยไม่มีการแข่งรอบสองสินะ”
“ใช่แล้วล่ะ พี่ชาย! งานนี้ไม่ใช่การแข่งขันจริงจังอะไร แค่กิจกรรมสนุกๆ ที่ร้านอาหารริมทะเลจัดขึ้นเอง ใครๆก็ร่วมได้”
“ถ้าชนะจะได้คูปองอาหารคนละ 1,000 เยน ถ้าแพ้ก็ได้บิงซูเป็นรางวัลปลอบใจ ฟรีแบบนี้ถือว่าคุ้มเลย”
“ใช่ไหมล่ะ! ใจกว้างสุดๆไปเลย หนูตั้งใจชนะเต็มที่เลยนะ ตอนนี้ก็เริ่มคิดแล้วว่าจะกินอะไรดี!”
“เธอนี่ตะกละจริงๆนะไม แต่พูดก็พูดเถอะ พี่เองก็เริ่มหิวเหมือนกัน”
“ใกล้เที่ยงแล้วนี่นา เล่นวอลเลย์บอลชายหาดไปเดี๋ยวก็หิวหนักขึ้นอีก มื้อเที่ยงวันนี้ต้องกินอาหารอร่อยๆให้ได้เลย!”
ไมพูดพลางกระโดดไปมาด้วยรอยยิ้มสดใส
ในตอนที่เธอตื่นเต้น ผมกลับรู้สึกถึงแรงกดดันจากการแข่งขันครั้งนี้
พอมองไปรอบๆสนาม ผมก็เห็นฟุเสะคาวะพร้อมกับสองนางเอกของเขา ฮานาซากิ ยูนะ และฮิเมโนะ คาเร็น
ผมเช็กชื่อทีมคู่แข่งและมันก็เป็นไปตามที่คาดไว้ คู่ต่อสู้ของพวกเราคือทีมของฟุเสะคาวะข้อมูลนี้แน่นอนว่าทีมเขาก็รู้ด้วย
ทั้งสามคนกำลังรวมกลุ่มปรึกษากัน ดูเหมือนพวกเขากำลังวางแผนตำแหน่งและกลยุทธ์สำหรับการแข่ง
แค่เห็นท่าทีมุ่งมั่นแบบนั้น ผมก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันและความตั้งใจของพวกเขา
ในดวงตาของฟุเสะคาวะ ผมเห็นถึงความมีสมาธิ ความมั่นใจ และพลังที่เปล่งประกายออกมา ราวกับตอนที่เขาแสดงออกในช่วงการสอบปลายภาคไม่มีผิด
เขาได้ตื่นขึ้นในฐานะตัวเอกอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะร่วมมือกับนางเอกเพื่อเอาชนะผมอย่างเต็มกำลัง
ผมไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองประมาทได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะผมเผลอเปิดช่องโหว่เมื่อไหร่ มันจะเป็นจุดจบที่ฟุเสะคาวะ ไรโตะจะใช้บดขยี้ผมลงดินทันที
หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ความกังวลและความตื่นเต้นที่ถาโถมเข้ามาก่อนการแข่งขันทำให้ผมเผลอกลั้นหายใจ
ตอนนั้นเอง ผมก็รู้สึกถึงสัมผัสนุ่มนวลที่มือขวา พอก้มมองลงไปก็เห็นมาชิโระที่จับมือผมไว้พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
ความอบอุ่นจากมือเล็กๆของเธอและน้ำเสียงนุ่มนวลที่พูดออกมาโอบล้อมผมอย่างอ่อนโยน
“หุหุ ตื่นเต้นมากเลยสินะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นริวสุเกะเป็นแบบนี้ ล่าสุดก็ตั้งแต่ตอนสอบปลายภาคเลยล่ะมั้ง?”
“ก็จริง… นับตั้งแต่ตอนนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันประหม่าขนาดนี้”
“งั้นฉันจะร่ายคาถาคลายความตื่นเต้นให้เองนะ ขอมือหน่อย ค้างไว้นิ่งๆแบบนี้นะ แล้วทีนี้ลองแบมือออกดูสิ”
“เอ๋? เอ่อ ได้สิ”
มาชิโระจับมือผมไว้แน่นขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นเธอค่อยๆใช้นิ้วชี้ลากไปตามฝ่ามือของผมราวกับกำลังเขียนอะไรบางอย่าง
สัมผัสจากปลายนิ้วที่ลากไปมาทำให้ผมรู้สึกจั๊กจี้จนเผลอยิ้มออกมา
หลังจากจิ้มเบาๆ ที่ฝ่ามือเป็นครั้งสุดท้าย มาชิโระก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วปล่อยมือออก
“เรียบร้อย! แค่นี้ก็เสร็จแล้วล่ะ”
“เอ่อ? เมื่อกี้เธอเขียนอะไรลงไปเหรอ?”
ผมมองฝ่ามือของตัวเอง ที่มาชิโระเขียนอะไรบางอย่างลงไป ยันต์นั้นมีอยู่สามตัวอักษร
ตัวแรกดูเหมือนจะเป็นคำว่า ‘ใหญ่’ (大)… แต่คำที่สองนั้นกลับมีเส้นมากผิดปกติ มันคงเป็นคำว่า ‘ไดโจวบุ’ (大丈夫) ที่แปลว่า “ไม่เป็นไร” สินะ? เพราะนี่คือยันต์ที่น่าจะทำให้ผมใจเย็นลง แต่เส้นที่เยอะผิดปกติในคำที่สองทำให้ผมสงสัย
“เธอเขียนอะไรลงไปเหรอ? ฉันรู้สึกว่าตัวแรกเป็นคำว่า ‘ใหญ่’ (大) นะ”
“เอ่อ… ก็แบบว่า…”
มาชิโระหลบสายตาฉันทันที ใบหน้าของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ มือเล็กๆ ที่เคยวางอยู่เฉยๆ ตอนนี้ขยับอย่างประหม่า ดูเหมือนเธอไม่กล้าตอบออกมาตรงๆ
(แต่คำแรกมันต้องเป็นคำว่า ‘ใหญ่’ แน่นอน)
คำที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “ใหญ่” และมีสามตัวอักษร ถ้าไม่ใช่คำว่า “ไม่เป็นไร” (大丈夫) แล้วจะเป็นคำว่าอะไรได้อีก? แต่ตัวที่สองดันมีเส้นเยอะเกินไป
ทั้งที่ควรเป็นคาถาที่ช่วยให้ผมใจเย็นลงแท้ๆ แต่เธอกลับมีปฏิกิริยาแบบนี้… หรือจะมีความหมายอะไรแอบแฝงกันแน่นะ?
ในตอนที่ผมกำลังจะถามออกไป มาชิโระก็พูดขึ้นเบาๆโดยไม่หันมามอง
“อะ เอ่อ… ที่จริงแล้วมันเป็นความลับน่ะ ถ้าบอกไป คาถาจะไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้วนะ”
“อย่างงั้นเหรอ?”
“อื้อ ใช่เลย แต่ตอนนี้ไหล่ของริวสุเกะก็คงผ่อนคลายลงแล้วใช่ไหม? คาถาน่าจะได้ผลแล้วล่ะ”
“จริงด้วยสินะ ขอบคุณนะ มาชิโระ ตอนนี้ฉันรู้สึกสงบมากขึ้นแล้วล่ะ คิดว่าน่าจะทำได้แหละ”
คาถาของมาชิโระได้ผลดีเกินคาด ความตึงเครียดและความกังวลในใจผมมลายหายไปในทันที ราวกับถูกเวทมนตร์สะกด
เพื่อขอบคุณ ผมยื่นมือไปลูบหัวของมาชิโระ เธอยิ้มตาหยีอย่างมีความสุขพร้อมกับทำหน้าผ่อนคลายราวกับเด็กที่ได้รับคำชม
(TL : อธิบายเพิ่มเติมหน่อยนะ ตัวคันจิ ‘大’ เนี่ย ถ้าอยู่เดี๋ยวๆจะออกเสียงว่า ‘โอ’ แปลว่าใหญ่ แต่ถ้าไปผสมรวมกับคำอื่นความหมายและวิธีออกเสียงก็จะเปลี่ยน ทีนี้บักริวสุเกะเราคิดว่ามันคือคำว่า ‘大丈夫’ หรือที่อ่านว่า ‘ไดโจวบุ’ ซึ่งแปลว่าไม่เป็นไร แต่น้องมาชิโระบอกเองว่าไม่ได้เขียนคำนี้ เพราะงั้นคำที่เป็นไปได้ที่สุดจะเป็นคำว่า ‘大好き’ หรือที่อ่านว่า ‘ไดสุกิ’ ซึ่งแปลว่า ‘รักที่สุด’ นั่นแหละ แถมตัวที่สองของ ‘รักที่สุด’ เส้นยังเยอะกว่าของ ‘ไม่เป็นไร’ เหมือนที่บักริวสุเกะบอกไว้ด้วย)
“เอะเหะเหะ ได้รับคาถาจากเรียวสุเกะด้วยล่ะ ดีใจจัง”
“อะไรเนี่ย จริงๆแล้วมาชิโระก็ตื่นเต้นเหมือนกันสินะ”
“ใช่เลย แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เพราะเรียวสุเกะลูบหัวให้ไง”
“งั้นก็เสมอกันล่ะสิ ฉันเองก็ดีขึ้นเหมือนกัน มาสู้ไปด้วยกันเถอะ”
“อื้ม! ต้องชนะให้ได้เลยนะ”
ท่าทางน่ารักของเพื่อนสมัยเด็กคนนี้ทำให้ผมกลับมามีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมาชิโระ ผมถึงมั่นใจว่าจะทุ่มเทได้เต็มที่
แม้จะต้องเจอกับเหล่าตัวเอก ผมก็มั่นใจว่าจะไม่มีทางแพ้ ผมกับมาชิโระสบตากันแล้วยิ้มให้กัน
ในตอนที่เรายิ้มให้กันอย่างมีกำลังใจนั้นเอง ไม น้องสาวของผมก็มองดูเราด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์แล้วพูดแซว
“พี่ชายกับพี่มาชิโระจังเนี่ยหวานกันจริงๆเลยนะ ขนาดก่อนแข่งก็เล่นจีบกันจนคนอื่นอิจฉากันหมดแล้ว~”
“พะ-พูดบ้าอะไรของเธอน่ะ ไม! นี่มันก็แค่คาถาธรรมดาเองนะ ใช่ไหม มาชิโระ?”
“ชะ-ใช่แล้ว ไมจัง นี่มันคาถาเพื่อให้ชนะเท่านั้นนะ ไม่ได้มีอะไรแปลกๆอย่างที่พูดเลย… เนอะ?”
“อะแหม~ พี่ชายกับพี่มาชิโระเนี่ยโกหกไม่เนียนเลยน้า ทั้งสองคนดูออกง่ายจะตายไป”
ไมพูดไปพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้ผมกับมาชิโระรู้สึกจั๊กจี้ใจจนเผลอเบือนหน้าหนีกันทั้งคู่ ยิ่งคิดว่าคงตัวติดกันเกินไปหน่อยในที่สาธารณะ เราก็รู้สึกเขินอายจนหน้าแดงและก้มหน้าหลบสายตา
หลังจากนั้นเราทั้งสองคนก็หายใจลึกๆเพื่อสงบอารมณ์ลง ส่วนไมก็ดูเหมือนจะพอใจกับการแหย่เราแล้วเธอเลยไม่พูดอะไรเพิ่ม
สุดท้าย ผมก็รวบรวมสมาธิอีกครั้งและจ้องมองไปที่คู่แข่งของเรา หรือก็คือ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ และสองสาวนางเอกของเขา
สายตาจริงจังของพวกเขาที่กำลังพูดคุยกันสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า และทำให้ผมจินตนาการถึงการต่อสู้อันดุเดือดที่กำลังจะเกิดขึ้น
และแล้วมันก็ถึงเวลา… การเผชิญหน้ากับตัวเอกในวันหยุดฤดูร้อนริมชายหาดกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว――