เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 47 มาชิโระตอนตื่นนอน
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 47 มาชิโระตอนตื่นนอน
ตอนที่47 : มาชิโระตอนตื่นนอน
เสียงนกร้องเป็นการบ่งบอกถึงเวลายามเช้า
ในขณะที่สติยังเลือนลาง ผมค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมกับขยี้เปลือกตาที่หนักอึ้ง แสงแดดอ่อนๆของยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา
ฝนที่ตกมาตลอดทั้งวันเมื่อวานหยุดลงแล้ว ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆ หมอกจางๆของความร้อนในฤดูร้อนเริ่มปกคลุมห้อง
ผมปาดเหงื่อที่ไหลซึมอยู่บนหน้าผากด้วยหลังมือพลางพลิกตัวไปทางข้างๆ สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือใบหน้าของเด็กสาวที่นอนอยู่ข้างผม เธอน่ารักราวกับนางฟ้าตัวน้อย
ผิวขาวละเอียดจนดูโปร่งใส จมูกเรียวสวย ริมฝีปากอิ่มนุ่มวาววับ ผมสีดำเรียบลื่นปกคลุม แก้มแดงระเรื่อเล็กน้อย กลิ่นหอมหวานจากต้นคอของเธอทำให้ผมเผลอกลืนน้ำลาย
แล้วก็จำได้ว่าเมื่อคืนนอนกอดมาชิโระเป็นหมอนข้าง
การตั้งแคมป์ในห้องครั้งแรก พร้อมกับสถานการณ์ที่ไฟดับทำให้เมื่อคืนรู้สึกตื่นเต้นกว่าปกติ
บางทีเพราะคิดว่า “วันนี้เป็นวันพิเศษ” ผมเลยทำอะไรที่ปกติไม่กล้าทำ ทั้งลูบแก้มของมาชิโระ เล่นกับหูของเธอ และลูบใต้คาง
เมื่อภาพเหตุการณ์เมื่อคืนกลับมาชัดเจน หัวใจก็เต้นแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
หลังจากตั้งสติได้แล้ว ผมก็หันไปมองใบหน้าที่กำลังหลับของมาชิโระ
ท่าทางของเธอในยามหลับนั้นดูไร้การป้องกันอย่างที่สุด ใบหน้าอ่อนเยาว์เหมือนเด็กน้อย คำว่า “นางฟ้าผู้ไร้เดียงสา” คงเหมาะกับเธอที่สุด
ผมยื่นมือออกไปลูบผมของเธอเบาๆ มาชิโระขยับตัวเล็กน้อยและส่งเสียงหวาน “อืม…” พร้อมกับซุกตัวเข้ามาใกล้
ดูเหมือนว่าเธอกำลังฝันดี
ริมฝีปากของเธอยิ้มอย่างผ่อนคลาย ท่าทางราวกับว่าเธอจะเผลอน้ำลายไหลออกมา
ผมไม่อยากรบกวนความฝันที่ดูสวยงามของเธอ จึงพยายามจะลุกออกจากเต็นท์อย่างเบาๆ แต่ตอนนั้นเอง
มาชิโระขยับหัวมาซบอกผมพร้อมกับกอดผมแน่น
เส้นผมที่นุ่มลื่นสัมผัสกับผิว ทำให้รู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย และร่างกายที่นุ่มนวลของเธอก็อบอุ่นอย่างน่าประหลาด
(“อยู่แบบนี้อีกสักพักก็คงไม่เป็นไร…”)
เพราะมาชิโระในตอนหลับช่างน่ารักเหลือเกิน ผมเลยไม่อยากปล่อยให้ความอบอุ่นของเธอหายไป
ผมดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดเหมือนที่เธอเคยทำกับผมเมื่อคืน ลูบหลังของเธอเบาๆและตบไหล่ด้วยความอ่อนโยน
มาชิโระซุกตัวในอ้อมแขนผมอย่างวางใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
ระหว่างที่ผมกำลังเพลิดเพลินไปกับความอบอุ่นและความนุ่มนวลของเธอ ดวงตาสีฟ้าของมาชิโระก็ค่อยๆเปิดขึ้นอย่างช้าๆ
“อืม…ริว…สุเกะ…?”
ดวงตาสีฟ้าของมาชิโระยังคงพร่ามัว เธอจ้องมาที่ผมแต่ดูเหมือนว่าสายตาจะยังไม่ได้โฟกัสชัดเจน หลังจากเผยรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างมีความสุข เธอก็ซุกตัวเข้ามาในอ้อมอกของผมราวกับแมวตัวน้อยที่อ้อนเจ้าของ
มาชิโระกอดผมแน่นขึ้นเหมือนต้องการยืนยันว่าผมอยู่ตรงนี้จริงๆ จากนั้นเธอก็เปล่งเสียงอ่อนหวานออกมาด้วย้ำเสียงงัวเงีย
“ริวสุเกะ…อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ มาชิโระ หลับสบายดีไหม?”
“อืม…หลับสนิทเลย…”
เสียงอู้อี้ในแบบคนเพิ่งตื่นนอนของมาชิโระ รวมถึงท่าทางไร้การป้องกันของเธอทำให้ผมอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ มาชิโระขยับเข้ามากอดผมอีกครั้งพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“เอะเหะเหะ…ในฝันของฉันก็มีริวสุเกะด้วยล่ะ…”
“ฝันแบบไหนเหรอ?”
“ก็…ฉันอ้อนริวสุเกะเยอะมาก…เป็นความฝันที่มีความสุขสุดๆเลย”
“ฟังดูไม่ต่างจากตอนนี้เลยนะ”
“ใช่แล้วล่ะ…เหมือนกับว่าฉันกำลังฝันต่ออยู่เลยอ่ะ…”
“แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ความฝันนะ”
“อืม…เพราะแบบนั้นไง ตอนนี้ถึงได้มีความสุขมาก”
“มาชิโระเนี่ยขี้อ้อนจริงๆน้า มานี่มา เดี๋ยวลูบหัวให้”
พอผมลูบหัว มาชิโระก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนและมีความสุขพร้อมกับทำแก้มป่องดูน่ารัก
ถึงจะอยากปล่อยให้เธออ้อนแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ก็ควรจะเริ่มเก็บกวาดห้องกันได้แล้ว ถึงแม่ของมาชิโระจะไม่ค่อยกลับบ้านบ่อย แต่ถ้าเกิดเธอกลับมาแล้วเห็นห้องนั่งเล่นถูกเปลี่ยนเป็นแคมป์ล่ะก็คงตกใจแน่
ผมพยายามห้ามใจตัวเองจากความอยากนอนต่อกับมาชิโระแล้วเรียกเธอให้ลุกขึ้น
“มาชิโระ ถึงเวลาตื่นแล้วนะ”
“อืม~ ไม่เอา”
“ไม่เอาไม่ได้…..เราต้องเก็บเต็นท์แล้วเตรียมอาหารเช้ากันนะ…..?”
“อือ… แล้วมื้อเช้าจะทำอะไรดีล่ะ….?”
“ไข่ม้วนกับซุปมิโซะที่เธอชอบ แล้วก็คงมีแซลมอนย่างด้วยมั้ง”
“เย้~ งั้นลุกก็ได้!”
“หลอกง่ายจริงๆนะเธอ”
“เอะเหะเหะ…”
มาชิโระหัวเราะเบาๆก่อนจะซุกหัวเข้ามาที่อกผมอีกครั้ง จากนั้นค่อยๆลุกขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง
เธอยังดูง่วงนอนเล็กน้อย ใบหน้าก็ยังเต็มไปด้วยความงัวเงีย แต่หลังจากขยี้ตาและยืดตัวช้าๆ เธอก็ออกจากเต็นท์ไป ผมเลยเดินตามออกมา
ไฟฟ้าที่ดับเมื่อคืนนี้กลับมาใช้งานได้แล้ว ผมลองกดรีโมตแอร์ก็พบว่ามีลมเย็นออกมาทันที
เมื่อวานนี้อากาศแปรปรวนจนเย็นเหมือนหน้าหนาว แต่วันนี้กลับร้อนอบอ้าวเหมือนกลางฤดูร้อน การที่มีแอร์ใช้ได้จึงช่วยให้เย็นสบายขึ้นเยอะ
จากนั้นผมกับมาชิโระก็ช่วยกันพับเต็นท์และเก็บอุปกรณ์แคมป์ทั้งหมดเข้าที่เดิม พร้อมทั้งจัดเรียงเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นกลับสู่ตำแหน่งเดิม
มาชิโระที่ตอนแรกยังดูง่วงอยู่ แต่พอเริ่มเก็บของไปเรื่อยๆก็เหมือนจะตื่นเต็มตาแล้วและกลับมาร่าเริงสดใสเหมือนเดิม
“เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ”
“อื้อ! ริวสุเกะ ขอบคุณนะ!”
“งั้นตามสัญญา ไปทำอาหารเช้ากันเถอะ”
“กำลังรออยู่เลย!”
ตอนที่ผมกำลังจะเดินไปที่ครัว มาชิโระก็กระโดดมากอดแขนผมแน่น พร้อมทั้งยิ้มสดใสเหมือนดอกไม้แรกแย้ม
ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอช่างเป็นคนขี้อ้อนจริงๆ แต่ก็เผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัวเพราะงมองรอยยิ้มสดใสนั่นของเธอ