เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 4 สามัญสำนึกของโลกใบนี้
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 4 สามัญสำนึกของโลกใบนี้
ตอนที่4 : สามัญสำนึกของโลกใบนี้
หลังจากที่เห็นฉากโรแมนติกแบบฮาเร็มในห้องเรียน คาบเรียนก็เริ่มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถึงแม้ผมจะลืมเอากระเป๋าใส่หนังสือมา แต่ในโต๊ะและตู้ล็อกเกอร์ก็มีสมุดและหนังสือเรียนเต็มไปหมดเลยไม่ต้องกังวลเรื่องของที่ลืม แต่พอใจโล่งอกได้ไม่นาน ผมก็รู้สึกว่าการเรียนแบบปกติธรรมดาเนี่ย มันไม่ค่อยสบายใจเลยสำหรับคนที่ต้องมารับบทเป็นตัวร้ายของเรื่อง
อาจารย์จ้องผมด้วยสายตาที่แข็งกร้าว แล้วพูดประมาณว่า ‘นายที่ชอบขาดเรียนมาตลอดเนี่ย พอเห็นแล้วแปลกตาจังนะ’ แล้วพอถึงเวลาเรียนก็ตั้งใจถามแต่ผมคนเดียว เพื่อนร่วมชั้นก็มองผมด้วยสายตาที่ไม่ค่อยดีนัก
เหมือนกำลังโดนแกล้งอยู่เลย หรือจะบอกว่าผมต้องรับบทเป็นตัวร้ายในโลกใบนี้ให้สมบูรณ์แบบกันแน่นะ รู้สึกเหมือนทุกคนกำลังปฏิเสธหรือไม่ยอมรับการมาโรงเรียนของผมเลยแฮะ
แต่ผมก็มีความรู้พอที่จะก้าวข้ามมันได้ล่ะนะ
อาจารย์คงคิดว่าไม่มีทางที่ผมจะตอบคำถามที่เขาถามได้ล่ะนะ แต่สำหรับผมมันง่ายเกินไปด้วยซ้ำ ครั้งก่อนในชีวิตที่แล้ว ผมใช้เวลาทั้งช่วงมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนักเลยนะ สำหรับผมแล้ว เนื้อหาในระดับมัธยมปลายนี่ตอบได้สบายๆ
เมื่อผมตอบคำถามที่ถูกถามออกมาได้อย่างง่ายดาย อาจารย์ก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ รวมถึงนักเรียนคนอื่นๆก็ทำหน้าตกใจเหมือนกัน
ก็ไม่แปลกหรอกนะจะตกใจ ในเมื่อก่อนที่ผมจะมาจุดติ ผมคือ ชินโด ริวสุเกะ ซึ่งเป็นคนที่ต่อต้านเหล่าอาจารย์และแทบจะไม่เคยตั้งใจเรียนเลย ใครจะไปคิดว่าผมจะตอบคำถามได้บ้างล่ะ
น่าจะเป็นเพราะว่าผมทำตัวไม่ดีมาโดยตลอดสินะ ไม่ว่าจะตั้งใจเรียนแค่ไหนหรือจะตอบคำถามได้ดีขนาดไหน คนรอบข้างก็ยังมองผมด้วยสายตาเย็นชาอยู่ดี ถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงตรงนี้ให้ได้ ผมคงต้องใช้เวลานานเพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับพวกเขาล่ะนะ
และในระหว่างเรียน สิ่งที่ผมสนใจมากที่สุดคือพระเอกและนางเอกในเรื่องนี้
ผมกำลังพยายามนึกถึงตัวละครในเรื่อง ‘Fusekoi’ ออกมา
ก่อนอื่นเรามาพูดถึงตัวละครเอกของเรื่องนี้กันก่อน นั่นคือ ‘ฟุเสะคาวะ ไรโตะ’
ในเรื่องนั้น เขาชอบนั่งที่ท้ายห้องติดหน้าต่าง และตอนนี้เขาก็นั่งอยู่ในตำแหน่งเดิมเป๊ะๆเหมือนในความทรงจำของผมนเลย รูปลักษณ์ภายนอกก็ดูธรรมดาๆ ผมสีดำ ตาสีดำ ดูเป็นเด็กหนุ่มม.ปลายที่ขี้เกียจทั่วๆไป แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่ใจดี หัวไว และเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์โดยรู้ตัว นั่นทำให้สาวๆหลายคนหลงรัก เขาคือตัวละครเอกชายในเรื่องรักโรแมนติกแบบคลาสสิกที่สาวๆก็ต่างใฝ่ฝัน
และสาวน้อยผมสีแดงสลวยที่นั่งข้างเขา คือตัวละครหญิงสุดคลาสสิก ‘ฮานาซากิ ยูนะ’
เธอเป็นคนที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมและมารยาทเรียบร้อย ดูภายนอกก็ดูเรียบร้อยและน่ารัก เป็นนางเอกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโหวตของ ‘Fusekoi’ อยู่เสมอ อีกทั้งยังมีลักษณะภายนอกเป็นคนไร้เดียงสาและซุ่มซ่ามในบางครั้ง ซึ่งท่าทางที่น่ารักและเจ้าเล่ห์ของเธอก็ทำให้ผู้อ่านรู้สึกประทับใจ
คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขาคือ ‘ฮิเมโนะ คาเร็น’ เพื่อนสมัยเด็กที่ไว้ผมทรงทวินเทล
ตรงกันข้ามกับ ฮานาซากิ ยูนะ ที่ดูใจเย็น เธอเป็นเด็กสาวที่ร่าเริง มีชีวิตชีวา และเก่งด้านกีฬา และเนื่องจากเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน จึงทำให้เธอมีบทบาทในเรื่องค่อนข้างมาก แม้จะดูเหมือนเป็นคนเย็นชาไปบ้าง แต่ก็คอยเป็นห่วงพระเอกอย่างซื่อสัตย์ นั่นแหละที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกประทับใจ
และถึงเธอจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ยังมีอีกหนึ่งยางเอกที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานนักเรียนของโรงเรียน เธอมีชื่อว่า ‘ซากุระมิยะ มิยูกิ’ เธอคือคนที่เชิญ ฟูเซะคาวะ ไรโตะ เข้าร่วมสภานักเรียนก่อนเริ่มเรียน เธอเป็นลูกครึ่งอังกฤษ ผมทองตาสีฟ้า เป็นดั่งดอกไม้สูงส่งที่ทุกคนแหงนหน้าขึ้นไปมอง เป็นคนที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งความงาม บุคลิก และความสามารถ
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายตัวละครรองที่มีบุคลิกโดดเด่น แต่ตัวละครหลักๆของเรื่อง Fusekoi ก็จะมีประมาณนี้แหละ
ตัวละครและลักษณะต่างๆที่อยู่ในความทรงจำของผมตรงกันเป๊ะกับเหล่าคนในเรื่องนี้ รวมถึงชื่อที่ตรงกันด้วย เพราะงั้นที่นี่คือโลกของ ‘Fusekoi’ อย่างแน่นอน
ถึงตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเวลาเรียน แต่ตัวพระเอกและนางเอกกลับแสดงออกถึงความสนิทสนมกันราวกับในเรื่องราวต้นฉบับที่ผมเคยอ่าน ซึ่งตรงกับทุกอย่างในความทรงจำที่ผมมีเกี่ยวกับเรื่อง ‘Fusekoi’
ถึงจะบอกว่าเป็นฉากที่พระเอกนางเอกกำลังจีบกันอยู่ตอนเรียนก็เถอะ แต่พอมาเห็นแบบนี้จริงๆแล้วมันก็รู้สึกแปลกๆแฮะ
ความจริงแล้วที่นั่งริมหน้าต่างสุดท้ายมักจะเป็นจุดที่อาจารย์จะสังเกตเห็นได้ดีที่สุด เวลาอาจารย์ยืนอยู่ที่โต๊ะก็จะเห็นได้ชัดเลย แต่ที่นั่งที่ไม่ค่อยโดนจับตามองที่สุดคือที่นั่งริมสุดแถวหน้า เพราะมันอยู่ในมุมอับสายตาของครู ในขณะที่ที่นั่งด้านหลังอาจารย์จะมองเห็นได้จากรอบด้านเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่
ถึงแม้จะนั่งอยู่ในที่แบบนั้น แต่พระเอกอย่าง ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ก็ยังคงคุยกับ ฮานาซากิ ยูนะ และ ฮิเมโนะ คาเร็น ได้อย่างโนสนโนแคร์อะไรเลยแม้จะอยู่ในช่วงเรียนก็ตาม
ถึงแม้พวกเขาจะคิดว่าตัวเองพูดกระซิบอยู่ก็ตาม แต่มันกลับดังจนถึงที่นั่งแถวหน้าของผมเลย แค่เห็นสาวสวยสองคนคุยกันอย่างสนุกสนานก็ดึงดูดสายตาแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือไม่มีอาจารย์คนไหนมาว่าเลยสักคน ทำให้ผมรู้สึกว่านี่แหละคือกฎของโลกเรื่องรอมคอม
ถ้าพระเอกกับนางเอกไม่คุยกันเลยรอมคอมก็คงไปต่อไม่ได้หรอกนะ… การบรรยายฉากเรียนอย่างเงียบๆก็ดูไม่น่าสนใจด้วย แล้วสุดท้ายก็จะจบลงด้วยการคุยกันตลอดเวลาแม้จะอยู่ในห้องเรียนก็ตาม
ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆกับบรรยากาศการเรียนที่แตกต่างจากชาติก่อนอย่างสิ้นเชิง แต่ผมก็ยังคงจดบันทึกเนื้อหาบนกระดานและตั้งใจฟังคำบรรยายของอาจารย์อย่างเงียบๆ
ถึงจะอยากรู้ว่าตัวละครหลักจะพูดคุยกันยังไง แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการคือความไว้วางใจจากคนรอบข้างมากกว่า
ถ้ายังคงเป็นตัวร้ายต่อไป ชีวิตในโลกนี้ของผมก็คงจบลงด้วยความหายนะตามบทสรุปในเรื่องเหมือนเดิมนั่นแหละ
เพราะงั้น ก่อนอื่นผมต้องเริ่มจากการปรับปรุงตัวซะก่อน ตอนนี้ร่างกายของผมคือ ชินโด ริวสุเกะ ซึ่งเป็นนักเลงตัวจริงในโลกนี้ แต่ผมเองในปัจจุบันกลับเป็นคนใฝ่เรียนรู้และมีชีวิตที่เรียบร้อยต่างจากเดิมลิบลับ
หมายความว่า ถ้าผมพยายามเปลี่ยนแปลงตัวของ ชินโด ริวสุเกะ โคตรตัวร้ายให้เป็นคนใหม่ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมอันแสนเลวร้ายได้ ในตอนแรกชินโดถูกสร้างมาเพื่อเป็นตัวร้ายที่ไม่มีทางกลับตัวได้เพื่อเน้นย้ำความเก่งกาจของตัวเอก แต่ถ้าผมสามารถเปลี่ยนแปลงให้เขาเป็นคนดีที่จริงจังและซื่อสัตย์ได้ เรื่องราวก็อาจจะจบลงแบบกู๊ดเอนดิ้ง
แน่นอนว่าผมคงรอคอยชีวิตวัยรุ่นอันยอดเยี่ยมสุดที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตแรก เป็นชีวิตวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความรักโรแมนติกหวานซึ้งระหว่างชายหญิงอย่างที่พบได้ในเรื่องรอมคอม นั่นเป็นสิ่งที่ผมเองก็อยากจะลองสัมผัสดูบ้าง
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือผมต้องตั้งใจเรียนให้เต็มที่
ผมจะไม่ขาดเรียน ไม่หลับในคาบ ไม่คุยระหว่างเรียน และจดบันทึกทุกอย่างที่อาจารย์เขียนบนกระดาน ผมพยายามแสดงออกว่ากำลังตั้งใจเรียนอยู่ตลอด เช่น การพยักหน้ารับคำอาจารย์ไปด้วย พูดสั้นๆเพื่อตอบรับคำของอาจารย์ไปด้วย ผมพยายามทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างเต็มที่
ถึงแม้จะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ในวันแรก อาจารย์ทุกคนและเพื่อนร่วมชั้นก็มองผมด้วยสายตาแปลกประหลาด ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย แต่ผมเชื่อว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น การกระทำแบบนี้ของผมจะเห็นผลเมื่อพยายามทำอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความตั้งใจแบบนั้น เวลาในช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าก็ถึงเวลาพักกลางวัน
เพราะพึ่งเข้ามาอยู่ในร่างใหม่และทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน ผมเลยรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก ตอนนี้ก็อยากจะกินข้าวกลางวันแล้วนอนพักสักหน่อย แต่ว่าอากาศดีขนาดนี้ จะเอาข้าวกล่องขึ้นไปกินบนดาดฟ้าก็ดูน่าสนใจเหมือนกันนะ
ระหว่างที่ผมกำลังคิดแบบนั้นอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงของ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ตัวเอกของเรื่อง และฮานากิ ยูนะ กับ ฮิเมโนะ คาเร็น นางเอกทั้งสองคน ทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมา
“ไรโตะคุง วันนี้อากาศดีมากเลยค่ะ ไปกินข้าวกลางวันกันที่ดาดฟ้าไหมคะ?”
“ยูนะ ความคิดดีนี่นา งั้นไปกันเถอะ”
“ดีใจจังค่ะ มานั่งอาบแดดกันชิลๆเถอะนะคะ”
“ไรโตะ! ฉันทำข้าวกล่องมาให้นายแน่ะ! จะกินให้หมดเลยใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ ของที่คาเร็นทำอร่อยทุกอย่างเลยนี่นา”
“เอ๋!? อื้ม… เอ่อ… เฮะๆ”
เมื่อเห็นการพูดคุยกันระหว่าง ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ตัวเอกของเรื่องกับนางเอกทั้งสองคน ผมก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
ผมลืมไปเลยว่า… ดาดฟ้าโรงเรียนในเรื่องนี้ มักจะถูกใช้เป็นฉากที่ตัวละครหลักมาสวีทกันบ่อยมาก
สถานที่ที่ทั้งโล่งและกว้างแห่งนั้น เป็นจุดเด่นที่ตัวละครหลักมักจะใช้เป็นสถานที่ในการพัฒนาความรักกันเสมอ ถ้าหากผมไปที่นั่นตอนนี้ล่ะก็ อาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่ผมไปขัดขวางตัวเอก ซึ่งเป็นบทบาทของตัวร้ายก็เป็นได้ ถึงว่าผมจะไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นก็แถอะ แต่ผมกลับรู้สึกได้ว่าคงถูกบรรยากาศนั่นบีบบังคับให้เป็นแบบนั้น
ห้องสมุดเงียบๆหรือสถานที่ที่ไม่มีคนแบบดาดฟ้านั้นเป็นที่ที่อันตรายสำหรับผม เพราะในเมื่อผมเกิดใหม่มาเป็นตัวร้ายแล้ ก็จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสถานที่สำคัญที่เคยปรากฏในเรื่องทั้งหมด
(ที่ปลอดภัยที่สุดก็คงเป็นห้องเรียนสินะ)
ที่นี่แหละที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว ที่ห้องเรียนที่มีนักเรียนเยอะๆ นี่แหละคือที่ที่เหมาะจะให้ผมได้พักผ่อนใจที่สุด ก็เหมือนกับที่เขาว่าน่ะนะ จะซ่อนต้นไม้ก็ต้องซ่อนไว้ในป่า ในฐานะตัวประกอบ ผมควรจะเงียบๆอยู่ท่ามกลางนักเรียนคนอื่นๆไปจะปลอดภัยที่สุด
อย่างน้อยก็ว่าจะกินข้าวกล่องแล้วฟุบหลับบนโต๊ะสักพัก แล้วคิดว่าจะพยายามตั้งใจเรียนในชั่วโมงบ่ายต่อไป จนกระทั่งผมรู้ตัวว่า…
(งี้นี่เอง เพราะโดดเรียนมาตลอด ก็เลยไม่ได้เตรียมข้าวกล่องไว้ให้สินะ)
ก่อนที่ผมจะมาอยู่ในร่างของ ชินโด เรียวสุเกะ คนคนนั้นไม่เคยทำอะไรที่เรียกว่าใกล้เคียงการมาโรงเรียนแล้วตั้งใจเรียนเลยสักนิด แม่ก็ไม่ได้ทำข้าวกล่องให้ และในกระเป๋าของเขาก็ไม่มีอะไรกินเลยสักอย่าง
ถ้าอยากจะกินข้าว ก็คงต้องไปโรงอาหารล่ะนะ
แต่โรงอาหารก็เป็นสถานที่ที่มักจะเป็นฉากของเหตุการณ์ใน ‘Fusekoi’ อยู่บ่อยๆ ผมเองรู้ว่าพระเอกและคนอื่นๆกำลังมุ่งหน้าไปที่ดาดฟ้า เพราะงั้นก็หวังว่าอะไรจะไม่เกิดขึ้นล่ะนะ… แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่
ที่นี่คือโลกของรอมคอมและยังเป็นแนวฮาเร็มแบบคลาสสิกอีกด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ก็อาจจะมีนางเอกคนอื่นที่อยากเข้าหา ฟุเซะคาวะ ไรโตะ และอาจเกิดเรื่องยุ่งๆกับนางเอกคนนั้นจนทำให้เกิดเหตุการณ์ใหม่ๆกับพระเอกก็ได้ ซึ่งนั่นแหละจะเป็นปัญหาเอา
ถึงจะมีโอกาศเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเนื้อเรื่องเดิมก็เถอะ แต่ถ้าปล่อยท้องว่างแบบนี้คงเรียนคาบบ่ายไม่ไหวแน่ๆ เพราะงั้นก็เลยต้องพยายามทำตัวให้กลมกลืนไปกับที่นี่แล้วค่อยๆหาทางออกเอาละกัน
ผมตัดสินใจจะไปกินข้าวกลางวันคนเดียวเงียบๆ มุมหนึ่งของโรงอาหาร แล้วก็เดินออกจากห้องเรียนไปพร้อมกับกระเป๋าตังค์ในมือ