เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 24 สร้อยคอ
ตอนที่24 : สร้อยคอ
พวกเราใช้เวลาช่วงเวลาดีๆร่วมกันที่คาเฟ่แห่งนั้น
มาชิโระลังเลที่จะดื่มลาเต้อาร์ตรูปแมวน่ารัก ผมเลยแกล้งยอกเธอเล่นนิดหน่อย
เมื่อเธอตัดสินใจลองชิมลาเต้อาร์ตดูแล้ว มาชิโระก็ประหลาดใจกับรสชาติที่อร่อยเกินคาด ผมนั่งยิ้มมองดูเธอแล้วยกกาแฟขึ้นดื่มบ้าง
หลังจากนั้น พวกเราก็กินอาหารกลางวันที่สั่งมาด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย และสั่งแพนเค้กเป็นของหวานพร้อมทั้งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกและมีความสุขจริงๆ
ถึงจะรู้สึกเสียดายหน่อยๆ แต่ผมกับมาชิโระก็ออกมาจากคาเฟ่แห่งนั้น เธอดูเหมือนจะชอบที่นี่มาก พอออกจากร้านก็พูดด้วยความดีใจว่า “ไว้เรามาด้วยกันอีกนะ ริวสุเกะ!”
แล้วที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้
เพราะเป็นช่วงวันหยุด ข้างในเลยมีผู้คนพลุกพล่านจำนวนมาก ตอนแรกผมกับมาชิโระก็รู้สึกงงๆกับจำนวนคนที่เยอะมาก แต่พอเริ่มเดินไปเรื่อยๆก็เริ่มคุ้นเคยกับบรรยากาศนั้น
“นี่ริวสุเกะ นานแล้วนะที่เราไม่ได้ออกมากินข้าวด้วยกันตอนกลางวัน”
“นั่นสินะ ถ้าเป็นตอนกลางคืนก็ไม่น่าประหลาดใจเท่าไหร่ แต่ชิมะชิโระเองก็ไปโรงเรียนทุกวันด้วย แล้วตอนพวกเราชวนไปเที่ยวตอนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก็มีหลายครั้งที่เธอปฏิเสธไป”
“ก็ต้องแบบนั้นแหละ ช่วงเสาร์อาทิตย์ฉันต้องอยู่บ้านอ่านหนังสือแล้วก็เคลียร์การบ้านที่ไม่ได้ทำนี่นา”
“งี้นี่เอง เพราะงั้นเลยปฎิเสธมาตลอดสินะ”
“ก็เพราะว่าฉันไม่อยากสอบตกนี่ แล้วก็ต้องส่งงานให้ครบด้วยไง ลองคิดดูสิ ริวสุเกะเอาแต่เล่นสนุกโดยไม่สนใจเรื่องพวกนั้นเลย ฉันเป็นห่วงมากนะ”
“ไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้นครับ แต่สัญญาว่าหลังจากนี้จะปรับปรุงตัวนะ”
“เยี่ยมมาก! อ๊ะ แล้วก็ นอกจากวัตถุดิบทำอาหาร อยากจะลองไปดูพวกเสื้อผ้าด้วยไหม? ช่วงนี้ฉันไม่ได้ซื้อของเลยด้วย”
“อา เห็นด้วยเลย ฉันก็อยากจะดูของหลายๆอย่างเหมือนกัน”
วันนี้ตอนเลือกชุด บอกตามตรงว่านอกจากชุดนี้ผมก็ไม่เจอชุดอื่นที่ดูใช้การได้เลยสักตัว ถ้ามีมาชิโระอยู่ด้วยคงขอคำแนะนำในมุมมองของผู้หญิงได้ล่ะนะ
เพื่อที่จะเลิกเป็นตัวร้าย ก็ต้องเตรียมเรื่องเสื้อผ้าให้พร้อมด้วยถึงจะดี
และแล้ว พวกเราก็เปลี่ยนจากการไปซื้อวัตถุดิบมาเป็นเดินเล่นดูร้านต่างๆในห้างกันแทน
ร้านแรกที่ดึงดูดความสนใจของเราคือร้านขายของกระจุกกระจิกที่ดูทันสมัย
มาชิโระกระตุกแขนเสื้อของผมและบอกว่าอยากเข้าไปดูข้างใน ผมเลยพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในร้านกับเธอ
ภายในร้านมีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับ เครื่องเขียน หรือแม้กระทั่งเครื่องใช้ภายในครัว
มาชิโระดูสนุกสนานและตื่นเต้นเมื่อเห็นสินค้าที่จัดวางไว้ สายตาของเธอเปล่งประกายพลางมองของต่างๆไปด้วย และท่าทางที่เดินไปเดินมาทั่วร้าน ทำให้เธอดูน่ารักเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆเลย
“นี่ๆ ริวสุเกะดูสิ อันนี้น่ารักมาเลยอ่ะ”
“หืม? ไหนๆ ดูหน่อยซิ๊?”
ของที่เธอหยิบมาให้ดูคือต่างหูสีโรสโกลด์ที่ดูน่ารัก มันเป็นรูปหัวใจเรียบๆ น่าจะใส่เป็นเครื่องประดับได้ดีทีเดียว
“อ๊ะ… แต่ฉันเลิกใส่ต่างหูแล้วนี่นา ลืมไปซะสนิทเลย”
“จะว่าไป มาชิโระก็เริ่มใส่ตั้งแต่ย้อมผมดำนี่นะ”
“อืม เพราะว่าถ้าจะพยายามจะเป็นแบบสาวเรียบร้อยแบบที่ริวสุเกะชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ต่างหูหรอกมั้ง ตอนนี้ก็ปล่อยผมลงมาด้วย ยังไงก็ไม่ค่อยเห็นอยู่แล้ว”
“งั้นเหรอ… เพื่อที่จะเป็นผู้หญิงแบบที่ฉันชอบสินะ”
คำพูดที่ผมพูดออกไปโดยไม่ตั้งใจ ทำให้มาชิโระสะดุ้งเบาๆ เธอจ้องเข้าไปในดวงตาผมพร้อมกับสีหน้าที่ดูเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาว่า…
“ใช่น่ะสิ… เพื่อริวสุเกะนั่นแหละ”
มาชิโระยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมขยิบตาข้างนึ่ง
พอได้ยินคำพูดกับเห็นการกระทำนั่น ผมจึงเริ่มหน้าแดงจนต้องหลันหลบสายตาไป
จะตอบอะไรดีนะ บอกว่าขอบคุณที่เธอพยายามเพื่อผมเหรอ? ไม่ๆ มันเขินเกินไปที่จะพูดออกไป จะตอบยังไงดีล่ะ
เมื่อผมลังเลว่าจะตอบรับยังไงดีแล้วหันไปมองมาชิโระ เธอก็เหมือนจะเขินกับคำพูดของตัวเอง แก้มของเธอแดงขึ้นและมองต่ำลงไปที่พื้น
จริงๆ เลย… นี่มันน่ารักเกินไปแล้วนะ ผู้หญิงคนนี้คือคนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของผมงั้นหรอ
จากนั้น มาชิโระก็กระแอมเบาๆเพื่อเตรียมตัวใหม่ เธอค่อยๆยื่นมือไปจับสร้อยคอที่อยู่ข้างๆนั่น
“มะ… ไม่เอาต่างหูแล้ว ซื้อสร้อยดีกว่ามั้ยนะ? อันนี้น่ารักรึเปล่า?”
พูดจบ มาชิโระก็ยกสร้อยคอขึ้นมาให้ผมดูว่าเข้ากันไหม
มันเป็นสร้อยคอสีเงินที่เป็นงานฝีมือ มีจี้รูปพระจันทร์เสี้ยวส่องประกายอยู่ตรงกลางหน้าอกของเธอ
ราคาไม่แพงมาก นักเรียนม.ปลายใส่ก็ไม่ดูแปลก แถมเข้ากับมาชิโระที่ตอนนี้กลายเป็นสาวสวยผมดำได้เป็นอย่างดี
“ก็ดูไม่เลวนะ อยากได้หรอ?”
“กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี ฉันเป็นคนที่ซื้อของตามความรู้สึกด้วยสิ ถ้าริวสุเกะเชียร์อีกหน่อย ฉันก็คงจะซื้อล่ะนะ”
“งั้นเดี๋ยวฉันช่วยตัดสินใจแล้วกันนะ”
“เอะเฮะเฮะ รบกวนหน่อยนะคะ”
ผมยิ้มแล้วจับมือมาชิโระขึ้นมา จากนั้นก็ยกสร้อยคอที่อยู่ในมือเล็กๆนั่นขึ้นมา
“ระ ริวสุเกะ? ที่บอกให้ช่วยเชียร์น่ะ ไม่ได้หมาถึงให้ซื้อให้นะ”
“รู้อยู่แล้วน่า เรื่องนั้นน่ะ ฉันแค่อยากตอบแทนที่เธอคอยดูแลมาตลอด อย่างน้อยให้ฉันได้ทำเท่บ้างเถอะ”
“วะ หวา…!?”
ผมจูงมือมาชิโระที่ดูสับสนไปยังเคาน์เตอร์แคชเชียร์
พอยื่นสร้อยให้พี่พนักงาน ผมก็หยิบกระเป๋าตังขึ้นมาทันที
“ขอโทษนะครับ รบกวนช่วยห่อเป็นของขวัญให้ด้วยครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวจะรีบห่อให้ กรุณารอสักครู่นะคะ”
และคุณพนักงานก็ห่อของขวัญด้วยท่าทางชำนาญอย่างรวดเร็ว
มาชิโระที่มองดูอยู่ก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
ก็นะ แบบว่าอยากจะขอบคุณจริงๆนั่นแหละ พอได้ยินจากน้องสาวก็รู้สึกว่าต้องทำอะไรเพื่อตอบแทนมาชิโระที่พยายามมาตลอดซะแล้วสิ ถึงนี่ก็แค่ความเอาแต่ใจของผมก็เถอะ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่เธอช่วยเหลือผมมาโดยตลอดก็แล้วกัน
หลังจากชำระเงินเสร็จ ผมก็รับกล่องที่ห่ออย่างสวยงามมา
มาชิโระพยายามซ่อนใบหน้าดีใจด้วยการซบหน้าลงที่อกของผม
“ขอบคุณนะ ริวสุเกะ ฉันดีใจมากๆเลยล่ะ”
“งั้นหรอ ถ้าเธอชอบก็ดีแล้วล่ะ”
จริงๆแล้วผมไม่ค่อยชินกับการให้ของขวัญคนอื่นเลย กลัวว่าตัวเองจะเผลอทำอะไรที่ดูแปลกๆ แต่พอเห็นมาชิโระดีใจแบบนี้ผมก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
แต่ก็มีปัญหาอยู่นิดหน่อย ที่นี่มันเป็นร้านที่คนเข้าออกเยอะ แล้วก็อยู่ตรงหน้าแคชเชียร์อีกต่างหาก การที่พวกเราสองคนตัวติดกันแบบนี้ก็ต้องถูกมองเป็นธรรมดา…
ลูกค้าคนอื่นๆมองมาที่พวกเราด้วยสายตาอบอุ่นราวกับกำลังดูอะไรที่น่ารักๆอยู่ มันทำให้ผมเขินมาก
มาชิโระที่เริ่มรู้สึกตัวว่าถูกมองก็เงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ก่อนจะรีบถอยห่างจากผมด้วยท่าทางตกใจ
“ระ ริวสุเกะ ปะ ไปร้านต่อไป กันไหม?”
“นะ นั่นสินะ ไปกันเถอะ”
เราทั้งคู่รีบวิ่งออกจากร้านขายของกระจุกกระจิกราวกับกำลังหนีอะไรบางอย่างอยู่ โดยมีมาชิโระที่วิ่งตามมาพลางดึงชายเสื้อของผมไปด้วย พร้อมกันนั้นเอง ในมือของเธอก็ถือกล่องใส่สร้อยคอเอาไว้แน่น
(TL : นอกเรื่องหน่อย ผมไม่หลุเรทพี่ Sunady แหละ เย้!)