เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 17 บทบาทของตัวร้าย
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 17 บทบาทของตัวร้าย
ตอนที่17 : บทบาทของตัวร้าย
นี่เป็นพล็อตที่ไม่เคยเกิดขึ้นในต้นฉบับมาก่อน แต่ตอนนี้มีเรื่องราวใหม่กำลังจะถูกสร้างขึ้นตรงหน้าผม ที่ซึ่งตัวเอกและนางเอกได้พบกัน เรื่องราวที่แปลกไปกำลังเกิดขึ้น
พระเอกอย่า ฟุเสะคาวะ ไรโตะ กำลังมองไปที่มาชิโระซึ่งเดินมาเขาอย่างตกใจ
มาชิโระที่นั่งอยู่บนพื้นด้วยท่าทางตกใจ กำลังพยายามจับกระโปรงที่พลิกขึ้นมาปิดไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ขณะที่เธอมองฟุเสะคาวะและพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“มะ ไม่เห็นใช่มั้ย…!?”
“มะ ไม่เห็น ฉันไม่เห็นอะไรเลยจริงๆนะ!”
ฟุเสะคาวะ ไรโตะ พยายามส่ายหัวไปมาอย่างสุดชีวิต ขณะใบหน้าของเขาแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ใบหน้านั้นก็บอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาได้มองเห็นใต้กระโปรงของมาชิโระแล้ว
ผมเคยเห็นภาพนี้มาก่อนแล้ว ในเรื่องราวของ “Fusekoi” ผมได้เห็นภาพที่คล้ายกันอยู่หลายครั้ง
มันเป็นเรื่องปกติของเนื้อเรื่องแนวรอมคอมที่ บางครั้งก็จะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว มันมักจะเกิดขึ้นระหว่างพระเอกและนางเอกเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นระหว่างฟุเสะคะาวะกับมาชิโระ
การพบกันของทั้งสองไม่ใช่แค่ความบังเอิญ แต่เป็นสิ่งจำเป็น
มาชิโระกลายเป็นสาวสวยและได้รับบทบาทใหม่เป็นนางเอก และบทบาทนี้ก็ถูกโลกบังคับให้ทำ
สถานการณ์ถูกสร้างขึ้นโดยที่เธอจะปะทะกับตัวละครหลัก ฟุเสะคาวะ และถูกชนให้ล้ม
มาชิโระล้มลงและนั่งลงกับพื้น นั่นก็เป็นผลมาจากการบังคับของโลกนี้เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า ‘ความโชคดีของตัวเอก’ อย่างฟุเสะคาวะ การที่กระโปรงของเธอเปิดขึ้นและเห็นชั้นในก็เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์นี้ที่ถูกบังคับให้เกิดขึ้น
และในเวลาเดียวกัน ร่างกายของผมก็ไม่สามารถขยับได้ราวกับโดนเชื่อกมัดไว้อยู่ เพราะโลกนี้กำลังแทรกแซงตัวผม
ผมเป็นเพื่อนสมัยเด็กของมาชิโระ ถ้าเธอล้มลงเพราะชนกับใครสักคน ผมก็คงจะเป็นคนที่ช่วยเธอให้ลุกขึ้นก่อนใครหน้าไหน หรือแม้แต่ตัวเอกของเรื่องที่เป็นคนชนซะอีก
แต่ผมกลับทำไม่ได้ ขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะโลกนี้มันไม่ยอมให้ผมทำ
โลกนี้ไม่ยอมให้ตัวร้ายทำอะไรก่อนตัวเอก แม้แต่ในการช่วยเหลือเพื่อนสมัยเด็กก็ตาม เพราะงั้นมันจึงยับยั้งการเคลื่อนไหวของผมและทำให้ขยับไม่ได้
“อะฮะฮะ… เอาเถอะ ลุกขึ้นเถอะนะ เดี๋ยวก็ต้องเริ่มเรียนคาบบ่ายแล้ว ไหวไหม?”
ในขณะที่พูดแบบนั้น ฟูเสะคาวะก็ยื่นมือไปที่มาชิโระอย่างอ่อนโยน
ถ้ามาชิโระจับมือเขาไป บทนางเอกกับพระเอกก็จะเริ่มขึ้นที่นี่ ในที่นั่งที่อยู่ใกล้หน้าต่างที่มุมห้องของห้องเรียน ที่ซึ่งเธอจะกลายเป็นหนึ่งในเหล่านางเอกที่คอยอยู่ข้างๆพระเอก และเริ่มเรื่องราวที่ต้องเผชิญร่วมกัน
ผมเคยเห็นชะตากรรมที่พังพินาศของมาชิโระในเวอร์ชั่นต้นฉบับมาแล้ว ผมอยากจะเปลี่ยนแปลงมันจริงๆแม้จะต้องปกปิดความรู้สึกตัวเองเพื่อให้เธอมีความสุขก็ตาม
ถ้ามาชิโระกลายเป็นหนึ่งในนางเอกที่อยู่ข้างพระเอกอย่างฟุเสะคาวะล่ะก็ ท่ามกลางเหล่าตัวทั้งหลาย ผมก็เชื่อว่าเธอจะไม่ต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าสลดอีกต่อไป เธอจะไม่ต้องลงมือทำสิ่งชั่วร้ายเพื่อแก้แค้นพระเอกและเหล่านางเพื่อผมอีกต่อไปด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น… ผมก็ยังไม่สามารถยอมรับได้ ผมไม่อยากยอมรับมัน นี่มันอาจจะเป็นแค่ความเห็นแก่ตัวของผมก็ได้ แต่ผมก็ยังไม่สามารถยอมแพ้กับมาชิโระ
ผมอยากจะใช้ชีวิตวัยรุ่นไปกับมาชิโระ
อยากไปจะเวลาร่วมกับเธอไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม
เสียงคำรามในหัวใจของผมก็ดังไปพร้อมกับความโกรธที่เต็มเปี่ยมในตัวของชินโด ริวสุเกะ
มาชิโระคือเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิตของผม เธอเป็นคนที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้ เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อผม เธอแปลงความรู้สึกที่มีต่อผมเป็นความพยายามจนทำให้ตัวเองกลายเป็นสาวสวยที่สุดในโลก
แต่ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ เป็นแค่ตัวเอกของเรื่องแท้ๆ แต่เขากำลังจะพรากสิ่งสำคัญของผมไปอย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าความเป็นจริงของโลกนี้จะยอมให้เขาทำแบบนั้น แต่ผมจะไม่มีวันยอมรับมันหรอก
ชินโด ริวสุเกะได้ระเบิดเสียงคำรามในใจอย่างรุนแรง แต่ตอนนี้ทั้งผมและเขา(ชินโด)กลับเป็นแค่ตัวประกอบที่ไม่สามารถแทรกแซงโลกของ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ และ มาชิโระที่กลายเป็นนางเอกได้อีกแล้ว
โลกนี้กำลังบอกได้บอกให้ทั้งผมและเขา(ริวสุเกะ)เป็นแค่ตัวประกอบแล้วทำตามบทบาทของตัวเองเท่านั้น
(อย่ามาล้อเล่นนะโว้ยยยย!!!!)
จะยังไงก็ต้องหยุดไว้ให้ได้
ถึงแม้ต้องทำลายกฎของโลกนี้ ผมก็ไม่อยากให้มาชิโระถูกแย่งไป
ขยับสิ ขยับสิ —— ขยับสิวะ!!!
ผมกัดฟันแน่น กำหมัดแน่น ต่อสู้กับกฎของโลกใบนี้
และความโกรธนั้นและความเกลียดนั่น ก็ได้ทำให้บทที่ผมพยายามหลีกเลี่ยงตลอดเป็นจริงขึ้นมา
“แกตรงนั้นน่ะ!!! ทำบ้าอะไรอยู่วะ!?”
ผมตะโกนออกมา และจากนั้นร่างกายก็เริ่มขยับได้อีกครั้ง
ผมคว้าตัว ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ที่กำลังยื่นมือไปหามาชิโระแล้วจับเขาไว้ พร้อมกับตะโกนออกไปด้วยความโกรธ
“แกชนมาชิโระจนล้มไม่ใช่รึไง!! อย่างแรกที่ต้องทำคือก้มหัวขอโทษไม่ใช่หรอ!? แล้วมายืนหัวเราะคิกคักบ้าอะไรอยู่อีก คิดว่าตัวเองเป็นใครวะ!?”
“เดี๋ยว…!? นาย… นายมัน ชินโด ริวสุเกะ…!?”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ฟุเสะคาวะตกใจ
แต่ผมไม่สนใจและดึงแขนของเขาขึ้นมาอย่างรุนแรงจน ฟุเสะคาวะ ไรโตะ เบือนหน้าไปด้วยความเจ็บปวด
จากนั้นผมจึงมอง ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ด้วยสายตาเอาเรื่องและพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ฉันเห็นนะ แกเอาแต่เล่นโทรศัพท์ตอนเดิน เพราะงั้นถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไง! รู้อยู่ไม่ใช่หรอกว่ามันอันตรายน่ะ!!”
“….คือ!? บะ แบบว่า….”
“หาา!? จะแก้ตัวอะไรก็พูดมา! ถ้าชนคนอื่นจนบาดเจ็บแกจะทำยังไง!?”
“มะ ไม่มีอะไร….ขะ ขอโทษ”
ฟุเสะคาวะ ไรโตะหลบสายตาผมขณะที่โดนตะคอกใส่
ผมเลยพูดซ้ำอีกครั้งราวกับจะกดดันเขา
“ไม่ต้องมาขอโทษฉัน! ไปขอโทษมาชิโระที่แกชนล้มนู่น!”
“อ… เข้าใจแล้ว… ขอโทษจริงๆนะ ที่ไม่ระวัง ฉันผิดไปแล้วจริงๆนะ… เอ่อคุณมาชิโระ?”
คำพูดของผมทำให้ฟุเสะะคาวะยอมรับความผิดของตัวเองและขอโทษมาชิโระ จากนั้นผมก็อุ้มมาชิโระที่นั่งอยู่บนพื้นขึ้น
“ระ ริวสุเกะ?”
ผมอุ้มมาชิโนะไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนให้เธอสบายใจ
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย? มาชิโระ เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”
“มะ ไม่เป็นไรหรอก ริวสุเกะ ตะ แต่….ทำไมถึงเป็นท่านี้ล่ะ ทะ ท่าเจ้าหญิงน่ะ…”
เธอหลบตาจากผมแล้วพูดด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ หูของเธอเองก็แดงเหมือนกัน ดูเหมือนว่าเธอจะเขินที่ถูกอุ้มในท่าเจ้าหญิง แต่ตอนนี้คงต้องให้เธออดทนไปก่อน
“ฉันจะพาไปห้องพยาบาลนะ ถึงไม่รู้สึกเจ็บแต่ก็ควรให้ครูตรวจดูก่อน ฉันว่าเธอน่าจะขาแพลงเพราะล้มเมื่อกี้ เผื่อเอาไว้ก่อนนะ?”
“แต่ว่า… คาบเรียนจะเริ่มแล้วนะ…”
“เธอตั้งใจเรียนมาตลอดนี่ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าได้พักสักหน่อยก็คงไม่มีปัญหา ฉันจะอธิบายให้ครูห้องพยาบาลเข้าใจเอง ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ไม่ใช่สิ… ฉันจะยังไงก็ได้ แต่จำนวนครั้งที่ริวสุเกะเข้าเรียนล่ะ…”
“เอาเถอะน่า บอกแล้วไงว่าไม่ต้องห่วง หยุดพูดแล้วไปกันเถอะ จับไว้ดีๆล่ะ?”
“อะ อือ ขอบคุณนะ…ริวสุเกะ…”
พอพูดแบบนั้นมาชิโระก็เอาแขนคล้องรอบคอผมแล้วกอดแน่นขึ้นมา
ผมยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แล้วก็พาเธอออกจากห้องเรียนไป
ในอ้อมแขนของผม มาชิโระหน้าแดงและยิ้มอย่างมีความสุข
ระหว่างที่ผมอุ้มเธอและเดินไปตามทางเดิน ผมก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ขึ้นมา
ผมกำลังคิดถึงเหตุผลที่ทำให้ผมซึ่งกลายเป็นแค่ตัวประกอบสามารถขยับตัวได้ ความโกรธและความเกลียดชังที่มีอยู่ในตัวผมคือสิ่งที่ทำให้ร่างกายที่ไม่สามารถขยับมันเคลื่อนไหวได้ขึ้นมา และผลลัพธ์ที่ได้คือผมสามารถแทรกแซงการพัฒนาของเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างพระเอกและนางเอกในเนื้อเรื่องรอมคอม
ผมเข้าใจว่ามันหมายตวามว่ายังไง
ในเรื่องราวนั้นมีแค่เหตุการณ์เดียวที่ตัวร้ายในโลกนี้สามารถแทรกแซงได้ เมื่อเทียบกับความถูกต้องที่ไม่มีข้อโต้แย้งของพระเอก
ในเรื่องราวที่พระเอกเป็นตัวแทนของความถูกต้องแบบนี้ การที่ตัวร้ายอย่างผมจะเข้าไปยุ่งได้ มันต้องเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมากแน่ๆ
(จะเริ่มแล้วสินะ อนาคตที่ผมถูกพวกตัวเอกทำลายจนย่อยยับ)
ในตอนนั้น ผมได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่าผมนี่แหละคือศัตรูของพระเอก ผมได้ใช้บทบาทของตัวร้ายในการต่อต้านการกระทำของพระเอกเอาไว้
ตัวร้ายในเรื่องแนวรอมคอมไม่ได้มีหน้าที่แค่การขัดขวางพระเอกไปเรื่อยๆ แต่บทบาทที่แท้จริงของตัวร้ายคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น
บทบาทของตัวร้ายในเรื่องแนวรอมคอมคือการเป็นอุปสรรคที่ทำให้พระเอกไม่สามารถอยู่กับนางเอกได้ จนในที่สุดต้องถูกพระเอกเอาชนะและกลายเป็นที่รองเท้าเพื่อทำให้พระเอกและนางเอกได้อยู่ด้วยกัน สุดท้ายแล้วตัวร้ายก็จะจบชีวิตอย่างล้มเหลวและออกจากเรื่องไป นั่นคือบทบาทของผม
(ถึงอย่างนั้นก็เถอะ….)
ผมคิดว่ามันคงไม่มีปัญหาหรอก
ในตอนนั้น ถ้าผมยังคงเป็นยึดยิดบทบาทของตัวประกอบที่ไร้ตัวตน ผมก็ไม่สามารถปกป้องมาชิโระได้ พระเอกอย่าง ฟุเสะคาวะ ก็คงจะพรากเธอไปจากผม เพราะงั้นผมเลยเลือกเส้นทางที่จะต่อต้านพระเอก นั่นเพราะอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาแบบนั้นไงล่ะ
“มาชิโระ”
“หืม? มีอะไรหรอริวสุเกะ?”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“ฟุฟุ แปลกคนจังน้า นายเนี่ย”
พอเห็นรอยยิ้มของมาชิโระที่ยิ้มออกมาภายในอ้อมแขนของผม ผมก็สาบานกับตัวเองไว้ในใจ
ผมจะไม่ยอมให้ใครพรากมาชิโระไปจากผม
เพื่อปกป้องเธอ ผมแม้จะต้องได้รับบาดเจ็บผมก็ไม่สน
ในท้ายที่สุด ผมจะต่อต้านโลกใบนี้ให้ได้และจะไม่ยอมแพ้
ผมจะคว้าอนาคตที่ตัวเองมีความสุขร่วมกับมาชิโระไว้ให้ได้