เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 13 ผู้ชายที่ดี
ตอนที่13 : ผู้ชายที่ดี
ฝีมือของ คิซากิ นั้นเหนือชั้นกว่าคนอื่นมาก
ในระหว่างที่คนอื่นๆ กำลังพยายามส่งบอลกันอย่างสุดความสามารถ เขากลับแสดงความสามารถที่เหมือนทำหน้าที่แทนสามคนอยู่เลย เขาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ลูก หลบหลีกผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม แล้วชู๊ตเลย์อัพได้อย่างสวยงาม
ทุกครั้งที่เขาชู๊ตเข้าก็จะมีเสียงเชียร์ดังขึ้น ถ้ามีเด็กผู้หญิงอยู่ด้วยล่ะก็คงมีเสียงกรี๊ดดังลั่นแน่
การเล่นของ คิซากิ นั้นดูสวยงามและเท่ในเวลาเดียวกันจนคนรอบข้างต้องทึ่ง
“ชินโดคุง!!”
“อะ โอ้!!”
ผมรับลูกจาก คิซากิ แล้วก็เลี้ยงบอลไปข้างหน้าเพื่อจะทำแต้ม
แต่ทีมตรงข้ามก็มาขวางทางไว้ ผมเลยตัดสินใจอย่างรวดเร็วแล้วเลี้ยงบอลหลบไปข้างๆ
ทันใดนั้น ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก็เล่นพลาดอย่างน่าเสียดาย คิซากิ ใช้จังหวะนั้นพุ่งผ่านด้านหลังของผมไปอย่างรวดเร็ว ผมส่งบอลให้เขาอย่างแม่นยำ และเรโอะก็ตอบสนองทันทีด้วยการชู๊ตลูกเข้าห่วงอย่างลื่นไหล
ลูกพุ่งโค้งเป็นเส้นโค้งผ่านแป้นก่อนจะลงตาข่ายอย่างสมบูรณ์แบบ และแล้วเสียงเชียร์ของเพื่อนร่วมชั้นดังกึกก้องไปทั่วโรงยิมอีกครั้ง
หลังจากนั้น คิซากิ ก็ยังคงเล่นได้ดีเยี่ยม และทีมของเราก็ชนะไปอย่างขาดลอย
ผมเหนื่อยหอบและตัวเปียกเหงื่อไปหมด เพราะงั้นเลยออกจากสนามไปนั่งพิงผนังโรงยิม
คิซากิ เรโอะ ที่ได้เป็นตัวจริงของทีมบาสตั้งแต่ปีหนึ่ง นี่มันสุดยอดจริงๆ ผมรู้สึกทึ่งในความสามารถของเขามากๆ คนจากทีมตรงข้ามก็ดูเหมือนจะยอมรับในฝีมือของเขา เพราะหลังจบเกมก็ต่างพากันชมเขา
แต่ว่า… ร่างกายของ ชินโด ริวสุเกะ ที่ผมได้มาเนี่ยก็สุดยอดเหมือนกัน ในชาติที่แล้วผมแทบจะไม่มีความสามารถทางด้านกีฬาเลย แต่ตอนนี้ผมสามารถส่งลูกให้คิซากิได้อย่างแม่นยำตามจังหวะ และยังชู๊ตลงห่วงได้อีกต่างหาก ทั้งๆที่ผมแทบจะไม่มีประสบการณ์เล่นบาสเลย
ร่างกายของผมอาจจะมีพรสวรรค์ทางด้านกีฬาก็ได้ แต่เพราะเคยสูบบุหรี่เลยเหนื่อยง่ายไปหน่อย น่าจะพัฒนาไปได้อีกเยอะถ้าดูแลสุขภาพให้ดีแล้วฝึกซ้อมอย่างจริงจัง
พอคิดแบบนั้น คิซากิ เรโอะ ก็วิ่งมาหาผมแล้วนั่งลงข้างๆก่อนจะยิ้มให้
“ชินโดคุง เหนื่อยรึเปล่า?”
“ก็เหนื่อยล่ะนะ ได้ออกกำลังกายแบบเต็มที่เลย แล้วก็คิซากิคุงเนี่ยเก่งมากเลยนะ ฉันได้ยินมาบ้างแล้วก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะเก่งขนาดนี้”
“ช่างเรื่องของผมเถอะ กลับกันผมอยากรู้มากกว่าว่านายเพิ่งเริ่มเล่นบาสจริงๆเหรอ? สำหรับผมที่เล่นบาสมาตลอด ลูกส่งของนายแม่นมากจนตกใจเลยล่่ะ แล้วฟอร์มการยิงก็ดีด้วย ยิงเข้าเกือบทุกลูกเลย นายเป็นตัวแปลที่ทำให้ทีมชนะเลยนะ”
“พอเอสของชมรมบาสมาชมแบบนี้ก็รู้สึกเขินอยู่หน่อยๆแฮะ”
“ผมพูดความจริงนะ ที่สำคัญที่สุดคือนายอ่านเกมได้ดีมาก สามารถมองเห็นภาพรวมของการเล่นในคอร์ททั้งหมดได้ เข้าใจการเคลื่อนไหวของเพื่อนร่วมทีมและตัดสินใจได้อย่างถูกต้องว่าควรจะเล่นยังไงในแต่ละสถานการณ์ เพราะนายทำได้ดี ผมเลยเล่นได้อย่างสบายใจเลย ขอบคุณมากนะ”
“มะ… ไม่สิ ฉันต่างหากที่ควรขอบคุณ เพราะในเกมเมื่อกี้ ไม่ว่าจะตอนไหนหรือที่ไหนก็มีคิซากิคุงอยู่ตรงนั้นเสมอ ถ้าไม่มีคิซากิคุงฉันก็คงเล่นได้ดีขนาดนั้นไม่ได้แน่ๆ”
“ก็เพราะนายนั่นแหละ ที่คอยเคลื่อนที่ไปอยู่ในตำแหน่งที่ทำให้ผมบุกได้ง่ายตลอดเวลา เพราะมีนายอยู่ ผมเลยเล่นได้ดีกว่าปกติเยอะเลย ดีใจที่มีนายอยู่ในทีมเดียวกันนะ”
“ฮะๆ… พอได้ยินแบบนั้นแล้วมันเขินๆ ยังไงไม่รู้”
เมื่อผมรู้สึกเขินเลยยกมือขึ้นมาเกาแก้ม คิซากิ เรโอะ ที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมา
“พอได้คุยกับนายแล้วรู้สึกว่านายต่างจากที่ผมคิดไว้ตอนแรกมากเลยล่ะ บอกตามตรงนะ ตอนที่นายเข้ามาทักผม ผมรู้สึกเกร็งอยู่หน่อยๆ เพราะนายมีข่าวลือที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยมาโรงเรียนด้วย ผมเลยคิดว่านายน่าจะเป็นคนก้าวร้าวมากกว่านี้ซะอีก”
นั่นสิน้า ถึงคิซากิ เรโอะ จะเป็นเพื่อนสนิทที่เพอร์เฟคขนาดไหน แต่ลึกๆแล้วก็เป็นแค่เด็กม.ปลายคนนึง การที่เขาจะมรปฏิกิริยาแบบนั้นก็ไม่แปลกหรอก
เพราะว่าภายนอกของชินโดะ ริวสุเกะมันก็ดูเหมือนนักเลงทั่วไปนี่นา ก่อนที่ผมจะมาเกิดใหม่ เขาก็ใช้ชีวิตแบบเด็กเกเรมาตลอดเลยด้วย
แล้วก่อนหน้านี้ คิซากิ กับผมก็ไม่เคยคุยกันเลยสักนิด ถ้าจู่ๆก็มีคนที่หน้าตาโหดมาทักแบบนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องตกใจกันทั้งนั้นแหละ
“แต่พอได้คุยกันจริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย นายมีความเป็นสุภาพบุรุษมาก แล้วยังมีมารยาทด้วย เพราะงั้นผมเลยอยากขอโทษที่เข้าใจนายผิดไป ผมขอโทษจริงๆนะ”
“ไม่ๆ คิซากิคุงไม่ต้องขอโทษหรอก จริงๆแล้วฉันต้องขอบคุณมากกว่าที่คิซากิคุงพูดความรู้สึกตรงๆแบบนี้ให้ฉันฟัง แล้วที่สำคัญ ฉันเองยังไม่คิดเลยว่าคนแบบฉันจะคุยกับคิซากิคุงได้แบบนี้โดยที่ไม่โดนรังเกียจด้วยซ้ำ เพราะงั้นฉันดีใจมากจริงๆนะที่ได้คุยกัน”
“ฮะฮะ ชินโดะคุง คำพูดนั้นผมขอคืนนายไปแบบนั้นเลยแล้วกัน ผมก็ดีใจที่ได้คุยกับนายนะ แล้วก็ เรียกผมว่า เรโอะ ก็ได้นะ ไม่ค่อยชินกับการให้คนอื่นเรียกนามสกุลเท่าไหร่”
“ถ้างั้น จะเรียกฉันว่าริวสุเกะก็ได้”
“เข้าใจแล้ว ริวสุเกะ จากนี้ก็ฝากด้วยนะ”
เรโอะ ยื่นมือขวาออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ผมลังเลอยู่แป๊ปนึง แต่ก็ตัดสินใจจับมือของเขาด้วยความเต็มใจ
“ฝากตัวด้วยนะ เรโอะ ฉันดีใจจริงๆที่ได้เป็นเพื่อนกับนาย”
“แน่นอน ฝากตัวด้วยเหมือนกัน อ้อ จริงสิ! ไหนๆพวกเราก็ได้สนิทกันแล้ว ผมขอแนะนำเพื่อนอีกคนให้รู้จักได้ไหม?”
“เอ๋..?”
รู้สึกว่าลางสังหรณ์ไม่ดีเลยแฮะ เรโอะ อยากจะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก… ก็คงจะเป็นคนที่ผมคิดไว้สินะ… คงใช่แหละ…
เรโอะหันไปมองที่สนามที่กำลังแข่งกันอยู่ และคนที่อยู่ในสายตาของเขาก็คือ ฟูเสะคาว่า ไรโตะ พระเอกของเรื่องนั่นเอง
“นั่นไง ฟูเสะคาว่า ไรโตะ ที่กำลังแข่งอยู่น่ะ คนที่ใส่เบอร์8 ไรโตะเป็นเพื่อนสนิทของผม แต่ถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทก็เถอะ แต่ว่าเรารู้จักตอนขึ้นม.ปลายใหม่ๆน่ะ แบบว่าเข้ากันได้ดี เวลาอยู่ด้วยกันแล้วสนุก”
“เห…..งั้นเองหรอ?”
“ถึงในห้องจะโดนสาวๆล้อมรอบอยู่ตลอดเวลาแล้วทำให้รู้สึกยากที่จะเข้าไปคุยด้วยหน่อยก็เถอะ แต่ผมคิดว่าริวสุเกะคงจะคุยกันถูกคอได้อย่างรวดเร็วแน่ๆ”
“อะ เอายังไงดีนะ…”
ถ้าตัวเอกอย่างฟุเสะคาวะ ไรโตะ และตัวร้ายอย่างผมสนิทกันมากขึ้นตอนนี้ล่ะก็ เวลาสงบๆในตอนนี้จะกลายเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องได้
พอฟุเสะคาวะ ไรโตะ ได้รับความสนใจเหมื่อไหร่ เขาก็จะแสดงบทบาทของตัวเอกออกมาอย่างเต็มที่
อีเวนต์ที่ตัวเอกและตัวร้ายต้องเผชิญหน้ากันแบบนี้… เห็นชัดอยู่แล้วว่าต้องจบลงด้วยการที่ผมถูกกำจัดไปเพื่อให้ไรโตะดูดีขึ้น
ถึงแม้ว่าตอนนี้อีเวนต์นั้นจะยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นปมสำคัญในเรื่อง ถ้าเป็นแบบนั้น ชะตาชีวิตของผมคงจะจบลงอย่างแน่นอน ในเมื่อผมยังเป็นตัวร้ายอยู่ผมก็คงไม่มีทางรอดชีวิตหรอก
สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือปฏิเสธคำเชิญของเรโอะให้ได้ ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้คุณพระเอกให้ได้
“โทษทีนะ เรโอะ คือแบบว่า ฉัน คือ…”
ในตอนที่ผมกำลังคิดหนักว่าจะทำยังไงดีเพื่อหนีจากสถานการณ์นี้ เรโอะก็เงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วยิ้มบางๆออกมา
“พอเห็นท่าทางของนายแล้ว ผมก็พอจะเดาออกอยู่แหละ นายไม่ชอบไรโตะสินะ”
“อึก….”
ผมเบิกตากว้างขึ้น เรโอะเข้าใจความรู้สึกของผมโดยที่ยังไม่ทันได้พูดด้วยซ้ำ
“ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก ผมก็มีเพื่อนที่คิดแบบนั้นอยู่สองสามคนเหมือนกัน พอเห็นท่าทีของนายก็เลยรู้น่ะ”
“งั้นเหรอ? มีคนอื่นที่ไม่ชอบฟุเสะคาวะอีกเหรอ?”
“ก็นะ ไรโตะมักจะอยู่กับผู้หญิงตลอด แล้วก็ไม่ค่อยเข้าไปคุยกับผู้ชายคนอื่นด้วย แถมเหมือนเจ้าตัวจะมีออร่าที่เป็นเอกลักษณ์ ไอที่แบบว่า ทำให้หลายคนรู้สึกเข้าใกล้ยากน่ะ”
อาจจะเป็นเพราะ ฟุเสะคาวะ มีออร่าของพระเอกอยู่รอบตัวนั่นแหละ
ปกติแล้วตัวเอกในเรื่องรักโรแมนติกก็ไม่ค่อยคุยกับตัวประกอบหรอก ตัวละครรอบข้างก็มักจะเป็นนางเอกสวยๆ ไม่ก็เพื่อนผู้ชายหล่อๆแบบเรโอะ ส่วนตัวละครอื่นๆก็ไม่ค่อยอยากยุ่งกับเขามากนัก
ในโลกของเรื่องแนวรอมคอมน่ะ ไม่มีหรอกพื้นที่ให้พวกประกอบธรรมดาหรอก เหล่านักเรียนที่ได้รับบทตัวประกอบเองก็คงจะเข้าใจสถาณการณ์ เพราะงั้นพวกเขาเลยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ไม่ค่อยชอบบุฟเซกาวะ ไรโตะเลย’ แล้วพยายามรักษาระยะห่างจากเขาล่ะนะ
ผลลัพธ์ที่ได้คือการสร้างโลกแห่งรอมคอมขึ้นมารอบตัวฟุเสะคาวะ ไรโตะ และช่วยขับให้เขามีความโดดเด่นและดูเหมือนเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง
ฟุเสะตาวะ ไรโตะมีออร่าที่ทำให้ตัวประกอบคนอื่นไม่อยากเข้าใกล้ การที่ผมทำตัวเหมือนพวกเขา—ยอมรับว่าตัวผมเองก็ไม่ชอบเขาและพยายามเว้นระยะห่างจากเขา แบบนั้น—ก็น่าจะทำให้เรโอะ เพื่อนสนิทของเขาเข้าใจได้ไม่ยาก
“แบบที่เรโอะพูดนั่นแหละ ฉันไม่ค่อยชอบฟุเสะคาวะเท่าไหร่ ก็เลยไม่อยากเข้าไปยุ่งมากน่ะ….”
“ว่าแล้วเชียว ฮ่าๆ ไม่เป็นไรๆ ถ้านายไม่อยากยุ่งผมก็ไม่คิดจะบังคับอะไรหรอก สบายใจได้ ที่สำคัญ ผมเองก็อยากสนิทกับนายให้มากขึ้นเหมือนกันนะ ริวสุเกะ”
พอได้ยินแบบนั้นผมก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาเลยนะ นั่นหมายความว่าตอนนี้ผมรอดพ้นจากวิกฤติไปได้แล้วหนึ่งเปราะ ถ้าเรโอะไม่มีปัญหากับการที่ผมห่างๆ จากฟุเสะคาวะ ผมก็จะได้เป็นเพื่อนกับเรโอะต่อไปอย่างสบายใจ
“งั้นก็ เหมือนไรโตะจะแข่งเสร็จแล้ว ผมขอตัวไปดูก่อนนะ”
“อาา งั้นก็ไว้เจอกันนะ”
“ขอบคุณนะ ไว้เจอกัน”
แล้วเรโอก็เดินจากผมไป
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางมองเรโอที่กำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานกับฟุเสะคาวะ ทั้งสองต่างก็เหงื่อท่วมตัวจากการเล่นบาส
การได้เป็นเพื่อนกับเรโอะจะต้องทำให้ผมหลุดออกจากฟันเฟืองของเนื้อเรื่อง และมันก็จะค่อยๆพาผมออกจากบทตัวร้ายไปทีละนิด
ถึงอย่างนั้นก็ยังวางใจไม่ได้….