เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 108 ใต้แสงที่ลอดผ่านแมกไม้
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 108 ใต้แสงที่ลอดผ่านแมกไม้
ตอนที่108 : ใต้แสงที่ลอดผ่านแมกไม้
จากนั้น พวกเราก็เดินรอบโรงเรียนที่ครึกครื้นและสนุกไปกับกิจกรรมและอาหารต่างๆในงานวัฒนธรรมพร้อมกัน
เวลาของงานวัฒนธรรมที่ได้อยู่กับมาชิโระผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอผมและมาชิโระเดินเล่นจนเหนื่อย พวกเราก็นั่งพักอยู่บนม้านั่งที่ลานกว้างซึ่งไร้ผู้คน
ม้านั่งใต้ร่มไม้ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ใบไม้เขียวชอุ่มที่ปกคลุมอยู่ด้านบนไหวตามแรงลม แสงแดดอ่อนๆส่องลอดผ่านใบไม้ลงมา
มันเป็นพื้นที่ที่เงียบสงบและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แตกต่างจากบรรยากาศครึกครื้นของโรงเรียนในช่วงงานวัฒนธรรม
การได้ผ่อนคลายอยู่กับมาชิโระในสถานที่แบบนี้เป็นความรู้สึกที่ดีมาก
“แก้วที่ได้มาจากนิชิคาว่า ฉันจะใช้มันอย่างทะนุถนอมเลยล่ะ”
“ฉันก็เหมือนกัน พวงกุญแจรูปแมวที่ได้เป็นรางวัล ฉันว่าจะเอาไปติดกระเป๋าล่ะ!”
ตอนนี้ ผมกับมาชิโระกำลังดูของที่ได้มาจากการแข่งขันชู้ตบาสเมื่อครู่นี้
แก้วที่นิชิคาวะภูมิใจถูกผมขโมยมาซะแล้ว ส่วนมาชิโระได้พวงกุญแจรูปแมวจากรางวัลที่ผู้จัดการทีมบาสหญิงเอามาเป็นรางวัล
มาชิโระดูพวงกุญแจแมวดำที่แกว่งไปมาพร้อมกระดิ่งสีเงินอย่างร่าเริง
“ฮิฮิ วันนี้สนุกมากเลยนะ ริวสุเกะ”
“นั่นน่ะสิ ฉันเองก็ไม่เคยสนุกกับงานวัฒนธรรมขนาดนี้มาก่อนเหมือนกัน”
นี่คืองานวัฒนธรรมที่ผมเคยฝันถึง
เวทีแห่งความสดใสในวัยเยาว์ที่ตัวเอกและเหล่านางเอกได้สร้างเรื่องราวขึ้นมา ผมเองก็เคยฝันว่าจะสนุกกับชีวิตในโรงเรียนมัธยมแบบนั้นบ้างเหมือนกัน
และตอนนี้ ผมก็กำลังใช้ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในงานวัฒนธรรมกับมาชิโระ นางเอกที่เป็นของผมคนเดียว
มันเป็นความสุขยิ่งกว่าสิ่งที่ผมเคยฝันถึง เพราะแค่มีมาชิโระอยู่ข้างๆโลกทั้งใบก็ดูเปล่งประกายขึ้นมา
ตอนนี้ มาชิโระยิ้มอ่อนโยนอยู่ข้างผมและเอียงหัวมาซบไหล่ผมอย่างออดอ้อน
การที่มาชิโระอ้อนอย่างไม่ป้องกันแบบนี้ เป็นสิทธิพิเศษของผมเพียงคนเดียว ยิ่งคิดแบบนั้นก็ยิ่งมีความสุข
รอยยิ้มที่ถูกแสงแดดอ่อนๆส่องทำให้ดูงดงามราวกับอัญมณี และท่าทางที่เธอเอาผมสีดำสวยไหวตามลมมาทัดหูก็ดูน่ารักมากจนผมแทบจะละสายตาไม่ได้จากดวงตาสีฟ้าที่มองมา
มาชิโระยิ้มแบบเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ก่อนที่จะหรี่ตามองผมแล้วเรียกชื่อด้วยเสียงนุ่มนวล
“ริวสุเกะ ที่นี่เงียบสงบดีนะ ต้นไม้ไหวไปตามแรงลม แสงแดดก็อบอุ่น… ชักเริ่มง่วงแล้วสิ”
“นั่นสินะ ถ้าจะงีบหลับกันตรงนี้ได้สักหน่อยก็คงดีสิ”
“ฮิฮิ ถึงจะดี แต่ในเมื่อเป็นงานวัฒนธรรม เรามาสนุกกันต่อดีกว่านะ!”
“ฮะฮะ ล้อเล่นน่า แล้วอยากไปทำอะไรต่อดี?”
“อืม… อื้มม…”
มาชิโระขยี้ตาเบา ๆ พร้อมกับทำท่าครุ่นคิด
ท่าทางน่าเอ็นดูแบบนี้ ทุกอย่างมันดูน่ารักและน่าหลงใหลไปหมด
เวลาค่อยๆผ่านไปพร้อมบรรยากาศผ่อนคลาย ในระหว่างนั้นพวกเราก็ดูแผ่นพับงานวัฒนธรรมแล้ววางแผนกันว่าจะทำอะไรต่อ
“นี่ มาชิโระ บ้านผีสิงของปี3ห้อง7ดูเหมือนจะลงทุนหนักอยู่นะ ค่อนข้างน่าสนใจเลย ลองไปดูกันไหม?”
“ไม่เอา! ไม่เด็ดขาด! ฉันกลัวผีนะ!”
“รู้อยู่แล้วล่ะ มาชิโระในชุดเมดที่กลัวคงน่ารักสุดๆเลย อยากเห็นจังน้า แต่ไม่ได้สินะ”
“ไม่ได้เด็ดขาดเลย! ริวสุเกะชอบแกล้งฉันตลอดเลยอ่ะ!”
“ขอโทษๆ แต่พอนึกถึงตอนดูหนังผีแล้วเธอนอนไม่หลับจนต้องโทรคุยกับฉันทั้งคืนก็อดแหย่ไม่ได้อ่ะนะ”
“เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนั้น! ริวสุเกะอ่ะ ใจร้ายที่สุดเลย! ฉันไม่คุยด้วยแล้ว!”
มาชิโระเบะปากพร้อมหันหน้าหนีด้วยท่าทีแง่งอน ซึ่งดูน่ารักจนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของผม มาชิโระที่แกล้งงอนอยู่ก็หัวเราะออกมาด้วยเหมือนกัน
“ฮะฮะ วันนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองหัวเราะเยอะมากเลย”
“ฉันเองก็เหมือนกัน พออยู่กับมาชิโระแล้วไม่รู้สึกเบื่อเลย งานวัฒนธรรมที่บรรยากาศคึกคักอยู่แล้วก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่”
“จริงด้วย วันนี้สนุกมากเลยเนอะ งานวัฒนธรรมที่ได้อยู่กับริวสุเกะคงเป็นความทรงจำที่ลืมไม่ลงแน่ๆ”
“ฉันก็เหมือนกัน งานวัฒนธรรมครั้งนี้กับมาชิโระ ฉันไม่มีวันลืมแน่นอน”
มาชิโระยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวเล็กๆอย่างน่ารัก
รอยยิ้มที่ส่องสว่างท่ามกลางแสงแดดลอดผ่านใบไม้ดูงดงามจนหัวใจของผมเต้นแรงด้วยความรู้สึกหวานซึ้ง
ที่ลานกลางอันเงียบสงบ เรานั่งชิดกัน ลืมเวลาไปพร้อมกับเพลิดเพลินในช่วงเวลาผ่อนคลายนี้
หลังจากพักผ่อนจนเต็มที่และพร้อมจะเคลื่อนย้ายไปที่อื่น เราสองคนก็บิดขี้เกียจพร้อมกัน
“อ้า~ อ๊ะ…ริวสุเกะ โทรศัพท์ของนายดังอยู่นะ”
“จริงด้วย ใครโทรมาล่ะเนี่ย?”
ตามที่มาชิโระบอก ผมสังเกตเห็นเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของตัวเอง
เมื่อหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า หน้าจอแสดงชื่อว่า “คิซากิ เรโอะ” ผมเลยกดรับสายด้วยความสงสัย
“เรโอะ มีอะไรเหรอ?”
“ขอโทษที่รบกวนระหว่างที่นายอยู่กับคุณมาชิโระ ตอนนี้พอจะมีเวลามั้ย? พอดีผมอยากขอให้นายช่วยอะไรหน่อย”
“ไม่มีปัญหาหรอก ฉันกับมาชิโระเพิ่งเดินรอบโรงเรียนเสร็จแล้วกำลังพักกันอยู่”
“งั้นก็ดีเลย คือห้องเรียนของพวกเราคนเยอะมากจนแทบจะรับมือไม่ไหว เลยอยากขอให้นายช่วยหน่อยน่ะ”
“เข้าใจแล้ว ท่าทางจะคึกคักสุดๆเลยนี่นา ถึงขนาดเรโอะจัดการคนเดียวไม่ไหวเลยสินะ”
“ก็นะ ตอนนี้ผมกับไรโตะแล้วก็อีกคนกำลังช่วยกันทำอาหารอยู่ แต่ลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆเลยจัดการไม่ทันแล้วน่ะ!”
“เรโอะ แย่แล้ว! เราทำไม่ทันแล้วจริงๆนะ!”
เสียงของไรโตะดังมาจากปลายสาย พร้อมกับเรโอะที่ดูรีบตอบกลับด้วยท่าทางลนลาน ดูเหมือนสถานการณ์จะย่ำแย่จริงๆ
งานวัฒนธรรมครั้งนี้ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จเกินคาด เมื่อเทียบกับช่วงที่ผมกับมาชิโระเข้าเวร
(ตอนที่มาชิโระในชุดเมดเดินถือป้ายโฆษณาในโรงเรียน เป็นการโปรโมตที่สุดยอดจริง ๆ…)
เพราะมีสาวสวยที่สุดในโลกเดินโปรโมตในชุดเมด ใครๆก็ต้องอยากเข้ามาดูนั่นแหละ
โดยที่เราไม่รู้ตัว พวกเรากลับกลายเป็นผู้ดึงดูดคนจำนวนมากมายให้เข้ามาที่ร้านเมดคาเฟ่ขนมหวานซะงั้น
แต่ดูเหมือนความนิยมจะมากเกินไปจนเกินขีดความสามารถของเรโอะและคนอื่น
มาชิโระที่ได้ยินบทสนทนาก็ลุกขึ้นยืนทันทีจากม้านั่ง
“เรโอะคุงอยากให้ริวสุเกะไปช่วยสินะ ฉันเองก็จะไปด้วย!”
“เธอแน่ใจนะ? ดูเหมือนจะยุ่งสุดๆ ฉันไม่อยากรบกวนเวลาพักเธอ…”
“ไม่เป็นไรหรอก! ก็ฉันอยากอยู่กับริวสุเกะจนถึงวินาทีสุดท้ายของวันนี้นี่นา…ไม่ได้เหรอ?”
“เฮ้อ…เธอนี่มันไร้เทียมทานซะจริงๆนะ”
มาชิโระส่งสายตาหวานอ้อนใส่ผมพร้อมกับท่าทางน่ารักที่ทำให้ผมปฏิเสธไม่ลง
“เข้าใจแล้ว ไปช่วยเรโอะด้วยกันเถอะ”
“เย้! ขอบคุณนะ ริวสุเกะ!”
พอได้ยินคำตอบของผม มาชิโระก็ดีใจจนกระโดดไปมาอย่างร่าเริง
นี่คืองานวัฒนธรรมครั้งแรกของผมและมาชิโระที่ได้ใช้เวลาร่วมกันในช่วงชีวิตมัธยมปลาย
ความรู้สึกที่มาชิโระอยากจะใช้เวลานี้ร่วมกันไปตลอดทำให้ผมมีความสุขมาก ผมจึงยื่นมือให้เธออย่างแผ่วเบา
“งั้นไปกันเถอะ มาชิโระ พวกเรามอบการบริการที่ดีที่สุดให้ลูกค้า แล้วก็ช่วยทำให้งานวัฒนธรรมสนุกขึ้นไปอีกขั้นกันเถอะ”
“อื้อ! จะทำให้ทุกคนยิ้มกันเยอะๆเลยล่ะ”
มาชิโระจับมือที่ผมยื่นให้พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยน
บรรยากาศที่หวานละมุนจนเหมือนจะหลอมละลายหัวใจที่ผมไม่เคยชินสักที ทำเอาหัวใจเต้นแรงทุกครั้งจนรู้สึกมีความสุข แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็อยากอยู่กับมาชิโระต่อไป
ช่วงเวลาธรรมดาที่ได้ใช้ร่วมกับคนสำคัญแบบนี้ เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผมอย่างไม่อาจต้านทานได้
ในช่วงเวลาสุดท้ายของงานวัฒนธรรมที่ลืมไม่ลง ผมจะอยู่กับมาชิโระไปจนถึงวินาทีสุดท้าย
ด้วยความรู้สึกนี้ในใจ ผมและมาชิโระก็ก้าวเข้าสู่งานวัฒนธรรมอีกครั้ง