เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 102 งานวัฒนธรรม (1)
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 102 งานวัฒนธรรม (1)
ตอนที่102 : งานวัฒนธรรม (1)
――แล้ววันนั้นก็มาถึง
เช้าวันงานวัฒนธรรม
ผมมาถึงห้องเรียนก่อนเวลาเข้าปกติเพื่อมาตรวจสอบความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย
การตกแต่งภายในเรียบร้อยดี เมนูและโปสเตอร์พร้อมใช้งาน การจัดวางของชิ้นเล็กๆก็สมบูรณ์แบบ อาหารที่เตรียมไว้เมื่อวานก็ถูกเก็บไว้ในตู้เย็นที่ห้องปฏิบัติการทำอาหารเรียบร้อยแล้ว
กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็ลำบากไม่น้อย
มันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปตามแผนได้อย่างราบรื่น
แต่การผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นได้ ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างทุกคนในชั้นแน่นแฟ้นขึ้นและทำให้ผมมีแรงผลักดันที่จะทำให้งานวัฒนธรรมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
แม้ตอนยังเป็นมนุษย์เงินเดือนในชาติที่แล้ว ผมเคยมีส่วนร่วมในหลายโปรเจกต์ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมทุ่มเทอย่างจริงจังให้กับสิ่งหนึ่ง
การตัดสินใจเรื่องดีไซน์ ตรวจสอบงบประมาณ การแบ่งงาน ติดตามความคืบหน้า รวมถึงการแก้ปัญหาเมื่อมีอุปสรรคเกิดขึ้น ทักษะจากชาติที่แล้วช่วยผมได้มากในงานเตรียมตัวครั้งนี้
และด้วยสิ่งเหล่านั้น ทำให้ผมในฐานะหัวหน้าชั้นสามารถรวบรวมทุกคนให้เตรียมงานวัฒนธรรมได้สำเร็จ
ที่เหลือก็แค่ผ่านวันนี้ไปให้ได้และแบ่งปันความดีใจจากความสำเร็จนี้ด้วยกัน ผมรู้สึกตื่นเต้นสุดๆที่จะทำให้งานครั้งนี้ออกมาดีที่สุด
เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็พบกับท้องฟ้าสดใสไร้เมฆฝน
วันนี้คงมีคนมากมายที่ตั้งตารองานวัฒนธรรมและมาที่โรงเรียนของเรา
โรงเรียนที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามเพื่อรองรับผู้คน
ซุ้มประตูและป้ายที่ทำขึ้นด้วยมือเรียงรายอย่างสวยงามตรงประตูโรงเรียน ผนังและหน้าต่างตามทางเดินถูกประดับด้วยของตกแต่งหลากสี
ห้องเรียนแต่ละห้องก็ตกแต่งให้สอดคล้องกับธีมของตัวเองอย่างประณีตจนรู้สึกว่าราวอยู่ในสวนสนุก
ห้องเรียนของพวกเราก็เช่นกัน ตกแต่งด้วยดอกไม้ ลูกโป่ง และโมบายระยิบระยับ กระดานดำมีตัวอักษรน่ารักๆที่เขียนด้วยชอล์กโดยเด็กผู้หญิง ผนังและหน้าต่างก็เต็มไปด้วยโมบายวิบวับ โต๊ะและเก้าอี้ถูกจัดวางใหม่ให้เหมาะสมกับธีมคาเฟ่
แม้ตอนนี้โรงเรียนยังเงียบสงบ แต่เมื่อถึงเวลาเริ่มงานวัฒนธรรมจะต้องเต็มไปด้วยผู้คนแน่
แค่จินตนาการก็ทำให้ใจเต้นแรงแล้ว
ตัวผมเองก็คงจะตื่นเต้นเหมือนเด็กมัธยมปลายทั่วไป
ชาติที่แล้ว ตอนที่ทำแต่งาน ผมมักจะมองทุกสิ่งในแง่ร้ายกว่านี้ระดังนึง คงเป็นเพราะจิตใจที่เย็นชาในตอนนั้น
แต่การได้เกิดใหม่และสัมผัสชีวิตวัยรุ่นครั้งที่สองนี้ ทำให้ผมรู้สึกถึงอารมณ์หลากหลายที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับมาชิโระและเพื่อนๆเหล่านี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริงๆ
ในตอนที่กำลังคิดถึงเรื่องพวกนี้ เสียงสดใสจากทางเดินก็ดังขึ้นมา ทำให้ผมที่ยังยิ้มอยู่หันไปตามเสียงนั้น
วันนี้ผมมาพร้อมมาชิโระตั้งแต่เช้า
เธออยากให้ผมช่วยตรวจดูชุดเมดที่เธอใส่
และด้วยเหตุนี้ ผมจึงนั่งรอเธออยู่ในห้องเรียนตั้งแต่เช้า เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้คงเป็นสัญญาณว่าเธอแต่งตัวเสร็จแล้ว
“มาชิโระ เตรียมตัวเสร็จแล้วเหรอ?”
“อื้อ! เรียบร้อยแล้ว! ว่าไง เหมาะกับฉันไหม?”
มาชิโระที่เดินเข้ามาหาผมหน้าแดงเล็กน้อย เธอดูเขินอายแต่ก็ยิ้มอย่างสดใสพลางจับกระโปรงย่อไหว้อย่างน่ารัก
ผมที่ตะลึงกับท่าทางอันงดงามของเธอถึงกับนิ่งไป พูดอะไรไม่ออก
ชุดเมดที่ประดับด้วยระบายสีขาวนุ่มฟูและเอี๊ยมสายรัดสีสาวบริสุทธิ์ กระโปรงสีดำยาวถึงเข่าให้ความรู้สึกเรียบร้อยและถุงน่องสีขาวที่ทำให้เรียวขาดูโดดเด่น
นอกจากนี้ยังมีที่คาดผมสีขาวที่เข้ากันอย่างดีกับผมสีดำของเธอ ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย
ด้วยรูปลักษณ์อันงดงามและความน่ารักแบบนางฟ้า ชุดเมดของมาชิโระทำให้ผมเผลอหายใจออกมาด้วยความตะลึง
จากนั้นมาชิโระในชุดเมดก็หมุนตัวเบาๆพลางส่ายกระโปรงให้สะบัดไปมา ก่อนจะส่งยิ้มกว้างสดใสมาให้ผม
กระโปรงที่ลอยพลิ้วราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน
รอยยิ้มสดใสแสนบริสุทธิ์ในชุดเมดที่เรียบร้อย มันช่างมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ เพียงแค่มองก็รู้สึกเหมือนจิตใจได้รับการชำระล้างแล้ว
ในห้องเรียนที่มีเพียงเราสองคน
การได้เห็นมาชิโระในชุดเมดแบบนี้แค่คนเดียวทำให้ผมรู้สึกราวกับได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น และในตอนที่กำลังเพลิดเพลินกับความรู้สึกนั้น เธอก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วเดินเข้ามาใกล้ผม
“อิฮิ ริวสุเกะ ทำไมยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นล่ะ? ตกใจจนพูดไม่ออกเลยเหรอ?”
“เปล่าหรอก ก็ชุดเมดของมาชิโระมัน…น่ารักที่สุดเลยไง จะไม่ให้ตะลึงก็คงไม่ได้หรอก…”
ผมเกาแก้มเบาๆแล้วพูดความรู้สึกออกมาตรงๆ นั่นทำให้มาชิโระหน้าแดงจัด เธอหลบสายตาพลางก้มหน้าลงอย่างเขินอาย
“โธ่…หน้าร้อนหมดแล้วอ่ะ ฉะ…ฉันไม่กล้าสบตาริวสุเกะเลย…”
“วันนี้ดูอ่อนไหวเป็นพิเศษนะ เป็นอะไรรึเปล่า มาชิโระ?”
“เอ่อ…คือว่า จริงๆแล้ว ฉันตื่นเต้นมากเลยที่ให้ริวสุเกะดูตอนใส่ชุดมเด กลัวว่าถ้ามันดูไม่เหมาะจะทำยังไงดี…”
“แล้วพอได้รับคำชมที่เกินคาดก็เลยเขินกว่าเดิมใช่ไหม?”
พอผมพูด มาชิโระก็พยักหน้าแรงๆหลายครั้ง
ดูเหมือนเธอจะพยายามกลั้นยิ้มของตัวเองโดยการจับชายกระโปรงแน่น
นี่เป็นครั้งแรกที่มาชิโระโชว์ชุดเมดให้ผมดู แถมชุดนี้ยังเป็นชุดที่เธอเย็บเองตั้งแต่ต้นจนจบ
การที่ผมชมชุดที่เธอใส่เลยทำให้มาชิโระรู้สึกดีใจอย่างมาก
มันทำให้ผมเองก็รู้สึกมีความสุขเช่นกัน ที่คำพูดของผมทำให้เธอมีความสุขได้ และในตอนนั้นผมก็เผลอปล่อยให้รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า
หลังจากนั้นเราสองคนก็สบตากันแแล้วยิ้มเขิน ๆ
เช้านี้ ผมได้เห็นรอยยิ้มของมาชิโระที่เหมือนนางฟ้า ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่สุดในโลก
“ฉันดีใจมากเลยนะ ริวสุเกะ…การได้รับคำชมจากริวสุเกะคือความสุขที่สุดของฉันเลยล่ะ”
“อืม เหมาะกับเธอมากเลย ชุดเมดของมาชิโระคือชุดเมดที่น่ารักที่สุดในโลก”
“แหะแหะ ริวสุเกะก็พูดเกินไป แต่ขอบคุณนะ วันนี้ฉันจะพยายามเป็นเมดให้ดีที่สุด!”
“อื้อ สู้ๆนะ ฉันเองก็จะช่วยเต็มที่เหมือนกัน”
มาชิโระหมุนตัวอีกครั้ง ทำให้ชายกระโปรงพลิ้วไหว พร้อมกับรอยยิ้มสดใสที่สุดที่เธอส่งมาให้
จริงๆแล้ว ผมเองก็รู้สึกประหม่าตั้งแต่เช้าแล้ว แต่การได้อยู่กับมาชิโระทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลง
ในห้องเรียนที่มีแค่เราสองคนกับแสงแดดอุ่นๆที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังร่วมเฉลิมฉลองให้กับงานวัฒนธรรมของเรา
และด้วยเหตุนี้เอง หัวใจของผมก็เริ่มเต้นแรงเพราะสัมผัสได้ถึงลางดีของงานวัฒนธรรมราวกับว่ามันจะเป็นวันที่ดีที่สุด