เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! - ตอนที่ 49: คำท้า ณ งานเต้นรำสานสัมพันธ์
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
- ตอนที่ 49: คำท้า ณ งานเต้นรำสานสัมพันธ์
< < 40 > >
งานเต้นรำสานสัมพันธ์ได้มาถึงแล้ว——ผมยืนอยู่หน้ากระจก เพื่อเช็กสภาพหน้าผมตัวเองให้อยู่ในสภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ..แจ๋ว ดูหล่อเหลาไม่น้อย
ผมสวมสูทสีแดงเลือดหมู เสื้อเชิ้ตข้างในเป็นสีดำสนิท เป็นเพียงชุดเรียบๆ แต่คุณภาพเนื้อผ้าจัดว่าดียากจะหาอะไรเทียบ หากให้ตีราคาสูทคร่าวๆ ก็ประมาณ *,000,000 บาท
เป็นเสื้อเกรดพรีเมี่ยมแม้ในหมู่ขุนนางด้วยกันก็ตาม
“หล่อชะมัดตัวฉัน คิดงั้นมั้ยยูนา? ”
“ค่ะ มาสเตอร์ในตอนนี้หล่อเหลายากหาใครเทียบ’
ยูนาชมกันตรงๆ
‘แต่อย่าได้เหลิงเชียวค่ะ มันน่าหมั่นไส้’
อะ โอ้! ยูนาไม่ชอบพวกขี้โม้ขี้คุยด้วยอะนะ กลับกันก็ไม่ชอบพวกดูถูกในตัวเองด้วย ..เป็นคนจำพวกน่ารำคาญประเภทหนึ่งที่หาได้ยาก
‘…’
อะ ล้อเล่น ไปกันเถอะยูนา ก่อนที่สายลมจะโรยรา
‘ค่ะ’
เมื่อจัดสูทแล้วเรียบร้อยผมก็เดินออกไปตัวเปล่า—-งานเต้นรำสานสัมพันธ์มีแค่ชุดกับตัวก็พอแล้ว
“ทุกคนจะหล่อจะสวยขนาดไหนกันนะ อดใจรอไม่ไหวแล้วละ” ผมแสยะยิ้ม
งานเต้นรำสานสัมพันธ์ของจริง ขอชมให้เป็นขวัญตาต่อแฟนคลับผู้นี้หน่อยเถอะ—-
“…เฮ้อ” ชายผู้มีผมสีน้ำเงิน ทรงมัดจุกถอนหายใจออกมา ..
เขาคือ ‘เรย์’ —เพื่อนสนิทของยูจิ และน้องชายแท้ๆ ของชินดร้า ผู้ทำสัญญานายบ่าวกับเรเซอร์ .. ในตอนนี้เรย์สวมสูทสีขาวสง่างาม เข้ากับหน้าตาที่หล่อถล่มบ้านถล่มเมืองของตัวเอง หากนับแค่หน้าตาอย่างเดียว ไม่นับนิสัย เรย์จัดว่าหล่อสุดในหมู่เด็กปี 1 แล้ว ..
ขณะนี้ เรย์กำลังนั่งอยู่ตรงน้ำพุกลางโรงเรียน พลางแหงนหน้ามองฟ้าซึ่งมีแสงระยิบระยับจากตัวงานเต้นรำสานสัมพันธ์
“สมกับเป็นพวกคนรวยล้นฟ้า มีเงินไปจัดงานใหญ่ๆ ได้สบายเลยแฮะ”
เรย์พึมพำเบาหวิว ท่าทางของเขาในตอนนี้ต่างกับทุกที เด็กหนุ่มวัยรุ่นเริงร่าได้หายไปราบกับโกหก ..ตอนนี้มีเพียงเด็กหนุ่มผู้อมทุกข์เท่านั้น
“..ทุกอย่างต้องจบ ..ในวันๆ นี้”
ในห้วงความคิดนั้นเอง—-
“อยู่ที่นี้เองหรือครับ? ”
— ‘ยูจิ’ ในชุดนักเรียนตามปกติวิ่งเหยาะแหยะมาหาเรย์ด้วยรอยยิ้มอันสดใสร่าเริง หากเผลอใจไปอาจจะถูกรอยยิ้มของยูจิตกเอาก็ได้ แม้จะเพศๆ เดียวกัน ..เรื่องนั้นในฐานะเพื่อนสนิท เรย์เข้าใจดีกว่าใคร
“สวยเหมือนเดิมนะ ยูจิ”
“ยะ อย่าล้อเล่นกันสิครับ” ยูจิเขินหน่อยๆ “จะว่าไปมานั่งอะไรตรงนี้คนเดียวเหรอครับ? ทุกคนน่าจะไปรวมกันที่งานแล้วนะครับ”
เรย์ส่งยิ้มให้ยูจิ
“เข้าใจแล้วน่า มานั่งเล่นคลายเครียดเฉยๆ ”
“..มีเรื่องเครียดด้วยสินะครับ ฮะๆ ”
“พูดอย่างนั้นมันหมายความว่ายังไงหะ เพื่อนยาก!” เรย์พุ่งไปคล้องคอยูจิ “ไอ้ฉันเครียดเพราะอดเห็นเอ็งในชุดเดรสสวยๆ ไงละ”
ได้ยินคำพูดคุกคามอย่างนั้นไปยูจิถึงกับคอตก
“ให้ตายก็ไม่ใส่ครับ”
“น่าๆ เปิดโลกประทัดใหม่ไง”
“ขอปฏิเสธดีกว่าครับ”
“อะไรกัน อย่าเกรงใจเลย เรื่องเงินหายห่วงไอ้เรเซอร์มันพร้อมเปย์นา รู้เปล่า? ”
“..ถ้าจะเปย์กันผมขอเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ดีกว่าครับ ..เฮ้อ” ยูจิยิ้มร่ากลับไปให้ “รีบไปงานกันเถอะครับ”
เรย์หยักไหล่อย่างหน่ายใจ เขาหวังจากใจจริงว่าจะได้เห็นยูจิในชุดสาวน้อยน่ารัก ..
“เข้าใจแล้วๆ ไปดีกว่างั้น”
“ครับ!”
(อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ฉันต้องรีบจบลง ..ก็คือนายด้วยนะยูจิ) เรย์ถอนหายใจ แล้วเดินตามยูจิไป ..
*******
ผมยืนอยู่กลางงานเดี่ยวๆ ไม่มีคู่ ..ใช่ ไม่มีคู่ ปกติงานเต้นรำสานสัมพันธ์มันต้องควงคู่เต้นมาด้วยอะนะ น่าเศร้าที่ชวนเบลลามีไม่ได้ เพราะเธอต้องเต้นคู่กับยูจิในฐานะนักเรียนทุน ส่วนโซเฟีย ..กอรี่ขอไปก่อนละครับ ทั้งสองคนไม่ได้ตัดขาดกันแต่อย่างไรด้วย แค่เต้นกันแบบเพื่อนเท่านั้น ..หนิงไม่ต้องพูด ยัยนั่นไม่คู่กับผมหรอก กลับกันยูจิก็ไม่เอาด้วย เห็นว่าไปจับคู่กับเรย์แทน จะได้เข้าใกล้ได้ง่ายขึ้น พับผ่าสิ
“ใครก็ได้รับกระผมเป็นคู่เต้นที” ผมพึมพำขณะที่ยืนอยู่กับเบลลามี และกอรี่ “นายก็ได้นะกอรี่”
“แหกธรรมเนียมไปแล้วเฟ้ย อีกอย่างฉันมีคู่อยู่แล้วด้วย” กอรี่ที่แต่งตัวเยี่ยงผู้ดี พูดอย่างผู้ดีสั่งสอนผม ..
อะไรกัน
“เราก็ไม่ได้เหมือนกัน ..เพราะคู่กับยูจิแล้ว” เบลลามีที่ใส่ชุดตามเดิมว่า
เจ็บอกชะมัด โดนเบลลามีพูดอัดหน้าว่าคู่กันกับยูจิแล้วเนี่ย ฮือออ น่าเศร้าแท้ตัวผม
“ลองติดป้ายรับสมัครคู่เต้นดีมั้ย” เบลลามีเสนอ
“ขอบคุณที่เสมอนะเบลลามี แต่แบบนั้นมันจะเป็นเป้าสนใจน่ะสิ”
“..อยู่เฉยๆ เรเซอร์ก็เป็นเป้าสนใจอยู่แล้วนะ ..เป็นถึงโจร กกน.”
“..พอทีกับฉายานั่น”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เบลลามีได้แต่เอียงคอฉงน
“โอ้ยย! โจรกกน. หาคู่ได้เปล่า? ”
“เดี่ยวสิครับคุณเรย์!”
ตัวป่วนกับนางฟ้าหนึ่งคนเดินมาหา เรย์ กับยูจิ นั่นเอง ข้างหลังนั่นมีโซเฟียตามมาด้วย
เรย์ตอนนี้สวมสูทสีดำสง่าราศี ดูเข้ากับเบ้าหน้าหล่อๆ นั่นไม่น้อย ส่วนยูจิก็สวมชุดนักเรียนเช่นเดียวกับเบลลามี
ทางโซเฟียสวมชุดเดรสสีขาว มีตาข่ายสีขาวคลุมทั้งไหล่ และอกจนไม่เห็นส่วนน่าตื่นเต้น กระโปรงเองก็ยาวมาก เป็นการแต่งตัวมางานเต้นรำสานสัมพันธ์ที่แปลกดี แต่ก็เข้ากับโซเฟียพิลึก หล่อนมีลุคเป็นคุณหนูแสนเรียบร้อย ทำให้เข้าเอามากๆ ให้เต็ม 10 ไม่หารเลย
“ดูดีมากเลยนะ ทั้งยูจิทั้งโซเฟียเลย”
“ขอบคุณครับ ..ถึงผมจะใส่ชุดเดิมก็เถอะ อะ ฮะๆ ”
“..ขอบใจ” โซเฟียกล่าวอย่างเขินๆ ไม่ถูกกับคำชมอย่างแรง
เรย์ชี้นิ้วหาตัวเอง แต่ผมทำเมินใส่
“แซวนิดแซวหน่อยเอง พับผ่าสิ” เรย์หยักไหล่ให้
“ใช้ได้ละกัน แต่ยังขาดอะไรบางอย่างไป”
“อะไรละ? ”
“ความประทับใจตัวบุคคลมั้ง? ”
“คงนั้น ทางฉันก็เหมือนกันละ ไอ้บ้าเอ๊ย ฮะๆๆ!”
จากใจจริงล้วนๆ เลยสินะเจ้าบ้านั่น ..เอาเถอะ ฮะๆ
“แล้วหนิงละ? ”
“เห็นว่าเป็นประธานนักเรียนน่ะนะ เลยจะมาช้าหน่อย”
“จะว่าไปก็ ..ลืมเลยแฮะ ยัยนั่นเป็นประธานนักเรียนนี่หว่า”
“มีข่าวลือว่ายื่นใบลาออกแล้วละ” เรย์หยักไหล่ “เห็นลือกันว่าอยู่ในขั้นตอนเจรจา”
เหวอ นี่พวกผมผิดหรือเปล่านะ ที่ลากหนิงมาช่วยกินถั่วงอกเนี่ย …ช่างมันๆ วันงานผ่อนคลายทั้งที อย่าคิดมากเลย
ตอนนี้น่าจะมากันครบแล้ว เคียวยะน่าจะอยู่หลังงานกับไอริส เพราะพิธีเปิดใกล้จะเริ่มแล้ว ..ต้องเกริ่นก่อนว่างานเต้นรำสานสัมพันธ์นั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1.ส่วนเปิดงาน ในช่วงนี้จะให้ประธานนักเรียนขึ้นมาพูดปราศรัย และให้คณะกรรมการนักเรียนเปิดตัวคณะกรรมการ ปี 1 แน่นอนในช่วงนี้ทุกคนต้องควงคู่ยืนข้างกันอะนะ ..
2.ส่วนเต้นรำ ตามชื่อเลย หลังจากจบพิธีเปิดงานไปก็จะมีศิลปินมากมาย ทั้งดังและไม่ดังขึ้นมาร้องเพลง ขณะที่เหล่านักเรียนจะจับคู่หรือแลกคู่กันเพื่อเต้นรำ หรือกินเหล้า กินอาหารกันสุขสันต์เฮฮา และส่วนเต้นรำก็มีคีย์แมนหลักอย่างเด็กทุนด้วย ในการเต้นรำจะให้ ยูจิกับเบลลามีเป็นคนเต้นเปิด ก่อนจะให้ประธานนักเรียน กับหัวหน้าคณะกรรมการนักเรียนควงคู่เต้นไปเต้นด้วย เป็นอันเริ่มอย่างสวยงาม
3.ส่วนปิดงาน ทุกๆ คนจะเริ่มทยอยกันกลับ และเก็บของในงานต่างๆ มากมาย โดยหลังจากจบส่วน 3 จะมีธรรมเนียมปฏิบัติพิเศษอย่างการยกก๊กประจำห้องไปกินเหล้ากันต่อ …ถึงจะผิดกฎหมายก็เหอะ แต่มันแค่กฎหมายภายนอกเท่านั้น ของจริงมันดำมืดกว่าที่คิด
…เอาละ เหมือนงานจะเริ่มแล้ว
‘หนิง’ ในชุดเดรสสีขาวแดงสลับกันไปมาราวกับดอกไม้ เป็นชุดที่เปิดทั้งไหล่และเนินอกอย่างชัดเจน แต่อยู่ในระดับพอดี ใบหน้าเองก็แต่งมาอย่างดี ด้วยความสวยจากเดิมอยู่แล้วไปผนวกกับการแต่งหน้าขั้นเทพนั่น ยิ่งทำให้หนิงมีเสน่ห์เข้าไปใหญ่
‘เดรสทอยเยอร์ หนิง’ ในตอนนี้มีพลังมากพอจะทำให้ชายฉกรรจ์ทั้งหลายคลั่งตายๆ ตามกันไปได้ ..กล่าวได้ว่าดาเมจมหาศาล
แม้แต่ยูจิยังมองตาค้างเลย ..เดี่ยวนะ ยูจิเนี่ยนะ?
ตั้งแต่เริ่มชีวิตนี้มายังไม่เห็นเขาเขินเพราะผู้หญิงเลย
“..คุณหนิงกระโปรงยาวขนาดนั้น ไม่ล้มแน่เหรอครับ? ”
“ไอ้บ้านี่ ถามอะไรดูบรรยากาศหน่อยสิ”
“ขะ ขอโทษด้วยนะครับ” ยูจิยิ้มเจื่อนๆ พลางเกาแก้มตัวเอง “แค่คิดว่าอาจจะล้มได้น่ะครับ”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลันยิ้มร่า
“ถ้านั้นนายก็ช่วยประคองหนิงตอนล้มทีสิ ยูจิ”
เหมือนกับทุกๆ ครั้ง ..ช่วยหนิงทีนะ ยูจิ
ยูจิมองหน้าผม ดวงตาของเขาดูน่าพิศวงพิลึก
“…ครับ” ยูจิยิ้มตอบ
“เดี่ยวฉันช่วยด้วยคน” เรย์คล้องคอยูจิพูด
“เราด้วย” เบลลามีก็ด้วย
“ตูข้าด้วย” กอรี่ว่านั้นด้วย
“ฉันด้วย” แม้แต่โซเฟียก็เอาด้วย ไม่สิ รายนี้ขาตายอยู่แล้ว
…ว่าแต่หล่อนมาอยู่กับผมได้โดยไม่ติดขัดแล้วสินะ เนียนเหลือเกิน ในเมื่ออีกฝ่ายเนียนมาผมก็ขอเนียนกลับละนะ เรื่องคราวก่อนให้มันเจ๋าๆ ไปละกัน
ผมยกมือเห็นพ้องกับทุกคน
“ถ้านั้นฉันด้วยละกัน”
“ดูไม่จริงใจเลยนะ” กอรี่เหน็บหน่อยๆ
“ทะ โทษทีละกัน ทุกคนคิดเห็นเป็นใจขนาดนั้น ถ้าไม่ร่วมด้วยมันก็กระไรหน่อย”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจับจ้องไปที่หนิงซึ่งยืนอยู่บนเวทีงาน
เธอที่สวยงามราวกับภาพวาดกวาดตามองไปทั่วห้อง ก่อนพบกับยูจิ
“…” หนิงอมยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดเบาหวิวกับไมค์ขยายเสียง “ก่อนอื่นต้องขอยินดีต้อนรับทุกคนอย่างเป็นทางการอีกครั้งด้วยคะ นักเรียนทุกท่าน”
หนิงโค้งศีรษะเล็กน้อย
“ดิฉัน ‘หนิง’ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภานักเรียนจะขอกล่าวคำอวยพรแด่ทุกท่านเด็กใหม่ และ…”
หนิงหยุดพูดไปช่วงนั้นหลังจาก ‘และ’ เธอนิ่งไปสักพักก่อนจะปั้นยิ้มแล้วพูดเปิดงานต่ออย่างสมบูรณ์แบบ หนิงในสภาพประธานนักเรียนต่างกับหนิงที่ผมรู้จักเอามากๆ เลย
ดูสง่างามสมตำแหน่งสุดๆ ‘เดรสทอยเยอร์ หนิง’ คนนั้นน่ะเหรอ? ถ้าไปเล่าให้คนในวงการฟังคนไม่มีใครเชื่อหรอก สัตว์ประหลาดจอมตะกละคลั่งผู้นั้นเนี่ยนะน่ะนะ
“ต่อไปขอเชิญหัวหน้าคณะกรรมการนักเรียนขึ้นมาพูด”
กล่าวส่วนของตัวเองจบ หนิงจึงพูดปิดก่อนจะลงจากเวที จากนั้น ไอริสก็ขึ้นมาแทน
ไอริสในตอนนี้สวมชุดที่ถอดแบบมาจากชุด ‘กิโมโนหญิง’ ของญี่ปุ่น ..ชุดสีชมพูสลับจุดลายดอกไม้ขาว นั่นเพิ่มเสน่ห์ให้ไอริสขึ้นมาก ในฐานะหญิงสาวผู้เพียบพร้อมแสนจะเข้มงวด ดูเป็นการผสมผสานที่พิลึกดี ระหว่างสาวดุ กับชุดที่อ่อนโยน ..แต่ความพิลึกนั่นกลับไม่สามารถละสายตาไปได้
“..รุ่นพี่ไอริสสุดยอดเลยนะ”
ขนาดเรย์ยังเผลอหลุดออกมาเลย
“ชุดแปลกตาดีนะ” ผมเอ่ยขึ้น “ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
แน่นอนว่าเคยเห็น แต่ถ้านับแค่ในโลกนี้ผมไม่เคยเห็นใครใส่เลยละ ..
“ถ้าจำไม่ผิดเป็นชุดของทวีปเนลยอนน่ะ งานเทศกาลของที่นั่นจะสวมชุดประมาณนี้กัน” เรย์อธิบาย “แต่ยากจะหาคนใส่มันในทวีปฟัฟนิร์นะ”
แบบนี้นี่เอง
ผมกอดอกวิเคราะห์กับตัวเอง
ไอริสคนนั้นด้วยละนะ ไม่รู้ที่ทำตั้งใจจะเรียกคะแนนอะไรสักอย่างหรือเปล่า ..คิดตามหล่อนไปก็ปวดหมอง คนที่ตามความคิดในสมองไอริสได้น่ะมีแค่—- ‘เคียวยะ’ เท่านั้นแหละ
ว่าแล้วก็มาเลย ..เคียวยะในชุด ‘กิโมโนชาย’ โผล่ออกมาด้วยใบหน้าที่ขึงขัง …โห?
เคียวยะในตอนนี้ต่างกับทุกทีมาก ผมที่ยาวจนปิดตามิดถูกปัดขึ้นด้วยเจลจนเผยหน้าผากให้เห็น และดวงตาสีสวยประจักษ์ชัดเจนแจ่มแจ้ง หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ..ดวงตาของเคียวยะนั้นสวยกว่าใครๆ บนโลก ใบหน้าเคียวยะตอนนี้จัดว่าหล่อเหลายากหาใครเทียบ ผู้หญิงรอบๆ ต่างสะดุดไปคนละจังหวะเป็นว่าเล่น …หนุ่มหล่อชาวญี่ปุ่น ไม่มีอะไรนิยามเคียวยะตอนนี้ไปได้มากกว่านี้แล้ว
หมอนั่นเชิดหน้ามองมาทางพวกผม ก่อนจะยิ้มมุมปาก—-นั่นทำดาเมจให้สาวๆ ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เรียบ
“นะ นั่นใครน่ะๆ!? ”
“หล่อเกินไปแล้ว! เป็นคู่เต้นกับท่านไอริสเหรอ? ”
“หรือว่าจะเป็นเจ้าชายจากอาณาจักรเนลยอน? ”
“ยับบ๊อง ที่นั่นมีเจ้าชายที่ไหน”
“ชั่งเถอะ! คนคนนั้นโคตรจะหล่อเลยอ่า!”
สาวๆ ต่างคุยกันให้หวั่น แต่เคียวยะมิได้สนใจแต่อย่างไร เจ้านั่นเดินข้างไอริสอย่างสมน้ำสมเนื้อจนมาหยุดอยู่ตรงไมค์ขยายเสียง
ไอริสส่งยิ้มให้ทุกคน
“ขออภัยที่ขัดช่วงเม้าท์ของสาวๆ กันนะคะ” ไอริสยิ้มให้ เธอพูดแบบเป็นกันเอง “ดิฉัน ‘ไอริส ฟาวน์เวอร์’ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการนักเรียนคนปัจจุบัน จะขอขึ้นมาปราศรัย”
ไอริสกระแอ่มเบาหวิว และแนะนำตัวเรียบร้อยเสร็จสรรพก่อนจะผายมือแนะนำเคียวยะ เป็นเครื่องหมายที่บอกว่า ‘เชิญนายต่อ’ เคียวยะหยักหน้ารับและเดินมาพูดกับไมค์
“ฉัน .. ‘เคียวยะ’ ปี 1 เด็กทุนห้องปฏิบัติ” เคียวยะผงกหัวเบาๆ
..พลันใดนั้นทั่วทั้งโรงก็เงียบกริบเป็นป่าช้า ทั้งหมดต่างจับจ้องมาที่เคียวยะ ไม่มีใครคิดว่าคนๆ นั้นคือเคียวยะ เคียวยะผู้มืดมน และปากเสียคนนั้นน่ะเหรอที่กลายเป็นเจ้าชายในฝันของใครหลานคน ..ไม่มีทาง แต่มีแต่ต้องเชื่อเท่านั้น
หญิงสาวจับจ้องมาที่เคียวยะด้วยแววตาที่ปิดบังความหลงใหลไว้ไม่ได้ เหล่าชายหนุ่มส่งสายตาอิจฉาและปลื้มในตัวเคียวยะกันหมด ..
ไอริสแอบแทงซอกลับๆ ใส่เคียวยะ—พลันใดนั้นเคียวยะจึงส่งยิ้มให้ทุกคน
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”
“กรี๊ดด!!!!”
“ดาเมจมหาศาล! ท่านเทพมาจุติรึนี่!? ”
สาวๆ ร้องลั่น ชายหนุ่มไม่ยอมเช่นกัน—–
“เคียวยะแกนี่มันหล่อเป็นบ้า!”
“อย่าทิ้งฉันนะเฟ้ยไอ้บ้า! อุตส่าห์คิดว่าเป็นสหายหน้าจืดเหมือนกันแล้วเชียว”
เคียวยะถอนหายใจเบาหวิวพลางคิดในใจแหงๆ ว่า (ใครเพื่อนพวกเอ็งฟร้ะ) ชัวร์ป๊าป
“..แล้วก็ในวันๆ นี้ฉันจะรับตำแหน่งคณะกรรมการนักเรียน ..อย่างเป็นทางการ”
ทั้งโรงพากันเงียบอีกรอบ—-ก่อนจะค่อยๆ ส่งเสียงเฮฮากัน
“ฝากด้วยละวีรบุรุษพิชิตเรเซอร์!”
“อยากถูกเคียวยะปกป้องไม่ไหวแล้วอ่า!”
“ช่วยเป็นไม้กันเรเซอร์ให้ทีนะ!”
“พวกเราอยู่ชมรมเดียวกันนะเห้ย! อย่าลืมพวกเราด้วยละ”
ทั้งหมดต่างส่งเสียงยินดีให้กับ ‘สามัญชนผู้ขึ้นมาเป็นคณะกรรมการนักเรียน’ ..ตามปกติไม่น่ามีคนยินดีขนาดนี้ แต่เพราะผลความดีที่ทำไว้เมื่อไม่นานมานี้ด้วย ทำให้เคียวยะเป็นที่ยอมรับของทุกคน ..แม้ว่ากระสอบทรายมันจะเป็นผมก็ตาม
พับผ่าสิ
“โอ๋ๆ นะ”
เบลลามีข้างๆ พึมพำปลอบผม
“มีเธอคอยปลอบไอ้ฉันยิ่งไม่มีสะทกสะท้านคำด่าหรอก”
“..ช่วยได้ก็ดีนะ” เบลลามียิ้มให้
ผมยิ้มตอบเธอก่อนจะส่งสายตาอวยพรให้กับเคียวยะ
****
งานเต้นรำสานสัมพันธ์ดำเนินมาถึงช่วงที่สองแล้ว
“ตื่นเต้นจังนะ”
“อือ”
พวกเราต่างจับจ้องไปบนเวทีเพื่อรอศิลปินขึ้นมาบรรเลงเพลง——-มาแล้ว แต่!
“ฮะ ฮาเก้น!? ”
เบลลามีซ้อนตามองผม
“คนรู้จักเหรอ? ”
“ปะ ประมาณนั้น ว่าแต่เจ้านั่นมาทำอะไรที่นี่เนี่ย..หรือว่า”
ฮาเก้นในสูทสีดำราคาแพง ผงกหัวเบาๆ ให้กับทุกคน หมอนั่นควงไวโอลินคู่ใจมาด้วย …เอาจริงดิ
“ยินดีที่ได้พบครับ กระผม ‘ฮาเก้น’ ในวันนี้จะมาบรรเลงเพลงให้ทุกคนทราบกัน” ฮาเก้นยิ้มอย่างเป็นกันเอง “เอาละนะครับ”
ว่าจบฮาเก็นจึงเริ่มบรรเลงเพลงที่สมบูรณ์แบบออกมาจากไวโอลิน เพราะมีเครื่องขยายเสียงคอยช่วยอยู่ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงเบาเกินจนคนไม่ได้ยิน
ยูจิถอนหายใจ ก่อนจะส่งมือไปทางเบลลามี
“ถึงคิวของพวกเราแล้วนะครับ”
ในฐานะเด็กทุนทั้งคู่ต้องไปเต้นเปิดงานพร้อมกับ ประธานนักเรียน และหัวหน้าคณะกรรมการนักเรียน
“อือ” เบลลามีจับมือยูจิและเดิมอย่างพร้อมเพรียงกัน ดูเก้ๆ กังๆ บ้างก็ไม่แปลก คนพึ่งฝึกนี่เนอะ
เบลลามีเล่ห์มองผมหน่อยก่อนๆ จะไปโฟกัสที่ยูจิ …ผมส่งยิ้มให้ทั้งสอง
“ว๊ายๆ เจอคนหึง 1 อัตราละ มีคนรับเยียวยาหัวใจมั้ยค้าบบบ” เรย์เห็นเลยรีบเข้ามาหยอกล้อตามภาษา
“หนวกหู แกเองก็ไปได้แล้ว คู่กับหนิงไม่ใช่ไง? ”
“แหม่ ก็จริงอยู่หรอกนา แต่ไอ้ฉันกลัวน่ะสิ ..กลัวว่าหนิงจะบีบแขนเตะขาฉันจนแหลก เพราะแรงอิจฉาต่อเบลลามีที่ได้เต้นกับยูจิน่ะนะ” เรย์ถึงกับไหล่ตก “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หล่อนน่ะแรงช้างสุดๆ เลย แรงเยอะกว่าฉันอีก”
แบบนี้นี่เอง
“แล้วจะเอาไง? ”
“ไปเต้นแทนฉันได้มั้ยละ? ” เรย์ยิ้มอย่างนึกสนุก
…บ้าบอจริง
“ไม่ได้นัดไว้นี่”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ตัวหนิงไม่ใส่ใจหรอก”
“แล้วคิดว่านักเวทย์แบบฉันจะรับแรงกายของหนิงได้รึไง? ”
“มีคนเคยพูดไว้นา ว่า ‘เรเซอร์ไม่มีทางแพ้หรอก’ ..หวังว่ามันจะจริงอย่างที่โม้ไว้นะ”
…ไอ้บ้านี่มันจริงๆ เลย ไปทำอะไรลับหลังผมกันนะ
“เข้าใจแล้ว” ผมแสยะยิ้มให้เรย์ “จะคิดว่ามันเป็นคำท้าละกัน เรย์”
เรย์เห็นดังนั้นก็พลางยิ้มอย่างพึงพอใจ
“เข้าใจอะไรง่ายดีนี่”
“ไม่ต้องบอกหรอกน่า …รอมาตั้งนานแล้วละ คำท้านั่น”
ผมโบกมือให้ และเดินเข้าสู่กลางเวทีเต้นรำ—–เพื่อท้าทายคำท้าแรกของเรย์