เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! - ตอนที่ 383
< < 238 > >
วิชาดาบที่ใช้โค่นเทพดาบได้ แค่การสวนกลับมันไม่พอ ไม่มีทางที่จะสวนกลับได้หากไล่ตามดวงดาวไม่ทัน ก่อนจะสวนกลับต้องไล่ตามให้ทันก่อน เพียงแต่ว่ามนุษย์ธรรมดาไม่มีทางไล่ตามแสงดาวได้หรอก ..เว้นแต่ว่าจะใช้เวลาเดินตามมันนับล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆปี ถ้ามีเวลามากขนาดนั้นอาจจะพอไล่ตามได้ทันก็เป็นได้ เพราะอย่างนั้น ..วิชาดาบที่อยู่เหนือกาลเวลาในปัจจุบันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้ไล่ตามได้ทัน
เรย์ คามาเลีย ได้ค้นพบเส้นทางสู่ยอดสุดของภูเขา ที่ต้องแลกกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองมีเพื่อไปให้ถึง—เรย์ คามาเลีย ยืนอยู่ในป่า และเอื้อมมือไปหยิบแสงดาวเอาไว้
แน่นอน ไม่นาน แสงดาวก็จะไปไกลกว่าที่เรย์ไปถึง เพราะมันไม่มีวันหยุด ต่างกับเรย์ที่ต่อให้ข้ามกาลเวลามากมายแค่ไหนก็ต้องหยุดลง เพราะไปต่อไม่ไหว
เหมือนกับสัจธรรมของชีวิต เรย์ยิ้มแย้มท่ามกลางป่ายามค่ำคืนที่แสงสว่างค่อยๆหายไปเรื่อยๆ
“เพราะอย่างนี้แหละนะ ..แค่หนึ่งนาทีก็พอแล้ว”
ไม่ใช่เพราะว่านาทีเดียวก็มากพอจะไปอยู่ในจุดเดียวกับแสงดาวได้ แต่เป็นเพราะว่าร่างกายนี้อยู่คู่กับแสงดาวได้เพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้นต่างหาก
เรย์มองแสงดาวที่ไกลออกไปด้วยความเคลิบเคลิ้ม และหลงใหล
****
ยูจิ และหนิง มองดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าที่หดหู่กันทั้งคู่
“..เจ้าบ้าเอ้ย ..ตายขึ้นมาจะทำยังไง ไม่สิ ต่อให้ไม่ตายก็ ..” หนิงหรี่ตามองหงุดหงิด
“บ้าบอจริงๆ”
“หลังจากจบการต่อสู้ไป เรย์ก็จะกลายเป็นคนเสียสติ จิตวิญญาณกำลังถูกทำให้บิดเบี้ยวขึ้นไปเรื่อยๆ เวลาคงจะเหลือแค่นาทีเดียว–”
กระนั้น ..ประกายแสงดาวจากหนึ่งจุดตอนนี้ก็ได้กลายเป็นสองจุด แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันอยู่ได้เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว แต่ว่าก็ยังน่าหลงใหลอยู่ดี
[ดาบประกายแสง] [ดาบประกายแสงดาว] และ [จันทร์เสี้ยวยามราตรี] กับ [ลำจันทร์เสี้ยว] ส่องสว่างยามค่ำคืนให้กลายเป็นแสงดาว การต่อสู้ด้วยสปีดที่ราวกับถูกเร่งเวลานี้นั้นน่ามหัศจรรย์เป็นอย่างมาก เทพดาบผู้รวดเร็ว และมนุษย์ที่ลำลายตัวเองเพื่อให้ไล่ตามได้ทัน
ก็เพราะว่าอยากที่จะชนะ
“ย๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!”
“ชิ!”
ก็เพราะอยากที่จะพิสูจน์ตัวเอง
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!”
“หมาบ้าเอ้ย!”
ไม่ได้อยากจะช่วยหรืออะไรขนาดนั้นหรอก บางทีความรู้สึกนั้นคงมีอยู่ในหัวของเรย์แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ประกายแสงดาบปะทะเข้าใส่กันอย่างงดงาม จังหวะการต่อสู้ดำเนินไปราวกับการแสดงโชว์ร่ายรำของคนสองคน ดาบมังกรเหล็กบรามุนต์ส่องสว่างผิดกับชุดเกราะที่ท่วมไปด้วยเลือด ดวงตาสีน้ำเงินใต้ชุดเกราะส่องสว่างเช่นเดียวกับตัวดาบ
ไม่ใช่แค่บรามุนต์เท่านั้นที่เปล่งประกาย จิตวิญญาณของเรย์ตอนนี้ก็เปล่งประกายไม่แพ้กับวิชาดาบของเทพดาบ
“ย๊ากกกกกกกก!!!!”
แค่อยากจะชนะเท่านั้น แค่อยากชนะก็แค่นั้น ไม่ต้องมีเหตุผลอะไรให้มากมาย แค่อยากชนะเทพดาบให้ได้ก็แค่นั้น!!
“มั่วซั้วไปกันใหญ่แล้ว”
การกระหน่ำแลกวิชาดาบไม่มีศิลปะใดๆทั้งนั้น ก็แค่ฟาดด้วยความเร็วที่เหลือล้น และสวนกลับด้วยการข้ามอนาคต สะท้อนความเร็ว สวนกลับกันไปมาเท่านั้น แต่เพียงแค่นั้นกูดูสง่างามราวกับศิลปะ
ความเร็วถูกบังคับให้เร่งขึ้นเรื่อยๆ เพดานของความเร็วสูงขึ้น สูงขึ้น และสูงขึ้น–สุดท้ายดาบของเทพดาบก็ตัดผ่านร่างของเรย์จนได้ วิถีดาบตัดผ่านหน้าท้องไปจนถึงใบหน้าและบิดไปทางหู เกราะบริเวณลำตัวไปจนถึงหน้าฝั่งซ้ายมีรอยแผลยักษ์ ปลายหูถูกตัดขาดในจังหวะสุดท้าย การข้ามเวลาไม่อาจตามความเร็วนี้ได้ทัน กระนั้นก็ปัดป้องที่จุดปลายทางได้ทันทำให้เร่งความเร็วดาบตัวเองได้เหมือนกัน เรย์ดีดร่างที่ควรจะล้มลงของตัวเองขึ้นมา อาศัยดาบของแกนน่อนที่เร็วที่สุดสวนกลับ แกนน่อนสวนกลับเหมือนกัน และ—
เพล้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ !!!!!!!!!!!
กระหน่ำดาบใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความเร็วที่จะเพิ่มขึ้นไม่มีวันหยุด ประกายดาวส่องสว่างยิ่งขึ้น และยิ่งขึ้น
ชีวิตกำลังเปล่งประกาย แกนน่อนมองดูใบหน้าของที่เปิดเผยในวินาทีที่ชุดเกราะระเบิดออก จิตวิญญาณภายใต้ดวงตามันช่างน่าอิจฉา
“นี่เหรอมนุษย์”
แกนน่อนพึมพำขึ้นมา ขณะที่เหวี่ยงดาบเข้าปะทะไม่หยุด ดาบของแกนน่อนก็หักลงในที่สุด จังหวะดาบต่อไปเรย์จะเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน เพราะเธอได้สูญเสียดาบในมือไปเป็นที่เรียบร้อย
“ส่องสว่างแม้เพียงชั่วพริบตาเดียว”
วิเศษจริงๆ
……..
……ทว่า ฉากต่อไปก็มาไม่ถึง
โลกใบนี้หยุดนิ่งลง การประดาบที่ราวกับแสงดาวหยุดนิ่งลง
เทพดาบแกนน่อนยืนอยู่บนโลกใบนี้ พร้อมกับเกรย์ซึ่งยืนเท้าสะเอวหันหลังให้
“..นี่คือสิ่งที่อยากจะให้เห็นเหรอ?”
“……”
“เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ ถึงให้เรย์เป็นผู้ท้าทายข้านั้นรึ”
“…..”
“เกรย์ ข้าไม่เข้าใจอะไร ทุกสิ่งทุกอย่าง ข้า ..ไม่รู้กระทั่งความรู้สึกที่แท้จริงของเจ้าด้วยซ้ำ หากเจ้าหนูนั่นไม่มาบอก ใจจริงของเจ้าก็ไม่มีทางมาถึงข้า”
“นั่นสินะ ก็เพราะท่านอาจารย์น่ะซื่อบื้อนี่นะ”
เกรย์หันหลังกลับมา เผยให้เห็นใบหน้าของเกรย์ในยามหนุ่ม เป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาที่มีร่างกายสมกับเป็นนักดาบ เพราะปรากฏตัวในวัยหนุ่ม ทำให้วิธีเรียกเธอหรือวิธีพูดแตกต่างกับตอนแก่เล็กน้อย
“ท่านอาจารย์น่าจะรู้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ น่าจะสัมผัสได้อยู่แล้วว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ..ไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาเสียขนาดนั้นสักหน่อย ไม่มีทางที่ท่านจะไม่รู้หรอก เป็นเพราะท่านปกปิดใจจริงของตัวเองเอาไว้ต่างหากเล่า เหมือนกับที่ท่านแช่แข็งหัวใจของตัวเอง”
“ปกปิดเอาไว้ ..แช่แข็ง ..นั้นหรอกเหรอ”
“เออสิ ท่านไม่ใช่เครื่องจักรสังหารหรืออะไรทั้งนั้น เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่แรกเดิมที เพราะเป็นมนุษย์มาก่อนมันถึงมีขั้นตอนการแช่แข็งหัวใจตัวเองมาให้ด้วยถึงจะถูก”
เกรย์มักจะพูดมั่วนิ่มเสมอ แกนน่อนพอจะรู้ว่าเกรย์ตอนนี้ก็กำลังพูดไปเรื่อยไม่ต่างกับทุกที หากว่าเป็นมนุษย์ปกติ ต่อให้ปกปิดจิตใจของตัวเองเอาไว้อายุขัยก็ยังจะเดินไปต่อ แต่แกนน่อนกลับไม่ใช่อย่างนั้น ..ยังไงซะเธอก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นมนุษย์ไม่ได้อยู่ดี ก็มนุษย์น่ะ ..มันต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่รึไง?
บนโลกที่หยุดนิ่งลง สะท้อนให้เห็นภาพของเรย์ที่ทั้งกู่เสียงร้อง และหัวเราะร่า แล้วยังมีน้ำตาไหลออกมาอีก
“ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่ข้ามี ข้าไม่ใช่มนุษย์หรอก”
“ถ้าหากผมบอกว่าชอบท่านอาจารย์ตรงๆจะเป็นยังไงนะ”
“…เขินอาย? เฉยชา? ไม่รู้สิ อาจจะรำคาญก็ได้”
“ความรู้สึกเนี่ยเข้าใจยากจริงๆเนอะ” เกรย์หัวเราะกลบเกลื่อน “เช่นนั้นก็ลองหาคำตอบดูสิครับว่าท่านรู้สึกยังไงกันแน่”
โลกที่หยุดนิ่งลงค่อยๆละลายไปทีละนิด…….
“วินาทีที่ท่านถูกมนุษย์ธรรมดาโค่นล้ม ถึงตอนนั้นกระมังคำตอบจึงจะโผล่ออกมา”
เช่นเดียวกับหัวใจที่หยุดนิ่งลง เกรย์หายไปกับความว่างเปล่า บนมือของแกนน่อนคว้าดาบเล่มหนึ่งเอาไว้ เป็นดาบสีขาวที่ไร้รูปร่างชัดเจน
แกนน่อนตั้งท่าดาบเล่มนั้นแหละเหวี่ยงเข้าใส่เรย์—-
ปรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หัวใจกลับมาเดินอีกครั้ง ดาบที่แท้จริงจึงปรากฏขึ้นมา ณ ที่แห่งนี้ ดาบสีขาวที่ส่องประกายเล่มนั้นเข้าปะทะกับดาบมังกรเหล็ก และส่องสว่างพื้นที่ ณ ตรงนีเให้กลายเป็นโลกสีขาว
“อย่าคิดว่าจะชนะกันได้ง่ายๆเชียว ศิษย์แห่งเกรย์— เรย์ คามาเลีย !!!!!”
“จะก้าวข้ามให้ดู เทพดาบแกนน่อน!!!!!”
ไม่ใช่แค่เรย์ที่กู่ร้องสุดเสียง แกนน่อนเองก็ด้วย
“ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!”
“โอ้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ประกายแสงดาวส่องสว่างมากยิ่งกว่าเดิม ดาบมังกรเหล็ก ปะทะเข้ากับดาบที่แท้จริงของแกนน่อน
หนึ่งนาทีส่องสว่างราวกับนิรันดร์ แต่ไม่ใช่ เพราะอย่างนั้น
ไม่นาน ตอนจบก็มาถึง
จังหวะสุดท้ายของการปะทะ ดาบมังกรเหล็กเสียดสีกับดาบที่แท้จริง และ–ทะลุผ่านเข้าไป เรย์ถีบตัวเองส่งร่างเข้าประชิด และ …….
…………………..
…………
ดาบจ่อที่ปลายคอของแกนน่อน เลือดไหลฉิบออกมาจากลำคอ เธอแหงนหน้าขึ้นฟ้าเพราะถูกปลายดาบชี้เอาไว้ ..ร่างของเรย์ติดกับร่างของแกนน่อน ศอกที่เฉียงข้างเอาไว้ติดกับหัวใจของแกนน่อน
ขยับไม่ได้ หากขยับจะถูกดาบเล่มนั้นสะบั้นคอทิ้ง ..ดาบที่แท้จริงของแกนน่อนค่อยๆดับหายไปในไม่ช้า กระนั้น
“ฮะๆ ได้ยินชัดเลยละ ..เสียงของหัวใจ”
ต่อให้ไม่มีดาบที่แท้จริงก็ตาม?
“อือ ..เหมือนจะใช่ ..ใช่เลยละ” แกนน่อนหัวเราะพึมพำ “ต่อให้ไม่ต้องใกล้ตาย หัวใจดวงนี้ก็ยังเต้นอยู่ไม่มีหยุด”
แกนน่อนหรี่ตาลงช้าๆ และพูดขึ้นด้วยเสียงที่เบาหวิว
“เธอคือผู้ชนะ เรย์ คามาเลีย”
เรย์คือผู้ชนะ—ชนะเทพดาบได้แล้ว เมื่อรู้อย่างนั้นเรย์ก็ทรุดลงไปกับพื้น เกราะมังกรเหล็กบรามุนต์แยกออกจากกัน เผยให้เห็นร่างกายที่ท่วมไปด้วยเลือด และแผลขนาดใหญ่มากมาย เรย์หายใจหอบเสียงดัง ฝืนลืมตาเพื่อไม่ให้ตัวเองหลับ ความเหนื่อยล้ามากมายทาโทมเข้าใส่ในทีเดียว ถึงอย่างนั้นก็ยังหัวเราะไม่หยุด
“ฉันเหนือกว่าเทพดาบแกนน่อน ..มนุษย์ธรรมดาอย่างฉันเนี่ย-สุดๆไปเลยใช่รึเปล่านะ!?”
เห็นท่าทางดี๊ด๊าอย่างนั้น แกนน่อนก็อดยิ้มให้ไม่ได้
“ถึงชนะข้าไปก็ไม่มีเรื่องให้น่าภาคภูมิใจหรอกนะ”
“ทำไมจะไม่เล่า ชนะเธอได้เลยนะ น่าภูมิใจจะตายไป ฮ่าๆๆๆๆๆ เธอเองก็เถอะ หัดภูมิใจในตัวเองซะบ้าง ท่านอดีตเทพดาบ”
คำพูดชวนยัวะ และรอยยิ้มของผู้ชนะที่ดูมีสเน่ห์เวลานี้ทำให้ใบหน้าของแกนน่อนร้อนขึ้นมาจางๆ
“เหรอ ..แต่ว่าช่วงเวลานั้นคงอยู่ได้เพียงแค่ครู่เดียว”
ตั้งแต่วินาทีที่เรย์ได้กลายเป็นเทพดาบ นักดาบจากทั่วสารทิศที่เก่งกว่าเรย์หลายคนคงจะมาลุมตอมเรย์ คาดว่าไม่นานก็น่าจะโดนชิงตำแหน่งไปง่ายๆแน่นอน
“แล้วมันทำไมกันเล่า บอกแล้วไงว่าแค่นาทีเดียวก็พอแล้ว แค่นาทีเดียวก็มีค่ากับฉันมากเกินพอแล้ว”
“…นั้นเหรอ”
แกนน่อนนึกย้อนไปถึงคำถามของเกรย์ จะรู้สึกยังไงถ้าหากโดนบอกรักขึ้นมา ..ตัวเธอ หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองเป็นเพียงผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่งถูกบอกรัก จะรู้สึกอย่างไรกันแน่
“บางที อาจจะรู้สึกดี”
ยังไงซะ ต่อให้คิดว่าไร้ค่า หรือไร้ค่าจริงๆหรือไม่ มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์ ชายหนุ่มหรือหญิงสาวก็ยังเป็นชายหนุ่มและหญิงสาว ..หากถูกรักก็ย่อมรู้สึกดีเป็นธรรมดา
“พอใจแล้วหรือยัง เกรย์ ไม่สิ ..พอใจแล้วหรือยังนะ ซิกฮาร์ด”
‘พอใจสุดๆเลยละ’
เสียงของวิญญาณแว่วเข้าหูซ้าย แต่ไม่ได้ทะลุหูขวา แกนน่อนสัมผัสหูของตัวเอง จดจำน้ำเสียง จินตนาการถึงการขยับปาก และอมยิ้มอย่างมีความสุขเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี อย่างกับว่าตัวเองได้กลับไปเป็นเด็ก ในช่วงเวลาที่หลงลืมไปแล้ว ช่วงเวลาที่แม้แต่ดาบยังไม่เคยมีโอกาสได้เห็น
“ขอบคุณนะ ซิกฮาร์ด”
ได้ยินคำขอบคุณนั้น เรย์ก็ยิ้มให้ก่อนที่ร่างจะล้มลงไปกองกับพื้นตามสภาพ ยูจิและหนิง เพื่อนของเรย์วิ่งมาดูอาการ ส่วนแกนน่อนก็มองใบหน้าของเรย์ยามหลับ พลางใช้มือสัมผัสหัวใจของตัวเอง
“ยังเต้นอยู่จริงๆด้วย”
แกนน่อนได้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ด้วยน้ำมือของมนุษย์ธรรมดา เธอถูกมนุษย์ธรรมดาดึงสู่จุดตกต่ำไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะมองอย่างไร มันก็ไม่น่านับว่าเป็นการช่วยเหลือได้แต่อย่างไร ถึงอย่างนั้นสำหรับแกนน่อนแล้ว มันคือการช่วยเหลือ
น้ำแข็งไม่ได้ถูกละลายด้วยความหวาดกลัวชั่วขณะหนึ่ง หากแต่ถูกละลายด้วยวิถีดาบ ..บางที ดาบอาจจะสวยงามมากกว่าที่คิด
“เรย์ ..ขอบคุณนะ”
น่าเสียดายที่แกนน่อนตอนนี้ไม่อยากจะจับดาบอีกต่อไปแล้ว