เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! - ตอนที่ 382
< < 237 > >
ชีวิตที่ใกล้จะดับลง พร้อมกับวิญญาณที่หลุดออกจากร่างทีละนิด สมองที่สั่นสะเทือน ความรู้สึกไม่อยากตายมากมายซึ่งจะไหลเข้ามาในสมอง อายุขัยที่เดินต่อไปแม้ว่ากำลังจะตาย คิดว่านี่คือการตายของมนุษย์ธรรมดา
ชีวิตที่ไร้ค่านี้ อย่างน้อยๆก็อยากตายเยี่ยงมนุษย์ อยากจะให้หัวใจดวงนี้กลับมาเต้นอีกครั้งและตายไปพร้อมๆกันอย่างที่มนุษย์ควรจะเป็น เพราะอย่างนั้นจึงจะตายด้วยวิธีปกติไม่ได้เด็ดขาด
ตัวของข้าเองก็อยากจะเป็นมนุษย์เหมือนกัน ..หลังจากทำเรื่องไม่สมเป็นมนุษย์ลงไป จึงได้ออกเดินทาง พบเจอกับผู้คนมากมาย และหวังว่าเศษชีวิตเล็กๆบนโลกใบนี้สักชีวิตที่คว้าเอาไว้ได้จะช่วยทำลายชีวิตนี้ที
แต่ว่า ในบทสรุปก็ไม่มีเลยสักคนเดียว แม้แต่ ผู้กล้ารุ่นแรก แอสทอเรียส หรือว่าเอเธอร์ในปัจจุบัน ผู้ไร้ความรู้สึกคนนั้นก็เลือกจะไม่ฆ่าทั้งๆที่ชนะข้าในขณะที่ทำให้ความรู้สึกกลับมาได้แล้ว
จึงได้ออกตามหาต่อไปเรื่อยๆ ยุคสมัยผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
อายุขัยนี้ที่มีไม่ต่างกับมนุษย์คนอื่น มันกลับนำพาข้าข้ามผ่านยุคสมัยได้ เพราะหัวใจถูกแช่แข็งเอาไว้
ผ่านผู้คนมามากมาย ลูกศิษย์ ศัตรู หรือว่ามิตรเองก็มีอยู่มากมาย แต่สุดท้ายมันก็เหมือนเดิมนั่นแหละนะ ผ่านมาและผ่านไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีใครเลยสักคนเดียวที่จะมาเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวข้า
แน่นอนว่าครั้งนี้เองก็เหมือนกับทุกๆครั้ง
เกรย์ ..หรือที่แต่เดิมมีชื่อว่า ‘ซิกฮาร์ด’ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แต่เหมือนว่าข้าจะเผลอไปฆ่าพี่สาวของเด็กคนนี้เลยโดนตามมาแก้แค้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอตลอดรอบยี่สิบปี มันจะลงเอยโดยการที่ทั้งผู้ถูกฆ่าและผู้ล้างแค้นก็ต่างโดนข้าสังหารทิ้งเสมอ แต่ครั้งนี้ต่างออกไป
อย่างไรก็ไม่รู้ ซิกฮาร์ดได้เปลี่ยนชื่อเป็นเกรย์ และออกเดินทางไปพร้อมกับข้าในฐานะลูกศิษย์
ได้ออกเดินทางถึงได้รู้ว่าซิกฮาร์ดแตกต่างกับคนอื่น ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตรงไหน แต่ ..ยากจะเข้าใจ
ซิกฮาร์ดเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แข็งแกร่งและฉลาด จริงจังกับความปารถนาของข้าถึงขนาดไปคิดค้นวิชาดาบที่จะใช้โค่นข้ามาด้วยตัวเอง ในที่สุดก็สร้างตำนานโค่นมังกรเหล็กบรามุนต์ได้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของวิชาดาบจันทร์เสี้ยว
วันหนึ่งข้าคิดว่าซิกฮาร์ดคงจะแกร่งพอจะสู้กับข้าได้แล้ว จึงได้ท้าประลอง ทว่ากลับถูกปฏิเสธ ซิกฮาร์ดกล่าวว่าร่างกายของตนเองตอนนี้ไม่ปกติ เพราะผสานเป็นหนึ่งเดียวกับดาบมังกรเหล็กบรามุนต์มากเกินไป สภาพตอนนี้ไม่มีทางสู้ชนะข้าได้ ..แต่ก็ยังขอออกเดินทางไปด้วยอยู่ดี
ยากจะเข้าใจ
วันเวลาผ่านไปเหมือนกับทุกที ตัวข้าที่เข้าใจว่าเกรย์แตกต่างกับคนอื่นก็ยังไม่ทราบอยู่ดีว่าอะไรกันนะที่ต่างกันออกไป ..จนกระทั่งได้มาพบกับ เรย์ คามาเลีย นักดาบอัจฉริยะที่พบเห็นได้เดือนละคนเป็นอย่างต่ำ
เกรย์คิดจะเอา เรย์ คามาเลีย มาเป็นลูกศิษย์ ..เด็กที่ต่อให้พยายามทั้งชีวิตก็ไม่มีทางไปไกลเกินกว่านักดาบขั้นบรรลุทั่วๆไปคนนั้นน่ะเหรอ? ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ทั้งตัวของเกรย์ หรือตัวของเรย์เองก็ด้วย
‘จะโค่นเทพดาบแกนน่อน’
กล้าพูดออกมาแบบนี้ซะได้นะ ..สิ่งที่ทำให้มั่นใจขนาดนี้คงจะเป็น—เบื้องหน้าของข้ามีลมกรรโชกมหาศาล นอกจากนั้นยังมีนักดาบในร่างของมังกรเหล็กปรากฏตัวส่องประกายแสงสะท้อนของชุดเกราะยามราตรี
“ [เกร็ดมังกร]-[บรามุนต์] ”
“ออกมาจนได้นะ ..เกรย์นี่คือสิ่งที่ต้องการสินะ”
ข้าได้แต่คิดว่ามันคงจะดีกว่านี้ถ้าเกิดเกรย์เป็นผู้สวมเกราะนี้มาท้าทายกับข้าน่ะนะ .. เรย์ คามาเลีย อ่อนแอเกินไป—ไม่มีทางทำให้ข้าเรียกมันออกมาได้
ข้าตั้งท่าดาบ และเริ่มเอาจริง
****
เกราะมังกรเหล็กบรามุนต์จะยกระดับผู้ใช้ไปอีกขั้นหนึ่งของสิ่งมีชีวิต พลังกาย ความทนทาน ประสาทสัมผัส จะถูกยกระดับให้อยู่ในระดับของมังกรในตำนาน นอกจากนั้นยังมีการเร่งขีดจำกัดร่างกายชั่วครู่หนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นถูกบันดาลได้ด้วย ‘ดาบมังกรเหล็ก’ ‘บรามุนต์’ หนึ่งในเจ็ดสิบสองอาวุธทลายโลกา
เรย์ตั้งท่าดาบมังกรพลางกำมันไว้อย่างหนักแน่น
“ในที่สุดก็คิดจะเอาจริงสักทีนะ”
“…”
แกนน่อนไม่ตอบ เรย์จึงก้าวเข้ามา–อย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนออกดาบอย่างพร้อมเพรียงกัน และก่อให้เกิดประกายดาบขั้นมากมายนับไม่ถ้วน
เพร้งๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!
ความแรงของดาบอยู่ในระดับที่ทัดเทียมกัน แม้ว่าแกนน่อนจะเอาจริงแล้วก็ตาม ทว่าหอกมองลึกลงไปมันก็ไม่ได้แปลกอะไรเลย กับดาบสั้นเกรดดีทั่วๆไป กับดาบเกรดระดับอาวุธทลายโลกา แล้วยังร่างกายที่หุ้มด้วยเกราะมังกรเหล็กอีก ทำให้ตอนนี้ในด้านความรุนแรงของดาบทัดเทียมกันแล้ว
อย่างไรก็แล้วแต่ ทั้งหมดก็แค่ภาพมายาเท่านั้น เกิดขึ้นได้เพียงเพราะอาวุธที่เกรย์เหลือทิ้งไว้ให้เท่านั้น
ไม่นาน ความห่างชั้นของวิชาดาบก็ผุดให้เห็น
ต่อให้แรงดาบเท่ากัน แต่แกนน่อนก็ชำนาญและเร็วกว่ามาก–หลายจังหวะที่ดาบหลุดเข้าไปฟันได้ แต่ลำพังการลงดาบธรรมดาไม่อาจทำอะไรเกราะมังกรเหล็กได้ แกนน่อนจึงลับประสาทสัมผัสตัวเอง และใช้วิชาดาบออกมาเป็นครั้งแรก
“ [ดาบประกายแสง] ”
“ [ลำจันทร์เสี้ยว] !! ”
ไม่ยากที่จะจับจังหวะได้ เรย์สวนกลับกาณโจมตีด้วยวิชาดาบในอึดใจเดียว วิถีดาบลอยผ่านหน้าของแกนน่อนไป เธอเอียงตัวหลบ และเปลี่ยนจังหวะเป็นการกระหน่ำฟาดฟัน เรย์ปรับจังหวะตาม พุ่งไปหาแกนน่อนในระยะที่ดีที่สุดจากการวิเคราะห์มาอย่างยาวนาน จากนั้นก็
“ [จันทร์เสี้ยวย้อนกลับ] ”
วิถีดาบแกนน่อนหยุดลงโดยอัตโนมัติ จันทร์เสี้ยวย้อนกลับซึ่งสามารถสละการโจมตีอีกฝ่ายได้ทำให้แกนน่อนเสียจังหวะ
จังหวะการใช้วิชาดาบดำเนินไปอย่างลงตัว ใช้วิชาดาบที่ชนะทางแก้ทางดาบของแกนน่อน แทนที่จะกลบด้วยฝีมือที่เหนือกว่า ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ นั่นคือวิธีสู้ที่เรย์เลือกจะใช้โค่นแกนน่อน
แต่ว่าทุกอย่างมีจังหวะในตัวของมันเอง เรย์ที่สามารถอ่านจังหวะของแกนน่อนได้จำเป็นต้องมีประสบการณ์มากกว่านี้ ถ้าอย่างนั้นทำไมกัน–เป็นเพราะการฝึกฝนกับพาโว การจำลองสถานการณ์นับพันๆครั้งในสามวัน ทำให้หัวของเรย์ตอนนี้มีแต่เรื่องของดาบเท่านั้น
เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเครื่องจักรที่คิดเป็นแต่ดาบ คือทางเลือกสุดท้ายที่จะไล่ตามประสบการณ์ที่ขาดไปได้
“ย๊ากกก!!”
ทว่า
แกนน่อนหรี่ตามอง สูดลมหายใจเข้าปาก และ–
“ [ดาบประกายแสงดาว] ”
วิชาดาบที่เร็วและรุนแรงที่สุด ต้นกำเนิดของดาบประกายแสงพุ่งตัดผ่านกลางเกราะของเรย์ เพียงแค่เสี้ยววิเดียว
“อะ ..อ๊ากกก!!!!”
เกราะมังกรเหล็กของเรย์แยกออกจากกัน เลือดพุ่งมาจากร่าง เสียงร้องดังสนั่นในอึดใจเดียว
สุดท้ายต่อหน้าเทพดาบ การยกระดับตัวเองเพียงแค่นั้นก็ไม่มากพอ แกนน่อนเก็บดาบเข้าฝัก ก่อนจะหันไปมองร่างที่ทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างหมดรูป ..เรย์กัดฟันกรามแน่น พยายยามหายใจอย่างสุดความสามารถ และคุมสติตัวเองให้พอจะหันไปมองแกนน่อนได้
ทั้งยังคงดันทุรังจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“จะโค่นเทพดาบให้ได้ จะโค่นข้าให้ได้ เรื่องพวกนี้สำหรับเธอก็เป็นได้แค่ภาพลวงตาเท่านั้นแหละ ขีดจำกัดในฐานะมนุษย์ยังมีอยู่ พรสวรรค์ในแบบของมนุษย์ไม่สามารถก้าวข้ามข้าไปได้ หากจะโค่นข้าก็จงนำพาสัตว์ประหลาดมาซะ ..เอเธอร์ จอมมาร ยูจิ ยูนา เรเซอร์ ดราแคล์ เท็งงุ เบ็นจิโร่ หรือกระทั่งเทพมังกร..ต้องเป็นพวกที่ก้าวข้ามเขตุแดนของมนุษย์ไปแล้วเท่านั้น” แกนน่อนชี้ดาบเข้าใส่เรย์ สะท้อนให้เห็นภาพของผู้อ่อนแอที่หมดสภาพ “อย่างน้อยๆ มันต้องไม่ใช่มนุษย์อย่างเธอ”
“..เจ็บ ..เจ็บโคตร ฮะๆๆ”
หัวเราะเสียอย่างนั้น เรย์ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า
“เกรย์น่ะเคยบอกเอาไว้ ว่าคนที่ต้องโค่นเทพดาบต้องเป็นคนอย่างฉันถึงจะถูก ..ไม่สิ คนที่จะเอาชนะแกนน่อนได้ ต้องเป็นคนอย่างฉันที่หาได้ทั่วไปเท่านั้น”
เพ้อฝันทั้งศิษย์และอาจารย์
“..เธอที่ปารถนาจะสัมผัสความเป็นมนุษย์ที่สุด ต้องถูกโคตรจะมนุษย์ธรรมดาดึงลงสู่พื้นดินเท่านั้นน่ะนะ” ว่าแล้วเรย์ก็หัวเราะเป็นเม็ดเลือด “ให้พวกสัตว์ประหลาดตัดหน้ามาชนะเธอไม่ได้หรอกนะ แกนน่อน เพราะต่อให้ชนะไปมันก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
…..
“จงกลืนกิน …ออกมาซะ”
เรย์ยกดาบมังกรเหล็กขึ้นฟ้า และปักลงพื้นอีกครั้ง
“ไม่ว่าจะอะไรก็จะแลก ..”
กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
มังกรเหล็กโผล่มาเขมือบร่างของนักดาบหนุ่มอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่เกราะมังกรเหล็กได้ส่องสว่างไปทั่วทั้งยามราตรี
“ฉันจะโค่นเทพดาบให้ดู!”
สายลมพัดผ่านสองนักดาบ นักดาบร่างมังกรเหล็กเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มีสิ่งใดปลิวไปกับสายลม
“..เรย์ คามาเลีย ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่”
เทพดาบแกนน่อนดวงตาเบิกกว้าง ปากขมิบเข้าหากันด้วยความรู้สึกใดกันแน่ก็ยากจะทราบ
“คิดจะขายร่างกายให้กับมังกรเหล็กรึไงกัน?”
“บอกแล้วไงว่าไม่ว่าสิ่งใดก็จะแลก”
“ต่อให้ต้องขายร่างกายพร้อมจิตวิญญาณให้แก่มังกรในดาบเล่มนั้นน่ะเหรอ!?”
“เออสิฟร้ะ!!”
กล่าวจบ เรย์ก็ถีบตัวเองพุ่งเข้ามา—-แกนน่อนก้าวเท้าถอยหลัง สร้างจังหวะและระยะที่เหมาะสม ก่อนจะเปล่งประกายแสงของดาบด้วย [ดาบประกายแสงดาว] อีกครา แต่ครั้งนี้คือการกระหน่ำโจมตีด้วยวิชาดาบบ้าบอนี่ แกนน่อนจัดจุดการเคลื่อนที่ของร่างกายให้สมบูรณ์แบบ และเหวี่ยงดาบเข้าใส่
“ [—-]”
เพล้ง!!!!!
“—หา?”
ดาบประกายแสงดาวไม่สามารถฝ่ามาถึงร่างของเรย์ได้ วิถีดาบถูกหยุดไว้ด้วยวิถีดาบ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่เรย์จะเคลื่อนไหวตามดาบประกายแสงดาวให้ทันได้
เรย์ก้าวเข้ามา แกนน่อนก้าวถอยหลัง และเหมือนเดิม
“ [—-]”
วิถีดาบปะทะเข้าใส่กันจนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากสเก็ดการปะทะกันของโลหะ [ดาบประกายแสงดาว] ส่งไปไม่ถึง แกนน่อนหน้าซีดเธอก้าวถอยหลัง หลบจังหวะดาบต่อจากนี้อย่างง่ายๆ ประเมินว่าทั้งหมดไม่มีทางเร็วกว่าดาบประกายแสงดาวได้ จึงใช้วิชาดาบซ้ำอีกครั้งแต่ก็
“ [ดาบประกายแสงดาว] ”
“ [—-]”
เพล้ง!!!! เหมือนเดิมอีกแล้ว
การลงดาบไม่ได้เร็วกว่าเลย แล้วทำไมกัน—แกนน่อนเลือกจะถอยหลัง สัญชาตญาณบางอย่างบอกให้ถอยหลังจนกว่าจะมองการโจมตีของเรย์ออก เรย์พุ่งเข้ามา แกนน่อนไม่มีทางเลือกนอกจากสวนกลับ–
“ [—-]” เพล้ง!!!! เหมือนเดิม และ เรย์หมุนตัวสุดแรงเกิด “ [ลำจันทร์เสี้ยว]”
ดาบประกายแสงดาวที่ปะทะเข้ากับดาบ ถูกลำจันทร์เสี้ยวดึงพลังทุกอย่างออกมาให้กับตัวเอง แกนน่อนกัดฟันกรามแน่น และเคลื่อนตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ย๊ากกกกกก!!!!”
“!!!”
เพล้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ดาบปะทะเข้าชนกันค้างเอาไว้ โดยที่ผิวของดาบนั้นสัมผัสแก้มของแกนน่อนจนมีเลือดไหลออกมา …แกนน่อนหน้าซีด ไม่อยากจะเชื่อสายตาในสิ่งที่เกิดขึ้น กระนั้นดวงตาของเธอและของเรย์ก็ได้ประสบพบเจอกัน ภายใต้ชุดมังกรเหล็กสะท้อนให้เห็นดวงตาที่แท้จริงของเรย์
“..สั่นกลัวอยู่สินะ แกนน่อน”
“…..”
“นี่แหละสิ่งที่ฉันเตรียมไว้มาเพื่อโค่นเธอ ..”
เลือดซึมไหลออกมาจากชุดเกราะมังกรเหล็ก เป็นปริมาณมหาศาลจากการฝืนร่างกายใช้เกราะนี้ซ้ำอีกครั้ง ทำให้ร่างกายของเรย์เคลื่อนไหวได้ทั้งๆที่ไม่ควรจะเคลื่อนไหวได้แล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะเกราะบรามุนต์ที่บังคับให้เรย์เคลื่อนไหวตามใจที่ผู้ใช้งานปารถนาได้
เสียงหัวเราะของเรย์ ทำให้แกนน่อนตัวสั่น เธอไม่ได้หวาดกลัวในพลัง แต่หวาดกลัวในบางสิ่งอยู่ลึกลงไปในหัวสมองของเรย์ตอนนี้ ..คนๆนี้คิดจะแลกชีวิตของตัวเองจริงๆด้วย
“วิชาดาบจันทร์เสี้ยววิชาใหม่ .. [จันทร์เสี้ยวยามราตรี] ” เรย์พูดไปหัวเราะไปอย่างกับคนบ้า “เพราะดวงจันทร์มันจะส่องสว่างที่สุดในตอนกลางคืนยังไงละ ต่อให้เป็นแค่จันทร์เสี้ยวก็เถอะ!!”
พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย แกนน่อนถีบเรย์จนปลิว จากนั้นก็กระหน่ำอัดวิชาดาบเข้าใส่เรย์—เพล้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ !!!!!!!!! ทุกอย่างถูกปัดป้องไว้ได้ และสวนกลับ แกนน่อนถีบตัวหลบ ถอยออกหากจากเรย์นับสิบเมตร
“ฮะ ฮะ.. ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“..วิชาดาบที่เร็วกว่าดาบประกายแสงดาว ..ไม่ใช่ ..ไม่ใช่อย่างนั้น” แกนน่อนถอนหายใจเฮือกโต “วิชาดาบที่ตัดผ่านอนาคตได้นั้นเหรอ?”
ถ้าหากไล่ตามยังไงก็ไม่มีทางทันเทพดาบได้ ก็สู้ไปสร้างวิชาดาบที่ทำให้ตามเทพดาบได้ก็พอแล้ว เหมือนกับที่เกรย์เคยทำวิชาดาบเพื่อสวนกลับแกนน่อน เรย์ก็กำลังทำเหมือนกัน วิชาดาบที่จะทำให้สวนกลับแกนน่อนได้ทุกๆครั้ง ..วิชาดาบที่มีไว้เพื่อโค่นเทพดาบโดยเฉพาะ
แกนน่อนถึงกับเหงื่อตก เธอหรี่ตามองเรย์ที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ..ไม่ใช่สภาวะตามปกติ เรย์กำลังจะกลายเป็นบ้าจริงๆแล้ว ทั้งดาบมังกรเหล็กบรามุนต์ที่ใช้งานเกินขีดจำกัด ทั้งวิชาดาบบ้าๆที่กินภาระสมองมหาศาล
“กำลังจะกลายเป็นคนบ้าที่เสียสติจากวิชาดาบของตัวเอง ..เกรย์ ลูกศิษย์ของเจ้านี่มันโง่ไม่ต่างกับเจ้าเลย แต่ว่า ..ก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ดีสินะ”
“เทพดาบแกนน่อน ในที่สุดฉันคนนี้ก็จูนทุกอย่างให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้แล้ว!!”
เรย์ชี้ดาบเข้าใส่
“เตรียมตัวเตรียมใจจะแพ้ได้เลย!”
“..โง่จริงๆเลยนะ”
แกนน่อนตั้งท่าดาบ เพ่งสมาธิทั้งหมดให้แก่ เรย์ คามาเลีย ชายที่ทิ้งทุกอย่างของตัวเองเพื่อเวลาบนยอดสุดของภูเขาเพียงอึดใจเดียว—เรย์ตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะดูถูกได้อีกต่อไปแล้ว