เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! - ตอนที่ 284
< < 181 Sec1 > >
แม้จะมีพลังที่เหนือกว่าทุกสรรพสิ่ง แต่เรนก็ยังคงเป็นเรน จอมขี้ขลาดแห่งยุคสมัย ผู้อ่อนแอที่ลุกขึ้นสู้กับโชคชะตาจนกระทั่งคว้าพลังแห่งเทพมังกรมาได้ แต่ก็ไม่อาจลบรากเหง้าจิตใจของตัวเองออกได้โดยสมบูรณ์
ทักษะการต่อสู้สุดห่วยแตกที่ถูกอ่านได้ง่ายดายโดยยอดนักรบ ความประมาทและหยิ่งยโสในพลังอำนาจที่ตัวเองถือครอง ทำให้เรนเกือบจะเป็นผู้แพ้ในพริบตาเดียว และความจริงที่ว่าตัวเองเกือบจะตายนั้น-ก็สลักลึกลงไปในจิตใจ จนทำให้เรนหวาดกลัวต่อ ‘ไรเดน อาคาสะ’ ขึ้นมาทันที
โดยปกติ เรนจะไม่กลัวตาย เขากลัวที่จะไม่ประสบความสำเร็จในแผนการณ์ แต่คราวนี้ต่างออกไป เขากลัวตาย เพราะความตายของเขาเท่ากับการสูญสิ้นซึ่งทุกๆอย่างที่ทำมา
“เป็นไปไม่ได้ ..เป็นไปไม่ได้ ..ผมคือเทพมังกร เทพแห่งจุดเริ่มต้น ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด ต่อให้อยู่ในร่างที่ไม่สมบูรณ์ก็มีพลังพอจะจัดการพวกแกทุกคนได้ แต่ว่า..ทำไมผมถึง-ถูกเจ้าหมอนั่นทำให้กลัวได้ง่ายๆกัน!”
“เนื้อแท้ของแกก็แค่มนุษย์คนหนึ่งนั่นแหละ จะกลัวก็ไม่แปลก”
ผมลงไปเดินข้างๆไรเดนบนผิวน้ำ ปกคลุมยอดนักรบด้วยวิหคอมตะ จากนั้นก็เอ่ยกับเรน
“ความตายมันน่ากลัวพอรู้ว่าทุกอย่างที่ทำมามันจะจบเอาง่ายๆ ใช่มั้ยล่ะ?”
“คึก ..อย่าทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย”
“นั่นสินะ ทางนี้ไม่ได้พยายามมาเป็นพันปีจนแทบเป็นบ้าด้วย ไม่สามารถเข้าใจน้ำหนักของสิ่งที่ต้องแบกรับได้ทั้งหมดหรอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพอเข้าใจความรู้สึกอยู่”
บนหลังของผมเองก็แบกรับชีวิตคนสำคัญไว้มากมายอยู่ แต่น้ำหนักที่แบกอาจจะต่างกับเรนมากโขทีเดียว แต่ก็เหมือนกันตรงที่รู้จักกลัว และพลาดได้เหมือนๆกัน ไม่ใช่แค่ผมหรือเรน ทุกคนบนโลกก็เหมือนกัน และวิธีจัดการกับความรู้สึกเช่นนั้นก็ต่างกัน
อย่างเรนน่ะ ..คงจะกลัวพลาดจนทำอะไรไม่ถูก ทั้งๆที่ควรจะสลักข้อผิดพลาดนั้นไว้ในหัวสมอง และสาบานกับตัวเองว่าจะไม่เดินเกมพลาดอีกแท้ๆ แต่เหมือนจะไม่
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี!! ตอนนี้ผมคือเทพที่แข็งแกร่งที่สุด!”
พอดีเลย
“ทางนี้มีนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่–”
เรนพุ่งมาอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว ไรเดนตั้งดาบ และพริบตาเดียว—เรนก็กลิ้งไปมาตามผิวน้ำ ทะลุผ่านพวกเราไปนับสิบเมตร ในสภาพที่ขาทั้งสองข้างถูกตัดขาดด้วยดาบมาร
เทพมังกรเร็วกว่ามาก แต่ไรเดนใช้เทคนิคผสมกับการคาดเดาในการฟาดฟัน ที่ต้องทำมีแค่คาดเดาความเร็วของเรนก็แค่นั้น หมอนั่นไม่มีเทคนิคหรือทักษะการควบคุมความเร็วที่ใช้ในการต่อสู้เลย ทำเป็นแค่ปล่อยพลังอย่างไม่รู้จักใช้หัวคิด
อีแบบนี้ ต่อให้เร็วกว่าเป็นสิบเท่าก็ทำอะไรไรเดนที่คาดเดาทุกการเคลื่อนไหวของศัตรูไม่ได้
เรนนอนนิ่งกับพื้น ไม่นานก็รักษาขาคืนกลับมาได้ หมอนั่นลุกขึ้นยืนช้าๆด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อสายตา
“เป็นไปไม่ได้ ..สู้ไม่ไหว ต้องหนีก่อน ..อลิซาเบ–”
ทันทีที่มองหามองขวาของตัวเอง เรนก็ต้องเบิกตาโพงกว้าง
ร่างที่ถูกคลุมด้วยเกราะของภูตสวรรค์บนฟ้าคือ ‘เบ็นจิโร่’ และบนมือของเธอก็ถือร่างไร้สติของอลิซาเบธเอาไว้อยู่
เอาแต่จดจ่ออยู่กับไรเดนจนไม่ได้ดูลูกน้องตัวเองเลยว่าถูกเล่นงานอยู่
“..อลิซาเบธ?”
ในจังหวะที่เอาแต่อึ้ง ไรเดนพุ่งตัวออกไปประหนึ่งแสง–เรนรู้สึกได้ด้วยสัญชาตญาณของเทพมังกร และรีบบินหนีไปทางอลิซาเบธทันที คงตั้งใจจะช่วยอลิซาเบธ จากนั้นก็พากันหนีกระมัง
ผมเปลี่ยนฟอร์มของ ‘เรลันดาฟ’ ให้กลายเป็น ‘ธง’ จากนั้นก็ปักเข้าที่ผิวน้ำ
พริบตาเดียว พื้นที่ขนาดยักษ์ก็ถูกคลุมด้วยโดรม โดยที่ทำให้อลิซาเบธกับเบ็นจิโร่อยู่ข้างนอกโดรม และจากนั้นผมก็ไม่รอช้า นำมือไปจับที่ไหล่ของไรเดน และ
“[ตัดมิติ-ถลายขีดจำกัด]”
ทำการถลายขีดจำกัดให้ไรเดน ประสาทสัมผัส และพลังกายรวมถึงขีดจำกัดร่างกายถูกยกระดับขึ้นอย่างมหาศาล ร่างของไรเดนเรืองแสงจางๆ
“ไรเดน คุณคือพระเอกในคราวนี้ ฝากด้วย”
ด้วยคุณสมบัติที่ผมมี ยากที่จะเล่นงานเทพมังกรได้อย่างที่ไรเดนทำได้ ผมไม่มีดาบที่สามารถตัดมานาได้อย่างดาบมารมุรามาสะ เพราะอย่างนั้นคนที่ต้องเผด็จศึกเรนก็คือไรเดน
“ขอขอบคุณอีกครั้ง”
“พวกแก—!!”
เรนรวบรวมพลัง คงตั้งใจจะหวนคืนทุกสิ่งกลับสู่จุดเริ่มต้น แน่นอนว่าทำได้
โดรมของผมถูกย้อนการใช้งาน แต่พริบตาเดียว ผมก็เปิดการใช้โดรมอีกครั้ง—ดึงดูดความสนใจ สร้างตัวเลือกที่เสียเปรียบในทุกๆทาง เพราะแบบนี้แหละ ผมถึงชอบรุมมากกว่าฉายเดี่ยว ความสามารถของผม มันเหมาะกับการรุมกินโต๊ะมากกว่าน่ะนะ แค่คิดก็สนุกแล้ว
เรนหน้าซีดเผือก ไรเดนพุ่งไปด้วยความเร็ว-ผมบินตามด้วยความเร็วที่เสริมด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองมี ระหว่างที่บินผมใช้ตัดมิติทำให้ไรเดนเร็วยิ่งขึ้นทุกๆวินาที
เสี่ยววิเดียว ไรเดนก็ขึ้นไปอยู่เหนือหัวของเรน จากนั้นประกายดาบนับสิบที่ถูกเสริมด้วยการตัดมิติ และอาภรณ์เทพมังกรที่คลุมร่างของไรเดนให้อยู่ในสภาพเต็มร้อยเสมอก่อให้เกิด ผลลัพธ์ที่เกินกว่าร้อย
ปีกของเรนถูกสะบั้นจนขาด เรนลงไปดิ้นกับพื้น และวิ่งหนีด้วยความรวดเร็ว เรนและผมตามมันไปด้วยความเร็วที่ทัดเทียมจากการเสริมพลังหลายขั้นตอน
พรแห่งจอมมาร ตัดมิติ แล้วก็อาภรณ์เทพมังกร–เรนมีพลังไม่สมบูรณ์ การที่หมอนั่นใช้พลังมากเกินไปอาจจะทำให้มานาปั่นป่วนจนระเบิดออกมาได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะสูญสิ้นความเป็นเทพมังกรไปโดยปริยาย ด้วยเหตุนั้นเอง พลังจึงมีขีดจำกัดอยู่บ้าง
พอกางโดรม เรนก็ไม่สามารถหนีไปได้ ถ้าอยากหนีก็ต้องย้อนโดรมกลับสู่จุดเริ่มต้น แต่พอทำอย่างนั้นก็จะใช้พลังระดับหนึ่ง และอาจพลาดโดนไรเดนไล่หวดเอาได้ ถ้าเกิดเอาพลังมารับมือกับไรเดนก็จะปรากฏผลลัพธ์ที่เสียเปรียบมากกว่าสู้ได้ ด้วยการซัพพอร์ตมากมายจากผม ผนวกกับทักษะการต่อสู้ของไรเดน ทำให้จังหวะในการต่อสู้ของไรเดนนำเรนไปไกล
เรนถูกบังคับให้เลือกสองอย่าง แต่ไม่ว่าจะเลือกอะไร เรนก็จะเสียเปรียบอยู่ดี เหมือนให้เลือกระหว่างจะตายเร็วหรือตายช้านั่นแหละ
“อะ ไอ้พวกขี้ขลาด ไอ้พวก–”
เบ็นจิโร่บินเข้ามาภายในโดรมโดยการเชื้อเชิญของผม เธอที่อยู่ในชุดเกราะของภูตสวรรค์ทำการร่ายเวทย์จากบนฟ้าที่เหนือกว่าเรน
“[วอเธอร์ฟิลด์]”
ฟิลด์สายน้ำเข้าทับโดรมอีกชั้นหนึ่ง ภายในพื้นผิวของน้ำจะเป็นอาณาเขตุที่เบ็นจิโร่สามารถควบคุมได้ทุกสรรพสิ่ง กล่าวคือ-เรนลงไปเหยียบผิวน้ำโดยไม่ตั้งใจ จากนั้น–ไรเดนก็ถูกวาร์ปมาตรงหน้า และสะบั้นลำตัวของเรนจนขาดครึ่ง
กล่าวคือ เรนจะถูกบังคับให้บินสู้อย่างเดียวเท่านั้น แต่เรื่องมันไม่ง่ายแค่นั้น
อลิซที่อยู่บนบลูเบน ทำการร่ายเวทย์ทับอีกขั้น
“วินด์ฟิลด์”
ฟิลด์สายลมเข้าทับโดรมอีกชั้น ชั้นอากาศเองก็คืออาณาเขตุต้องห้าม
ไรเดนวาร์ปไปฟันปีกของเรนจนขาดอีกครั้งบนอากาศ
ความเร็วที่เกือบจะทัดเทียมกับเทพมังกรผสมกับการวาร์ปได้อย่างอิสระโดยความช่วยเหลือจากสองเวทมนตร์ขั้นบรรลุ ไม่ใช่แค่ทำให้พวกผมได้เปรียบยิ่งขึ้น หวนคืนสู่จุดเริ่มต้นของเรนเองก็–ใช้ยากขึ้นด้วย เพราะเรนแทบจะไม่มีเวลาในการหวนคืน หรือต่อให้หวนคืนได้ ก็คงส่งทุกอย่างกลับสู่จุดเริ่มต้นได้ไม่หมดหรอก ตอนนี้มีทั้ง โดรมจากเรลันดาฟ แล้วก็ฟิลด์ธาตุถึงสองอันทับซ้อน
และไม่จบแค่นั้น
ผมกับเบ็นจิโร่กระแทกอาวุธข้างกายของตัวเองเข้าที่อากาศ จากนั้นก็โพล่งออกมาพร้อมๆกันว่า-
“[อาณาจักรแห่งเปลวเพลิง]”
“[อาณาจักรแห่งสายน้ำ]”
เปลวเพลิงและสายน้ำพวยพุ่งออกมา ก่อให้เกิดเป็นอาณาจักรแห่งธาตุ เวทมนตร์ขั้นบรรลุที่ยากจะใช้งานมากที่สุด การใช้เวทมนตร์ขั้นบรรลุตระกูลอาณาจักรของพวกเรา ไม่ใช่การแบ่งอาณาเขตุกันเฉยๆ แต่เป็นการผสานกันโดยความคิดที่จะร่วมมือกัน ส่งผลให้ตอนนี้พวกเราอยู่ในโลกใต้น้ำซึ่งมีภูเขาไฟอยู่ใต้น้ำ
“[ไฟเยอร์ฟิลด์] – [เอิร์ธฟิลด์]”
ฟิลด์แห่งเปลวเพลิงและฟิลด์แห่งผืนดินเข้าซ้อนทับต่อจากสองเวทมนตร์อาณาจักร รวมทั้งสิ้นมีสิ่งที่ซ้อนทับโดรมอีกหกชั้น
หากตั้งใจจะหนีไปจากที่นี่ก็ต้องหวนคืนทุกอย่างในนี้ โดยที่ต้องเตรียมใจจะโดนไรเดนสะบั้นคอทิ้งไปด้วย ถ้าหากคิดว่าทำทันก็ลองดู
เรนยืนงงอยู่บนพื้น หมอนั่นมองไปทิวทัศน์รอบๆอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“..ผมเป็นเทพมังกรนะ?”
เทพมังกรที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ มีข้อเสียใหญ่อยู่นี่นะ
“..”
แน่นอนว่าการใช้งานอะไรหลายๆอย่างมากมายขนาดนี้ย่อมสร้างภาระทางมานามหาศาล แต่ทั้งหมดก็แก้ปัญหาได้โดย
“วิหคอมตะ”
เพลิงแห่งการเยียวยาเข้าปกคลุมร่างของทุกคนในที่แห่งนี้ มานาจะไม่มีทางลดเกินครึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน ทั้งยังไม่ต้องกลับพลาดโดนเรนจู่โจมจนตายด้วย เพราะวิหคอมตะจะเข้าไปช่วยโดยทันที นอกจากวิหคอมตะก็อยู่ในอาณาเขตุสายน้ำที่ทำให้มณีวารีของเบ็นจิโร่สามารถไปช่วยซัพพอร์ตคนอื่นๆได้เหมือนกัน
เรนยืนนิ่ง และจ้องมองไรเดนที่กำลังพุ่งมา
“แค่คนเดียววิ่งไล่เรนคงยากจะจับตัวได้ อีกฝ่ายเป็นถึงเทพมังกร ..”
ผมวาร์ปตัวเองกลับมาบนหลังของบลูเบน จากนั้นก็สัมผัสที่ร่างของปีเตอร์
“[ตัดมิติถลายขำกีด] ..ไปอาละวาดให้ดูหน่อยสิ”
ปีเตอร์พยักหน้ารับก่อนห่อหุ่มร่างตัวเองด้วยอาภรณ์เทพมังกร จากนั้นก็พุ่งไปด้วยความเร็ว
ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ทุกๆฝ่ายมีฟิลด์ธาตุที่จะช่วยสร้างจังหวะการต่อสู้ รวมถึงส่งไปในที่ที่ปลอดภัยในคราวที่พลาดท่า นอกจากนั้นก็มีหลายๆอย่างรองรับระหว่างการต่อสู้ ไม่ว่าจะตัดมิติของผม หรือการยิงธนูสนับสนุนของเบ็นจิโร่ที่ช่วยไล่ต้อนเรนได้เยอะ
เรนหนีสุดชีวิต โดยที่ใช้หางตามองผมอย่างเคียดแค้น เห็นอย่างนั้นผมก็หัวเราะออกมา
ย้ำอีกครั้ง
“เพราะแบบนี้นี่แหละถึงชอบรุมมากกว่า”
“ต้าวเรเซอร์ ใจร้าย”
“อมหิตจริงๆ”
“ชักไม่แน่ใจแล้วค่ะว่าใครกันแน่ที่จะครองโลก ..”
บลูเบนหัวเราะพึมพำในลำคอ
จากสถานการณ์ตึงเครียด ตอนนี้ทุกอย่างดูง่ายดายไปหมดก็จริง แต่ก็ไม่อาจวางใจได้ ..ที่เล่นงานเรนได้ขนาดนี้ เป็นเพราะเจ้านั่นมันใช้พลังของเทพมังกรไม่เป็นต่างหาก
‘เรเซอร์ ดราแคล์’
ไรเดนสื่อสารกับผมทางเวทมนตร์ ผมตอบรับเขา
“ว่าไงครับ’
‘มีเรื่องที่ต้องบอกก่อน เผื่อในบางกรณีที่จำเป็น’
ผมพยักหน้ารับ และฟังเรื่องของไรเดนโดยที่มองดูไรเดนไล่ฟาดเรนอย่างกับหมูกับหมา
****
เทพมังกร เทพที่แข็งแกร่งที่สุด เทพตนแรก เก่าแก่ที่สุดรองมาจากพระเจ้าแห่งโลก เปรียบดั่งพลังแห่งพระเจ้า เจ้าแห่งมานาทั้งมวล ทั้งอย่างนั้น ..เทพมังกรตนนั้นกลับกำลังถูกมนุษย์ธรรมดาไล่ฟาดราวกับกระสอบทราบ
หากเทียบกับเรนแล้วไรเดนไม่ได้เร็วกว่า แต่ทักษะมากมายส่งผลให้ไรเดนเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า เรนจึงถูกไล่ต้อนด้วยการเคลื่อนไหวและการลงดาบที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนั้นก็ถูกเบ็นจิโร่ยิงศรสนับสนุนจนยากจะเคลื่อนไหวอะไรตามใจชอบได้ ซ้ำร้าย ยังโดนมหามังกรเทียมสายฟ้าเข้ามารุมอีก
เรนเหนือกว่าทุกคนอย่างแน่นอน แต่ถูกรุมโดยสารพัดวิธีการ ทำให้ต่อให้เป็นเทพมังกร ..ก็ไม่ไหว
ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่แขนและขาถูกสะบั้น ลำตัวถูกแยกออกจากกัน หัวหลุดออกจากบ่า และปีกโดนเด็ดออก ด้วยคุณสมบัติแห่งทวยเทพ ความเจ็บปวดจึงไม่ปรากฏขึ้นในร่างกายหรือจิตใจเลย กระนั้นเรนกลับรู้สึกทรมานราวกับกำลังตกนรกทั้งเป็น
ทำไมมันถึงลงเอยอย่างนี้ตลอด ..เหตุใดทุกอย่างมันชอบจบลงด้วยความผิดพลาดของผมกัน
ผมประมาทเกินไป ไม่สิ พวกมันแข็งแกร่งเกินไปจนน่ากลัว
ทุกๆครั้งที่ผมสามารถเล่นงานสวนกลับได้ เปลวเพลิงแห่งการเยียวยาจะเป็นคลุมพวกมัน และส่งมันไปในจุดที่ได้เปรียบ และกระหน่ำโจมตีผมต่ออย่างบ้าคลั่ง ถูกรุมกินโต๊ะราวกับไม่สามารถขยับร่างกายได้ ผมโดนขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากจะหนีไปจากที่แห่งนี้แต่ก็ทำไม่ได้ การหวนคืนไม่สามารถใช้งานได้ ถ้าหากใช้ ผมจะตายทันที จะถูกพวกมัน ..พวกหมาป่ารุมกิน
ทวยเทพอย่างผมจะถูกหมาป่ากลืนกิน พวกหมาป่ากระหายเลือด พวกมันไม่เพียงแต่กินเหล่าแกะผู้น่าสงสาร กระทั่งเทพอย่างผม พวกผมก็คิดจะกิน
อา โลกใบนี้ ทำไมถึงได้โหดร้ายกับผมขนาดนี้กัน ..ลำพังป้องกันชีวิตตัวเองก็แทบจะไม่ทันอยู่แล้ว
ไรเดนพุ่งมาฟาดฟันผม อีกนิดเดียวดาบนั้นก็จะทะลุผ่านจุดที่มานาปั่นป่วน และทำให้ผมตายได้ในทันที
เกือบตาย-อีกแล้ว
ความกลัวพวยพุ่งขึ้นมาในจิตใจ ผมกรี๊ดร้องออกมา และบินหนีไปให้ไกลที่สุด-แต่ทุกๆครั้ง ฟิลด์เวทมนตร์ขั้นบรรลุก็จะส่งพวกมันมาไล่ล่าผมต่อ
..กลัว ..กลัว ..กลัว ..ไม่เอา ไม่อยากให้จบแบบนี้ ไม่เอานะ ขอร้องละ พระเจ้า ขอร้อง ..พระเจ้า?
…….
……
พระเจ้ามันผมไม่ใช่หรือไง? ..แม้แต่คำตอบยังให้ตัวเองไม่ได้ ตัวผมจะให้คำตอบของชีวิตกับใครได้กันเล่า อา ช่างโง่เขลา
ผมนี่มัน ..เกินเยียวยา
ในวินาทีสุดท้าย มุรามาสะ ดาบมารต้องสาปนั่นกำลังจะสะบั้นมานาผมทิ้ง—ผมจะขึ้นเป็นพระเจ้า และพระเจ้าไม่ควรจะพ่ายแพ้ต่อหมาป่าชั้นต่ำ
ทุกการโจมตี ทุกการเคลื่อนไหว ผมอ่านออกได้หมดด้วยอำนาจแห่งเทพมังกร ผมสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วกว่ามาก แม้จะถูกกดดันด้วยหลากหลายวิธีการ ..แบบนี้นี่เอง
ยังไงๆ ผมก็เหนือกว่าอยู่ดี
ผมแสยะยิ้มออกมา
ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ทีละอย่าง–หวนคืนกลับสู่จุดเริ่มต้นทีละอย่าง ไม่จำเป็นต้องทั้งหมด แต่ทีละนิดก็พอ—หึๆ แต่ที่ละนิดที่ว่ามันราวๆสามวิน่ะนะ
พลังแห่งเทพมังกรที่ถือครองนี้ ต่อให้ไม่สมบูรณ์มันก็ยังเหนือกว่าพวกหมาป่าข้างหน้า—ใช่ ยังไงๆก็เหนือกว่าอยู่ดี!! ตัวผมผู้ที่จะขึ้นเป็นพระเจ้า!!!
เพียงพริบตาเดียว วิธีการใช้พลังที่ถูกต้องก็ไหลเข้าสู่สมองของผมจากการวิเคราะห์ วินาทีที่ความกลัวทั้งหมดได้ถูกลบหายไป ตัวผมก็ได้ถือกำเนิดใหม่อีกครั้งในด้านของจิตใจ
“เวลาเอ่ย จงหยุดลง”
ใช้มานารอบตัว แทนมานาในร่างกาย–เวลาได้หยุดลงตามบัญชี และตามคาด ทั้งวิหคอมตะ ทั้งดาบมารนั่นกำลังจะทำลายเวลาที่หยุดลง แต่ก็ช้าไป ผมเหวี่ยงเคียวใส่ปีเตอร์ผู้น่ารำคาญ และทำการหวนคืนสู่จุดเริ่มต้น จากนั้นก็ทำลายโดรมและทุกสิ่งทุกอย่างที่ซ้อนทับ
ใช้เวลาเพียงวิเดียว ทุกอย่างก็ถูกพังทลายจนหมดด้วยการหวนคืน และแล้ว เวลาก็กลับมาเดินอีกครั้ง—-ผมยิ้มร่าออกมา ทุกอย่างจบแค่นี้แหละ
“สุดท้ายมนุษย์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ขอ—”
เอ๊ะ?
ร่างของไรเดนแปลกไปจากทุกที วินาทีเดียวในตอนที่หยุดเวลาลง จู่ๆไรเดน อาคาสะ ก็มีรูปลักษณ์ที่ต่างออกไป
ทั้งร่างถูกคลุมด้วยคลื่นพลังประหลาด พริบตาเดียว ดาบมารสีดำน้ำเงินนั่นก็แปรเปลี่ยนเป็นสีเงินประกายทอง แสงสว่างพุ่งผ่านหน้าของผมไป ช่างเป็นภาพที่สวยงาม ..ซะจนตัวผมลืมที่จะกลัว
เป็นดาบที่สวยงามขนาดนั้นเลยละ
“ดาบเทวะ [มาซามุเนะ]”
เรื่องอะไรกัน—-ไรเดน อาคาสะ คาดเดาการเคลื่อนไหวทั้งหมดของผมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
‘มุรามาสะ’ แท้จริงแล้วสามารถกลายเป็น ‘มาซามุเนะ’ ได้นั่นเอง ..มาซามุเนะ เจ็ดสิบสองดาบทลายโลกาที่หายสาบสูญนั่นน่ะเหรอ? นึกว่าสูญสลายไปแล้วเสียอีก นั่นเป็นดาบที่น่ากลัว เป็นดาบที่สามารถสะบั้นทวยเทพได้ในระดับหนึ่ง และตัวผมที่ไม่สมบูรณ์สามารถถูกดาบเล่มนั้นสะบั้นจนตายได้
ทำไมถึงนึกไม่ทันกัน–ผมบินหนีสุดแรงเกิด ทว่าก็ไม่ทันการ ถูกสะบั้นเข้าที่ปีกด้วยดาบเทวะ ร่างลงไปกลิ้งกับผิวน้ำชายฝั่งอาณาจักรเนลยอน
ไรเดน อาคาสะ พุ่งตามมาอย่างรวดเร็ว วิถีดาบอันสวยงามพุ่งผ่านไหล่ไปประหนึ่งเฉือนใบไม้
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!”
เจ็บ ใช่ เจ็บ รู้สึกเจ็บขึ้นมาแล้ว
ตรงข้ามกับมุรามาสะ มาซามุเนะคือดาบที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับมานาได้ แทนที่จะสะบั้นมานา มาซามุเนะสามารถสร้างความเสียหายให้เทพมังกรอย่างผมได้ง่ายๆโดยการเป็นหนึ่งเดียวกับมานา แต่ว่ามันมีข้อเสียอยู่–มาซามุเนะจะกลืนกินพลังชีวิตของผู้ใช้
ต้องถ่วงเวลา–ผมหยุดนิ่งอยู่กับพื้น พยายามลุกขึ้นด้วยขาทั้งสองข้าง-แต่ว่า ไม่ทันจะได้ทำอะไรก็โดนตัดขาทั้งสองข้างทิ้ง
“เจ็บ เจ็บ!!!!!”
ดาบเทวะแทงเข้าที่ข้อมือของผม ทำให้ร่างของผมติดอยู่กับผิวน้ำ
“คะ คุยกันก่อน นักรบผู้ยิ่งใหญ่! ผมจะคืนอาณาจักรเนลยอนให้ สัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับอาณาจักรเนลยอนแล้ว จะช่วยให้พวกคุณเป็นใหญ่ด้วย เป็นการแลกเปลี่ยน ช่วยไว้ชีวิต–”
เพื่อให้คุยง่ายขึ้น ผมใช้พลังที่มีเรียกอาณาจักรเนลยอนคืนให้ในพริบตาเดียว ตอนนี้ไม่สามารถใช้หวนคืนทำอะไรไรเดนได้แล้ว ..เขาเป็นหนึ่งเดียวกับมานาด้วยดาบเทวะ มาซามุเนะ ทำให้หวนคืนของผมไม่อาจส่งเขากลับไปที่เดิมได้
มีแต่ต้องต่อรองเท่านั้น–โดยไม่พูดไม่จา ไรเดน อาคาสะ ได้แทงเข้าที่หน้าอกของผม และบิดเฉือนจุดที่มานาปั่นป่วน
“..หา?”
“จบแค่นี้สินะ”
….แค่นี้เหรอ?
…..ยังไม่ทันได้เจรจาเลยนนะ
โอย …เดี่ยวสิ เดี่ยว—พลังของเทพมังกรไหลออกจากร่างของผม หวนคืนสู่สิ่งที่ควรจะเป็น ร่างของผมไม่ได้กลับคืนสู่สถานะมนุษย์ปกติหรืออะไร แต่มันว่างเปล่า ใช่ ..วิญญาณของผมได้ถูกทำลายเป็นที่เรียบร้อย
สติที่หลงเหลืออยู่นี่เป็นเพียง ..ไม่กี่วินาทีก่อนจะหายไปจากโลก
****
ผมเหงื่อตก และมองภาพที่เกิดขึ้นบนหลังของบลูเบน …เกือบตายแล้ว ทุกคนเกือบจะตายด้วยอำนาจของเทพมังกรแล้ว
ปีเตอร์บาดเจ็บสาหัวและหมดสติในพริบตาเดียว เบ็นจิโร่เองก็ด้วย นอกจากนั้นผมก็อยู่ในสภาพที่โดนลูกหลงจนแขนและขาขาด ฟัฟนิร์กับแซร์อิซเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกัน บลูเบนร่างขาดครึ่ง โชคยังดีที่อลิซไม่ได้เป็นอะไรมาก
ผมหายใจฮอบ ..หมอนั่นหยุดเวลาได้
ถ้าเกิดวิหคอมตะไม่ช่วยทำลายเวลาที่หยุดลง แล้วถ้าหากดาบมารของไรเดนไม่ช่วยสะบั้นเวลาที่หยุดลงอีกที พวกเราทุกคน ..จะตายกันหมดในคราเดียว
เมื่อตะกี้ เป็นครั้งแรกที่เรนใช้พลังของเทพมังกรออกมาอย่างทรงประสิทธิภาพ เพียงครั้งเดียว ผลลัพธ์ของการต่อสู้เกือบจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ไรเดนก็คาดเดาเรื่องนั้นได้ ถึงได้พูดคุยกับผมก่อน
เขาบอกว่าในวินาทีที่ทุกอย่างแปลกไป จะใช้ [มาซามุเนะ] ..ถ้าเกิดไรเดนไม่เปลี่ยนไปใช้พลังนั้น พวกเราจะแพ้เรนแน่นอน
สมกับเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด ..ผมลุกขึ้นยืน รักษาคนรอบตัวด้วยวิหคอมตะ ยกเว้นเบ็นจิโร่ที่อยู่ไกลเกิน
ผมถอนหายใจเฮือกโต และเดินไปหาไรเดนซึ่งยืนนิ่งในท่าตั้งดาบ หลังจากโค่นเรนเป็นที่เรียบร้อย จากที่เห็น เรนตายแล้วแน่นอน ใช่ เรนพ่ายแพ้เรียบร้อย สามารถหยุดเรนและแผนการณ์นับพันปีของมันได้แล้ว โดยแลกกับ ..ชีวิตของไรเดน
“วินาทีที่ใช้งาน ‘มาซามุเนะ’ ฉันจะไหลไปกับกระแสของมานาไปพร้อมกับดาบเทวะเล่มนี้ ..แต่นั่นก็ทำให้อายุขัย แก่นแท้ภายในร่างกายของฉันไหลไปด้วยเช่นกัน”
ไรเดน อาคาสะ หันหน้ามาหาผม
เส้นผมของเขาเต็มไปด้วยหงอก ดวงตาเริ่มไร้ซึ่งสีสันต์ สภาพคล้ายกับคนชราครึ่งหนึ่ง
“คุณไรเดน”
“น่าเสียดายที่ชีวิตฉันคงมาได้แค่นี้”
มนุษย์ธรรมดาเพียงคนเดียวที่สังหารเทพมังกรลงได้ ไรเดน อาคาสะ ยิ้มให้ผมเป็นครั้งแรก นั่นคือใบหน้าของนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ผิดแน่