เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! - ตอนที่ 145: เทพดาบ (2)
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
- ตอนที่ 145: เทพดาบ (2)
< < 110Sec2 > >
ประกายแสงผุดขึ้นมาเป็นสิบๆอันในห้วงเวลาที่ขยับได้อย่างเชื่องช้า ตัวผม—-ได้เข้าปะทะกับเทพดาบเป็นร้อยครั้งภายในไม่กี่วินาที โดยที่ไม่ได้ขยับขาออกจากจุดเดิมเลย
การตัดมิติพุ่งออกไปประหนึ่งการลงดาบ หากมองจากมุมไกลมันไม่ต่างกับการที่ตัวผมดวลดาบกับเทพดาบเลยสักนิด เพียงแค่ที่ผมใช้คือตัดมิติ แต่ที่เทพดาบใช้คือดาบคาตานะสั้นๆเท่านั้น
ในจุดนี้ สามารถบอกได้ว่า—วิชาดาบของเทพดาบนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด
ไม่ใช่แค่ทำลายวิชาไสยศาสตร์ของวินได้อย่างแม่นยำ แต่ยังฟันสวนการตัดมิติได้ด้วย—ผมไม่ใช่ฝ่ายที่คอยทำลายมิติอีกฝ่าย ไม่เช่นนั้นผมลัพธ์คงไม่ได้แลกจังหวะปะทะกันเช่นนี้หรอก เพราะตัดมิติอยู่เหนือกายภาพอยู่แล้ว ไม่มีทางที่การลงดาบจะรับตัดมิติได้ตรงๆอยู่แล้ว—-ดาบของเทพดาบนั้นเร็วกว่าการตัดมิติ มันเร็วระดับที่มากพอจะตัดการทำงานของตัดมิติก่อนที่จะเกิดผลลัพธ์ได้
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เทพดาบคือตัวตนที่เร็วที่สุดบนโลกไม่ผิดแน่—-ถ้าหากเธอตาย เธอจะต้องได้รับบรรจุชื่อเป็นวิญญาณระดับเทพอย่างแน่นอน
‘แกนน่อน’ คือตัวตนที่คล้ายกับเอเธอร์ตรงที่มีพลังมากเกินไปที่มนุษย์จะมีได้
“—อึก!!”
เป็นอีกครั้งที่ผมจะหาจังหวะตีตัวออกห่างจากเทพดาบ แต่ก็ไม่เป็นผล ไม่ใช่แค่ดาบที่ผมต้องวิเคราะห์และตั้งรับ แต่ผมต้องคอยกันลมกระแทกของเทพดาบด้วย แค่ลมกระแทกก็มากพอจะทำให้ผมบาดเจ็บได้แล้ว—ดูเสียมารยาทไปหน่อย แต่แค่ลมกระแทกจากตัวดาบของเทพดาบ มันก็มีพลังทำลายมากกว่าเรย์ที่มัดทุกวิชามาใช้ด้วยกันมากโข ทั้งพลังและความเร็ว อยู่คนล่ะระดับ
เพราะอย่างนั้นในทุกๆครั้งของการปะทะ ผมต้องเร่งตัดมิติให้ไปไกลเกินกว่าที่ร่างกายผมจะตอบสนองได้ หรือก็คือผมใช้ตัดมิติซ้อนกันเป็นสิบๆครั้งตั้งแต่ที่เทพดาบยังไม่ได้ออกดาบ เพื่อที่จะปัดทุกการโจมตีไว้ให้ได้ โดยคำนึงถึงจุดที่จะถูกเทพดาบทำลายก่อนถึงตัวด้วย และการเร่งขีดจำกัดร่างกายตัวเองตั้งขนาดนั้น ย่อมมีผลข้างเคียงที่ทำให้ร่างกายอ่อนล้าเร็วตามไปด้วย
ทุกจังหวะปะทะกัน ผมจะช้าขึ้นเรื่อยๆทีละนิดเสมอ ในหัวจะเริ่มขาวโพลงขึ้นเรื่อยๆ เพราะผมกำลังเร่งขีดจำกัดเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว—แต่ว่า ต้องตั้งสติเอาไว้
ผมกัดฟันกรามแน่น จนมีเสียงดังออกมาอย่างน่าสยดสยอง
“—-หืม?”
เทพดาบอุทานออกมา—-เพราะผมชักดาบออกมา
“เจ้าเป็นนักดาบ? ไม่มีทาง”
โชคดีเพระาอย่างนั้นทำให้เทพดาบหยุดโหมโจมตีไปชั่วขณะหนึ่ง ผมเก็บดาบเข้าฟักและยื่นมืออแไปข้างหน้า——-บอลเพลิงกว่าสิบลูกพุ่งออกจากปลายฝ่ามือ
เทพดาบตัดบอลเพลิงทั้งสิบเพียงแค่สองจังหวะ เธอตั้งท่าดาบพร้อมจะฟันตัวผมให้ขาดครึ่ง ทว่า—ภายในตึกก็เกิดฟิลด์ขึ้นมา
“[เอิร์ธฟิลด์]”
เวทมนตร์ขั้นบรรลุที่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ตามต้องการ มีข้อจำกัดคือขนาดฟิลด์ที่อัดเวทย์เข้าไป และฟิลด์ที่ผมสร้างขึ้นก็มีขนาดใหญ่คลุมทั้งวิทยาลัยเอาไว้
“—[เขล็ดวิชาดาบ]—”
เป็นครั้งแรกที่เทพดาบตัดสินใจจะใช้เทคนิคดาบ เธอตั้งท่าชักดาบมองทางผมด้วยแววตาที่เยือกเย็นประหนึ่งสัตว์นักล่า ผมแปรรูปถุงมือเวทย์ให้กลายเป็นโล่ และใช้ตัดมิติเสริมกำลังไปด้วย พร้อมกับที่ตัดมิติเพื่อลดความเร็วของเทพดาบให้ได้มากที่สุด
เทพดาบพุ่งเข้าใส่ผม หมายจะตัดผมไปพร้อมกับเวทย์เอิร์ธฟิลด์ที่สร้างขึ้น
“—-[ดาบประกายแสง]”
ดาบประกายแสงต้นตำหรับ เหมือนกับของที่ทุกคนใช้กันทุกประการ จะต่างกันก็แค่—ความรวดเร็ว
‘เร็วกว่าห้าสิบเท่าค่ะ’
ยูนาวิเคราะห์ให้ผม—ห้าสิบเท่า ได้ยินก็อยากจะบ้าตาย ทำเอาอยากคิดทบทวนทางเลือกของตัวเองใหม่เลย
ถ้าไม่มีโล่หัวผมได้หลุดออกจากบ่าแล้วแน่นอน ไม่สิ มั่นใจว่าต่อให้มีโล่แต่ถ้าไม่มีตัดมิติ ผมก็คงตายอยู่ดี
โล่ที่มาจากถุงมือเวทย์สามารถกันดาบของเทพดาบไว้ได้ ใช่ กันไว้ได้ แต่แค่หนึ่งครั้งเท่านั้น—เทพดาบฟันโล่หรือว่าถุงมือเวทย์ของผมข้างผมสองเสี่ยง มันคงจะกลับมาใช้ไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ ..ผมคือฝ่ายเสียเปรียบแท้ๆ เป็นอย่างนั้นแน่นอน แต่ไม่รู้ทำไม เทพดาบถึงทำหน้าดูตกใจเช่นนั้น
“เป็นเจ้าหนุ่มที่ตายยากจริงๆนะ”
“จะถือว่าเป็นคำชมล่ะกันครับ”
ผมแสยะยิ้มให้เทพดาบ
“ยังไงก็เถอะ—-ตอนนี้ได้เวลาเอาคืนแล้ว!!”
เทพดาบรู้ตัวดีว่าผมคิดจะทำอะไร แต่ก็ไม่ทัน ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้แล้ว
“—-ชิ”
บนพื้นเปล่งแสง—เอิร์ธฟิลด์ได้ออกคำสั่ง ขอบเขตุการทำงานคือทั้งวิทยาลัย
เทพดาบวาปหายไป ผมเองก็วาปหายไปด้วย—รู้สึกตัวอีกที ทั้งผมและเทพดาบก็ลอยอยู่บนฟ้าเหนือจากพื้นดินหลายกิโลเมตร
ไม่ใช่แค่คลุมทั้งวิทยาลัย แต่ผมขยายส่วนข้างบนไปไกลเป็นกิโลโมตร
เทพดาบพยายามพุ่งใส่ผม แต่ก็ช้ามากเมื่อเทียบกับตอนขาแตะพื้น เพราะพอไม่มีพื้นเทคนิคการออกเท้าก็จะหายไปจนหมด—แค่บนฟ้านี่แหละ ที่เทพดาบมีความเร็วไม่ต่างกับผมมาก
เอิร์ธฟิลด์ส่องแสงอีกครั้ง พร้อมกันนั้นเทพดาบก็ตวัดดาบเข้าใส่ผม แต่ทุกการโจมตีก็ถูกขัดไว้ได้โดยตัดมิติ
เทพดาบขมวดคิ้วเข้าหากัน ผมแสยะยิ้มได้ใจส่งท้ายก่อนที่จะวาร์ปลงมาบนพื้นดิน ..ผมมองเทพดาบจากบนฟ้าพลันถอนหายใจเฮือกโต
“[ทวนสายฟ้า]”
ทวนสายฟ้าปรากฎขึ้นข้างหลังผมสิบทวน ผมควบคุมทั้งหมดอย่างพร้อมเพรียงกันและปามันไปทางที่เทพดาบลอยอยู่
มันคือคอมโบเดียวกับที่ผมใช้กับหนิงในตอนงานเทศกาลโลหิตมังกร—ไม่ได้กินมานาเยอะเท่าคราวก่อน เพราะครั้งก่อนผมต้องลำบากใช้ตัดมิติคลุมตัวของมหามังกรที่ใหญ่อย่างกับภูเขา แต่เทพดาบตัวไม่ใหญ่มาก มานาส่วนที่เหลือก็เอาไปลงทุนกับการสร้างฟิลด์เอา
ถึงยังไงพอบวกลบแล้ว ผมก็ยังเหลือมานาเยอะอยู่ดี ไม่ได้เล่นหมดก็อกเหมือนตอนนั้น ซึ่งนับว่าเป็นการดี—-ผมจะฆ่าเทพดาบทั้งอย่างนี้แหละ
ไม่มีทางที่เทพดาบจะรับทวนสายฟ้าไว้ได้ไหวแน่ๆ เธอไม่ได้มีร่างกายที่ทรงพลังอย่างมหามังกร แค่สองทวน เธอก็คงลาโลกแล้วแน่ๆ
สองในสิบต้องโดนเธอจังๆบ้างล่ะ ยังไม่รวมกับแรงระเบิดของทวนสายฟ้าอีก—-จบแล้วล่ะ
ทวนสายฟ้าทั้งสิบพุ่งขึ้นไปบนฟ้าประหนึ่งจรวด มันพุ่งเข้าชนกับเทพดาบและระเบิดออกพร้อมๆกันสิบรอบ
ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งเกาะวาเรอร์
“..ฟู่ว”
ผมปาดเหงื่อพลางคิดว่า..ได้ผลรึเปล่านะ?
ท่าที่ใช้ ถ้าเกิดโดนไปจังๆ ต่อให้เอเธอร์ก็ไม่รอด ไม่มีทางที่เทพดาบจะรอดอยู่แล้ว ไม่มีทาง—-เว้นแต่ว่า—-ผมแหงนหน้ามองฟ้า
พบร่างของเทพดาบที่ดิ่งลงพื้น มันรวดเร็วมาก—ตู้ม!!!! เสียงกระแทกพื้นดังสนั่นทั่วทั้งวิทยาลัย
เทพดาบลุกขึ้นมองมาทางผม ..ไม่จริงน่า
สภาพร่างกายแทบไม่มีอะไรเสียหายเลย แค่หัวแตกนิดหน่อยแค่นั้น
“ขอชื่นชมเลย ..การจู่โจมเมื่อสักครู่ ถ้าข้าออกดาบพลาดแค่นิดเดียว ..ข้าได้ตายไปแล้วอย่างแน่นอน” เทพดาบหรี่ตามอง “แต่ในเมื่อข้ารอดแล้วก็ขอรับชีวิตของเจ้าไปตามสมควร”
ผมหน้าซีดเผือก กัดฟันกรามแน่น เตรียมจะใช้เอิร์ธฟิลด์เพื่อทิ้งระยะจากเทพดาบอีกครั้ง แต่ก็ช้าเกินไป ไม่ใช่
เทพดาบเร็วเกินไปต่างหาก
‘มาสเตอร์—!!!!!!!’
ยูนาส่งเสียงตกใจแทนส่วนที่ผมออกเสียงไม่ทัน
“[จังหวะแตะ—ประกายแสงดาว]”
ไม่ใช่จังหวะแตะสายลมหรอกเหรอ?
เทพดาบพุ่งมาด้วยความเร็วที่บนโลกนี้ไม่น่ามีไอ้บ้าตัวไหนตอบสนองได้ ทำเอาผมตั้งคำถามขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวว่า ..คนๆนี้ …มันตัวอะไรกันแน่ว่ะ
ดาบของเทพดาบเฉือนเข้าอกของผม แค่เฉือนยังไม่ได้ผ่าแยกออกจากกัน แต่ว่าความเจ็บปวดที่ได้รับก็มหาศาลจนไม่อยากเชื่อว่าแค่เฉือน คงเพราะเทพดาบตั้งใจตัดเอิร์ธฟิลด์เป็นหลักมากกว่า ผมเลยยังรอดชีวิตได้ แต่ว่าเอิร์ธฟิลด์ที่ร่ายไว้โดนทำลายแล้ว เป็นหรือตายตอนนี้ก็ไม่ต่างกันแล้ว
“–อึก”
ผมสำลักเลือด–บัดซบเอ้ย
ผมพุ่งตัวหนี แต่ว่าในระยะแค่ไม่กี่เมตร ไม่มีทางที่จะหนีจากเทพดาบได้แน่นอน
“[เขล็ดวิชาดาบ]—[ดาบประกายแสง]”
“—–[มิติสะท้อน]”
มิติสะท้อนหนึ่งในท่าของตัดมิติปรากฏขึ้นตรงหน้า ดาบประกายแสงของเทพดาบพุ่งเข้ามาและสะท้อนกลับไป ทว่าเทพดาบทำเพียงฟันมันกลับมาทางผมอีกครั้ง
แต่นั่นก็ช่วยย่นเวลาให้ขยับร่างได้มาก ต้องบอกว่าตั้งใจให้ผลลัพธ์เป็นอย่างนี้อยู่แล้วถึงจะถูก
ผมเอียงคอหลบดาบประกายแสงได้อย่างหวุดหวิด และยื่นมือหวังจะอัดเวทย์สุดแรงเกิดเข้าไปเพื่อสร้างจังหวะร่ายเอิร์ธฟิลด์ซ้ำอีกครั้ง
แต่ว่า
“[เขล็ดวิชาดาบ—พระจันทร์เสี้ยว]”
วิชาดาบพระจันทร์เสี้ยว??
ชื่อที่ไม่เคยรู้จัก วิชาดาบนี้บนโลกมีคนที่ใช้มันด้วยเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย–ที่สำคัญ
“[พระจันทร์เสี้ยวย้อนกลับ]”
ย้อนกลับ—ย้อนกลับ
มือของผมถูกย้อนกลับ
แทนที่มันจะยื่นไปทางเทพดาบ มันกลับหันไปทางอื่นราวกับถูกสละอาวุธ ทำให้ไม่สามารถร่ายเวทย์ใส่เทพดาบได้ เสียจังหวะไปเป็นวินาที ซึ่งมากพอจะฆ่าผมได้ในห้วงเวลาสั้นๆนั้น
แบบนี้นี่เอง ..วิชาดาบที่สละการตั้งท่าอีกฝ่ายได้
ไม่เห็นรู้จักเลย มันบ้าอะไรกันว่ะเนี่ย โลกนี้มันชักจะมั่วไปกันใหญ่แล้ว
ทั้งวิชาดาบบ้าๆนั่น ทั้งตัวตนของเทพดาบ
ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
“——-โอ้ยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!”
เทพดาบถูกเตะเข้าข้างหลัง เธอกลิ้งไปตามพื้นหลายตลบแต่ก็ตั้งตัวลุกขึ้นยืนได้แบบไม่ยากเย็น และก็ยืนดูเชิงกับพวกผม
คงจะไม่เข้ามาบวกในเร็วๆนี้หรอก
“..ฟู่ว เมื่อตะกี้อลังการสุดๆเลยนะสหายเลิฟ”
วินยกนิ้วโป้งให้ผมทั้งรอยยิ้ม
“..ได้เธอช่วยไว้เลย”
ผมถอนหายใจโล่งอก เมื่อตะกี้เกิดวินมาช่วยไม่ทัน ผมได้ลาโลกแน่ๆ
“เรียกว่าจังหวะ ‘ตกหลุมรัก’ ได้รึเปล่านะ?”
วินขยิบตาให้ ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกขนลุกฟู่วเบย ผมเลยเลือกจะทำเมินที่วินพูดไป
“ก่อนอื่นวิน เธอคนนั้นคือ..”
“เทพดาบสินะ อืม รู้แล้วล่ะ จำได้ว่าเคยเห็นหน้าในรูปถ่ายของเนลยอน”
“เข้าเรื่องได้เร็วเลย ..ช่วยฉันสู้กับเทพดาบที”
“ก็ต้องอย่างนั้นล่ะน้า ทางฉันถ้าไม่ตอบโต้อะไรก็คงจบศพไม่สวยเหมือนกัน” วินพยักหน้าเห็นด้วย “แต่ว่ามีแผนเหรอ เทพดาบเชียวนะ จารย์ที่ฉันเคราพเคยบอกว่าต่อให้เป็นตัวเขาช่วงมีชีวิตก็คงชนะเทพดาบไม่ไหว ..เทพดาบตรงหน้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าวิญญาณระดับเทพบางคนอีกนะ”
นั่นสินะ ..แม้แต่ราชาไสยศาสตร์แรกซ์ก็ยังไม่ไหว
‘ฉันไม่คิดว่าฉันจะแพ้หรอกนะคะ แต่ว่า ..ต่อให้เป็นฉันก็ไม่ง่ายเลยที่จะชนะเธอคนนั้นได้’
แม้แต่ยูนายังบอกอย่างนั้นเลย สัตว์ประหลาดที่ 2-1 ชนะมหามังกรได้บอกไว้ว่าสามารถเอาชนะเทพดาบได้ยาก ..พับผ่าสิ
ผมจับไหล่วินแล้วเจ้าหล่อนก็ตัวกระตุกหนึ่งครั้ง แก้มแดงขึ้นมาหน่อยๆด้วย
“เดี่ยวสิ จู่ๆมาจับตัวกันได้ไงเนี่ย”
“ฟังก่อนวิน ..ฉันมีแผนอยู่”
เทพดาบน่ะมีจุดอ่อนใหญ่ๆอยู่—นั่นคือการที่ตัวเธอถูกจำกัดพลังเอาไว้ ใช่ ที่แสดงออกมายังไม่ใช่พลังทั้งหมด เทพดาบยังมีของเก็บไว้อยู่ เพียงแค่มันถูกผนึกเอาไว้ก็เท่านั้น
ยากที่จะเชื่อที่ความแข็งแกร่งนี้ไม่ใช่พลังที่แท้จริง
“จุดอ่อนของเทพดาบคือ ..หัวใจ”
“หัวใจ?”
“หัวใจของเทพดาบถูกแช่แข็งไว้อยู่ ทำให้อายุขัยของเธอไม่เดิน ..แต่ทุกครั้งที่หัวใจของเธอถูกละลาย เธอจะเรียกดาบที่แท้จริงที่ไม่ใช่ดาบในตอนนี้ออกมาใช้”
น่าเจ็บใจก็จริง แต่
“ถ้าเทพดาบใช้ดาบที่แท้จริงของตัวเองได้ ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะมีโอกาสชนะหรอก”
ดาบที่แท้จริงของเทพดาบ ..ดาบที่จะดึงประสิทธิภาพวิชาของเทพดาบออกมาได้สูงที่สุด แค่ที่เจอตอนนี้ก็แทบตายแล้ว ขืนเจอของหนักกว่านั้นอีกรับไม่ไหวแน่ๆ
วินฟังแล้วก็หน้าซีดฉับพลัน
“พระเจ้าคิดอะไรอยู่นะถึงสร้างสัตว์ประหลาดพรรค์นี้ออกมา”
เรื่องนั้นทางนี้ก็อยากรู้เหมือนกันแหละ ..แทนที่จะไปหาเรื่องจอมมาร ช่วยจัดการกับพวกตัวบัคแบบแกนน่อนรึเอเธอร์หน่อยไม่ได้รึไงฟร้ะ ลำบากเด็กรุ่นใหม่แบบพวกผมจริงๆเลย
เอเธอร์ก็ดี แกนน่อนก็ดี ไอ้พวกนี้มันพวกเหนือสามัญสำนึกของแท้เลย ทั้งพลัง ทั้งประสบการณ์ที่มี มันมากมายเข้าขั้นเอาเปรียบกัน
“ซึ่งเนื่องไขการถูกละลายหัวใจคือ ..การทำให้เทพดาบใจเต้น”
“..แค่จีบก็พอสินะ?”
“อ่า จะว่าได้ก็ได้ล่ะ ขอแค่ใจเต้นก็พอ แต่อันที่ทำง่ายสุดคือกดดันอีกฝ่ายด้วยพลังที่มากกว่า จนใจเต้นและเรียกดาบที่แท้จริงออกมาได้”
ในเนื้อเรื่องต้นฉบับ มีแค่เอเธอร์นี่แหละ ..ที่เรียกดาบที่แท้จริงของเทพดาบออกมาได้ ถึงเนื้อเรื่องมันจะตัดฉากต่อสู้ไปเห็นแค่ผลการต่อสู้ ทำให้ผมไม่รู้พลังของเทพดาบก็ตาม แต่สภาพของเอเธอร์ที่บาดเจ็บหนักหลังจากการปะทะมันยังตราตรึงใจอยู่ ถึงเทพดาบจะแพ้เอเธอร์และตายไปสมใจอยาก แต่ว่าเอเธอร์ก็เจ็บสาหัสเหมือนกัน
นี่แหละความร้ายกาจที่แท้จริง เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
วิธีชนะเทพดาบคือ–ฆ่าเธอก่อนที่จะเรียกดาบที่แท้จริงได้ แต่..เทพดาบไม่ได้ช้าเป็นเต่าสักหน่อย ถ้าเสียเปรียบสักหน่อยแล้วเธอใจเต้นพอดี เธอก็เรียกมันออกมาได้ทันทีเลย ต่อให้เลือกแข่งวัดความเร็วก็ไม่ไหวอยู่ดี ต้องบอกว่าการคิดจะแข่งวัดความเร็วกับเทพดาบคือเรื่องโง่ๆของแท้เลย
เพราะอย่างนั้น ..วิธีเดียวที่จะชนะเทพดาบได้คือ
“พวกเราจะชนะโดยไม่ฆ่าเทพดาบ”
เพราะถ้าพวกเราตั้งใจชนะโดยการฆ่าเทพดาบ คนที่จะตายแทนก็คือพวกเราล่ะนะ
วินมองหน้าผมก่อนจะยิ้มให้ ไม่ได้สงสัยในคำสั่งเลยแม้แต่น้อย
“เอาไงเอากัน วันนี้จะยอมทำตามนายทุกอย่างเลย!”
“เข้าใจแล้ว! ช่วยเตรียม ‘การจอมจำ’ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไว้เลย”
“ได้เลยจ้า ก่อนอื่นถ่วงเวลาให้ฉันสักหนึ่งนาทีพอ”
หนึ่งนาทีเองเหรอ ..สมกับเป็นผู้ใช้ราชาไสยศาสตร์ละนะ
เทพดาบสังเกตุเห็นความผิดปกติ เธอจึงเลิกดูเชิงและชักดาบออกมา ผมใช้ตัดมิติรักษาบาดแผลของตัวเองเสร็จก็พุ่งเข้าชนกับเทพดาบอีกครั้ง
..เทพดาบไม่ได้ไร้เทียมทานขนาดนั้น พูดแบบนี้ก็กระไรอยู่ แต่ตัวเธอที่เรียกดาบที่แท้จริงออกมาไม่ได้ ยังอยู่ในระดับที่พอไปกันไหว ถ้าสถานการณ์เป็นใจ สามารถชนะได้ด้วยตัวคนเดียวด้วยซ้ำ ..แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าบานปลายถึงตอนนั้น ดาบที่แท้จริงจะโผล่ออกมา และหมดสิทธิ์ชนะทันที
มองตัวเทพดาบที่มีแต่ข้อจำกัดตอนนี้ ข้อเสียอันใหญ่หลวงคือวิชาดาบของเทพดาบก็มีแต่วิชาเดิมๆ แต่เดิมจุดกำเนิดของเทพดาบก็มาจากการเป็นนักฆ่าด้วย เธอไม่ได้ถนัดการสู้แบบยืดเยื้อสักเท่าไหร่ ต่างกับผมที่พลังจะแข็งแกร่งขึ้นตามข้อมูลที่ได้จากอีกฝ่าย
ถ้าจะบอกว่าเทพดาบพลาดอะไร ก็คงเป็นการไม่เอาจริงตั้งแต่แรก—ตอนนี้วิธีรับมือเทพดาบมันไหลเข้ามาในสมองเรื่อยๆจนตอนนี้ ถ้าให้สู้ยื้อกันสักพักก็ไม่มีปัญหาอะไร กะอีแค่หนึ่งนาทีน่ะ—ของกล้วยๆเฟ้ย!
“[จังหวะแตะแสงดาว]”
“[ตัดมิติ]!!”
แสงสีม่วงและแสงสีขาวพุ่งตัดกันไปมาเป็นร้อยๆเส้นในพริบตาเดียว วินมองภาพตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
****
“..อาจารย์ ..เอาจริงเหรอเนี่ย”
วินมองภาพตรหงน้าด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
‘ไม่ได้เห็นซะตั้งนาน ..การตัดมิติของยูนา’
ดาบสีม่วงตัดผ่านอากาศเป็นรอยๆครั้ง พร้อมกับรอยเศษกระจกที่แตกจนแทบจะปกคลุมพื้นที่ตรงสนามทั้งหมด รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์นี้ไม่มีทางที่ราชาไสยศาสตร์แรกซ์จะลืมเลือนไปได้ เพราะยังไงซะเธอก็คือลูกศิษย์ที่แรกซ์ฝึกเองกับมือ
“เรเซอร์เป็นผู้ใช้วิญญาณระดับเทพ ..แถมยังเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์อีก แล้วเป็นคนที่กำลังตามหาอยู่ด้วย นึกว่าจะต้องกลับบ้านมือเปล่าแล้วซะอีก”
‘นั่นสินะ การปรากฏตัวของยูนา แถมยังมีผู้ใช้งานที่ดึงพลังได้ตั้งขนาดนั้นอยู่ด้วย ถ้าเนลยอนรู้เรื่องเข้าคงจะกลัวน่าดู ..เตรียมโดนใช้งานหนักได้เลยนะ วิน’
กล่าวจบแรกซ์ก็หัวเราะเบาหวิว วินสงสัยว่าอาจารย์หัวเราะอะไรแต่ก็ไม่ได้ถาม เพราะเธอเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่วิชาไสยศาสตร์ [จองจำ]