บทที่ 5 – การตรวจสถานะที่แท้จริง
นับตั้งแต่วันที่ไอ้ฉันดันไม่เลือกเผ่าพันธุ์เลยทำให้ไปเกิดกลางอากาศ แถมเหมือนจะไปโผล่กลางห้องประชุมคนใหญ่คนโตด้วย
ซึ่งในวินาทีนั้นไอ้ตัวฉันก็นึกว่าจะโดนอะไรแบบล่าแม่มดอะไรทำนองนั้น เพราะไม่ได้ถูกคลอดออกมานี่
แต่เหมือนจะไม่ถูกล่าไม่พอ ยังโดนก้มหัวให้เฉยเลย.. ในขณะที่ภายในหัวเต็มไปด้วยความงุนงง ฉันก็ถูกเอาใจใส่เหมือนกับเป็นลูกคนใหญ่คนโต
แถมเหมือนฉันจะเข้าใจภาษาของคนในโลกนี้ทุกคนเพราะทักษะเข้าใจภาษาระดับสูงสุดด้วย แถมที่ฉันพูดได้ตั้งแต่เด็กเหมือนจะเป็นเพราะทักษะนั้น
ที่ฉันยืนได้ตั้งแต่เด็ก..
ไม่รู้เหมือนกัน น่าจะเป็นเพราะโชคช่วยละมั้ง และนับตั้งแต่เกิดใหม่ก็ผ่านมาแล้วหนึ่งปี ฉันถูกเอาอกเอาใจมาตลอดหนึ่งปี
รูปร่างฉันเหมือนคนธรรมดาทุกอย่าง แต่เป็นผู้หญิงอะนะ.. แน่นอนว่าตลอดหนึ่งปีฉันก็เจอเรื่องมามากมาย
พอหลับตาลงก็หวนนึกถึงเรื่องหนึ่งปีที่ผ่านพร้อมถอนหายใจ มีแต่เรื่องให้ปวดหัวตั้งแต่เด็กเลยนะเนี่ยตัวฉัน
อย่างเรื่องตรวจสถานะ
การตรวจสถานะคือการตรวจพรสวรรค์ที่ได้รับมาตั้งแต่เกิด เดิมทีแล้วในโลกนี้จะมีลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ซึ่งได้รับมาจากพระเจ้า
และไอ้ลูกแก้วนี่จะบอกสถานะ อาชีพได้.. แต่เท่าที่ฉันดูคือรายละเอียดเหมือนเอกสารเกิดใหม่ เพราะจะมีแค่ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้
และอาชีพ สุดท้ายก็เป็นค่าสถานะต่างๆ เท่านั้น…
ในตอนนั้นฉันยืนแตะลูกแก้วในร่างทารก ลูกแก้วเปล่งแสงสีขาวออกมา ก่อนที่จะสร้างเป็นม้วนกระดาษโคตรแฟนตาซี
ม้วนกระดาษนั้นค่อยๆ คลี่ออกและเมื่อมันคลี่ออกเสร็จคนใหญ่คนโตทั้งหลายก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“ค่าสถานะทุกอย่างคือ 99999999….?!”
“อะไรนะ แบบนี้มันเป็นไปได้ด้วยเรอะ!”
“ไม่สิ ถ้าเป็นผู้สังหารเท— อ้ะ! ดูตรงอาชีพสิ God slayer?!!ผู้สังหารพระเจ้า! ว่าแล้วเชียวเธอฆ่าพระเจ้าเพื่อมาจุติจริงๆ!!”
ฉันที่มองภาพนี้อยู่ก็..
“หน่านิ๊?!”
ไอ้ 9999.. เต็มหน้ากระดาษมันคือค่าสถานะ ‘โชค’ ที่มันดันติดบั๊กมาด้วยทับตัวหนังสืออื่นขึ้นไปจนคนมันคิดว่าเป็นสถานะอื่นๆ ที่ 9999… ทุกอัน
….วอท หมายความว่าไงฟะ เดี๋ยวก่อนนะ แล้วพวกเอ็งไม่เห็นเหรอว่าตัวเลขมันทับแม้แต่ตัวอักษรอื่นขึ้นไปหมด
รู้จักไหมบั๊กอ่ะ! ไม่สิ.. ไม่น่าจะรู้จักกันสินะ.. แต่ God slayer นี่มันอะไรจำไม่เห็นได้ว่ามีอาชีพนี้— อ้ะ!
นึกออกแล้ว มันคือคำสาปนี่หว่า! Got slayer แล้วไหงเป็น God slayer…… ยัยเบตตี้พิมพ์ชัวร์ป้าบเลยเว้ยเฮ้ย
ตรงหมายเหตุท้ายคำสาปมันเขียนว่าเป็น ‘คำสาปที่จะไม่สามารถ ‘รับ’ สิ่งใดจากโลกนี้ได้’ ไม่สิ ก่อนจะโทษเบตตี้
ใครมันคนออกแบบชื่อคำสาปวะ ใครมันสอนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษให้วะเนี่ย Got slayer สังหารการได้รับงี้เหรอ บ้าปะเนี่ย
แล้วยัยเบตตี้ก็ดันพิมพ์ผิดเป็น God อีก… วอทเดอะฟัค อิส แฮปเพนนิ่ง
ภายใต้อารมณ์งุนงงของฉันทุกคนก็หันมาก้มกราบฉันอย่างพร้อมเพรียงอีกรอบ.. คนที่เหมือนจะเป็นราชา.. ชื่ออะไรนะ มิเกลมั้ง
เขาก็ประกาศ
“บัดนี้ ตัวเราในฐานะตัวแทนอาณาจักรเกโบล์กขอแต่งตั้งท่าน โรซาเรีย เดอ ออร์เลออง เป็นผู้พิทักษ์แห่งมวลมนุษยชาติ!พระเจ้าไม่ทิ้งเรา!!!ไม่สิ..”
“ผู้ที่สังหารพระเจ้าต่างหาก คนที่เหนือกว่าพระเจ้าไม่ทิ้งเรา!!”
“มีใครจะคัดค้านหรือไม่!”
เขาพูดแบบนั้นก็มองไปรอบๆ ทุกคนไม่คิดจะแย้งอะไร..เดี๋ยวสิ เฮ้ย ฉันยังเป็นทารกไม่ถึงหนึ่งขวบเลยนะเฮ้ย
ผู้พิทักษ์บ้าอะไรอีกเนี่ย! แล้วก็แย้งหน่อยสิเฮ้ย ผู้พิทักษ์มันต้องแบบไปสู้ปกป้องคนอื่นแบบนั้นใช่ป่ะ
ไม่เอาด้วยหรอกนะเฮ้ย แบบนั้นมันไม่ต่างอะไรจากทำงานในบริษัทมืด เป็นแรงงานทาสชั้นยอดไม่ใช่หรือไง
ใช่แล้ว! ตอนนี้ฉันต้องเป็นคนคัดค้านเอง!
ว่าแล้วฉันก็ยกมือขึ้น พอมิเกลเห็นฉันยกมือขึ้นเขาก็ลดความน่าเกรงขามลงไปพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพ
อ้ากก แค่นึกว่าทุกอย่างมันคือความเข้าใจผิด สเตตัสนอกจากโชคของฉันก็ไม่มีห่าอะไร แล้วอาชีพจริงๆ มันคือคำสาป
แต่โดนคนเคารพเพราะเข้าใจผิดว่าเก่ง แถมคนใหญ่คนโตก้มหัวให้ ถูกจับได้ไม่ใช่ว่าฉันต้องถูกประหารเลยเหรอ
พึ่งเกิดใหม่นะเนี่ย!… ไม่สิ ฉันไม่ผิดนี่น่า ฉันไม่ได้โกหกสักหน่อยพวกนี้เข้าใจผิดกันไปเองอ่า
“เอ่อ.. มีอะไรไม่ถูกใจท่านโรซาเรียหรือไม่?”
ว่าก็ว่าเถอะ เอ็งอย่าเอาหัวแนบแทบพื้นทุกครั้งที่คุยกับฉันจะได้ไหม ความรู้สึกผิดมันกัดกินใจฉัน…
“อืม…”
แต่พอเอาเข้าจริงฉันควรจะพูดไงดีเนี่ย.. ถึงพวกนี้จะเข้าใจผิดว่าฉันเก่งแต่ถ้าพูดไม่ถูกหูขึ้นมาอาจจะกลายเป็นศัตรูกันก็ได้ใช่ไหม
ก็แบบ.. มีคำพูดประมาณอย่าไล่ต้อนสุนัขจนมุมอยู่ใช่ไหมล่ะ ถ้าฉันพูดอะไรไม่ถูกหูเข้าอาจจะแย่แทนก็ได้นะ
ในขณะที่ใช้ความคิดพลางหน้านิ่วคิ้วขมวด ถึงจะยังเป็นทารกเลยไม่มีคิ้วให้ขมวดดังนั้นการแสดงออกทางสีหน้าจึงไปในโทนเดียว..
มิเกลที่เห็นฉันแสดงสีหน้าแบบนั้นก็เหงื่อแตกพลั่กทันที
“ข.. ขออภัยด้วย! ท่านที่เป็นถึงผู้สังหารเทพจะมาอยู่ฝ่ายเดียวกับมนุษย์ได้อย่างไร ขออภัยที่ล่วงเกิน!”
“ปัญหามันอยู่ตรงนั้นหรือไง?!”
ฉันเผลอตบมุกออกไปโดยไม่รู้ตัวหลังจากกลั้นมานานแต่ก็อดเอาไว้ไม่อยู่ แต่ทว่ามิเกลที่ได้ยินเช่นนั้นกลับเอาหัวโขกพื้นอย่างรุนแรง
“ขออภัยที่ข้าน้อยสติปัญญาต่ำเกินไป ไม่อาจเข้าใจประสงค์ของท่านได้! พวกนายเข้าใจหรือยัง!?”
“ห้ะ?!”
ทุกคนในที่แห่งนี้รวมถึงฉันก็งงกันเป็นไก่ตาแตก.. ในขณะที่ทุกคนงงกันอยู่นั้นมิเกลก็ลุกขึ้นพร้อมอธิบาย
“ท่านโรซาเรียกำลังจะบอกว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เผ่าพันธุ์ไหนสักเผ่าพันธุ์ แต่อยู่ทุกเผ่าพันธุ์ต่างหาก!”
“หมายความว่าไงครับ?”
เออ นั่นสิ หมายความว่าไงวะ
“โอเรีย แจงข่าวที่เธอได้รับหลังจากท่านโรซาเรียถือกำเนิดทำให้ทุกคนหวั่นเกรงจนสามารถสืบเข้าไปในไส้พุงของแต่ละเผ่าพันธุ์มา”
“ทราบ”
ว่าแล้วก็มีนินจาสาวปรากฏตัวพร้อมเสียงตอบที่โคตรนิ่ง.. เท่โคตร!
“เมื่อเร็วๆ นี้ขุมอำนาจแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างมีปัญหาในการพัฒนาตัวแทนแห่งเผ่าพันธุ์เช่นเดียวกันกับมนุษย์”
นินจาสาวกล่าวเช่นนั้น
“ถูกต้องแล้ว.. ที่ท่านโรซาเรียจะบอกก็คือท่านต้องการจะสร้างสมดุลขึ้นมาไม่ใช่อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั่นเอง!”
“เอ๋?! จะบอกว่าท่านโรซาเรียเป็นศัตรูกับพวกเราเหรอ”
“ว่าไงนะ! งั้นรีบกำจัดนางตอนนี้—”
“เจ้าบ้าคิดว่าตัวเองจะทำอะไรท่านผู้นั้นได้หรือไง?!”
ฉันถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก ไอ้บ้านี่มันเข้าใจผิดไปไกลขนาดไหนของมันวะเนี่ย มาถึงขั้นนี้ฉันต้องพูดออกไปแล้ว
“เดี๋ยวสิ ฉันพูดแบบนั้นตอนไหนเนี่ย?!”
“เอ้ะ?!”
ทุกคนหันมาหาฉันเป็นสายตาเดียวกันพร้อมแสดงสีหน้างงๆ
“เอาเข้าจริง ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนั้นหรอก ที่ฉันสนใจน่ะมีแค่—”
“อะไรนะ?!”
เสียงนินจาสาวดังขึ้นด้วยตกใจ ทั้งที่ฉันกำลังจะพูดว่าที่ตัวเองสนใจมีแค่ชีวิตสบายๆ เท่านั้นแต่นินจาสาวที่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจก็รายงาน
“ฝ่าบาท เหมือนว่าปีศาจเองก็จะมี ‘เทพมาร’ ถือกำเนิดขึ้นมาเช่นเดียวกัน!”
“ว่าไงนะ!”
“แบบนี้นี่เอง! ผู้สังหารเทพตามคำทำนายกับเทพมารถือกำเนิดมาในยุคเดียวกัน! ที่ท่านโรซาเรียบอกว่าสนใจก็คือ?!”
“ไม่ผิดแน่! เทพมาร!”
…….พวกเอ็งแม่งเมากัญชากันรึไงฟ้าา หัดฟังคนอื่นพูดให้จบบ้างเส้!!
……..
อนึ่ง ‘เทพมาร’ คือนิยามของตัวตนที่เทียมเทพที่แท้จริง แต่อยู่ฝ่ายปีศาจ.. ซึ่งไม่เคยมีตัวตนมาก่อนเป็นแค่ตำนานอวยของเผ่าปีศาจเท่านั้น…. และเป็นตัวตนเดียวที่เทพที่แท้จริงปล่อยให้กล่าวเทียบกับตนเองนอกจากคำทำนายผู้สังหารเทพ
ซึ่งในความเป็นจริงเบตตี้ก็ไม่เคยสนใจเรื่องหยุมหยิมที่เอาชื่อตัวเองไปเทียบหรอก
ก็คือ คนกลัวกันไปเองอะนะ
MANGA DISCUSSION