บทที่ 13 – เวทอายุขัยที่แท้จริง
“ไม่เป็นอะไร…?”
โรซาเรียได้แต่คิดแล้วสงสัยว่าไม่เป็นอะไรที่ว่าของอีกฝ่ายหมายถึงอะไรกันแน่? ก่อนที่เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าผมตนเองยาวขึ้น
นอกจากนี้เหมือนจะสูงขึ้นด้วย.. ด้วยความสงสัยโรซาเรียถึงหยิบเอากระจกพกพาออกมาจากไหนไม่รู้
กระจกพกพานี้เป็นสิ่งที่โรซาเรียสั่งทำขึ้นมา ในโลกนี้ยังไม่มีนิ่งที่เรียกว่ากระจกพกพาอยู่เลยด้วย
กล่าวคือโรซาเรียสั่งทำขึ้นมาไว้กับตัวเองโดยเฉพาะ เพื่อที่จะสามารถมองใบหน้าของตนเองได้ตลอดเวลา
กระจกนี้สำหรับโรซาเรียก็เหมือนกับอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตเธอเลยก็ว่าได้ เพราะกระจกพกพาค่อนข้างสร้างยากตอนโรซาเรียสั่งทำกว่าจะได้ก็ครึ่งปี
ดังนั้นโรซาเรียจึงเข้าใจว่าการผลิตในโลกนี้ค่อนข้างช้า.. ซึ่งความจริงก็เป็นแบบนั้นแต่พอสร้างอันแรกได้แล้วอันอื่นก็ง่ายขึ้นเพราะมีต้นแบบ
ปัจจุบันมีขายแพร่หลายตามตลาดแม้แต่สามัญชนยังเข้าถึงได้.. แต่โรซาเรียไม่รับรู้ถึงสิ่งนั้น ดังนั้นของชิ้นนี้จึงสำคัญและพกติดตัวไว้เสมอ
เพื่อมองหน้าตนเองอ่ะนะ…
เมื่อเธอมองเห็นใบหน้าเล็กๆ ของตัวเองดวงตาก็เป็นประกายระยิบระยับ ดวงตาของเธอนั้นมีสองสี.. ข้างหนึ่งเป็นสีฟ้า อีกข้างเป็นดวงตาระยิบระยับยากจะแยกว่าสีอะไร
แต่พอเห็นใบหน้าของตัวเองดวงตาข้างนั้นก็เหมือนจะมีสีชมพูชัดเจนขึ้นมา..อาจจะคิดไปเองแต่มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
แน่นอนว่าโรซาเรียไม่ได้สังเกตเพราะเธอดูภาพรวมของตัวเอง เธอยิ้มขึ้นพร้อมกับพูดด้วยความตื่นเต้น
“ตัวฉัน … สวยแล้วก็น่ารักเว่อร์!!”
วินาทีที่โรซาเรียกล่าวแบบนั้น ทุกคนที่เห็นภาพนี้ก็ต่างพากันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย… ทว่าวินาทีนั้นเองนาฬิกาสีแดงก็แตกกระจายออก
เฒ่าอมตะกระอักเลือดพรวดออกจากปากถอยหลังไปหลายก้าว… ดวงตาของเธอมองไปที่โรซาเรียด้วยความตกใจ
“ยัยเด็กบ้านั่นมันอะไร.. เร่งอายุขัยไปมากกว่าพันปียังไม่เป็นบ้าอะไรเลย ยังเป็นคนอยู่อีกเหรอ?!”
แน่นอนสาเหตุที่พลังของเธอสลายไปและกระอักเลือด เพราะในชั่วพริบตาเดียวกันเธอเร่งอายุขัยเพิ่มเป็นร้อยเท่า
ทำให้เวลาผ่านไปพันปีในพริบตาเดียวกันจนไม่มีคนสังเกตเห็น ผลลัพธ์คือใช้พลังมากไปจนเกิดการตีกลับของเวทมนตร์จนบาดเจ็บเอง
แน่นอนมองในมุมมองเธอเป็นเช่นนั้น แต่คนอื่นกลับมองว่าเป็นเพราะอาคมประหลาดของโรซาเรีย!
“แบบนี้เองสินะ”
มิเกลพึมพำด้วยสีหน้าจริงจังเหมือนเข้าใจ ทุกคนต่างพากันมองมาที่มิเกลด้วยความสับสนและสงสัย ใครไม่รู้ถามขึ้นด้วยความงุนงง
“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ฝ่าบาท!”
แน่นอนว่ามิเกลเงียบลงและเรียบเรียงความคิด ก่อนที่มิเกลจะพูดอธิบายเป็นฉากๆ ราวกับเหตุการณ์กำลังย้อนกลับไป
“ก่อนอื่นเลย.. เวทมนตร์ของเฒ่าอมตะที่ใช้ออกมาไม่ใช่หยุดยั้งหรือลบล้างอายุขัย.. พลังของเธอในอดีตนั้นอย่างมากก็แค่ลบอายุขัยในอนาคตสั้นๆ แล้วก็เอาชนะไป”
“หรือหากไม่มีทางสู้จริงๆ จะไล่ลบอายุขัยในอดีตพวกทักษะหรือเวทมนตร์ของศัตรูจนทำพวกมันใช้เวทมนตร์เดิมไม่ได้”
“หากตัวเองโดนดาเมจนางก็แค่ลบอายุขัยของตนเองช่วงนั้นออกไป.. แต่เดิมมีอายุขัยของมนุษย์เรานั้นมีไม่มากกว่า 150 ปี.. สาเหตุที่เจ้าตัวไร้พ่ายและอมตะมาตลอดสองร้อยปี เพราะเจ้าตัวหยุดยั้งอายุขัยตนเองไว้และทุกครั้งที่สู้ก็มีลบอายุขัยบ้าง”
“จนทำให้ตอนนี้บางทีอายุขัยของนางคงเหลือไม่เกิน 50 ปี.. เพราะลบอายุขัยตนเองเวลาสู้หรืออาจจะแพ้..”
“มันจะสอดคล้องกับข้อมูลที่โอเรียให้ข้อมูลมาพอดีว่า.. ‘นางกำลังค้นคว้าเวทมนตร์ใหม่’ .. สังเกตจากการเติบโตของร่างกายท่านโรซาเรีย..”
“ก็รู้แล้วว่าเวทมนตร์นั้นคืออะไร…”
เมื่อมิเกลกล่าวถึงจุดนี้… ทุกคนก็คิดพร้อมกันขึ้นมาเป็นคำเดียวกันว่า
‘เร่งอายุขัย!’
บางที.. คงย้อนได้ด้วยเพื่อที่นางจะได้ทำให้ตนเองไม่สูญเสียอายุขัยไปมากกว่านี้.. แต่พลังของหล่อนคือการลบอายุขัยไม่ใช่เหรอ ต่อให้ย้อนไปขนาดไหนก็ไม่มีทางย้อนกลับไปหาสิ่งที่ถูกลบออกไปได้นี่น่า
นั่นคือคำถามของทุกคนที่อยู่ในนี้..
แต่เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่างเพราะครั้งแรกที่เวทมนตร์ไม่ได้ผลกับท่านโรซาเรียคือจังหวะที่เธอพูดอะไรบางอย่างแล้ว..จับผมตัวเอง!
“เวทมนตร์ลึกลับของท่านโรซาเรียหยุดยั้งเวทมนตร์แห่งโลกได้!”
และครั้งที่สองก็ถือกระจกแล้วร่าย.. ท่านโรซาเรียถึงทำลายเวทมนตร์เร่งอายุขัยได้! เมื่อเห็นเช่นนี้ทุกคนต่างอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ทรงพลัง!!”
มิเกลกล่าวเสริม
“บางทีคำว่า ‘สวย’ อาจจะเป็นคีย์บางอย่าง..”
แต่ในตอนนั้นเองมีคนหนึ่งที่เป็นนักการทูตจากอาณาจักรเล็กๆ อันห่างไกลพึ่งจะเคยเห็นโรซาเรียเป็นครั้งแรก.. เขาก็พูดขึ้นว่า
“เอ่อ.. ส่องกระจกแล้วบอกว่าตัวเองสวย.. ไม่ใช่ว่าเธอกำลังอวยตัวเองอยู่เหรอ..”
“จะบ้าเหรอแก! ท่านโรซาเรียไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหรอก!”
“ใช่แล้วฟังกฎสามข้อสำหรับตัวตนของท่านไว้ 1.ท่านทรงพลัง 2.อย่าใช้บรรทัดฐานความคิดพื้นฐานพวกเรากับท่าน 3.ห้ามคิดว่าท่านอ่อนแอกว่าพวกเรา ท่านสูงกว่าพวกเราเสมอ! ”
“…..”
ชายคนนั้นถึงกับเงียบปากลงทันที..
ในทางเดียวกันเฒ่าอมตะที่เห็นโรซาเรียยังยืนอยู่เฉยๆ เธอก็ปรับอารมณ์แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างประหลาดใจ
“ไม่ธรรมดานี่ ถึงจะไม่รู้ว่าป้องกันด้วยวิธีไหน แต่ข้าขอยอมรับว่าเจ้าเป็นคนที่เก่งที่สุดตั้งแต่ที่ข้าเคยเจอมาก่อนตลอดในชีวิตสองร้อยปี!”
โรซาเรียที่ได้ยินแบบนั้นก็นึกว่าอีกฝ่ายยิงมุกมา เพราะเธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย แถมปกติคนในโลกนี้ก็ไม่พูดแบบนี้ ปกติจะอวยกันตรงๆ
โรซาเรียจึงได้แต่คิดว่า บางทีคุณยายนี่อาจจะรู้ว่าเธอไม่แข็งแกร่งอะไรเลยก็ได้ เพราะตลอดที่สู้กันมาเธอก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
นอกจากนี้ยังชงมุกมาซะแบบว่า ‘ตลอดสองร้อยปีที่ผ่านมา’ พูดซะโอเว่อร์ขนาดนี้ ไม่ให้ตบมุกแบบโบ๊ะบ๊ะ ใครจะไปทนไหว
เธอหัวเราะพร้อมตบมุกไปหนึ่งมุกว่า
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยนะ สองร้อยปีของเธอมีแต่คนอ่อนกว่าแมลงสาบหรือไง ฮ่า”
“……..”
“……”
“……..”
ทุกคนเงียบลงกะทันหัน.. มิเกลหวนนึกถึงเฒ่าอมตะตามคำร่ำลือในอดีต.. เคยสังหารผู้ที่แข็งแกร่งพอกับตัวแทนเผ่าพันธุ์ได้
เคยต่อสู้กับอาณาจักรหนึ่งคนเดียว … ทั้งยังเคยต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ที่หายากซึ่งเรียกว่าเผ่า ‘กริฟฟอน’ แม้จะแพ้มาแต่เธอก็สามารถตัดปีกมันได้หนึ่งข้าง
ว่ากันว่ากริฟฟอนเป็นเผ่าในตำนานที่จะทำสงครามแค่กับเผ่าในตำนานด้วยกัน ว่ากันว่ากริฟฟอนธรรมดาหนึ่งตนสามารถสังหารผู้กล้าได้สองคนสบายๆ
นอกจากนี้ยังมีตำนานอีกมากมาย.. เคยเจอแม้แต่มังกรเผ่าพันธุ์ระดับที่สูงยิ่งกว่ากริฟฟอน… จะบอกว่า..ทุกอย่างที่ว่ามา..
อ่อนกว่าแมลงสาบ…ในความคิดของเธองั้นเหรอ?
ภายใต้ความคิดของทุกคนไม่เว้นแม้แต่เฒ่าอมตะ.. เธอเงียบลงเพราะคำพูดของโรซาเรียแต่แทนที่เธอจะโกรธเธอกลับหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ.. ข้าเข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้ว ดูเหมือนในเมื่อมาถึงจุดจุดนี้คำพูดของเจ้าคงไม่ใช่การดูถูกแต่เป็นความจริงงั้นสินะ ยัยหนู!”
“ไม่สิ.. โรซาเรีย เดอ ออร์เลออง!”
“ข้าคนนี้ เฒ่าอมตะ.. ไม่สิ เมอร์ลิน เรดแอร์ คนนี้ขอนับถือเจ้าจากใจจริง”
“ยอมรับแล้วว่าเจ้าคู่ควรแก่ท่าไม้ตาย Phase สามของข้าที่คิดค้นมาเพื่อพิชิตพี่ชายฝาแฝดของข้า.. ท่าไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของข้า!!”
“กงกรรมไร้ผล!!”
นางกล่าวเช่นนั้นนาฬิกายักษ์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง!ทว่าคราวนี้กลับไม่ใช่บนหัวโรซาเรีย แต่เป็นบนหัวเธอเอง แถมการปรากฏตัวครั้งนี้เหมือนไม่ใช่พลังเวท
แต่เป็นของที่มีการดำรงอยู่จริงนั่นส่งผลให้โรซาเรียเองก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทำเอาเธอสะดุ้งจนถอยหลังไปหลายก้าว
ท่าที่ตรงกันข้ามกันกับเร่งอายุขัยไม่ใช่ย้อนอายุขัย..
แต่เป็นการเปลี่ยนกงกรรมของอายุขัย… พูดง่ายๆ คือ.. ยิ่งอายุขัยของเธอถูกลบออกไปมากเท่าไหร่ อายุขัยก็จะถูกเปลี่ยนจากที่ถูกลบให้เป็นกลับมามีอยู่!
ว่าง่ายๆ คือ!…
ผมสีม่วงเงางามของเธอสยายออก ผมที่ตอนแรกเป็นสีขาวหงอกไปถึงโคนผม.. แต่บัดนี้ผมของเธอกลับมาสดใสเงางามอีกครั้ง ใบหน้าที่เหี่ยวย่น ร่างกายที่แก่งอน..ก็ถูกดึงรัดให้เต่งตึงขึ้น
และ… นางก็ชี้นิ้วไปทางโรซาเรีย
“กงกรรมที่ถูกสับเปลี่ยนไม่หายไปไหน… แต่มันจะถูกโยนไปใส่ผู้อื่นที่ไม่ใช่ข้าซึ่งคือเจ้า.. ข้าเคยลบอายุขัยไปมากกว่าร้อยปี.. แต่เจ้าพึ่งอายุห้าหกขวบ เร่งอายุขัยที่ข้าปลดปล่อยใส่เจ้าไม่ถูกนับในท่านี้..”
“อายุขัยของเจ้าจะถูกลบไปร้อยปี.. แต่เจ้าพึ่งจะมีอายุประมาณห้าขวบ…”
“กล่าวคือท่านี้.. สามารถลบตัวตนของเจ้าได้ประมาณ… 20 รอบ!”
สิ้นเสียงใบหน้าที่สวยจนน่าตะลึงพลันปรากฏขึ้น ยายแก่หนังเหี่ยวหายไปโดยสิ้นเชิง เธอกลายเป็นเหมือนแม่มดวัยใสผมสีม่วงที่มีใบหน้ามั่นอกมั่นใจหาใดเปรียบ!
MANGA DISCUSSION