เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 95 – มันถึงทีข้า
Chapter 95 – มันถึงทีข้า
ซูซางเฟยดูหยิ่งมากจนถึงจุดสูงสุด.
พูดสิ.
พูดสบประหมาดด้วยลิ้นของเจ้า.
บิดาคนนี้จะทำร้ายเจ้าด้วยการทุบเพียงครั้งเดียว ความรู้สึกแบบนี้ของซูซางเฟยน่ากลัวอย่างมาก เพราะว่าเขาสามารถระบายความโกรธได้อย่างสมบูรณ์.
ซูซางเฟบเริ่มหัวเราะอย่างหยาบช้าอีกครั้งขณะที่เขาจ้องมองลั่วเทียนซึ่งไม่อาจขยับได้“เจ้าขยะสารเลว เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติต่อสู้กับข้าจริงๆ?”
“เจ้าสามารถที่จะต่อสู้กับข้าได้งั้นรึ?”
“เจ้ามีคุณสมบัตเหล่านั้นจริงๆนะ?”
“5555…”
“ไอ้ไร้ประโยชน์ เจ้าแพ้ด้วยการทุบตีเพียงครั้งเดียวของข้า สมาชิกตระกูลของเจ้าจะตายตามเจ้าไป 555 สำหรับ สาวน้องทั้งสอง หี่ๆ…” ซูซางเฟยเริ่มเยาะเย้ยและจ้องมองไปที่ซูเหยาซง.
ซูเหยาซงยิ้มอย่างพอใจและตระหนักถึงคำพูดเหล่านั้น“ฆ่าพวกมันให้หมด เหลือสองสาวนั่นไว้.”
สำหรับตอนนี้…
ทุกคนในตระกูลลั่วได้เริ่มเข้ามาปกป้องชุนชุนและหลี่ซูเอ๋อร์ ตาของลั่วคุนซานเบิกกว้างด้วยความโกรธ“สาวกตระกูลลั่วทั้งหมดฟัง! แม้ว่าเจ้าจะตายก็ต้องปกป้องน้องสาวหลี่และชุนชุน!”
“ทราบ!”
“ไอ้สุนัขจรจัดของตระกูลซู บิดาคนนี้จะฆ่าทุกคนที่เข้ามาใกล้!”
ฝูงชนเริ่มขยับออกเนื่องจากกลัวว่าเพลิงจะกระเด็นมาโดนพวกเขา.
มีสมาชิกในตระกูลซูมากกว่าคนของตระกูลลั่วมากกว่าหลายคน การล้อมกรอบของพวกเขาก็เริ่มหดเล็กลงเมื่อพวกเขาทั้งหมดมองดูสาวกตระกูลลั่วดังเหยื่อ การแสดงออกของสมาชิกตระกูลซูทุกคนในครอบครัวมีความคล้ายคลึงกับซูซางเฟย-ใจแคบอย่างมาก.
เมื่อตระกูลลั่วถูกทำลายเมืองภูเขาหยกจะเป็นของตระกูลซู.
และต่อจากนี้ไปพวกเขาสามารถทำหน้าที่ลงโทษทุกคนในเมืองภูเขาหยก!
ทันใดนั้น…
ในกลุ่มฝูงชนมีหลายคนกระโดดขึ้นไปในอากาสและกระโจนเข้าสู่ตระกูลลั่วที่ถูกล้อมรอบ.
เสื้อผ้าสีขาวที่ไว้ทุกข์ซ่งหยวนหนานก็ลงมา เขาเหลือบไปมองลั่วเทียนที่ถูกฝังเหมือนกับเสาเข็มพลางสะดุ้งโหยง“ผู้อาวุโสลั่ว ออกคำสั่งให้ออกจากที่นี่”
ด้านหลังซ่งหยวนหนานมีกลุ่มคนอีก 6 คนแต่ละคนก็สวมเสื้อผ้าไว้ทุกข์และภายในดวงตามีแต่ความเกลียดชัง.
ลั่วคุนซานมองไปที่ลั่วเทียนที่เวทีและกล่าวว่า“แล้วผู้นำ?”
ลั่วเทียนยังไม่ตาย เขาจะทิ้งเขาไว้ได้อย่างไร?
สาวกหลายคนของตระกูลลั่วรู้สึกตกใจกับความคิดของซ่งหยวนหนาน โดยไม่รู้แม้แต่น้อยว่าพวกเขาคิดว่าลั่วเทียนคือเสาหลักของตระกูล.
ซ่งหยวนหนานขุ้นเคืองก่อนที่จะตัดสินใจตะโกนออกมา“ตระกูลซ่งทั้งหดมฟัง!ใช้กำลังทั้งหมดช่วยลั่วเทียน!”
“ผู้อาวุโสลั่ว ออกคกสั่งให้สาวกฝ่าออกไป ลั่วเทียนเมื่ออยู่ในมือเราเขาจะปลอดภัย.”
ซ่งหยวนไค่วเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“5555…”
ซ่งหยวนหนานพึมพำ“เนื่องจากตระกูลซ่งถูกทำลายไปแล้ว ความหมายของการมีชีวิตต่อไปคืออะไร? ถ้าเราสามารถช่วยลั่วเทียนได้บางทีเขาอาจจะแก้นแค้นให้ตระกูลซ่งกว่า 471 ชีวิตได้!”
ซ่งหยวนหนานได้ปรากฏตัวในวันนี้และเขาก็ไม่เคยคิดที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้.
ลั่วคุนซานไม่ได้รีรอเขาออกคำสั่งทันที“ฝ่าออกไป!”
ตาของซ่งหยวนหนานเริ่มจ้องไปยังซูซางเฟยเขม็งพร้อมกับความเกลียดชัง“ฆ่า!!!”
ซูเหยาซงมีการเย้ยหยันอย่างดูถูก“กลุ่มพวกโง่ไร้ประโยชน์ต้องการจะโดนดีอีกรอบ? ซ่งหยวนหนานพวกเจ้ามาในเวลาที่เหมาะสม บิดาคนนี้จะดูแลเจ้าในครั้งเดียว เพื่อที่จะได้เปิดโลกระหว่างชนชั้นสูงและพวกสุนัขต่ำชั้น.”
“ตระกูลซูจงฟัง!”
“นอกเหนือจากสาวน้อยทั้งสองแล้วซางเฟยต้องการให้ฆ่าให้หมด!”
การสู้รับเริ่มขึ้นทันที.
เหล่าสาวกตระกูลซูเหมือนเสื้อโคร่งและหมาป่ากระโจนออกไป.
ลั่วคุนซานนำหน้าและเจ้าทะลวงฝ่าวงล้อม.
ซ่งหยวนหนานนำสมาชิกที่เหลือทั้ง6รีบขึ้นไปบนเวที.
หลี่ซูเอ๋อร์รู้สึกราวกับว่าหัวใจได้มีเลือดออก เธอจ้องมองไปยังคนที่อยู่ในชุดคลุมสีดำท่ามกลางฝูงชนในลักษณะอ้อนวอน.
แต่บุคคลชุดคลุมดำนั้นไม่แย่แส.
ตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา.
มันเหมือนกับภูเขาน้ำแข็งที่ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ยกเว้นความสนใจกับความปลอดภัยของเธอ.
ท่าทีของหลิงหานซานเป็นอย่างนี้เสมอ.
ตั้งแต่ที่เธอบอกว่าจะไม่ช่วยก็คือไม่ช่วย แม้ว่าเธอจะช่วยลั่วเทียนตอนนี้ได้ เขาก็ยังจะตายในเวลาต่อมาอยู่ดี.
กองทัพของนิกายเมฆครากำลังจะมาก่อนที่ท้องฟ้าจะมืด.
เมื่อถึงเวลานั้นเมืองภูเขาหยกจะกลายเป็นเมืองแห่งความตาย!
ตระกูลลั่วจะไม่รอด.
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอไม่เคลื่อนไหว เธอกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหลี่ซูเอ๋อร์ในขณะที่คนอื่นๆไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลย.
ในตอนนั้น…
หลี่ซูเอ๋อร์เริ่มเกลียดหลิงหานซานเล็กน้อ.
ขณะที่จ้องอย่างหงุดหงิดไปที่ลั่วเทียน หลี่ซูเอ๋อร์ก็ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง“พี่ใหญ่ คุณต้องลุกขึ้น! ลุกขึ้น!”
ชุนชุนกำลังร้องไห้ออกมา ฉากนี้ทำให้เธอคิดถึงโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นกับเผ่าจิ้งจอกปีศาจของเธอ.
กลิ่นเลือด,การฆ่าฟันและคนที่เธอรักถูกจับ ทำให้หัวใจน้อยๆของเธอแทบจะทนไม่ไหว.
นั่นเป็นสาเหตุให้เธอร้องไห้ราวกับฝนตก ใครก็ตามที่เห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกเศร้าตามไปด้วย.
หลี่ซูเอ๋อร์อุ้มชุนชุนขึ้นและปลอบโยนเธอ “ไม่ต้องร้องชุนชุน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ใหญ่ได้”
ทันใดนั้น…
มังกรผีก็ออกมาและแผ่กลิ่นอายแห่งความตายที่ท่วมทะลักออกมา คล้ายกับสายฟ้ามันวิ่งไปข้างหน้า.
การจู่โจมกระทันหันทำให้ตระกูลซูหลายคนกระเด็นขึ้นไปอากาศทันที.
จากนั้นมันก็วิ่งจ้ำไปบนพื้นอย่างรวดเร็ว.
การโจมตีอย่างฉับพลันทำให้เกิดช่องว่างขึ้น ลั่วคุนซานเห็นประกายความหวัง จากนั้นเขาก็ตะโกน: “พี่น้อง ตามข้าฝ่าออกไป!”
ซูเหยาซงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหว.
ร่างกายของเขาราวกับสายฟ้าขณะที่เขากระโจนเข้าไปยังกลุ่ม ไม่กี่ครั้งเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าลั่วคุนซาน พลังปราณเชี่ยวชาญขั้น 9 ก็ทะลักออกมาพร้อมกับความกดดันและมือของเขาก็พุ่งเข้าไปยังช่องว่างและคว้าไปที่คอของลั่วคุนซาน ซูเหยาซงเยาะเย้ยและพูด“ตายซะ!”
ลั่วคุนซานมีการบ่มเพาะอยู่ที่ปราณเชี่ยวชาญขั้น 3 เท่านั้น.
ต่อหน้าซูเหยาซงเขาไม่มีอำนาจที่จะต่อต้านเลยแม้แต่น้อย แต่ลั่วคุนซานยังคงสู้อย่างบ้าคลั่งโดยหวังว่าจะทำร้ายซูเหยาซงให้มากที่สุด.
อย่างไรก็ตาม…
ซูเหยาซงยกลั่วคุนซานขึ้นไปในอากาศและกระแทกลงบนพื้น“ตอนนี้ก็ตายได้แล้ว!”
“ตูม~!”
กระเบื้องบนพื่นกระเด็นกระจัดกระจายและมีลั่วคุนซานอยู่ในหลุมนั่นแทน เขาพ่นเลือดสีดำและใบหน้าก็ซีดจาง.
“ผู้อาวุโส!”
“ลุงคุนซาน!”
“บืดาคนนี้จะสู้กับเจ้าจนตายไปข้าง!”
“อ่าาา…”
สายตาของสาวกตระกูลลั่วได้กลายเป็นแดงกล่ำเนื่องจากเจตนาสังหารของพวกเขาสูงเสียดฟ้า.
ซูเหยาซงเยาะเย้ยและพูดอย่างรังเกียจ“พวกขยะ ข้าก็เพียงแค่ฆ่าพวกเจ้าให้หมด”
อีกด้านที่ซ่งหยวนหนานอยู่.
พวกเขาก็ถูกขัดขวางแม้ว่าซ่งหยวนหนานจะอยู่ในขั้นปราณเชี่ยวชาญขั้น 9 แต่เขาก็ยังคงมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจากอาหารร้ายแรงก่อนหน้านี้และตระกูลซูก็มีไม่ถึง 10 เท่านั้นจากจำนวนทั้งหมด.
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากเวทีไม่กี่เมตร แต่พวกเขาก็ไม่อาจเก้าไปข้างหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว.
สำหรับตอนนี้…
ตระกูลลั่วและซ่งตกอยู่ในความทรมาณ.
พวกเขาอยู่บนปากเหวของชีวิตและความตาย.
ความแตกต่างของจำนวนทั้งสองฝ่ายมีมากเกินไป ตระกูลได้ใช้เวลาทั้งเดือนในการเรียกรวมชนชั้นสูงมาแค่วันนี้!
ฝูงชนที่เป็นผู้ชมรอบๆมีใบหน้าหมองคล้ำในสายตาของพวกเขา.
“ตระกูลลั่วจะถูกทำลายทันที โครงสร้างของ2/4ตระกูลใหญ่ในเมืองภูเขาหยกถูกทำลาย จากนนี้ไปเมืองภูเขาหยกจะเเปลี่ยนชื่อไปเป็นเมืองตระกูลซู!”
ขณะที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้…
ลั่วเทียนที่อยู่ในโลกแห่งการสังหาร
เขากำลังนั่งลงในโลกแห่งการสังหารในขณะที่ตัวของเขาเปียกไปด้วยเหงื่อ ฝั่งตรงข้ามเป็นดาบอันดับหนึ่งของโลกที่เต็มไปด้วยเลือดและเจตนาฆ่าจไนวนมาก.
“มันไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะเคลื่อนไหว?”
“เคี๊ยกๆๆ… จำเงื่อนไขที่เจ้าสัญญาได้หรือไม่.”ดาบดื่มโลหิตหัวเราะด้วยน้ำเสียงแปลกๆ.
ลั่วเทียนตอบ“ไม่ต้องห่วง มันไม่ใช่ว่าเป็นเส้นทางแห้งการฆ่างั้นรึ? ข้าจะทำมัน.”
“ดี!”
“งั้นมันก็ถึงตาข้าที่ต้องปรากฏตัวแล้วในตอนนี้!”
ทันใดนั้น…
ลมและเมฆที่ท้องฟ้าเริ่มปั่นป่วนจนมืดลงและเปลี่ยนเป็นสีแดง ลั่วเทียนค่อยๆเปิดตาอย่างช้าๆและโดยไม่รู้ตัวเขาก็ได้ถือดาบขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเลือด.
ใบมีดที่มีน้ำหนักกว่า 1,800 จิน!