เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 91 – เจ้าอ้วนแปลงร่าง
Chapter 91 – เจ้าอ้วนแปลงร่าง
ขณะที่เท้าของเขาแตะลงพื่นระลอกคลื่นก็กระจายออกมา มันเหมือนกับหินที่ตกลงไปในทะเลสาบที่สงบนิ่ง.
ในเวลาเดียวกัน…
“วูซซซ~!”
การเคลื่อนไหวราวกับเมฆและร่างกายจางหายไป.
เร็วมาก มันเร็วจนไม่อาจจะมองเห็นได้.
ลั่วเทียนขมวดคิ้วและเริ่มกังวลกับฟางเล่ย.
ช่องว่างระหว่างทั้งสองแตกต่างกันเกินไปแม้ว่าจะอยู่ในขั้นเดียวกัน ไม่ว่าฟางเล่ยจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ยากที่จะต้านเฉินซ่ง.
นอกจากนี้เฉินซ่งเป็นสาวกหลักของนิกายเมฆคราม การบ่มเพาะและทักษะการต่อสู้มีพื้นฐานที่สูงมาก ความแข็งแกร่งของเขายังมากถึงปราณเชี่ยวชาญระดับ 8.
ซูซางเฟยมีหน้าตาที่อิ่มเอมใจและพูด “ไอ้อ้วนนั่นกำลังจะตายแล้ว”
เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเฉินซ่งดี ภายใต้สาวกภายนอกของนิกายเมฆคราม ความแข็งแกร่งของเฉินซ่งก็เป็นระดับต้นๆ.
ก้าวเมฆาพริ้วที่น่าเหลือเชื่อและยังเพิ่มฝ่ามือกลียุคแรกเริ่ม แม้ว่าจะอยู่ในระดับเดียวกันแต่กับปราณเชี่ยวชาญขั้น 2 อย่างฟางเล่ยก็มีแต่ตายเท่านั้น.
ตามคาด…
ในพื้นที่ว่างปรากฏร่างเฉินซ่งก่อนที่เขาจะคำรามออกมา“
ฝ่ามือกลียุคแรกเริ่ม!”ฝ่ามือขนาดยักษ์ได้ตกลงมาด้านบนศีรษะของฟางเล่ย นอกจากพลังปราณและความกดดัน ยังมีพลังกดดันจากฝ่ามือกลียุคอีกด้วย.
“ตายซ้าาา!”
เสียงที่ราวกับฟ้าร้องและลมจากฝ่ามือราวกับเป็นพายุกระจายออกมา.
ฟางเล่ยยืนนิ่งเพราะดวงตาไม่อาจตามความเร็วของเฉินซ่งทัน ฝ่ามือขนาดยักษ์กำลังจะตกมาที่หัวของเขา…
ผู้คนหลายคนของตระกูลลั่วไม่ได้ดีใจนักที่ได้ดูสิ่งนี้.
ลั่วเทียนขมวดคิ้วขณะที่เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย เขาพร้อมที่จะวิ่งเข้าไปในเวทีได้ทุกเวลา.
กลางเวที.
ตาของฟางเล่ยยังคงวสงบนิ่งขณะที่เขากำลังหาตำแหน่งของเฉินซ่งอย่างต่อเนื่อง จิตใจของเขาตระหนักว่าไม่อาจตามความเร็วของเฉินซ่งทัน.
ไม่มีทางไหนที่เขาจะเทียบกับความเร็วนั้นได้.
เมื่อเห็นเฉินซ่งโจมตี จิตใจของฟางเล่ยก็ลงต่ำ แขนของเขาชูขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามและพลังภายในก็พุ่งออกมาจากตัวของเขา.
กระดูกทั่วร่างราวกับโลหะที่พังได้ทุกเมื่อ.
เขาใช้กำลังจากไหล่และปล่อยทุกสิ่งที่เขามีอยู่!
“ตูมมม~…”
ฝ่ามือขนาดยักษ์ปะทะ!
คลื่นปะทะกระจายออกมาจากกลางเวทีจนรู้สึกได้ หลายคนรู้สึกว่าแผ่นดินสั่นไหว.
ควันคละคลุ้งไปทั้วเวทีทำให้ผู้คนไม่อาจมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้.
ที่ข้างเวทีเฉินซ่งเดินออกมาและทำท่าทางดูถูก จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชา“เศษขยะอย่างเจ้ากล้าที่จะมาสู้กับข้า? ฮึ!”
ถึงแม้ว่าเฉินซ่งจะไม่ได้ใช้แรงไปทั้งหมดกับการปะทะฝ่ามือ แต่เขาก็มั่นใจอย่างมากว่าเขาสามารถฆ่าฟางเล่ยได้ทันทีและฟางเล่ยจะตายโดยการเลือดออกจากร่างกาย!
10 วินาทีผ่านไป กลุ่ใควันก็ลอยหายไปหมด.
กลางเวทีฟางเล่ยนอนอยู่ที่พื้น ใต้ร่างของเขาเป็นรอยร้าวยืดยาวออกไปโดยมีร่างของเขาเป็นศูนย์กลาง.
เขาไม่ได้เคลือนไหวเหมือนกับว่าเขาตาย.
“พี่อ้วน…”
“เจ้าอ้วน!”
“น้องอ้วน!”
สมาชิกในตระกูลลั่วตื่นตระหนก.
ซูซางเฟยเป็นคนแรกที่หัวเราะอย่างเย็นชา “ข้ารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นการฆ่าตัวตายจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว เศษขยะปราณเชี่ยวชาญระดับ 2 ไม่ว่าเจ้าจะขวัญกล้าแค่ไหน ฮึ่ม!”
สมาชิกตระกูลซูเริ่มส่งเสียงดัง.
“ขยะตระกูลลั่ว ควรจะไปกินอึซะ.”
“เขาถูกสังหารในการโจมตีเดียว ขยะจริงๆ 555…”
ซูเหยาซงยิ้มเฉียบอย่างยิ่ง เขาจ้องมองไปที่ลั่วเทียนที่กำลังเงียบเหมือนตายก่อนพูดว่า
“เด็กน้อย บ้านของบรรพบุรุษเจ้าตอนนี้เป็นของตระกูลซู เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นแล้วรีบออกไปเร็วๆเลย!555…”
เฉินซ่งมองไปที่ฟางเล่ยด้วยความรังเกียจก่อนที่จะหัวเราะ“ความสามารถของเจ้าต่างกันเกินไป ได้ขยะ.”
จากนั้นเขาก็เดินลงจากดเวที.
ขณะที่เดินลงจากเวทีเขาก็ได้ยินเสียงจากกลางสนาม.
“เจ้าจะออกไปแล้ว?”
“หรือว่าเจ้ากลัว?”
เมื่อเสียงจางหายไป ฟางเล่ยก็ยืนขึ้นมา มีรอบเลือดที่ปากและใบหน้าค่อนข้างซีด ตอนนี้เขากำลังมองเฉินซ่งที่ขอบเวที.
เขายังมีชีวิตอยู่!
ท่าทางของเฉินซ่งเปลี่ยนไปขณะจ้องมองกลับมา จากนั้นเขาก็เดินเข้ามากลางเวทีและหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าต้องการตายจริงๆ?”
ทุกคนในสนามรู้สึกตกใจ ฟางเล่ยรอดชีวิตจากการโจมตีของปราณเชี่ยวชาญระดับ 8 ได้อย่างไร? ร่างกายอ้วนๆนี่ถูกสร้างมาจากอะไร?
แม้ว่ากระดูจะทำจากเหล็ก แต่ก็ควรจะถูกทุบแหลกเหลว แต่เขาก็รอดชีวิตมาได้…
หรือว่าเฉินซ่งออมมือ.
เฉินซ่งใช้ก้าวเมฆาพริ้วอีกครั้งและกระโดดสูงจากนั้นเขาก็ตะโกน“มาดูกันว่าเจ้าจะตายหรือไม่?!”
ความกดดันปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า.
มือขนาดใหญ่ตกลงมา เวลานี้ความเร็วของมันเร็วเหมือนกับว่าสิ่งต่างๆไม่ส่งผลต่อมัน.
ฟางเล่ยยังไม่อาจเห็นตัวเฉินซ่ง เขาได้แต่กัดฟันเท่านั้น!
“ตูม~!”
เวทีพังทลาย.
ฝุ่นกระจายคละคลุ้ง แต่ผู้คนก็ยังเปิดตามองเพื่อดูผล.
ฟางเล่ยนอนแผ่หลาอีกครั้ง มีก้อนหินมากมายปกคลุมตัวเขา.
“เขาตายหรือยัง?”
เฮฉินซ่งยิ้มอย่างรังเกียจและพูด “ลองยืนขึ้นมาอีกรอบ.”
เมื่อเห็นฟางเล่ยไม่ขยับหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หัวเราะ ขณะที่เขากำลังก้าวลงจาเวที ฟางเล่ยก็ยืนอีกครั้ง.
ใบหน้าของเขาดูอ่อนแรง หลังจากเช็ดเลือดที่มุมปากเขาก็พูดเยาะเย้ย“นี่คือความแข็งแกร่งของเจ้า?”
“หาที่ตาย!”
เฉินซ่งรำคาญอย่างมากในตอนนี้.
ทุกคนที่เฝ้ามองก็ตะลึง เจ้าอ้วนเป็นแมลงสาบที่ไม่อาจเอาชนะมันได้? การจู่โจมของเฉินซ่งสามารถฆ่าคนที่อยู่ขั้นปราณเชี่ยวชาญระดับ 5 ได้อย่างง่ายดาย แต่นี่ฟางเล่ยกับยังสามารถกลับมายืนได้อีกครั้งและเขาก็มีท่าทางตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา เขาเป็นคนโง่?
เฉินซ่งไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก.
ในเวลานี้เขาจะใช้พลังทั้งหมดของเขา ก้าวเมฆาพริ้วกับฝ่ามือกลียุคแรกเริ่มก็ถูกใช้อีกครั้ง.
การโจมตีเป็นดังฟ้าร้องและพลังก็เหมือนกับภูเขา.
ฟางเล่ยหัวเราอย่างบ้าคลั่งและผสานมือ จากนั้นก็จ้องมองไปที่เงาฝ่ามืออย่างดุร้าย.
กลิ่นอายของฟางเล่ยเปลี่ยนไป.
มีเกล็ดปรากฏบนแขนของเขา เกล็ดที่บางและเบา และไม่มีใครสังเกตมันเห็นได้หากว่าไม่เพ่งมอง.
ลั่วเทียนที่เห็นได้ชัดมีท่าทางตื่นเต้น“ข้ารู้ว่าเจ้าอ้วนนี่ไม่ง่าย!”
เวลาเดียวกัน…
เลือดที่อยู่ร่างของฟางเล่ยก็เริ่มไหลเวียน หลังจากถูดกระแทกให้ติดพื้นถึงสองครั้ง สิ่งที่ไม่รู้จักในร่างกายของเขาก็เริ่มกราดเกรี๊ยวออกมา หลังจากกินแก่นโลหิตจำนวนมากทั้งเดือนทำให้ความแข็งแกร่งที่อยู่ภายในระเบิดออกมา.
สัตว์ร้ายกำลังโกรธอย่างมาก.
พละกำลังมุ่งเข้าไปทางแขนของฟางเล่ยและมีการเปลี่ยนแปลงที่โหดร้าย เกล็ดที่คล้ายกับสัตว์ป่าน่ารังเกียจและดูผิดปกติ
!
“เขาต้องตายแน่นอน.”
“เฉินซ่งใช้พลังเต็มที่ ไม่ว่าร่างกายของเจ้าอ้วนจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางต้านทานเขาได้.”
“ตายยย!”
เจ้ากำลังต่อต้านอะไร?
ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนร่างกายของเจ้าก็ต้องถูกทำลาย.
ฟางเล่ยไม่เคยอึ้งไปมากขนาดนี้ แต่…
เขาอยู่ในขั้นปราณเชียวชาญระดับ 2 ดังนั้นเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับเฉินซ่งที่สาวกหลักในนิกายเมฆครามได้อย่างไร?
นี่มันเป็นไปไม่ได้.
เกือบทุกคนก็คิดอย่างนั้น.
ใบหน้าซูเหยาซงเต็มไปด้วยความสุข ตอนนี้เขากำลังคิดว่าจะทำอะไรกับคฤหาสน์ของตระกูลลั่วและมันได้ทำให้ใบหน้าของเขาบานเหมือนดอกไม้.
เช่นเดียวกับซูซางเฟย.
แม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดหวังกับผลงานของเฉินซ่ง แต่ผลก็ไม่เปลี่ยนแปลง – ฟางเล่ยตาย.
หลุมที่กลางเวทีกลายเป็นลึกยิ่งกว่าเดิม.
หลุมลึกเต็มไปด้วยฝุ่นและไม่อาจมองเห็นได้.
แต่…
อีกครั้งที่เฉินซ่งกำลังลงจากเวที เสียงที่ดูโหดเหี้ยมและดุร้ายราวกับสัตว์ป่าก็ออกมา.
“นี่คือแรงทั้งหมดของเจ้า?”
“ความแข็งแกร่งที่แทบจะไม่อาจทำให้ข้าคันได้.”
ทันใดนั้น…
ฟางเล่ยค่อยๆปีนออกจากหลุมของเขา เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเลือด.
เขาแปลงร่าง!
“ตอนนี้มันเป็นตาข้าบ้าง!”