เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 77 – นำจิ้งจอกสาวเจ้าปัญหากลับมา
Chapter 77 – นำจิ้งจอกสาวเจ้าปัญหากลับมา
เพราะเขาเพ่งความสนใจมากเกินไปจึงเข้าสู่ขอบเขตในตำนาน-ความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ.
ขอบเขตนี้น่ากลัวจริงๆ
ไม่ว่าเจ้าจะปรับแต่งเม็ดยาหรืออุปกรณ์เมื่อเขาถึงขอบเขตดังกล่าว การเก็บเกี่ยวก็ยิ่งใหญ่อย่างมากสำหรับผู้บ่มเพาะ
อย่างไรก็ตามขอบเขตหยั่งรู้นี้ใช้พลังงานทางจิตและปราณซึ่งคนอ่อนแอไม่สามารถทำได้.
ลั่วเทียนพึ่งหลุดจากการหยั่งรู้ของเขาและร่างกายของเขาก็แทบจะพังทลาย เขาไม่มีแม้แต่แรงจะยกมือและไม่อาจขยับได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง.
ตลอดเวลาที่เกิดขั้นอย่างกระทันหันเสียงเท้าหนักๆของสัตว์ปีศาจเข้ามาก็หมายความว่าเขาจะต้องสังเวยชีวิตให้กับคนอื่น.
เสียงเท้าที่หนักและกลิ่นอายความตาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องเป็นสัตว์ปีศาจไม่ต่ำว่าระดับ3.
มันอาจจะเป็นราชันย์ผีดิบพันปี?!
ความที่เขามาอย่างฉับพลันในหัวของลั่วเทียน ทำให้เขารู้สึกหกหู่และไร้เรี่ยวแรง จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเศร้าๆ: “โอ้ท้องฟ้าที่ยิ่งใหญ่ ท่านกำลังเล่นกับความตาย?”
ทันใดนนั้น…
ลั่วเทียนตะโกนขึ้น: “อ้วนเล่ย ตื่นมาพาข้าไป!”
ไม่ว่าจะเป็นราชันย์ผีดิบพันปีหรือสัตว์ปีศาจระดับ 2 ลั่วเทียนก็ไม่สามารถจัดการมันได้ วิธีเดียวก็คือให้อ้วนเล่ยเป็นคนแบก.
ความแข็งแกร่งของฟางเล่ยตอนนี้อยู่ที่ปราณก่อตั้งขั้น 9 ด้วยกำลังที่น่าสะพรึงกลัวของเขาทำให้เขาสู้ได้กับสัตว์ปีศาจระดับ 4.
เสียงกรนได้หยุดลง.
ฟางเล่ยที่นอนอยู่ใต้ต้นไม้ลืมตาขึ้นอย่างฉับพลันขณะที่เขาตะโจนเหมือนดั่งสัตว์ร้าย.
ไม่ว่าการนอนหลับของเขาจะหลับลึกเท่าไร ตรามบเท่าที่เขาได้ยินเสียงของลั่วเทียนเขาจะตื่นขึ้นมาทันที.
ยกเว้น…
คนโง่นี่ไปคนทิศทาง!
ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ ไอ้โง่นี่วิ่งไปอีกทาง! นี่…
ลั่วเทียนเกือบจะกระอักเลือด!
“ปึง ปึง ปึง~…”
เสียงเท้าเข้ามาใกล้ ร่างกายที่อ่อนแอของลั่วเทียนที่ไม่มีแรงเหลือ เขามองไปที่ป่าอย่างมืดมนและพูดพึมพำ: “ตอนนี้มันถึงเวลาจบสิ้นของข้าจริงๆ.”
“แควก~… ดึบ~…”
ต้นไม้สองต้นถูกโค่นลงและหัวของจิ้งจอกขาวจ้องมอง.
ด้วยตาที่เหมือนกับหลุมดำและมีกลิ่นอายแห่งความตาย มังกรสองตัวสั่นสะท้านในสายลม ร่างกายของมันเต็มไปด้วยร่องรอยของสัตว์ปีศาจ.
นี่เป็นหุ่นเชิดของลั่วเทียน มันคือ มังกรผี!
“แม่งเอ้ย แกเกือบทำให้บิดาคนนี้ตาย!”
ลั่วเทียนเกือบหัวใจวายตาย เขาคิดว่ามันจะเป็นสัตว์ปีศาจที่มีพลังและไม่คิดว่ามันจะเป็นหุ่นเชิดของตัวเอง แต่ทำไมมังกรผีถึงได้กลับมาที่นี่?
เขาไม่เคยสั่งให้มันกลับมา.
แปลก!
แปลกมากๆ!
ตามตรรกะ มังกรผีเป็นหุ่นเชิดของลั่วเทียน การกระทำของมันถูกเขาควบคุมทุกอย่าง ดังนั้นหากเขาไม่ต้องการให้มันกลับมา มันจะกลับมาได้อย่างไร?
มังกรผีเข้ามาใกล้ ดวงตาสีฟ้าจ้องมองลั่วเทียนราวกับมันเป็นห่วงอะไรสักอย่าง.
เมื่อเห็นลั่วเทียนดีขึ้นการแสดงออกของมันดูเหมือนจะผ่อนคลายและไม่รุนแรงเท่าที่ควร.
ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะมีจิตใจเป็นของตัวเอง.
มันอาจจะเป็น…?
จิตใจของลั่วเทียนเริ่มตกใจ จำได้ว่าเขาพยายามที่จะใส่ความคิดเข้าไปยังมังกรผีในขณะที่เขาสร้าง ตอนนี้มันสำเร็จงั้นรึ?
มังกรผีสามารถสัมผัสลั่วเทียนได้ เมื่อร่างกายของลั่วเทียนเริ่มอ่อนแอและจิตวิญญาณของเขาก็เหนื่อมาก อาจเป็นไปได้ว่ามังกรผีคิดว่าเขาอยู่ในอันตรายและกลับมาทันที?
ลั่วเทียนยังไม่แน่ใจ แต่เขาสามารถเข้าใจได้ว่ามังกรผีและออปติมัสไพร์มีความแตกต่างกัน.
ลั่วเทียนยกศรีษะขึ้นเบาๆและหัวเรา: “พี่น้อง เจ้าเป็นห่วงข้าและกลับมาถูกต้องไหม?”
มังกรผีดูอึมครึมและไม่ขยับเหมือนไม่ได้ยินอะไร หรือบางทีอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ลั่วเทียนพูด.
ลั่วเทียนค่อยๆมองขึ้นลงมังกรผีก่อนที่จะยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง: “ดูเหมือว่าข้าจะคิดมากไปแล้ว.”
“นายท่าน ข้ามาแล้ว!” ฟางเล่ยตะโกน.
ในขณะที่มีร่างที่ใหญ่โตตกลงมาจากฟ้า ฟางเล่ยตกลงมาที่พื้นเบื้องหน้าลั่วเทียน เมื่อเห็นมังกรตัวใหญ่เขาแทบจะเป็นลมจากความกลัว.
ฟางเล่นถามออกมาขณะที่เหงื่อเต็มหน้าผาก: “น… น… นายท่าน สัตว์ปีศาจนี่คืออะไรกัน?”
ด้วยร่างกายที่ประกอบไปด้วยกระดูกสัตว์และมีหน้าตาที่ดุร้ายที่มีกลิ่นอายแห่งความตาย ภาพลักษณ์ของมังกรผีทำให้รู้สึกได้ถึงแก่นวิญญาณของเขาที่อยากจะหลบหนี ใครก็ตามที่เห็นก็จะต้องกลัว.
ลั่วเทียนจ้องมองไปที่เจ้าอ้วนและเตะตูดของเขา. “ถ้าข้ายังรออยู่ที่นี่ข้าก็จะตายแล้ว”
ฟางเล่ยยิ้มโง่ๆและเกาหัว จากนั้นเขาก็ขอโทษ “นี่…อีกครั้งที่วิ่งไปยังทางที่ไม่ถูกต้อง”
ลั่วเทียนถอนหายใจและพูด: “ข้ายอมเจ้าเลย แม้ว่าเจ้าจะวิ่งไปยังทางที่ผิดกว่าหลายร้อยเมตร.”
ฟางเล่ยยิ้มอย่างโง่ๆ “นายท่าน ท่านยังไม่ได้บอกว่าสัตว์ปีศาจนี่คืออะไร ไม่ว่าข้าจะมองที่ไหนมันก็ทำให้ขนของข้าชี้ชัน ร่างกายที่ประกอบมาจากกระดูก? สัตว์ปีศาจนี้มาจากดินแดนสุดหยิน?”
เหนือขึ้นไปของอาณาจักรเทียนหยวนมันเป็นอาณาจักแห่งความตาย.
มันเป็นอันดับแรกของสิบสถานที่ต้องห้ามและเป็นสถานที่เดียวที่มนุษย์ไม่สามารถเดินเข้าเหยียบย่างเข้าไปได้.
ดินแดนหยินสุดขั้วนั้นเต็มไปด้วยผีดิบ-ทั้งมนุษย์และสัตว์ปีศาจกลายเป็นผีดิบ คนที่อยู่อาศัยนั่นก็มีพลังมาก ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาหรือทักษะการต่อสู้ที่พวกเขาบ่มเพาะทั้งหมดแข็งแกร่งกว่าของมนุษย์.
มีข่าวลือว่า…
เหนือดินแดนสุดหยินเชื่อมต่อกับนรก
นี่เป็นเหตุผลที่ฟางเล่นคิดว่ามังกรผีมาจากดินแดนสุดหยินทางตอนเหนือเป็นเพราะว่ามันถูกสร้างจากกระดูกและมีกลิ่นอายแห่งความตาย.
ลั่วเทียนกรอกตาและมองไปยังเจ้าอ้วนก่อนพูดว่า “นี่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของข้า มันเรียกว่ามังกรผี.”
“สัตว์สงคราม?”
“มังกรผี?”
ฟางเล่ยจ้องมองไปยังมังกรผีตัวใหญ่อย่างโอ้อวด จากนั้นเขาก็หันกลับมามองด้วยสายตาที่เทิดทูน: “นายท่าน คุณแข็งแกร่งมาก ถ้าข้าเป็นเด็กผู้หญิงข้าจะถูกล่อลวงด้วยความแข็งแกร่งของท่านและจะรักท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่แม้ว่าจะฟื้นมาอีกครั้งข้าก็จะรักตลอดไป.”
“จะอ้วก!”
“ถ้าเจ้าเป็นเด็กผู้หญิงข้าจะเตะเจ้าไปยังมหาสมุทร.” ลั่วเทียนแกล้งทำเป็นโกรธ การที่มีสาวน้ำหนักว่า 250 จิน(330 ib)ที่รักเขาแทบตาย นั่นคือสิ่งที่เขาไม่อยากจะจิตนาการ.
“เอ๋?”
ฟางเล่ยวิ่งขึ้นไปยังมังกรผีและตรวจสอบบางอย่าง. “นี่นายท่าน นี่คืออะไร?”
ลั่วเทียนเหลือบมองและตะลังในทันใด.
ถ้าไม่ใช่เพราะฟางเล่ยนำมักออกมาเขาจะไม่เห็นสิ่งเล็กๆที่ด้านหลังของมังกรผี เธอขดตัวเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ.
เธอสวมชุดขาวทั้งหมด ผมของเธอม้วนเป็นสองแกะ ขนตายาวและกำปั้นน้อยๆของเธอก็เหมือนกับหยกสีชมพู รูปลักษณ์ของเธอคล้ายกับตุ๊กตากระเบื้องของตะวันตก.
แต่…
แม้กระทั่งตุ๊กตากระเบื้องก็ไม่อาจงดงามเท่ากับเธอ.
มันมีกลิ่นอายบางอย่างที่ออกมาจากร่างกายของเธอซึ่งทำให้เธอแตกต่างจากหญิงสาวคนอื่นๆ นั่นคือกลิ่นอายเย้ายวนที่ไม่รู้จับ.
เธอไม่น่าจะเกิน10ปี แต่ท่าทีที่ง่วงนอนของเธอดูมีเสน่ห์และเย้ายวน.
ลั่วเทียนเพียงแค่มองไปที่เธอ แต่รู้สึกว่าหัวใจของเขาถูกขโมย เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนจากหลี่ซูเอ๋อร์ ดังนั้นมันแปลกประหลาดอย่างมาก.
แค่โลลิ 10 ขวบก็เป็นแบบนี้แล้ว…หากว่าเธอเติบโตกว่านี้เธอจะไม่กลายเป็นสาวงามล่มเมือง?
“นายท่าน ดู..ดู…เธอมีหาง.”
ฟางเล่ยมองโลลิไม่กี่ครั้ง แต่ก็ไม่รู้สึกถึงการล่อลวงใดๆจากเธอ เขาไม่รู้สึกอะไรเลยขณะที่สัตว์ปีศาจระดับ 1 จะน่าดึงดูดใจมากกว่า
ลั่วเทียนพยายามจะยืนขึ้นและมองอย่างระวัง มันเป็นเรื่องจริง!
ใต้ชุดดขาวของเธอมีหางเล็กๆโผล่อออกมา สีขาวหิมะที่เรียบเนียนและขนแต่ละเส้นที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน มันเหมือนกับว่าเด็กสาวคนนี้ใช้ครีมนวดผม.
ไม่รู้ว่าคำพูดของฟางเล่ยดังเกินไปหรือไม่ถ้าหากเธอตื่นขึ้นมา…
ดวงตาของเธอเปิดอย่างเฉยชาและเหลือบมองลั่วเทียน เธอกระพริบตาสองสามครั้งและมองอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นด้วยความหวาดกลัว.
“อ่า… อ๊าาาา…”
เธอโงนเงนเมื่อเธอลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลันและร่วงลงจากหลังมังกรผี.
โลลิรีบยืนขึ้นมาและกำหมัดแน่น จากนั้นเธอก็จ้องมองด้วยความโกรธและจ้องมองไปที่ลั่วเทียน ราวกับว่าเธอไม่มีแรงที่จะหายใจ, “อย่า อย่า อย่าเข้ามาหรือทำอย่าวอื่น ข้าจะ ข้าจะ ข้าจะตีท่าน.”
เธอดูน่ารักมาก.
ความน่ารักและความสวยงามที่สมบูรณ์แบบ!
ลั่วเทียนยิ้มและพูดในใจของเขา: “จิ้งจอกสาวเจ้าปัญหา? นี่มันเกินไปแล้ว!”
————–
T/N: race girl อังกิดมังจะใช้เรียกสิ่งที่ทำปัญหามาให้ไม่รู้จบ