เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 67 – อยากเล่นหรอ? งั้นเราจะเล่นใหญ่กว่า!
Chapter 67 – อยากเล่นหรอ? งั้นเราจะเล่นใหญ่กว่า!
ถ้าเขาไม่เข้าร่วม พวกเขาจะต่อสู้ทันที!
นี่เป็นการบังคับให้ลั่วเทียนตายโดยตรง.
ซูเหยาซง พูดด้วยความภูมิใจอย่างเปิดเผย: “เจ้าไม่มีทางเลือก เมื่อมันเริ่มต้น.”
ซูไทเหรินหัวเราะอย่างเย็นชา.
สาวกรอบข้างของทั้งสองตระกูลที่เตรียมพร้อมมาก่อน เมื่อคำสั่งถูกส่งไปพวกเขาจะวิ่งเข้าไปในตระกูลลั่วเหมือนคลื่นยักษ์.
ไม่มีทางที่ตระกูลลั่วในปัจจุบันสามารถต่อต้านพวกเขาได้!
“ผู้นำ เรามาต่อสู้กับพวกเขาเถอะ!”
“ถูกต้องพวกเขากำลังทำตัวยโสเกินไป ข้าไม่เคยเห็นการข่มขู่ในเอาชีวิตตรงๆมาก่อน.”
“พวกเขาเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองภูเขาหยกได้อย่างไร พวกเขาคิดว่าจะบังคับให้ใครมีส่วนร่วมในการแข่งขันของตระกูลได้บ้าง? ข้าหล่ะสงสัยจริงๆว่าพวกเขามีความตั้งใจใดๆอยู่เบื้องหลัง ถูกมั๊ย?”
“นายท่าน สู้ไปด้วยกัน! เราไม่กลัว อย่างแย่เราก็แค่ตาย!”
เลือกของเหล่าสาวกเดือดพล่านในขณะนี้.
พวกเขาทั้งหมดยังเด็กอยู่ ด้วยอายุเพียงแค่นี้ พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะอยู่ยงคงกระพัน ไม่มีทางที่พวกเขาจะทนต่อการรังแกกันได้ขนาดนี้.
มันเหมือนกับสิ่งที่พวกเขาบอกไว้ อย่างที่เลวร้ายที่สุด ก็แค่ตาย!
ความตาย มันไม่มีอะไรต้องกลัวกับเรื่องพวกนี้.
แต่การส่งตัวเองไปตายก็มีความหมายว่า ไม่ต้องการมีชีวิต.
ตั้งแต่ที่ลั่วเทียนเป็นผู้นำตระกูลที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาตร์ เขาไม่สามารถละเลยอนาคตของตระกูลลั่วและพี่น้องที่ร้อนแรงเหล่านี้ไปได้.
เมื่อพวกเขาเปิดฉากทำสงครามพี่น้องทุกคนจะตาย.
คิ้วของลั่วเทียนขมวดและกำหมัดแน่นภายในแขนเสื้อของเขา หลังจากที่ลั่วจินซานได้บังคับให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบากแล้ว เขาไม่เคยคิดว่าหลังจากที่ได้กำจัดลั่วจินซาน เขาจะถูกบังคับให้อยู่ในสถานะที่ยากลำบากอีกครั้งโดย ตระกูลโจวและซู ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้เขาหงุดหงิด.
เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบ?
ทันใดนั้น…
ความคิดของลั่วเทียนเปลี่ยนไป เมื่อเจตนาฆ่าของเขาแผ่ออกมาและมีพลังมายิ่งขึ้น.
โจวเหรินหร่านและซูเหยาซงยังคงมีรอยยิ้มที่เย็นชา ขณะที่รอการตอบกลับของลั่วเทียน.
ไม่ว่าลั่วเทียนจะตอบสนองอย่างใด พวกเขาจะต้องกลืนกินตระกูลลั่วแน่นอน.
ซูเหยาซง ใจร้อนและถามว่า: “ลั่วเทียนเจ้าตัดสินใจได้หรือยังว่าตระกูลลั่วของเจ้าจะเข้าร่วมหรือไม่?”
“เร็วเข้ารีบๆตอบออกมา อย่าให้ความอดทนของเราหมดลง.”
“เร็วเข้า!”
“ตัดเรื่องไร้สาระออกไปและเข้าทำลายตระกูลลั่วโตนตรง!”
“อย่าพูดว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า เราให้ทางเลือกแก่เจ้า เพื่อให้เจ้าเลือกอย่างชาญฉลาดโดยที่เจ้าจะไม่ต้องเสียใจภายหลัง.”
“ข้าไม่รู้จริงๆว่าตระกูลลั่วได้ยอมให้เศษขยะกลายเป็นผู้นำได้อย่างไร ส่วนที่เหลือของตระกูลลั่วที่มีความสามารถได้ตายไปหมดแล้วหรือยัง?”
“555…”
เหล่าสาวกของตระกูลซูและโจวกล่าวเยาะเย้ย
ดวงตาของสาวกตระกูลลั่วเบิกกว้างราวกับโคมไฟด้วยความโกรธ.
ความโกรธของลั่วเทียนเทียนก็ไม่ได้ลดน้อยลง ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าและความโกรธ: “เวรเอ้ย ย่าเจ้าเถอะ บิดาไม่เชื่อว่าเขาจะช่วยชยะอย่างพวกเจ้า…”
“โฮ้ยยย โฮ้ย.”
“ที่นี่ชีวิตชีวาอย่างมาก ตระกูลใหญ่ๆของเมืองภูเขาหยกมารวมกันอยู่ที่นี่ถึง 3 ตระกูล มันคงแย่ถ้าไม่ให้ตระกูลซ่งได้เข้าร่วมสิ่งที่มีชีวิตชีวาเหล่านี้?”
ขณะที่ลั่วเทียนกำลังคลั่ง ซ่งหยวนหนานเดินทางมาพร้อมกับสาวกที่เก่งที่สุดของตระกูลซ่ง.
การมาถึงในเวลาที่เหมาะสม.
หากว่าช้ากว่านี้สัก วินาที ลั่วเทียนจะปล่อยกำปั้นคู่ออกมาแล้ว.
การแสดงออกของซูเหยาซงและโจวเหรินหร่านกลายเป็นเคร่งเครียด แต่การแสดงออกของโจวเหินหร่านมีรอยยิ้มน้อยๆ: “ผู้นำซ่งมาทันเวลาพอดี เด็กคนนี้ได้ฆ่าลุงแท้ๆของเขาสามคน ลั่วจินซาน ลั่วเซียวซาน ลั่วฉางซาง ถ้าเราผู้อาวุโสไม่สั่งสอนเด็กคนนี้ จิตวิญญาณของลั่วจินซานคงไม่สงบ.”
ตระกูลซ่งก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
ผู้นำตระกูลทั้งสี่ของเมืองภูเขาหยก.
การแสดงออกของตระกูลลั่วตกใจอย่างมาก ถ้าตระกูลซ่งเข้าร่วมตระกูลซูและโจว แม้ว่าจะมีสาวกชั้นยอดและผู้อาวุโสที่ไม่ตกตายก็ตามที มันก็ไม่สามารถต้านทานตระกูลทั้งสามได้.
ซูเหยาซงยิ้มน้อยๆและพูด: “เราไม่สามารถปล่อยให้ตระกูลลั่วถูกทำลายโดยเศษขยะคนนี้ เราไม่สามารถปล่อยให้ลั่วเจียงซานตายด้วยความเสียใจ.”
ทั้งสองเข้าขากันได้อย่างกับร้องเพลงและโยนขี้ไปที่หน้าของลั่วเทียน.
ซ่งหยวนหนานเดินขึ้นมาและยิ้ม: “เมื่อข้าอยู่ที่ไกลๆข้าได้ยินว่าจะมีการแข่งขันระหว่างตระกูล เจ้าก็เชิญข้าด้วยเหมือนกัน ถูกไม๊?”
“เอ๋?”
“เอ๋?”
โจวเหรินหร่านแอบมองเล็กน้อยก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจ. “เราจะแจ้งให้ผู้นำซ่งให้ทราบในเรื่องนี้ หลังจากที่ได้ตกลงกันแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าเด็กคนนี้จะไม่ไว้หน้าพวกเรา.”
“มันคงจะดีที่แค่ไม่ไว้หน้าพวกเรา แต่เขายังทุบตีคนของข้าบางคน.”
“เขากล้าที่จะทำร้ายอาวุโสตระกูลซูของข้าต่อหน้าข้า ผู้นำซ่งไม่คิดว่าข้าจะต้องสั่งสอนเด็กคนนี้หน่อยหรอ เกี่ยวกับการเป็นคนดี?”
โจวเหรินหร่านยิ้มอย่างชั่วร้าย.
ซ่งหยวนหนานนิ่วหน้าก่อนที่จะพูดกับลั่วเทียน: “ผู้นำลั่ว การทุบตีผู้คนความจริงแล้วมันผิด ตระกูลใหญ่หนึ่งในสี่ของเมืองภูเขาหยก ไม่สามารถปฏิเสธการเชิญเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างตระกูลได้ ถ้าท่านทำอย่างนั้นถือว่าไม่ไว้หน้าผู้นำตระกูลโจวและซู ฟังคำแนะนำของข้าและนำสาวกของตระกูลลั่วเข้าร่วมแข่งขัน.”
“หืม?”
ลั่วเทียนกำลังคิดตามซ่งหยวนหนานอย่างรวดเร็ว.
เขาเป็นหนี้บุญคุณตระกูลซ่ง
แต่มันเป็นเพราะตัวเขาเอง ไม่ใช่ตระกูลลั่ว.
อะไรคือความตั้งใจที่ซ่งหยวนหนานต้องการให้เขามีส่วนร่วม?
ลั่วเทียนต้องคิดทุกแง่มุม การตัดสินใจครั้งเดียวของเขาตอนนี้อาจจะทำให้ตระกูลลั่วล่มจม.
ขณะที่ลั่วเทียนกำลังงงอยู่ ซ่งหยวนหนานก้าวออกมาและยิ้มน้อยๆ: “น้องลั่ว แค่เข้าร่วม เจ้าอาจไม่รู้ แต่การแข่งครั้งนี้อาจจะทำให้เมืองภูเขาหยกได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของตระกูลลั่ว.”
ริมฝีปาของตระกูลโจวและซูยิ้มกว้าง.
ลั่วเทียนมีการแสดงออกที่จริงจังขณะที่เขาพูดเบาๆ: “ดี เราจะเข้าร่วม แต่…”
โดยไม่รอให้ลั่วเทียนพูดจบ สาวกตระกูลโจวและซูก็ขัดขึ้น.
“นั่นดีเยี่ยม.”
“ควรจะทำตั้งแต่ก่อนหน้านี้.”
“มันก็เยี่ยมที่เจ้ารู้ว่าควรทำอย่างไร.”
โจวเหรินหร่านมีรอยยิ้มและพูดว่า: “ผู้นำลั่ว เจ้าเลือกได้ถูำกต้อง 555…”
“ถูกต้อง”
“การแข่งขันระหว่างตระกูลคือการที่เหล่าสาวกจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันสามารถเพิ่มการบ่มเพาและการเข้าใจของวิชาต่อสู้ของพวกเขา นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากสำหรับพวกเขา.” ซูเหยาซงพูดด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ย.
บทพูดคุยของทั้งสองคนแท้จริงเป็นอย่างนี้: “เจ้าตกลงที่จะเข้าร่วม คอยดูว่าข้าจะจัดการตระกูลลั่วอย่างไร! แล้วไงหากว่าเจ้า ลั่วเทียน เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง? คนเพียงคนเดียวจะช่วยคนทั้งหมดได้งั้นรุ? หยุดผันได้แล้ว!”
ความชั่วร้ายของพวกเขาประสบความสำเร็จ.
ทั้งสองคนมีความสุขอยู่ในใจของพวกเขา แต่การแสดงออกทางใบหน้าของพวกเขายังคงสงบ.
ลั่วเทียนยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา จากนั้นเขาก็บอกว่า: “แต่เนื่องจากพวกเขาอยากเล่นอย่างนั้น งั้นเราก็ควรจะทำใหญ่ยิ้งขึ้นไปอีก!”
โจวเหรินหร่านตกใจเล็กน้อยขณะถาม: “เล่นใหญ่? เราจะเล่นอย่างไร?”
ลั่วเทียวพูดต่อ: “เจ้าไม่ต้องการพื้นที่ของตระกูลลั่วของข้า? เราจะใช้เงินในการเดิมพันหน่อยเป็นไง?”
“555…”
ซูเหยาซงเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง นี่เป็นเรื่องตลกของลั่วเทียน?
เขากำลังเสาะหาความตายด้วยตัวของเขาเอง?
โจวเหรินหร่านกำลังอยู่ในความตื่นเต้นและถามว่า: “ท่านคิดว่ายังไงผู้นำซง?”
ซงหยวนหนานลังเลนิดหน่อยก่อนจะตอบ: “เนื่องจากทุกคนสนใจเรื่องนี้แล้วอย่างงั้นก็ทำตามความสนุกของทุกคน.”
“ดี!”
“งั้นเราจะพนันกับมัน!”
จากนั้นลั่งเทียนก็กล่าวทันที: “ตระกูลลั่วได้รับความเดือดร้อนมากในช่วงเวลาสั้นๆ เราจึงไม่สามารถส่งสาวกเข้าร่วมได้ การแข่งขันจะเริ่มในปีหน้า.”
“ไม่มีทาง!”
“ไม่มีทาง!”
โจวเหรินหร่านและซูเหยาซงตะโกนพร้อมกัน.
เวลาหนึ่งปีก็เพียงพอแล้วที่ตระกูลลั่วจะฟื้นความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขาไม่ใช่คนโง่ อย่างนั้นพวกเขาจะให้ลั่วเทียนยืดเวลาออกไปอีกหนึ่งปีได้อย่างไร?
“นั่นเป็นไปไม่ได้.”
“เวลาหนึ่งปีมันยาวเกินไป.”
“อย่างนั้นเราจะทำมันในสิบเดืิอน.”
“เจ้าสามารถรอนานได้ แต่เราไม่อาจทำได้.”
“งั้นเจ้าลองเสนอมาว่ารอได้นานแค่ไหน?”
“งั้นถ้ามันเกิดในหนึ่งเดือน!”
“ดี ตกลง! มันจะเกิดขึ้นในหนึ่งเดือน.” ลั่วเทียนมีความสุขมาก เขาสามารถทำอะไรได้มากมายในหนึ่งเดือน.
สิ่งที่ตระกูลลั่วไม่มีตอนนี้คือเวลา.
ด้วยเวลาเพียงหนึ่งเดือน เขากำลังวางแผนหล่อหลอมตระกูลลั่วให้หลายเป็นเหล็กที่มีประสิทธืภาพ!
แค่รอสักหน่อย!
คอยดูว่าบิดาคนนี้จะทำให้เจ้าสูญเสียอะไรไป จนเจ้าไม่อาจปกป้องได้ดัวยตัวของเจ้าเอง!