เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 57 – เจ้าสามารถที่จะละใจบ้างสักนิดได้ไหม?
Chapter 57 – เจ้าสามารถที่จะละใจบ้างสักนิดได้ไหม?
ตอนเที่ยงภายในห้องประชุมของตระกูลลั่ว
ผู้อาวุโสทั้งหมอของตระกูลลั่วอยู่ที่นี่.
ห่างไกลออกไป ลั่วเทียนและฟางเล่ยที่ยังคงมีเลือดของกิ้งก่าลาวาชโลมอยู่กำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบื้องหน้าของทั้งสองเป็นสาวกในตระกูลลั่ว
มีสาวกชั้นนอกเป็นแกนนำ.
พวกเขาทั้งหมดมีท่าทางที่ศรัทธา.
ทุกคนเห็นการต่อสู้ในสนามประลอง พวกเขาตกใจอย่างมากและมีมากกว่าพันคน พลัง,แนวโน้ม,ความเย่อหยิ่งและท่าทางที่เขาแสดงออกมาอย่างโดดเด่น ตอนนี้พวกเขาชื่นชมจากเบื้องล่างของหัวใจ.
ภายในเมืองภูเขาหยกคนที่ดูถูกเขาค่อยๆหายไป
เสียงจากด้านอื่น
“ถ้าลั่วเทียนไม่ได้พลังกลับมาจากตันเถียนที่พิการและสูญเสียการบ่มเพาะไป เขาน่าจะเป็นศิษย์เมฆครามแล้วตอนนี้.”
“การแข่งขันการล่าสัตว์เมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมาลั่วเทียนก็ได้ฆ่าสัตว์ปีศาจมากมายด้วยตัวคนเดียว แต่ข้าไม่เชื่อในตัวเขา ตอนนี้ข้าเชื่อมันแล้วอย่างแท้จริง สำหรับคนที่แข็งแกร่งอย่างนั้นแล้วเขาจะฆ่าคนอื่นเพื่ออะไร? คนที่ชอบเขาก็เหมือนดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้าที่สว่างไสวในจักวาลที่ไม่ว่าความมืดจะมีมากเพียงไรก็ไม่สามารถบดบังแสงของเขาได้ มันไม่มีวันที่จะปกปิดความบริสุทธิ์ของเขาได้ พี่ใหญ่ลั่วเทียนคนนี้ชอบเจ้าเป็นอย่างมากและต้องการมีลูกน้อย…” หญิงวัยกลางคนที่มีขนาดถังบาร์เล่ย์กล่าว.
คนที่อยู่ใกล้กำแพงเริ่มเข้ามามากและมากขึ้น.
กิ้งก่าลาวาเป็นฝันร้ายของเมืองภูเขาหยก
ผู้คนยับแสนถูกสังหารและเมืองภูเขาหยกเกือบถูกทำลาย หลายคนที่สูญเสียคนในครอยครัวจากกิ้งก่าลาวา ดังนั้นมันจึงเป็นการดำรงอยู่ของความเกลียดชังจากผู้คนในเมือง
ลั่วเทียนฆ่ากิ้งก่าลาวาต่อหน้าคนนับหมื่นดังนั้นมันจึงเหมือนกับตัวตนที่ผดุงคุณธรรมให้พวกเขา.
จากแต่นี้เป็นต้นไป ลั่วเทียนคือวีรบุรุษ!
หลายคนสรรเสิญและยกย่องเขา
“เขาก็เหมือนกับได้โชคจากอึสุนัข เขาเป็นเศษขยะหรือสวะที่ไม่สามารถเอาชนะขอทานบนถนนได้…”
คำพูดนี้ยังไม่ทันจบผู้คนก็วิ่งกรูเข้ามา.
“เจ้ากล้าดูถูกวีรบุรุษของเรา?เบื้องหน้าข้า! ตีเขาให้ตาย!”
ลูกเตะและหมัดระดมทุบไปยังเขาอย่างโหดเหี้ยมโดยปราศจากการจับกุม.
อันพาลที่ได้รับการว่าจ้างจากลั่วจินซานได้ถูกทุบตีจนฟกช้ำดำเขียวและมีซี่โครงหักอีกหลายแห่ง ไม่มีทางที่เขาจะลุกออกจากเตียงได้หากว่าเขาไม่ได้พักสัก2-3เดือน.
ตระกูลลั่ว.
ลั่วจินซานเฝ้าดูลั่วเทียนเดินเข้ามาในห้องโถง เขาหรี่ตาก่อนจะกระซิบ “เขามาที่นี่ เพียงเพื่อขยับจากหางตาเข้ามาในสายตาของข้า.”
อีก3คนแอบพยัหน้าก่อนที่จะเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว.
ลั่วเทียนและฟางเล่ยเพิ่งผ่านเข้ามาและขาทั้งสองข้างยังไม่ได้ก้าวพ้นจากประตู ลั่วจินซานก็ส่งเสียหนาวเย็นและเยาะเย้ยออกมา“ลั่วเทียนมอบแกนปีศาจกิ้งก่าลาวามา!”
“หืม?”
ลั่วเทียนรู้สึกประหลาดใจชั่วครู่ก่อนที่จะดึงแกนปีศาจออกมา
เมื่อแกนปีศาจปรากฏในห้องโถงมันก็เต็มไปด้วยพลังปราณที่ลึกล้ำ แกนของปีศาจที่ใสกระจ่างอย่างมากราวกับว่ามันปล่อนพลังปราณได้ไม่มีที่สิ้นสุด.
เมื่อคิดว่าเขาสามารถที่จะแข็งแกร่งได้จากการบ่มเพาะพลังของกิ้งก่าลาวาอย่างยาวนาน.
“อึก!”
ดวงตาของอาวุโสทั้งสามจ้องมองไปที่แกนปีศาจ คอของพวกเขากลืนน้ำลาย ตาของพวกเขาทอประกายความโลภออกมาในหัวใจของพวกเขา.
ตาของลั่วจินซานจ้องมองอย่างคมกริบและมีรอยยิ้มที่พึงพอใจ จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “มันยังไม่ได้ถูกดูดซับ.”
หลังจากนั้นลั่วจินซานก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่งการ “มอบมาให้ข้า.”
ลั่งวเทียนหุบมือของเขาและยิ้มน้อยๆ“นักโทษอยู่ที่ไหน?”
“นักโทษ?”
“นักโทษอะไร?”ลั่วจินซานแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น. “ข้าไม่รู้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดถึงนักโทษคืออะไร.”
ลั่วเทียนหรี่ตาด้วยความโกรธก่อนจะสาปแช่งออกไป
“ลั่วจินซาน เลิกเสแสร้งได้แล้ว รีบมอบเธอมาและเอามันไป!”
สายตาของลั่วเทียนเปลี่ยนไปและเขาก็คำรามต่ำออกมา“Level 1 Berserk!”
หลังจากนั้นทันที…
“ย่างก้าวสายลม!”
เหมือนกับลมและเหมือนกับเงา เขาเคลื่อนที่จากที่ห่างไกลเข้ามา
ด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า…
กำปั้นทั้งสองก็ถูกส่งออกไป มันเหมือนกับฟ้าร้องและเหมือนกับเสือร้าย พลังงานทั้งสองอย่างส่งออกมาผสานกัน
.
เฉพาะสายตาของลั่วฉางซางกลายเป็นขาวโพลน หน้าอกของเขาขยับลงสองสามครั้งก่อนที่จะปราศจากสัญญาณของชีวิต.
ฆ่าทันที!!!
ลั่วฉางซางอยู่ขั้น4 ปราณเชี่ยวชาญยังถูกฆ่าทันที!
นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว!
เขาถูกส่งลอยออกไปด้วยทักษะเดียว!
อย่าแรกคือเบอร์เซิร์กที่เพิ่มพลังของเขาตามมาด้วยย่างก้าวสายลมพุ่งเข้าใส่จากนั้นสุดท้ายหมัดพยัคฆ์สายฟ้าที่มีพลังเท่ากับภูเขาย่อมๆส่งเขาลอยขึ้นไปในอากาศ
แทบจะไม่มีช่องว่างสำหรับทักษะการต่อสู้พวกนี้ ในฐานะนักเล่นเกมส์มืออาชีพเขาอาจจะอธิบายเรื่องนี้ – นี่คือทักษะความเร็วแสง!
เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังออกมา.
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้ฆ่าลั่วฉางซาง คุณจะได้รับประสบการณ์ 1500 แต้มและพลังปราณ 200 หน่วย…”
“
ขอแสดงความยินด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้รับ บากลืนจิต 2 เม็ด”ลั่วเทียนไม่ได้รำคาญจากของที่ระเบิดออกมาจากลั่วฉางซานก่อนที่เขาจะตะโกนอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้ายังเป็นขยะอยู่หรือไม่? มันจะดีถ้าพวกเจ้าดูถูกข้า แต่บังอาจมาลบหลู่บิดาและมารดาข้า? มันไม่พ้นความตาย!”
นี่มันหมายความว่าเป็นผู้ควบคุมอย่างแท้จริง!
นี่คือระเบิดที่จะฆ่าเจ้าโดยไม่พูดอะไร!
นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ตระกูลลั่ว.
ทำไมลั่วเทียนถึงฆ่าลั่วฉางซางโดยไม่มีการเตือน? เหตุผลง่ายมาก – ชื่อของลั่วฉางซางเป็นสีแดง ดังนั้นเขาจึงเปรียบได้กับมอนเตอร์ที่ก้าวร้าว!
ความเร็วของลั่วเทียนเร็วมากแม้กระทั่งลั่วจินซานก็ไม่มีเวลาตอบโต้.
การแสดงออกของพวกเขาทั้งสามคนมืดมนและนั่งอยู่อย่างตระลึง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าลั่วเทียนจะเคลื่อนที่เร็วขนาดนี้ในการฆ่า!
ลั่วจินซานจ้องมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
อีกสองคนยำเกรงและไม่กล้าพูดอะไร
ช่วงเวลาสั้นๆ บรรยากาศในห้องโถงกลายเป็นกดดันไปยังจุดสูงสุด ฟางเล่ยคำรามออกอย่างช่วยไม่ได้
“อ้าาาา…”
“ตูมมม~!”
สภาพจิตใจของเขาดูเหมือนจะขยายกว้างออกไปทำให้เกิดระลิกพลังกระจายออกจากกัน.
ราวกับเวลาที่หยุดได้เดินต่ออีกครั้ง…
จิตใจของลั่วจินซานและอีกสองคนดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นความน่ากลัวในพริบตา.
“เปิดตัวด้วยการฆ่าและยังเป็นผู้อาวุโสของตระกูลลั่ว ลั่วเทียนความกล้าของเจ้าพุ่งไปยังท้องฟ้าจริงๆ” ลั่วจินซานตระโกนอย่างมีเกรียรติ.
เสียงของเขาจางหายไป…
เขาตบลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ“มีผู้คุมกฏหรือไม่?”
“ผู้คุมกฏอยู่ที่นี่!”
8 คนวิ่งออกมาจากห้องโถงด้านหลังด้วยสายตาที่คมกริบ พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ที่อยู่ในขั้นปราณเชี่ยวชาญ!
พวกเขาทั้ง 8 ได้ล้อมลั่วเทียนอย่างรวดเร็ว.
ริมฝีปากของลั่วเทียนยกขึ้นก่อนที่เขาจะพูดเบาๆ“ลั่วจินซานดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า.”
ลั่วจินซานหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ลั่วเทียน เจ้าฆ่าลั่วฉางซาง เจ้าฆ่าลั่วเสียวซาน เจ้าฆ่าลั่วหมิงและเจ้าฆ่าลั่วหลิน เจ้าฆ่าสาวกตระกูลลั่วหลายสิบคน การฆ่าพี่น้องตระกูลลั่วโทษคือตายสถานเดียว!”
“ลั่วเทียน เจ้าเป็นคนที่โง่มาก เจ้าไม่ปล่อยพี่น้องในตระกูลพาเจ้าไป พวกเขาไม่มีความเป็นปฏิปักษ์กับเจ้า แต่เจ้าก็ยังทำแบบนั้นต่อเขา!”
ลั่วจินซานพูดด้วยความรู้สึกเศร้าใจและเป็นทุกข์มาก.
ลั่วเทียนเริ่มที่จะหัวเราะ.
“5555…”
“5555…”
เขาหัวเราะด้วยบรรยากาศที่โหดเหี้ยม“ลั่วจินซาน เจ้าสามารถที่จะละใจบ้างสักนิดได้ไหม?”
ตาของลั่วจินซานหลุบต่ำลงขณะที่เขาตะโกนด้วยเสียงต่ำๆ “ลั่วเทียน พวกเขาเหล่านั้นถูกฆ่าโดยเจ้าหรือไม่?”
อารมณ์ของลั่วเทียนพุ่งทะยานขึ้นและเขาก้าวไปเบื้องหน้า เขาชี้ไปที่ลั่วจินซานและยอมรับตรงๆ “ใช่ คนเหล่านั้นตายด้วยมือของฆ่า!”
ตั้งแต่ที่มันหลุดออกไปยังภายนอกแล้ว มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บงำไว้อีก.
อย่างเลวร้ายที่สุดก็คือการต่อสู้!
ใครกลัวใครกันแน่?!