เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 53 –เส้นแบ่งของความเป็นความตาย
Chapter 53 – เส้นแบ่งของความเป็นความตาย
“ตู๊ม~!”
สนามประลองนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากโคลีเซียมของโรมันสมัยก่อนยกเว้นแต่ว่ามันมีขนาดใหญ่
อัฒจันทร์รอบรอบเวทีสามารถรองรับผู้ชมกว่าหมื่นคน กิ้งก่าลาวาที่ปรากฎขึ้นยังคงเคี้ยวพนักงานขณะที่เลือดยังคงไหลออกจากปากของมัน อุบัติเหตุนี้ไม่มีผู้ชมคนไหนไม่กลัวและยังกรีดร้องมากขึ้นเมื่อเห็นเลือด.
กิ้งก่าลาวาแข็งแกร่งมาก นี่ทำให้ทุกคนตื่นเต้น.
ยิ่งมีเลือดมากขึ้นเท่าไรผู้ชมก็ยิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้น
เหนือห้องธรรมดาเป็นห้องที่หรูหรา ข้างในพวกเขากรีดร้องกันอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับว่าพวกเขาได้เสพยาเสพติดบางอย่าง
“555… สัตว์ปีศาจระดับ 4 สัตว์ปีศาจ ระดับ 4 กิ้งก่าลาวาแมร่งโครตจะทรงพลัง!”
“ลั่วเทียนต้องเมาแน่ๆ!”
“ฆ่าเขา!”
“ฆ่าไอ้ขยะสองตัวนั่นเลย!”
“555… กิ้งก่าลาวาเหมือนกับแม่มันในอดีต ความกดดันเกินกว่ามาตรฐานและเริ่มที่จะกินคนเมื่อมันปรากฏตัว เพียงแค่มองไปที่กิ้งก่าลาวามันก็คุ้มเกินค่าตั๋วได้แล้ว.”
ร่างของกิ้งก่าลาวาที่ดูเหมือนกับจะมีไฟพ่นออกมา ผิวหนังของมันคล้ายกับหินหลอมเหลวที่ลอยอยู่บนหินหนืด ดวงตาของมันดูเหมือนกับเต็มไปด้วยเลือดและลมหายใจออกก็มีไฟรางๆออกมา ความร้อนของมันทำให้ทั้งสนามประลองเพิ่มขึ้นหลายองศา.
ดวงตาของมันดูเหม่อลอยเหมือนกับคนบ้า.
กลิ่นอายที่ทรงพลังได้แผ่กระจายออกทุกทิศทาง.
มันทรงพลังอย่างมาก ลั่วเทียนไม่เคยมีประสบการณ์ที่เจอกับพลังอย่างนี้มาก่อน มันเหมือนกับเป็นการยกระดับที่แตกต่างอย่างมากกับกระทิงเดือดฟ้าคะนองกับมัน.
ทันใดนั้น…
สายตาของลั่วเทียนก็เปลี่ยนไปและพูดเบาๆ“นี่เป็นสัตว์ปีศาจระดับ 4 หรอ? มันทรงพลังเกินไปไม๊?”
กิ้งก่าลาวาให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งมาก.
ออร่าที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรง หัวใจของลั่วเทียนจมลงขณะที่เขาเตือนฟางเล่ย “อ้วนเล่ยระวังให้มาก.”
ตาของฟางเล่ยหรี่ลงและกล่าวว่า“นายท่าน ไม่ว่าข้าจะรู้สึกอย่างไรมันก็ไม่ต่างไปจากงู 4 ขาเท่าไรนัก มันแข็งแกร่งยิ่งกว่ากระทิงเดือดฟ้าคะนองเสียอีก นี่ไม่ใช่ว่าพวกเขาส่งสัตว์ปีศาจระดับ 5 นะ?”
คำพูดของฟางเล่ยทำให้การแสดงออกของลั่วเทียนเปลี่ยนไปเป็นแย่ลง เมื่อคิดถึงรอยยิ้มแย่ๆและเย็นชาของลั่วจินซาน ลั่วเทียนกำหมัดแน่นและพูดอย่างชั่วร้าย“แม่ง! ลั่วจินซาน แม่มึงตาย มึงมันเหี้ยจริงๆ!”
กิ้งก่าลาวากำลังคำรามอยู่ตลอดเวลาในเวที มันทำหน้าหงุดหงิดมากขณะที่กระแทกกับกำแพงราวกับเป็นบ้าและพยายามที่จะหลบหนี
แม้ว่าจะไม่ใช่สัตว์ปีศาจระดับ 5 แต่ก็ควรเป็นสัตว์ระดับ 4 ขั้นปลาย คนที่เกี่ยวข้องกับมันว้าวุ่นหากว่าปล่อยมันออกไปแ้ลว.
“มีบางอย่างผิด!”
ด้านในห้องส่วนตัวของเจ้าหน้าที่.
หน้าของหลี่กุยเปลี่ยนไปและหันกลับมาถามว่า “ใครเป็นคนรับผิดชอบในการให้อาหาร?”
ผู้จัดการหลายคนมองหน้ากันสักพักและพูดอย่างระมัดระวัง“คนที่ให้อาหารมันเพิ่งถูกมันกัดตาย”
“พวกคุณจัดการเรื่องนี้อย่างไร?”
“กิ้งก่าลาวาที่เมายาทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจนเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 5 ตอนนี้ การต่อสู้ครั้งนี้ต้องหยุดลงเพื่อให้รับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ทันท่วงที”หลี่กุยบ่น.
“รอสักครู่!”
รองผู้จัดการรุ่ยหยู่ยืนขึ้นและพูดว่า“ผู้จัดการหลี่ถ้าเรายกเลิกเราจะขาดทุนมหาศาล ตัวเลขนี้เกี่ยวข้องกับรายได้ทั้งปีของพวกเรา”
“กิ้งก่าลาวาเมายาและอยู่ในสถาพน่าสังเวช ข้ากลัวว่ามาตรการฉุกเฉินอาจจะไม่เป็นประโยชน์และเราอาจจะประสบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เรารอผลข้างเคียงของยาหมดก่อนที่จะหยุดมัน? ทุกคนควรจะรู้ว่าตราบเท่าที่เราสามารถรับประกันความปลอดภัยของผู้ชมได้ สำหรับลั่วเทียนหรือคนอื่นๆไม่ว่ากิ้งก่าลาวาจะอยู่ในสภาวะปกติหรือบ้าคลั่งก็ตาม ผลลัพธ์นี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็น ตอนนี้หยุดมัน เดี๋ยวนี้.”
รุ่ยหยู่หัวเราะอย่างตื่นเต้นและกล่าวว่า“ผู้จักการเมื่อเขาตายเราจะได้หินหยวน 5 ก้อน เพียงแค่หินหยวนทั้ง 5 ก้อนเราก็ได้รับความเมตตาอย่างมาก คุณไม่อยากอยู่ในสถานที่เล็กๆแห่งนี้ตลอดไป ถูกมั๊ย”
มันจะมีการส่งเสริมอย่างมากเมื่อมีรายจำนวนมาก.
หัวใจของหลี่กุยขยับ
ใครจะสนว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยุติธรรมหรือไม่? ไม่มีใครสนว่าลั่วเทียนจะอยู่หรือตาย?
เมื่อลั่วเทียนตายทุกคนจะมีความสุขและทุกคนจะได้เงิน.
หลี่กุยขุ่นเคืองและมีรูป ||| บนหน้าผากของเขา ในที่สุดเขาก็จะแสดงความคิดขณะที่เอามือไขว้หลังเขา เขาไม่ได้นำหัวข้อนี้ขึ้นมาอีก.
———-
ห้องส่วนตัวที่หรูหราอีกห้อง.
“555…”
“ผู้นำตระกูลลั่วมีความสามารถอย่างแท้จริง ท่านสามารถทำให้กิ้งก่าลาวาเกิดความบ้าคลั่งได้ ความแข็งแกร่งของมันเทียบได้กับสัตว์ปีศาจระดับ 5… ข้าชื่อชมอย่างแท้จริง!”โจวไทเหรินหัวเราะออกมาจากอย่างหมดห่วง.
“ตรวจสอบ?”
“555…”
“คนที่ให้ยากับกิ้งก่าลาวาถูกกินตายไปแล้วพวกเขาจะตรวจสอบอย่างไร?”โจวไทเหรินหัวเราะเสียงดัง.
ที่ด้านข้างของพวกเขาทั้งสามก็มีอีกคนหนึ่ง ช่วงเวลาที่กิ้งก่าลาวาออกมาเขาก็สถบออกมาเบาๆอย่างต่อเนื่อง.
“เล่นเขาให้ตาย ฆ่าเขา 5555…”
“ลั่วเทียนเจ้าก็มีวันนี้ 555…” การแสดงออกของลั่วเฉินก็เหมือนกับคนบ้า ยิ่งกว่านั้นเมื่อเห็นลั่วเทียนก็ถอยกลับไปที่สนามประลองหัวใจของเขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น.
ยกเว้นเมื่อเขาพูดออกไปแล้วก็มีกลิ่นขี้ม้าลอยเข้ามาในจมูกชวนอ้วก.
นอกจากนี้พวกเขาสี่คน…
มีอีกคนนึงก็คือเด็กสาวที่ยังไม่ได้สติ.
เธอใส่ชุดขาวทั้งหมด ผิวที่เรียบเนียนเหมือนหยก ใบหน้าที่บริสุทธิ์และน่ารักของเธอทำให้ทุกคนประหลาดใจ.
หญิงสาวคนนี้คือหลี่ซูเอ๋อร์.
ขณะที่ลั่วเทียนไปฝึก 8 วันดูเหมือนว่าลั่วจินซานไม่ได้ทำอะไรเธอ ความเป็นจริงคือเขาแอบมองดูหลี่ซูเอ๋อร์และฟางเล่ยทำให้พวกเขารู้ความเป็นอยู่ประจำวันของพวกเขา
มันเป็นเพราะเหตุนี้ลั่วจินซานจึงสามารถใช้เวลาเหล่านั้นป้ายยาสลบหลี่ซูเอ๋อร์ได้
ลั่วจินซานเหลือบมองมาที่หลี่ซูเอ๋อร์ด้วยสายตาของความสำเร็จ ริมฝีปากที่ยกโค้งขึ้นเขาค่อยยิ้มๆและอดที่จะชมเชยตัวเองไม่ได้ “เธอเป็นแหล่งรวมความสวยงาม หลินเอ๋อข้าจะทำให้แน่ใจว่าศพของเธอจะถูกฝังร่วมกับเจ้าและไปใช้ชีวิตด้วยกันหลังความตายได้!”
————-
ภายในสนามต่อสู้.
“ตู้มๆๆๆ~…”
กิ้งก่าลาวาหงุดหงิดอย่างมากเมื่อมันคำรามและกระทืบพื้นไปทั่วทุกที่.
ยาโด๊ปจำนวนมากทำให้มันกระสันอยากตัวเมีย เนื่องจากมันไม่สามารถหาที่่ลงได้ในที่สุดมันก็จ้องมองไปที่ลั่วเทียนหลังจากที่มันตะกุยจนพื้นดินกระจายและวิ่งออกเหมือนกับรถถังเบลเยี่ยม
“อ่าาาา…”
“โหหหหหห…”
“ฆ่าเขา!”
ผู้ชมในกลุ่มก็ลุกขึ้นยืนขณะที่พวกเขาเฝ้ามองกิ้งก่าลาวากำลังฉีกลั่วเทียนออกจากกัน
ตาของลั่วเทียนเขม็งและสูดลมหายใจลึกๆจากนั้นเขาก็ตะโกน“เจ้าอ้วน อย่างที่ซ้อมไว้เจ้าอยู่ด้านหลังและหาทางโจมตี!”
“เข้าใจแล้ว!”
ฟางเล่ยไม่พูดอะไรเพิ่มเติมและวิ่งออกไปด้านข้างทันที.
“ฟุ… ฟุ~…”
ลมหายใจที่ร้อนของกิ้งก่าลาวาพ่นออกไปทางลั่วเทียน ทำให้รู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังถูกไฟไหม้ตาของเขาเปลี่ยนไปขณะที่เขาส่งพลังไปที่แขน.
“พรึ่บบบ~…”
พลังปราณจำวนวนมากถูกปล่อยออก.
หลังจากนั้นพลังของปราณเชี่ยวชาณก็ฉีกออกมาพร้อมกับปล่อยกลิ่นอายของความหนักแน่นและพลังที่ยิ่งใหญ่ออกมาจากลั่วเทียนทั้งหมดในครั้งเดียว แขนของเขาสั่นและในที่สุดเขาก็กำหมัดแน่น.
ตาของเขาวาวโรจน์.
ลั่วเทียนกระโดดขึ้นไปบนอากาศและกระโดดทุบไปเหมือนกับขวานรบต่อกิ้งก่าลาวา.
การโจมตีครั้งนี้เกิดจากความแข็งแกร่งเท่านั้น!
หลายมองด้วยความกลัว ภายในห้องสุดหรูใบหน้าของลั่วจินซานก็เต็มไปด้วยความน่าเกลียด“ปราณเชี่ยวชาญขั้น 3…. เด็กคนนั้นตัดผ่านไปยังปราณเชี่ยวชาญขั้น 3?!”
ในช่วงเวลาสั้นๆเพียง 8 วันเท่านั้นกับการตัดผ่าน 3 ขั้น!
ไม่มี ใครสามารถเร็วเท่ากับเขา!
“แล้วไงถ้าเขาอยู่ปราณเชี่ยชาญขั้น 3? เมื่อเผชิญหน้ากับกิ้งก่าลาวาด้วยพลังปีศาจระดับ 5 มันคงจะยากสำหรับลั่วเทียนที่จะมีชีวิตอยู่แม้ว่าจะต้องการ” โจวไทเหรินหัวเราะออกมาแม้จะรู้สึกประหลาดใจก็ตาม.
ปากของลั่วจินซานโค้งเล็กน้อย, “ถูกต้อง ผู้นำตระกูลโจว กล่าวถูกต้อง.”
แม้ว่าลั่วเทียนจะไม่ต้องการตาย แต่เขาก็ต้องตาย!
“ตูม~…”
เสียงสนั่นถามกลางสนามประลอง กำปั้นของลั่วเทียนไม่ได้โดนตัวกิ้งก่าลาวาแต่โดนไอร้อนที่ห่อหุ้มกันไว้ ร่างกายของลั่วเทียนเหมือนกับจรวดขณะที่กระแทกกำแพง หัวของเขารู้สึกว่ามันยุบลงก่อนที่จะเวียนหัวและพ่นเลือดออกมา.
มันเป็นช่วงเวลาไม่นานที่กิ้งก่าลาวาวิ่งเข้าไปยังที่ร่างกายเขาตกลง
นี่คือเส้นแบ่งความเป็นความตาย!