เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 50 – อุบาทว์มาก
“ฟางเล่ยจัดการให้เขากินขี้ม้า!”
“เข้าใจแล้ว!”
ฟางเล่ยคว้าพลั่วที่ใช้จัดการในคอกม้า จากนั้นก็ตักอึม้าอย่างเกลี้ยงเกลาและจากนั้นเขาก็ยกไปยังด้านหน้าลั่วเฉินอย่างยิ้มแย้ม. “กินซะ!”
ใบหน้าของเขาลั่วเฉินซีดจางจากนั้นเขาก็มองไปที่ลั่วเทียนและสะบัดแขนเสื้อพร้อมกับคำพูดโง่ๆว่า “เรากำลังจะออกไป!”
“แม่จ้าว เจ้าต้องการออก?”
“ถ้าเจ้าไม่กินอึกองนี้บิดาจะแสดงให้เห็นว่าเจ้าไม่อาจออกไปได้!”ลั่วเทียนยิ้มเยาะและแสดงออกว่าถ้าลั่วเฉินไม่กินอึ เขาจะถูกบังคับให้กิน.
ความแข็งแกร่งของสาวกหลักขั้น6ก็ไม่ต่ำนัก.
ยิ่งกับพวกเขาเป็นธรรมชาติที่ลั่วเฉินจะไม่กลัว จากนั้นเขาก็หัวเราะด้วยความรังเกียจ“ลั่วเทียนอย่าคิดว่าเจ้าจะทำแบบนั้นได้ คนอื่นๆอาจจะกลัวเจ้า แต่ไม่ใช่กับข้า ลั่วเฉิน.”
หลังจากที่เขาพูด เขาก็เหล่ตาออกมา
รอบๆทั้ง6คนล้อมลั่วเทียนและมองอย่างขบขัน.
“โอ้? พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นสาวกหลักถูกไหม?”
“มีคนมากมายที่่ต้องการ การเอาใจใส่จริงๆ.” ลั่วเทียนยิ้มน้อยๆ
ทันทีหลังจากนั้น…
ลั่วเทียนก็มองไปยังฟางเล่ย
ฟางเล่ยเข้าใจท่าทางนั้นและผิวปากในอาการ “พี่น้องข้า ออกมาหาข้า!”
“ตึม ตึม ตึม….”(เสียงกระโดดลงมาที่พื้นเผื่อไม่เข้าใจ)
“ตึม ตึม…”
จากพื้นที่รอบๆมีสาวกหลายสิบคนของตระกูลลั่วก็ปรากฎตัสเหมือนกับน้ำ พวกเขาล้อมรอบลั่วเฉินอย่างรวดเร็วและมองไปที่ลั่วเทียนอย่างแน่วแน่ พวกเขาโค้งคำนับและกล่าวพร้อมกัน “นายท่าน!”
เสียงของเขาเหมือนกับฟ้าร้องและการกระทำของเขาก็น่าแตกตื่น
เสียงที่เย็นชาและหนักแน่นเมื่อกล่าวคำว่า“นายท่าน” เกือบทำให้หัวใจของลั่วเทียนกระเด็นออกมา จากนั้นเข้าก็พูดกับตัวเอง “เวร นี่มันเหมือนกับคณะทั้งสามของจีนที่อยู่ในหนัง!”
เขากลอกตาไปมองฟางเล่ยและพูดเบาๆ “อ้วนเล่ย เจ้าทำห่าอะไรกัน?”
ฟางเล่ยยิ้มอย่างโง่ๆ“นายท่านการฝึกของข้าไม่เลวใช่มั๊ย? โฮ่ๆๆ…”
“ไม่เลว ไอ้หัวล้าน เจ้าเกือบทำให้ข้าตกใจ.”ลั่วเทียนแกล้งทำเป็นโกรธและยิ้มให้กลุ่มคน. “พี่น้องลั่วเฉินได้รังแกข้าโดยมีคนมากมายอยู่ข้างๆเขา พวกท่านทุกคนคิดว่ายังไง?”
กลุ่มคนเหล่านี้เป็นลูกหลานตระกูลลั่วที่เข้าแข่งขันล่าสัตว์.
ในแปดวันที่ผ่านมาฟางเล่ยได้ฝึกฝนเขาอยู่ในที่ลับ ลั่วเทียนไม่คิดถึงเรื่องน่ารังเกียจของฟางเล่ยที่จะฝึกให้พวกเขาเป็นเหมือนกับแก๊งทหารเลวๆ
สมาชิกแก๊งไม่น่ากลัว แต่แก๊งที่ทำตัวเหมือนทหารมันน่าเหลือเชื่อมาก.
ในเรื่องนี้ลั่วเทียนพอใจกับผลลัทพ์อย่างมาก.
ดวงตาของทุกคนมองไปที่ลั่วเฉินโดยไม่พูดอะไรสักคำ ทั้งหมที่ทำคือจ้องมองอย่างเป็นประกาย.
เมื่อโดยจ้องมองหลายๆคนผมของลั่วเฉินก็ลุกตั้ง เสียงของเขาสั่นน้อยๆขณะพูด “ลั่วเทียนเจ้าวางแผนที่จะทำอะไร? เจ้ากำลังจะกบฏตระกูลลั่ว?”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรจริงๆ ข้าแค่อยากให้เจ้าจัดการขี้กองนี้” ลั่วเทียนตอบง่ายๆ.
ใบหน้าของลั่วเฉินเปลี่ยนไปและพูดอย่างโกรธเคืองว่า“ลั่วเทียนได้สุนัขบัดซบ อย่าลืมว่าบิดาเป็นใคร? ครั้งสุดท้ายเจ้าอาจจะโชคดีที่หลบหนีไปพร้อมกับชีวิตที่ลานฝึกซ้อม ถ้าเจ้ากล้าสัมผัสข้าแม้แต่ผมเส้นเดียววันนี้ข้าจะตบให้เจ้ากลายเป็นพิการ.”
“ให้ข้าพิการ?”
“มารดาเจ้า!”
ลั่วเทียนตบออกไปด้วยความโกรธอย่างมาก.
“เพี๊ยะ!”
รอยสีแดงปรากฎอยู่ที่ใบหน้าลั่วเฉินขณะที่ตัวของเขาตกไปข้างๆของพลั่วตักอึ สายตาของสาวกหลักทั้ง6คนจมลงขณะที่เขากำหมัดแน่นและกำลังจะทำอะไรบางอย่าง.
ลั่วเทียนขี้นิ้วไปที่สาวกหลักทั้ง6และตะโกนอย่างกดดันว่า“มารดาเจ้า หากว่ามีใครคนใดคนนึงเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว?”
ขณะที่เขาพูดจบ…
กลิ่นอายของปราณเชี่ยวชาญก็ระเบิดออกมา – ความยโสและความรู้สึกเหนือกว่า!
การแสดงออกของพวกเขาทั้ง6คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างกระทันหัน แม้ว่าพวกเขาต้องการช่วยลั่วเฉินกู้ชื่อเสียงของเขา พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าชีวิตของเขามีความสำคัญมากกว่า หากไม่มีชีวิตมันก็เป็นไปได้ลมตดของสุนัขเท่านั้น!
ลั่วเฉินที่อยู่บนพื้นได้ถูกแรงกดดันของลั่วเทียนจนไม่อาจหายใจได้จิตใจของเขาแข็งนิ่งขณะที่เขาพึมพัมกับตัวเอง “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้…”
ทำอย่างไรถึงตัดผ่านไปยังปราณเชี่ยวชาญได้ในครึ่งเดือน?
แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยาก แต่ขนาดอัจฉริยะทุกๆพันปียังไม่อาจทำได้ แล้วมันเป็นไปได้อย่างไรเมื่อเศษขยะลั่วเทียนที่เป็นพิการด้านบ่มเพาะ?
แต่ความจริงอยู่ด้านหน้า นี่คือกลิ่นอายของผู้ที่อยู่ในขอบเขตปราณเชี่ยวชาญที่ไม่อาจปลอมกันได้ มันทำให้หัวใจของลั่วเฉินจมไปในความมืดมิด
ลั่วเทียนก้มตัวลงมาคว้าไปที่ผมของลั่วเฉินและพูดด้วยคำพูดที่รุนแรงพร้อมรอยยิ้ม “บิดาจะถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะกินขี้หรือไม่?”
“ข้า…”
ร่างกายของลั่วเฉินสั่นขณะที่มองกองขี้ม้าที่หนักอย่างน้อย 2 กิโลกรัม กระเพาะของเขาเริ่มบิดไปมาขณะที่เขาพูด.
ลั่วเทียนปล่อยผมของลั่วเฉินและยิ้มอย่างเย็นชา“เอามันมาให้ข้า!”
ลั่วเทียนไม่โอนอ่อนขณะที่เขาจัดการกับศัตรูของเขา!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นลั่วชางซานที่อยู่ข้างๆลั่วจินซาน เพียงแค่เกี่ยวข้องกับลั่วจินซานแค่อย่างเดียวมันก็ทำให้เขาไม่ชอบคนที่อยู่ในตระกูลลั่วทั้งหมด
ตั้งแต่ลั่วเทียนได้กำหนดแล้วว่าใครก็ตามที่เป็นศัตรูของเขา เขาจะเอาพวกมันทั้งผมลงไปกับพื้นและไม่มีโอกาสให้ได้เงยหน้าอีกครั้ง.
แน่นอน…
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทำลายความสัมพันธ์ทั้งหมดไม่อย่างนั้นมันคงไม่ใช่ที่เขาจะให้ลั่วเฉินทำง่ายเช่นการกินอึ
คราวนี้ลั่วเทียนได้แสดงให้เห็นถึงพลังของเขาต่อตระกูลลั่ว บิดาคนนี้ได้กลับมาแล้ว พวกเขาเตรียมล้างตูดไว้ให้ดีๆก่อนที่บิดาคนนี้จะระเบิดมัน!
ไม่นานหลังจากนั้นปากของลั่วเฉินก็เต็มไปด้วยขี้ม้าและเขาก็เป็นลมหลังจากนั้น
แม้กระทั่งถึงจุดนี้ก็ยังไม่มีใครห้าม พวกเขาเก็บขี้ยัดเข้าไปในปากของเขาก่อนที่จะไม่สามารถยัดเข้าไปได้.
ลั่วเทียนโบกมือและยิ้ม “ดี พอแล้ว! นำข้อความนี้ไปยังเจ้านายของเจ้า นั่นคือลั่วเฉินที่เขาต้องการกินขี้และข้าก็ตอบสนองความต้องการของเขาได้เพียงเล็กน้อย”
ทันทีหลังจากนั้น…
สาวกหลักทั้ง 6 คนมีใบหน้าอ่อนใจขณะที่เอาลั่วเฉินจากไป
—————-
“อุกอาจ!”
ความโกรธของลั่วชางซานได้ทะลุไปถึงสวรรค์ขณะที่เขาตบโต๊ะที่ทำจากไม้แตกเป็นชิ้นๆดวงตาของเขาดูเมหือนจะปล่อยเพลิงออกมาได้ “ลั่วเทียนชายแก่คนนี้จะไม่มีวันพักผ่อนจนกว่าน้ำตาเจ้าจะตกและศพของเจ้าจะกลายเป็นชิ้นๆ!”
“บิดา… บิดาข้ามัน. ข้าต้องการให้ท่านฆ่ามัน…”
“ปึก…”
ลั่วเฉินถูกโยนอีกครั้ง ห้องทั้งห้องมีแต่กลิ่นของขี้ม้าที่ทำให้ทุกคนรุ้สึกหงุดหงิด
หลังจากกินขี้สองครั้งลั่วเฉินไม่มีใบหน้าเหลืออีกแล้ว ไม่เพียงแต่ในตระกูลลั่ว แต่ทุกคนของเมืองภูเขาหยกก็กำลังหัวเราะเขา ลั่วเฉินที่อยู่ในขั้นพัฒนาปราณกับแพ้ให้กับลั่วเทียนที่เป็นพิการ.
ลั่วชางซานโกรธมากขณะที่เขาตั้งใจปลดปล่อยเจตนาฆ่า จากนั้นเขาก็หันกลับไปและเดินออกจากห้อง.
เมื่อเขาออกไปก็ถูกลั่วจินซานขวางเอาไว้อย่างรวดเร็ว.
“อย่าห้ามข้า! คราวนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้าจะฆ่าเขา!”ลั่วชางซานพูดเปี่ยมไปด้วยอารมณ์.
“เขาจะตายพรุ่งนี้!”
“ไม่มีอะไรที่จะรอดได้ ข้าสามารถรับรองได้!” ลั่วจินซานกล่าวต่อ“กลับมาแล้วเขาก็จะเป็นเหมือนขอทานที่อยู่หน้าเมือง พรุ่งนี้เขาจะตายโดยไม่มีการฝังศพใดๆที่หน้าตัวเมืองเหมือนกับขอทานด้านหน้า.”
“เด็กนั่นทะลวงไปยังปราณเชี่ยวชานท่านจะมั่นใจได้อย่างไร?” ลั่วชางซานถาม.
ลั่วจินซานยิ้มน้อยๆก่อนที่จะพูดอย่างลึกลับว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสัตว์ปีศาจตัวนี้คือตัวอะไร?”
ตาของลั่วชางซานกดเกร็ง ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้นไม่มีใครรู้ว่าสัตว์ปีศาจตัวนั้นคืออะไร เนื่องจากสนามต่อสู้ขององค์กรสีม่วงมีการรักษาความปลอดภัยอย่างหน้าแน่น ช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องถามออกมา “คือ?”
ลั่วจินซานตอบ: “มันคือกิงก่าลาวาขนาดใหญ่!”
“กิ้งก่าลาวา?” ร่างกายของลั่วชางซานไม่สามารถอดกลั่นการสั่นกลัวของเขาได้เมื่อคิดไปถึงหายนะที่เกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนที่เมืองภูเขาหยก กิ้งก่าลาวาขนาดใหญ่ได้ทำลายเมืองไปถึงครึ่งนึงและฆ่าคนไปกว่าร้อยพัน ทั่งสี่ตระกูลใหญ่บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนและเกือบจะล่มจม แต่พวกเขาก็ยังฆ่ามันได้ในที่สุด.
“กิ้งก่าขนาดใหญ่ได้ออกลูกหลานของมัน”
“ห๊ะ?!”
ลั่วชางซานเปิดเผยความรู้สึกของเขาอีกครั้งขณะที่เขาพึมพำ “ถ้าเป็นอย่างนี้ลั่วเทียนต้องตายแน่นอน.”
“ข้าจะบอกเจ้าอีกเรื่อง…”
ลั่วจินซานดลเสียงของเขาและพูดในท่าทีที่น่ากลัว “ข้าได้ส่งบางคนไปทำอะไรบางอย่างกับกิ้งก่าขนาดใหญ่ พรุ่งนี้มันจะเกิดอุบัติเหตุและทำให้มันระเบิดพลังกลายเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 5…”
————————————————