เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 41 – ถ้ามีปัญหาก็มองหาผู้นำ
มีบางคนบนโลกนี้ที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ชนะเขา พวกเขาไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นบิดาที่แท้จริง!
ลูกชายคนเดียวของอาวุโสสามของตระกูลโจวก็เป็นประเภทนั้น.
เขาเดินไปที่ห้องผลิคอาวุธและโบกพัดอย่างสง่างามและมองไปยังลั่วเทียนที่กำลังถามราคาสินค้าบางอย่าง ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นและมีการเยาะเย้ยอย่างเย็นชา.
“แขกท่านนี้ได้โปรดมองไปรอบๆ ตามความต้องการของท่านเลย หากมีบางอย่างที่ท่านต้องการท่านสามารถทดสอบมันได้.”พนักงานกล่าวอย่างกระตือรือล้น เขาไม่ได้ปฏิบัติลั่วเทียนอย่างเย็นชาแม้ว่าเขาจะสกปรก.
สินค้าในโรงหลอมเป็นไอเทมที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
มีดดาบ, หอก, กระบี่, ง้าว, ทุกอย่างล้วนสวยงาม. มันเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมที่ถูกนำมาไว้ที่นี่ทั้งหมด พวกเขาทำมาจากเหล็กที่ดี.
อาวุธเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็น 9 ระดับ ยิ่งระดับสูงเท่าไรก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น เหนือระดับ 9 ขึ้นไปได้แก่ ระดับจิต,ระดับปฐพี,ระดับนภา,ระดับอมตะ สุดท้ายที่เหนือกว่าสิ่งของทั้งหมดระดับเทพเจ้า! อาวุธและชุดเกราะที่เหนือกว่าระดับ 9 ยากแก่การผลิตอย่างยิ่งวัสดุส่วนใหญ่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและแต่ละสิ่งทำให้จักวาลสั่นสะเทือนและแม้แต่เทพยังต้องร่ำไห้ออกมา เมื่อได้รับอุปกรณ์ใดๆเหล่านั้นพวกเขาจะสามารถเรียกลมเรียกฝนได้ตามใจและเป็นตัวตนที่สูงที่สุด!
ภายในเมืองภูเขาหยกยังมีอุปกรณ์คุณภาพระดับ4และ5เท่านั้น ตระกูลลั่วโจว,ลั่ว,และซูต่างครอบครองเพียงแค่หนึ่ง ตระกูลซ่งมีถึงสอง.
ตระกูลซ่งเป็นตระกูลที่ผลิตอาวุธ หนึ่งในบรรพบุรุษของเขาได้กลายมาเป็นผู้นำหลังจากที่ผลิตอุปกรณ์ระดับ 4 ได้และด้วยการสร้างอาวุธรระดับ 4 ชิ้นที่สองของเขาทำให้ตระกูลซ่งยืนอยู่เหนือผู้คน.
ทักษะต่อสู้ที่ดีสามารถตัดสินชะตากรรมของตระกูลได้ อาวุธที่ดีก็เหมือนกัน.
ลั่วเทียนกำลังมองหารอบๆเนื่องจากเขาไม่ต้องการอาวุธสำเร็จรูปจริงๆ เขาถามว่า “ข้าขอทราบว่ามีเหล็กดิบขายหรือไม่?”
“เอ๋?” พนักงานร้านค้าตกใจเล็กน้อย.
ขณะที่พนักงานร้านกำลังจะตอบโจวยี่เส้าก็เดินเข้ามาและหัวเราะเยาะเย้ย “โฮะๆ นี่ไม่ใช่นายน้อยตระกูลลั่ว?”
“อะไรนะ?”
“เจ้าคงจะจนมากจนกระทั่งไม่อาจจะซื้ออาวุธธรรมดาเหล่านี้ได้ เจ้าทำได้เพียงซื้อเหล็กสักสองสามก้อนเพื่อทำอาวุธให้ตัวเอง? 5555…”
ลั่วเทียนกลอดตามองไปที่โจมยี่เส้าและไม่สนใจก่อนที่จะถามพนักงาน “เจ้ามีไหม?”
“บัดซบ!”
“บิดาคุยกับเจ้าไม่เห็นหรือไร?” โจวยี่เส้าคำรามและหุบพัดลง
คราวนี้ลั่วเทียนอดไม่ได้ที่จะคำราญโจงยี่เส้าและกล่าวว่า “ข้าไม่พูดกับสุนัข.”
ความตกใจของพนักงานร้านวาบขึ้นและกล่าวแนะนำอ่อยๆออกมา “เขาเป็นบุตรชายของอาวุโสสามตระกูลโจว ชื่อโจวยี่เส้า เขาอยู่ปราณพื้นฐานระดับ 8 ดังนั้นท่านระมัดระวังด้วย.”
“เจ้าบัดซบกล้าว่าข้าเป็นสุนัข ใครกันแน่ที่เป็นสุนัข?!”ความหนาวเย็นออกมาจากตาของโจวยี่เส้า เขาคิดว่าเวลานี้เขาจะหาข้ออ้างในการทำร้ายลั่วเทียน แต่ไม่คิดเลยว่าลั่วเทียนจะมอบโอกาสนี้ให้กับเขา จากนั้นเขาก็พูดว่า “เมื่อเจ้าต้องการความตายอย่าตำหนิเพราะว่าข้าไม่สุภาพ.”
ทันใดนั้น…
โจวยี่เส้าโบกพัดของเขาและตะโกนอย่างเย็นชา “เจ้ากล้าที่จะว่าบิดาคนนี้? ไปตบหน้าหนาๆนั่น 10 ครั้ง! หากว่าเขาขัดขืนก็นำเขาไปสู่ความตาย!”
ด้านหลังของเขาเป็นลูกน้องสองคนเดินไปทางลั่วเทียนทันที พวกเขาเริ่มพับแขนเสื้อและมีท่าทีดุร้ายจนทำให้เด็กร้องไห้ได้.
ใบหน้าของพนักงานร้านแสดงถึงคำเตือนและยิ้มอย่างสุภาพและกล่าวว่า “นายน้อยโจว ที่นี่เป็นโรงหลอมตระกูลซ่ง ถ้าอย่างไรนายน้อยโจวไว้หน้าเราเล็กน้อยได้หรือไม่…”
“ปราณพื้นฐานระดับ 8?”
“ความสามารถแบบนี้แตกต่างกับขยะอย่างไร?” ลั่วเทียนพูดในท่าทีสบายๆขณะที่ชูกริซที่สวยงามอยู่ในมือของเขา เขาไม่เห็นโจวยี่เส้าอยู่ในสายตาของเขาเลย.
ตาของพนักงานร้านหกแน่นและเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้านี่คือลั่วเทียน เขาไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขากำลังพยายามพาเขาให้รอดพ้นความยากลำบาก?
การแสดงออกของโจวยี่เส้าเปลี่ยนเป็นความตั้งใจฆ่าที่ออกมาจากดวงตาของเขา “ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการไว้หน้าตระกูลซ่งของท่าน แต่เพียงสุนัขที่ต้องการจะตาย!”
“จัดการ!”
ทั้งสองคนโผล่พรวดออกมาและเหวี่ยงฝ่ามือออกมาตบ.
เมื่อฝ่ามือแหวกอากาศเสียงของมันแสดงให้เห็นว่าการบ่มเพาะของทั้งสองคนไม่ธรรมดา.
ลั่วเทียนรำคานอย่างไม่สนใจเขามองไปที่พนักงานและถาม“คุณมีเหล็กดิบมากแค่ไหน?”
ความวกตกแสดงออกมาทางใบหน้าของเขา การฝ่ามือนี้กำลังมุ่งมาที่ลั่วเทียนแต่เขายังคงถามสิ่งที่เขาต้องการ? เขาไม่กลัวความคาย? จานั้นพนักงานก็พูดขึ้น “น้องชายดูนั่น!”
“ฟุ่บๆ…”
“แกไอ้ขยะโสโครก การบ่มเพาะของพวกเขาอยู่ั้นพื้นฐานระดับ 6 พร้อมกับประสบการณ์ต่อสู้มากมาย พวกเขาเป็นนังเลงที่เยี่ยมที่สุดและไม่ใช่คนอ่อนแอของตระกูลลั่วจะสามารถเทียบได้.” โจวยี่เส้าพูดด้วยท่าทีที่หยิ่งผยอง.
ทันใดนั้น…
ลั่วเทียนยกขาขวาขึ้นเล็กน้อย.
“ปังๆ!”
เขาเตะออกไปสองครั้งเหมือนฟ้าผ่าและได้ยินเสียงทุ้มหนักๆออกมาขณะที่ร่างกายทั้งสองกระเด็นออกไปจากทางเข้า ทั้งสองหน้าซีดก่อนที่พวกเขาจะเป็นลมจากความเจ็บปวด.
“พวกเขายังไม่ตายอีก?”
การแสดงออกของลั่วเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่ร่างกายของเขาจะหายออกไปจากจุดที่เขายืนอยู่ เขาไปปรากฎยังเบื้องหน้าทั้งสองที่นอนอยู่และต่อยไปยังอกของพวกเขา.
“ปัง ปัง!”
อกของเขามีรูกว้างและพวกเขาก็พ่อเลือดสีแดงออกจากปากของเขา ตาของพวกเขาปูดโปนและร่างกายของเขาก็ชักไป2-3วินาทีก่อนที่พวกเขาจะหยุดหายใจ.
“ติ๊ง!”
“ติ๊ง!”
ได้ยินเสียงเตือนดังออกมาสองครั้งขณะที่เสียงเหล่านั้นประกาศว่าเขาได้รับค่าประสบการณ์และปราณแม้กระทั่งยาระดับสอง ริมฝีปากโค้งขึ้นยิ้มเยาะไปที่โจวยี่เส้าก่อนจะพูด “ขอบใจ!”
ใบหน้าของโจยี่เส้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจเขามองไปที่ลั่วเทียนและมองไปที่ทั้งสองที่เป็น “สุดยอดอันธพาล” และค่อยๆพูดออกมาว่า “เจ้า เจ้า เจ้าฆ่าพวกเขา?”
“ลั่วเทียน เจ้ากล้าคนจริงๆ?”
“พวกเขาสองคนเป็นสาวกตระกูลโจว เจ้ากล้าฆ่าพวกเขาจริงๆ…?”
การฆ่าคนของตระกูลทั้งสี่เท่ากับต้องการสงคราม พวกเขาต้องการสงครามระหว่างตระกูล?
ถ้าเป็นอดีตเรื่องนี้คงเป็นตัวจุดขนวนสงครามของตระกูล
โจวยี่เส้ายืนมองลั่วเทียนยังงงงันจากนั้นเขาก็กล่าวว่า“ดังนั้นหากเจ้ากล้าฆ่าพวกเขา? อย่านั้นเจ้าควรจะรู้ว่าปัญหาเหล่านี้มันจะไปยังผู้นำ.”
ลั่วเทียนแสดงใบหน้าว่าไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา ถ้ามันมีปัญหามันจะไปหาลั่วจินซาน
ห่าเอ้ย!
“นี่พนักงานมีเศษเหล็กที่ยังไม่ได้แปรรูปกี่ชิ้นข้าต้องการดู ทำไมเจ้าถึงตกใจ?” ลั่วเทียนเรียกออกมา.
พนักงานตกตะลึงกับการกระทำของลั่วเทียน
ฆาตกร นี่มันฆาตกรตอนกลางวันแสกๆ!
เขาไม่รู้ว่าลั่วเทียนทำมันได้อย่างไรและจ้องมองลั่วเทียนด้วยความตกใจ
หลังจากนั้น…
ลั่วเทียนดูเหมือนจะมีความคิดและพูดว่า “พนักงานเจ้าสามารถไปหาผู้นำของข้าและเก็บเงินเกี่ยวกับประตูที่พัง ถ้าเขาถามคุณก็บอกเขาไป ข้ารู้เจ้าทำได้.”
พนักงานกลืนน้ำลายและหันไปรอบๆก่อนที่จะไปยังอีกห้องหนึ่งและเอาเศษเหล็ก2-3ชิ้นออกมาและพูดว่า“โปรดดูสิ่งเหล่านี้.”
ลั่วเทียนเริ่มตรวจสอบเหล็กเหล่านี้ทันที
ความเหนียวของเหล็กจะทำให้หุ่นเขามีคุณภาพดีขึ้นเพราะงั้นเข้าจึงไม่อาจละเลยได้.
เขาหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนี้และไม่สนใจความโกรธของโจวยี่เส้า.
“เจ้าสุนัขบัดซับเจ้าคิด…”
“ฆ่าสาวกตระกูลโจวและทำลายข้อตกลงระหว่างตระกูล…เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม!”
“ตายซะ!”
โจวยี่เส้าฟาดผ่ามือออกไปอย่างรุนแรงเสียง “ปัง” ดังออกมาปราณพื้นฐานระดับ 8 ทำให้อาวุธบนชั้นสั่น.
ด้านนอกไม่ไกลออกจากโรงหลอมที่มุมๆนึง…
“ดูเหมือนพวกเขาเริ่มต่อสู้กันแล้ว.” เสียงเยาะเย้ยออกจากปากของซูเม่ย “ลั่วเทียนเจ้าต้องการจะยุ่งกับข้า? ดูหญิงชรา*คนนี้ว่าจะเล่นให้เจ้าตายได้เยี่ยงไร!”
ภายในห้องกลั่นอุปกรณ์
เพราะการถกเถียงที่ไม่เป็นระเบียบลั่วเทียนไม่สามารถมุ่งความสนใจในการตรวจสอบเหล็กได้.
ลั่วเทียนอุดหูและทำหน้าไม่พอใจพร้อมกับพูดอย่างเย็นชา“เจ้าหยุดทำเสียง แง่งๆๆๆ ได้หรือยัง? มันทำให้บิดาคนนี้โครตรำคาณ.”
เสียงของเขาหายไป…
ร่างกายของลั่วเทียนก็ปล่อพลังปราณพื้นฐานขั้น 9 ออกมา มือขวาของเขาแว่บออกไปจับที่คอของโจวยี่เส้าและยกขึ้นไปบนอากาศ ตาของลั่วเทียนกลายเป็นหนาวเหน็บขณะที่ปล่อยความกดดันที่มองไม่เห็น.
“ปัง!”
บางอย่างถูกทุบไปที่พื้นอย่างหนักแน่นและแตกกระจายออกมา.
ร่างกายของโจวยี่เส้าปวดร้าวและไม่ทันตอบสนองต่อลั่วเทียนก่อนที่เขาจะตะโกนออกมา “พยัคสายฟ้าจู่โจม!”
หมักคู่ของเขาพุ่งออกไปเหมือนค้อนกระแทกไปยังร่างของโจวยี่เส้าที่กระเด็นขึ้นไปบนอากาศก่อนที่ลั่วเทียนจะเตะวอลเล่ย์ออกไป!
“วูซซซ!”
โจวยี่เส้าบินออกไปยังถนนหลักและซีดจางราวกับจะตาย.
การแสดงออกของซูเม่ยเปลี่ยนไปขณะที่เธอมองโจวยี่เส้าที่กำลังหลาดกลัวอยู่ที่พื้นด้วยความรัังเกียจ“ไร้ประโยชน์จริงๆ.”
จากนั้นเธอก็หายไปจากถนนอย่างรวดเร็ว!
การแสดงออกอน่างต่อเนื่องของลั่วเทียนลื่นไหลเหมือนน้ำเหมือนกับว่าเป็นคอมโบสกิล.
นี่เป็นความสมบูรณ์และความหยิ่งพยองอย่างดุดัน!
พนักงานที่ร้านก็ตะลึง เสียวแปล๊บไปที่หัวใจขณะที่มองไปยังลั่วเทียนขณะที่มีเสียงนับหมื่นเตือนไม่ให้รุกรานคนนี้.
ลั่วเทียนเผยฝ่ามือและยิ้มน้อยๆ“แม่งเอ้ย สุดท้ายก็เงียบได้สักที”
“เข้ามา; มาคุยกันเรื่องเหล็กกันเถอะ.”
“อืม…”
ลั่วเทียนดูเหมือนจะคิดถึงบางสิ่งได้ขณะที่มองออกไปจากร้านที่กำลังวุ่นวาย จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว “เจ้าสามารถไปหาผู้นำและขอเงินชดเชยได้โดยตรง.”
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงออกมาจากด้านหลัง.
“ใครกันที่ทำตัวไม่เกรงใจที่ห้องโถงโรงกลั่นตระกูลซ่ง?”