เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 28 – บัดซบใครจะเป็นรายต่อไป?
สาวกขอตระกูลลั่วตายเนื่องจากฟ้าคะนองคำรามนับไม่ถ้วน พวกเขาทั้งหมดกลับไปเป็นผงเลือดที่ปกคลุมพื้นดิน สถานที่แห่งนี้เหมือนอุโมงค์กับนรกที่ลึกลงเข้าไป
ฟ้าคะนองคำรามนับไม่ถ้วนเป็นทักษะลับสุดยอดของกระทิงเดือด.
เฉพาะสัตว์ร้ายที่มีแกนปีศาจจึงจะสามารถปลอดปล่อยพลังที่น่ากลัวเหล่านี้ได้ ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันมีแกนปีศาจอยู่ข้างในกระทิงตัวนี้.
ลั่วเทียนนั่งอยู่ข้างหลังกระทิงด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสนุกสนานที่เขามองไปที่ลั่วหลิน.
ลั่วหลินได้กลายเป็นบ้าจากความกลัว
สาวกนับสิบของตระกูลลั่วได้ตกตายทันที…
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อตั้งหรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณยังไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการคงอยู่ของกระทิงตัวนี้คืออะไร.
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือกระทิงตัวนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของลั่วเทียน.
จากการจ้องมองอย่างขี้เล่นของลั่วเทียนทำให้ความกลัวของเขาพุ่งสูงไปจนไม่อาจทำอย่างไรได้ ในที่สุดความกลัวก็พุ่งเข้าสู้จิตใจทำให้เขาเริ่มที่จะสั่นสะท้าน.
เขากลัว.
เขากลัวมาก ใบหน้าของเขาพึมพำและร่างกายสั่นสะท้าน.
ไม่ใช่เฉพาะเขาเท่านั้นแม่แต่ลั่วหมิงและโจวเฮินหร่ายก็เหมือนกัน พวกเขาไม่เคยเห็นฉากที่น่ากลัวดังกล่าวในชีวิตของเขา นี่มันน่ากลัวเกินไป.
แต่…
พวกเขาทั้งหมดมีข้อสรุปเดียวในใจของพวกเขา – ลั่วเทียนไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้!
ความสามารถใจการควบคุมสัตว์ปีศาจระดับ 4 มากเกินไป เมื่อเขานำสัตว์ปีศาจระดับ 4 นี้เข้าไปในเมืองภูเขาหยกที่ซึ่งมีครอบครัวทั้ง4ไม่สามารถจัดการกับเขาได้?
ตระกูลลั่วจะก้าวไปสู้ด้านบนในการปกครองอย่างรวดเร็ว เมืองภูเขาหยกทั้งหมดจะง่ายเหมือนกับขนมพาย.
เขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่มันจะกลายเป็นฝันร้ายของตระกูลโจว!
ความคิดของโจวเฮินหร่านพุ่งเข้ามาในจิตใจของเขาก่อนที่ดวงตาของเขาจะมองไปที่ลั่วเทียนและเจตนาฆ่าก็หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขา.
มันก็เหมือนกับลั่วหมิงเจตนาฆ่าของเขาก็ไลหออกมาจากเช่นกัน ลั่วเทียนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้! หากเขายังอยู่ลั่วจินซานจะไม่มีความหวังและจะไม่มีใครสามารถต่อสู้กับลั่วเทียนในตำแหน่งประมุขได้ตอนนี้ลั่วเทียนต้องตาย!
ทั้งสองคนเป็นแบบนั้นขณะที่ซ่งหยวนไคว่ยิ้มออกมาจนถึงจุดที่ไม่สามารถยิ้มได้อีก ความคิดของเขาตกใจมากจนกลายเป็นความฟุ้งซ่านอย่างสมบูรณ์. “แข็งแกร่ง… แม่เจ้าแข็งแกร่งเกินไปแล้ว.ดูเหมือนพี่ใหญ่จะไม่ได้ผิดพลาด เด็กคนนี้ไม่ใช่ขยะจริงๆ.”
“จะ จะ เจ้านายมีพลังอย่างมาก เจ้านายมีพลังครอบงำอย่างแท้จริง 555…!” ฟางเล่ยที่อยู่บนพื้นและมองไปที่ลั่วเทียนและเริ่มหัวเราะเสียงดัง.
ดวงตาของซูเอ๋อร์เป็นประกายขณะที่เธอรู้สึกตื่นเต้นกับลั่วเทียนเป็นอย่างมาก “พี่ใหญ่ลั่วเทียนยอดเยี่ยมเสมอ!”
“ลั่วหลิน!”
“กรีดร้องอออกมาเพื่อบิดาคนนี้!” ลั่วเทียนคำรามพร้อมขมวดคิ้ว
ในช่วงเวลาเดียวกัน…
กระทิงก็กระทืบพื้นในเวลาเดียวกัน
“ครึ่นๆๆๆ!”
ท้องห้าสั่นแผ่นดินสะเทือน ต้นไม้สั่นไหวไปมาขณะที่ใบไม้ร่วงจากลำต้น ฉากที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่น่าตะลึงเป็นอย่างมาก.
ลั่วหลินกลืนน้ำลายไปสองสามครั้งและถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าลั่วเทียนและประสานสายตากับเขาขณะที่กัดฟันแน่น “ลั่ว ลั่ว ลั่วเทียน เจ้าต้องการอะไร?”
“ต้องการอะไร?” ลั่วเทียนยิ้มหวาน “สิ่งที่พี่ใหญ่คนนี้ต้องการไม่มีอะไรมาก แค่ชีวิตสุนัขของเจ้าเท่านั้น!”
จิตใจของลั่วหลินสั่นสะท้าน เขาเงยหน้ามองไปที่ลั่วเทียนที่นั่งอยู่หลังกระทิงและรู้สึกว่าตัวเขายังเล็กนักในโลกใบนี้ เขาเต็มไปด้วยความเสียใจ เสียใจที่ทำไมเขาไม่ฆ่าลั่วเทียนเมื่อตอนที่เขามีโอกาสที่มากมายเหล่านั้น!
ความเกลียดชัง!
ความชิงชังอย่างมาก!
ตอนนี้ลั่วหมิงก้าวไปข้างหน้า จากนั้นเขาก็เหลือบมองโจวเฮินหร่านและกล่าวว่า “อาวุโสโจวเป้าหมายของท่านและข้ามีเหมือนกันทำไมไม่เข้ามาร่วมด้วยกัน?”
โจวเฮินหร่านยิ้มเบาๆและก้าวออกไปข้างหน้า “ความคิดของอาวุโสลั่วเป็นความตั้งใจเดียวกับข้า เจ้าคนชั่วลั่วเทียนละเว้นกฏของตระกูลและฆ่าคนในตระกูลเดียวกันดังนั้นเขาจึงสมควรจะถูกลงโทษ แม้คนนอกอย่างข้าก็ไม่สามารถทนแบบนี้ได้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถปล่อยให้เขาหยิ่งอย่างนี้?”
มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่สาวกตระกูลลั่วตาย ดังนั้นภารกิจของโจวเฮินหร่านยังไม่ดีพอ เมื่อลั่วเทียนตายมันจะเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบ!
ลั่วหมิงและโจมเฮินหร่านรวมกำลังกัน?
ผู้เชี่ยวชาญก่อตั้งระดับ 3 จับมือกัน – คนนึงขัดขวางกระทิงอีกคนเข้าไปสังหารลั่วเทียน.
ลั่วหลินเริ่มหัวเราะเสียงดังและใบหน้าของเขาก็กลับคืนสู่ความเย่อหยิ่งและหนาวเย็น. “555… ไอ้สุนัขตัวนี้ต้องการฆ่าบิดา? ออกจากฝันได้แล้ว!”
“ทำไมเจ้าไม่ฉี่ราดและมองไปที่กระทำของเจ้า? เจ้ายังไม่เติบใหญ่พอที่จะยุ่งกับบิดาคนนี้!” ลั่วหลินกล่าวอย่างหยิ่งๆ.
กับผู้เชี่ยวชาญก่อตั้งทั้งสองที่ร่วมมือกันมันยังไม่ทำให้เขากลัว?
เมื่อมองไปที่ซูเอ๋อร์ลั่วหลินยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าพี่ใหญ่ลั่วเทียนของเจ้าจะสามารถเปลี่ยนสิ่งต่างๆได้หรือไม่? หยุดฝัน ขยะก็คือขยะวันยังค่ำ! การต่อสู้กับข้าลั่วหลินมีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ 555…”
ทันที…
ลั่วหมิงและโจวเฮินหร่านทั้งสองก้าวออกไปและปรากฎอยู่ด้านหน้าลั่วเทียนทันที
“พี่น้องลั่ว คุณขัดขวางกระทิงขณะที่ข้าไปฆ่าคนชั่วลั่วเทียนคนนี้เอง นี่จะถือว่าเป็นของขวัญที่ข้าจะให้กับตรกูลลั่ว.” โจวเฮินหร่านพูดอย่างเย้ยหยัน.
ลั่วหมิงกล่าวเบาๆ “เราจะทำตามที่ท่านพูด.”
“นี่ นี่!”
“มีชีวิตชีวามาก! ถ้าข้าซ่งหยวนไคว่ไม่มีส่วนร่วมอันนี้ข้าจะต้องเสียใจอย่างมากในตลอดชีวิตที่เหลือของข้า.” ร่างของซ่งหยวนไคว่เบอลและไปหากระทิง.เขามีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก่อนที่จะยกนิ้วให้ลั่วเทียนและพูด.“เด็กน้อยเจ้าเด็กขาดและยอดเยี่ยมอย่างมาก ข้าชอบมัน!”
ด้วยการปรากฎของซ่งหยวนไคว่ ลั่วหมิงและโจวเฮินหร่านมีใบหน้าที่ดูไม่ดีเล็กน้อย.
ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่โจวเฮินหร่านจะก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม“นี่เป็นประเด็นภายในครอบครัวตระกูลลั่ว คนภายนอกอย่างท่านไม่สมควรที่จะเข้ามายุ่ง มันไม่เหมาะสมเลยใช่มั๊ย?”
ซ่งหยวนไคว่ยังคงยิ้มอยู่และพูดกว่า “ดูเหมือนว่าอาวุโสโจวจะเป็นคนนอก ใช่มั๊ย?”
“อืม…”
โจวเฮินหร่านพูดช้าๆเป็นครั้งที่สอง แต่เขาก็ยังคงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “มันเป็นเพราะพี่น้องลั่วหมิงต้องการความช่วยเหลือของข้า ดังนั้นข้าจึงต้องให้ความช่วยเหลือด้วยความใจกว้าง.”
“ความช่วยเหลืออย่างใจกว้าง?”
“ข้าเกรงว่าท่าต้องการตัดรากตระกูลลั่ว ไม่ใช่ว่าเพราะกระทิงตัวนี้เป็นท่านไม่ใช่หรือที่ล่อเข้ามาในพื้นที่ล่าสัตว์ด้วยตัวของท่านเอง?” ซ่งหยวนไคว่กล่าวอย่างดูถูก.
ดวงตาของโจวเหรินหร่านหดแน่นก่อนจะตะโกนออกไปว่า “อาวุโสซ่ง คำพูดเหล่านั้นต้องมีหลักฐาน! ตระกูลโจวและตระกูลลั่วมีความสัมพันธ์ที่ดีเสมอมาดังนั้นทำไมข้าต้องทำร้ายตระกูลลั่วด้วย?”
ขณะกำลังพูด…
ลั่วหมิงอยู่ห่างจากกระทิงไปไม่กี่เมตรเท่านั้น.
โจวเฮินหร่านขมวดคิ้วและกู่ร้อง “พี่น้องลั่ว ต้องเคลื่อนไหวแล้วตอนนี้!”
ร่องรอยของแสงที่ปรากฎอยู่ในดวงตาของลั่วหมิงที่เป็นความตั้งใจฆ่าของเขาระเบิดออกมา ดาบของเขาถูกดึงออกขณะตะโกนอออกมา “ดาบเยือกแข็ง!”
ขณะที่ดาบถุ่งออกมาความหนาวเย็นแพร่กระจายออกและทำให้อุณภูมิบริเวณนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว
“ระวังลั่วเทียน!”ซ่งหยวนไคว่ตระโกนด้วยความตกใจ.
ริมฝีปากของลั่วเทียนมีรอยยิ้ม “ด้วยทักษะแค่นี้เจ้าต้องการลอบโจมตีบิดาคนนี้?
เขาได้เห็นการแสดงออกของลั่วหมิงแล้ว ลั่วเทียนจึงขยับออก.
แต่…
ร่างของลั่วหมิงพลิกกลับและดาบชองเขาพุ่งเข้ามาหาซ่งหยวยไคว่อย่างฉับพลัน เขายิ้มขณะตะโกน “ตาย!”
ซ่งหยวนไคว่แอบตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็ส่งหมัดที่หนักแน่นลงพื้น พลังปราณที่หนาแน่นของเขาก็ระเบิดขึ้นและปกคลุมรอบตัวเขา
“ฮี่ๆ…”
โจวเฮินหร่านหัวเราะขณะที่ลั่วหมิงขยับ เขาคิดว่าเป้าหมายของเขาคือลั่วเทียน!
การประสานงานสมบูรณ์แบบอย่างมากทำให้คนอื่นไม่สามารถป้องกันได้
แต่…
เทดนิคประเภทนี้เอามาใช้สำหรับใครบางคนที่ยังไม่พ้นวัยเด็กของเขาเช่นลั่วเทียน.
“แอบโจมตีพิดาคนนี้? ความคิดที่จะทำแบบนี้!”
“กระทิงเดือดฟ้าคะนอง!” ลั่วเทียนคำราม.
“มอออ~~~”
กระทิงโกรธออกมาขณะที่ควันสีขาวออกทางรูจมูกของมัน จากนั้นก็ยกขาหน้าและยืนด้วยขาหลัง.
ผลกระทบที่เห็นได้จากการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีพลังอย่างมากโจวเฮินหร่านมองไปที่ลั่วเทียนชั่วคราวเขาไม่สามารถขุ่นเคืองและตื่นตระหนกเล็กน้อยจากความแข็งแกร่งของกระทิง.
มันเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 4 และเขาก็ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามแม้แน่น้อย.
เขาหันไปมองรอบๆเพื่อที่จะกระโดดออกไป…
ลั่วเทียนที่อยู่บนหัวของกระทิงและคลานไปอยู่เหนือหัวของมัน เมื่อเห็นโจวเฮินหร่านกระโดดขึ้นมาอย่างตกใจลั่วเทียนยิ้มและตะโกน “Berserk!”
“หืมม~~~”
มีเสียงที่ดังออกมาจากร่างกายของเขาและมีการระเบิดอันคุ้นเคย
เขาใช้ประโยชน์จากความสูง กำปั้นของเขาคล้ายกับฆ้อนของสงครามเมื่อมันบดมาทางด้านหลังศรีษะของโจวเฮินหร่าน ลั่วเทียนตะโกนออกมา “ตาย!”
โจวเฮินหร่านไม่เคยคิดว่าลั่วเทียนจะมีความกล้าพุ่งมาที่เขา.
ทำไมขั้นพื้นฐานตัวจ้อยถึงกล้าออกมาจากกระทิงและประกาศหาความตายของตนเอง?
นอกจากชายคนนั้นจะบ้า…
ลั่วเทียนเป็นคนที่บ้าบิ่นและไม่สนใจความตายของตัวเอง ไม่มีทางที่เขาจะเป็นฝ่ายตรงข้ามของโจวเฮิรหร่านถ้าเขาไม่ได้โจมตีที่ศรีษะ แม้ว่าเขาจะได้ความช่วยเหลือจากกระทิงแต่การเดิมพันนั้นก็ไม่สูงนักเนื่องจากกระทิงตัวนี้ช้าเกินไป.
ถ้าเขาต้องการฆ่าโจมเฮินหร่านมีวิธีเดียวที่เขาต้องทำคือการลอบโจมตี!
พลังปราณของเขากำลังเดือดพล่านขณะที่กำปั้นของเขาก็เหมือนค้อน มันพุ่งดิ่งจนเกิดลมที่พัดตีออกมา.
โจวเฮินหร่านมีการแสดงออกที่น่าตกใจขณะที่เขาบิดตัวกลางอากาส แต่เขาก็ยังคงโกรธ “ไอ้ขั้นพื้นฐานนี่อยากจะลอง…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ…
กำปั้นของลั่วเทียนก็ปะทะ
“ครืนนน~~”
การโจมตีของเขามาหยุดอยู่ที่หน้าอกของเขาและกระดูกก็แตกออกจากกัน เขาตะใจแต่เขาก็ยังตะโกน “แกไอ้สุนัขพันธุ์ทางมาดูว่าบิดาคนนี้เป็นอย่างไร…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบอีกครั้งกำปั้นของลั่วเทียนก็พุ่งเข้าใส่แก้มของเขาอีกครั้ง
“ผัวะ…”
ฟันสองซี่หลุดออกจากปากของโจวเฮินหร่านเขาปะทุความโกรธของเขาอีกครั้งและสาปแช่งออกไป “เวรเอ้ย ดูท่าแกคงไม่อยากจะมีชีวิ…”
ก่อนที่เขาจะเอ่ยจบก็มีหมัดกระทบเขาอีกครั้ง
“แก ไอ้สารเลวยิดาคนนี้กล้าบอกได้เลยว่าหากเจ้าต่อยข้าอีกครั้ง แกไอ้ลูกโสเภณีแกต้องการที่จะโหดร้ายมากกว่านี้? ทำไมแกไม่แสดงวามประทับใจให้กับพิดาคนนี้อีก?”
โจวเฮินหร่านที่ตกไปอยู่บนพื้นเหนือขึ้นไปคือหมัดของลั่วเทียนที่กระหน่ำเหมือนกับปืนกล.
“ปังๆๆ…”
การต่อยออกไปทุกครั้งจะเข้าไปปะทะกับใบหน้าของโจวเฮินหร่านในเวลาเพียงไม่กี่วิใบหน้าของโจวเฮินหร่านก็บวมเหมือนกับหมู ดวงตาของเขาพร่ามัวและเห็นแต่ดาวที่บินอย่บนท้องฟ้า เขาไม่มีแรงที่จะตอบโต้แม้แต่น้อย.
เมื่อเขาทำไปแล้ว เขาต้องฆ่าเท่านั้น!
ลั่วเทียนรู้หลักการนี้เป็นอย่างดี เมื่อโจวเฮินหร่านไม่ตายเขาจะสามารถฟื้นฟูได้ด้วยตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่กำปั้นของเขาไม่หยุดจนหว่ากระโหลกของเขาจะแตก.
“ติ้ง!”
“ยินดีด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้ฆ่าโจวเฮินหร่าน คุณจะได้รับค่าประสบการณ์ 1000 แต้มและปราณ 100 หย่วย…”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้รีบยาชั้นเสิศ”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้รับดาบเมฆคราม.”
“แต้มไร้พ่าย +1…”
———-
มันไม่ใช่เรนื่องแปลกเมื่อโจวเฮินหร่านคือว่าเป็นชนชั้นสูง.
นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของลั่วเทียนแต่เขาไม่มีเวลาให้ความสนใจกับสิ่งที่โจวเฮินหร่านระเบิดออกมา เขาเหลือบไปมองที่ซ่งหยวนไคว่และโชคดีที่เขายังมีชีวิตอยู่และดี ลั่วเทียนจึงใช้ความคิดของเขาควบคุมกระทิง…
“มออ…”
ทันใดนั้นกระทิงก็เข้าไปโจมตีและกระแทกลั่วหมิง
ร่างของลั่วหมิงกระเด็นไปในอากาศขณะที่ลั่วเทียนหัวเราะและอยู่ในจุดดที่กำหนดไว้ อีกครั้งที่เขาเปิดใช้พลังของเบอร์เซิร์กและฝนหมัดของลั่วเทียนก็ไปหาลั่วหมิง เขายังคงกระหน่ำจนกระทั่งได้ยินเสียง “ติ๊ง” จากระบบที่คุ้นเคยก่อนที่เขาจะหยุด.
เลือดไหลออกจากข้อนิ้วของเขาขณะที่กระชากหมัดออกจากหัวของลั่วหมิง เขาเสยผมก่อนที่จะตะโกนว่า “นรกได้เปิดออกแล้วไอ้บัดซบ บิดาคนนี้อยาจะรู้ว่าใครต้องการอีก – แกคือรายต่อไป?!”
การแสดงออกของเขาและกลิ่นอายของเขาที่เป็นความเย่อหยิ่งอย่างสมบูรณ์.
หลี่ซูเอ๋อมึนเมากับรูปลักษณ์ดังกล่าว.
ทันใดนั้น…
ดวงตาของลั่วเทียนเปลี่ยนไปขณะที่เขามองไปที่ลั่วหลินที่กำลังฉี่ราดเนื่องจากกลัวเขา เขาตบหน้าอกของเขาและกล่าวว่า “น้องสาวเจ้าสิ ข้าเกือบจะลืมเจ้าไป!”