เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 26 – ทุกคนต้องตาย
เข้าสู่กับดักแห่งความตาย?
หลังจากที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบลั่วเทียนเริ่มยิ้มออกมา.
ในบรรดานิยายออนไลน์หลายร้อยเล่มที่มีเกมเข้ามาเกี่ยวข้อง.หนึ่งในนิยายาที่เขาชอบที่สุด The Legend of Mir. ในฐานะที่เขาเกิดหลังยุค 80 The Legend of Mir มันคือตำนานของเกมที่ยอดเยี่ยม.เขาเคยเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมของ Hall of Fame และคุ้นเคยเกี่ยวกับคาถาของวิซาร์ด.เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักรางวัลที่ระบบมอบให้เขา – มนเสน่ห์.
มนเสน่ห์ – เป็นภาถาที่วิซาร์ดเรียนได้เมื่อเลเวล 13.
เมื่อใช้เวทย์มนใส่มอนเตอร์แบบสุ่มมันจะกลายเป็นลูกน้องของเขา.แต่มันสามรารถใช้ได้แค่ 5 ตัวต่อครั้งและใช้เวลาประมาณ2ชั่วโมงเท่านั้น.ในช่วงเวลานี้หากมอนเตอร์ที่โดนเสน่ห์ฆ่ามอนเตอร์ตัวอื่นๆเขาจะได้เลเวลและของจากมอนเตอร์.เลเวลสูงสุดที่เขาใช้ใส่ได้คือ 7 เลเวลและชื่อมันจะกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม.
หลังจากสองชั่วโมงผ่านไปลูกน้องของเขาจะเข้าสู่สภาวะปกติ แต่พวกมันก็มีโอกาศที่จะติดเสน่ห์อีกครั้ง.
ระดับสกิลของลูกน้องที่เข้าคุมจะอยู่เหมือนเดิมแต่เขาก็สามารถเพิ่มเลเวลได้เมื่อมันเลเวลอัพ
นี่คือคำอธิบายของสกิลใน The Legend of Mir.
ลั่วเทียนไม่คิดว่ารางวัลที่เขาได้เมื่อตอนที่เขาเพิ่มเลเวลเป็นขั้นพื้นฐานระดับ 7 จะเป็นเวทย์เสน่ห์.เขาคิดว่าหลังจากที่เขาถูกล้อมไว้จะเหลือแต่ทางตายไว้ แต่ตอนนี้…
เขาเริ่มคลี่ยิ้มออกมา.
ขณะที่เขายิ้มเขาก็เปิดระบบเพื่อดูข้อมูล.
สกิลศิลปะต่อสู้: เวทย์เสน่ห์
ระดับ: ระดับ 2
ความชำนาญ: 0/1000
สิ่งที่ต้องใช้: 20 พลังปราณ
เวลาคูลดาวน์: 10 วินาที
รายละเอียดสกิล:สกิลนี้จะทำให้มอนเตอร์เป็นลูกน้องคุณ.ยิ่งความแข็งแกร่งของมันเท่าไรความสำเร็จก็จะลดลง. เลเวล 0 โอกาสสำเร็จ 10% (โอกาสสำเร็จจะลดลงหากมอนเตอร์เลเวลสูงกว่าผู้เล่น), เลเวล 1 โอกาสสำเร็จ 15%, เลเวล 2 โอกาสสำเร็จ 20%, เลเวล 3 โอกาสสำเร็จ 25%… สุดท้าย เลเวล 10 โอกาสสำเร็จ 75%.
รายละเอียด สอง: หนึ่งจะสามารถได้มอนเตอร์เป็นลูกสมุน 2 ชั่วโมง 2ชั่วโมงหลังจากนั้นมอนเตอร์จะกลับเป็นปกติและไม่สามารถใช้ซ้ำได้.
รายละเอียด สาม: เมื่อสกิลล้มเหลวมอนเตอร์จะโจมตีทันที. (หมายเหตุ: มอนเตอร์ทุกตัวใน Legend of Mir แพ้ต่อเวทย์เสน่ห์. หลังจากสำเร็จในการได้รับลูกสมุนแล้วชื่อมอนเตอร์จะกลายเป็นสีเหลืองและเข้าสู่โหมดสนับสนุนและไม่สามารถโจมตีตัวเองได้.)
“แม่ง!”
“ไม่สามารถใช้ซ้ำได้หลังจากหมดเวลาและจะถูกโจมตีทันทีหากทำไม่สำเร็จ?นี่ไม่ใช่สิ่งที่ระบบแก้ไขเอาเอง?” ลั่วเทียนบ่นอยู่ในใจ
“แต่…”
“ในเกม The Legend of Mirจะจำกัดระดับที่สามารถควบคุมได้ในขณะที่โลกนี้ไม่ได้กำหนดนอกจากความสำเร็จ.แต่ตราบใดที่เลเวลของเวทเสน่ห์มีมากพอเขาก็สามารถรับมอนเตอร์ระดับ 10 เป็นสมุนได้!”ร่างกายของลั่วเทียนเริ่มร้อนขึ้น.
เสน่ห์ ทุกอย่างต้องมีเสน่ห์.
เสน่ห์ของหญิงซิงอายุ20ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก?
มองออกไปที่กระทิงเดือดที่เหมือนกับรถถัง ดวงตาของลั่วเทียนกดและหัวเราะอย่างตื่นเต้น“ถ้าสำเร็จมันจะกลายเป็นสมุนของข้า…”
เขาตื่นเต้นอย่างลับๆและดวงตาของเขากระพริบพร้อมกับกำหมัดแน่น
ในเวลาเดียวกัน…
ลั่วหลินที่จับหลี่ซูเอ๋อร์ไว้ในมือและใช้มืออีกข้างชี้ไปที่ลั่วเทียนก่อนที่จะตะโกนว่า “พวกเจ้ารออะไร? ฆ่าเขาเพื่อข้า!”
ผู้ที่ตกอยู่ภายใต้รางวัลเขาไม่ได้เป็นฮีโร่ที่กล้าหาญ แต่เป็นอาหารกระป๋องที่ไม่ต้องการมีชีวิตอีกต่อไป!
ตราบเท่าที่พวกเขาเข้าร่วมพวกเขาก็จะกลายเป็นสาวกหลักของตระกูลลั่วแล้วทำไมเขาไม่เข้าร่วมด้วย?
แม้ว่าพวกเขาจะต้องต่อสู้กับสัตว์ปีศาจระดับ 4 กระทิงเดือดฟ้าคะนอง ก็ไม่มีใครหันหลังกลับ ทุกคนวิ่งไปหาลั่วเทียนเหมือนกับว่าำวกเขาไม่สนใจชีวิตของตัวเอง.
“นี่เลวร้ายมาก!”
ที่ซ่อนในระยะไกล ซ่งหยวนไขว่ ช่วยไม่ได้ที่จะตื่นเต้น.นึกถึงคำพูดของพี่ใหญ่เขาซ่งยูหนานเขาขบฟันและพูดกับตัวเอง “เด็กน้อย ข้าหวังว่าพี่ใหญ่จะไม่ได้ผิดพลาดในการตัดสินใจของเขากับเจ้า!”
หลังจากนั้นทันที…
ซ่งหยวนไขว่เริ่มหัวเราะคำรามออกไปโดยใช้พลังจากกก่อตั้งระดับ3ของเขาออกมา.เหมือนกับแสงจากสายฟ้าเขาเข้ามาอยู่เบื้องหน้าของหยวนเทียนและมองไปที่ลั่วหลินด้วยรอยยิ้ม. “ไง สาวกตระกูลลั่วกำลังฆ่ากัน…”
“ซ่งหยวนไขว่?”
ลั่วหลินกระพริบตาด้วยความช๊อคและถามเบาๆ “อาวุโสซ่งทำไมท่ามาอยู่นี่?”
ลั่วหลินรู้สึกตกใจอย่างกระทันหันและเขาก็เตรียมพร้อมที่จะป้องกันตัวเอง
เขาไม่รู้จักซ่งหยวนไขว่และไม่ทราบแรงจูงใจของเขาอย่างไรก็ตามเขาต้องระมัดระวัง ลั่วเทียนรู้ว่าต้องรักษาความระมัดระวัง มันจะทำให้เรือแล่นไปได้ตลอดไป.
ซ่งหยวนไขว่มองไปที่ลั่วเทียนและยิ้มน้อยๆ “ไม่ต้องกัวเด็กน้อย ข้ามาเพื่อปกป้องเจ้า”
“ปกป้องข้า?”
“ท่านต้องการปกป้องเขา?”
ลั่วเทียนและลั่วหลินถามแทบจะพร้อมๆกัน.”
“ถูกต้อง!”
“ข้าอยู่เพื่อปกป้องเด็กคนนี้พวกเจ้าจะว่าอย่างไร?” ซ่งหยวนไขว่เยาะเย้ย.จากนั้นเขาก็วางมือบนไหล่ของลั่วเทียนและกล่าวว่า “เด็กคนนี้และข้าจะไปทางทิศตะวันตก ขณะที่ข้าไปใครจะขัดขวาง.”
“ผู้อาวุโสขอขอบคุณในความเมตตาของคุณ แต่ไม่จำเป็น ข้าจะไม่ไปไหนเพราะข้าไม่สามารถทำได้!”ลั่วเทียนพูดตรงๆ.
“ผู้อาวุโสซ่งสำหรับตระกูลลั่วของข้าจะดีที่สุดถ้าท่านไม่เข้ามายุ่ง.อย่ามาลุกลานตระกูลลั่วเพื่อขยะชิ้นเดียว ท่านควรจะเข้าใจถึงผลที่ตามมา.”ดวงตาของลั่วหลินหรี่แคบและปากของเขาก็ยกยิ้มก่อนที่จะคว้าผมของหลี่ซูเอ๋อร์และกระชาดมันลง.
“อ๊าาห์…”หลี่ซูเอ๋อร์ร้องออกมา.
ลั่วหลินมองข้ามไหล่ไปยังลั่วเทียนและยิ้มอย่าเหน็บหนาว“ไปเลย วิ่งไปเลย. ถ้าเจ้าเคลื่อนไหวแม้แต่ก้าวเดียวข้าจะฉีเสื้อผ้าของเธอ.หญิงคนนี้ยังบริสุทธิ์และมีผิวที่ขาวสว่าง.ข้าจะยอมให้ทุกคนในตระกูลลั่วลิ้มรสเธอ 5555…”
ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้ลั่วเทียนหนีไป เขาอยู่ที่นี่เพื่อฆ่าลั่วเทียนและไม่สามารถรอได้อีก!
ร่างกายของซูเอ๋อสั่นเทาและหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวแต่เธอก็ยังตะโกนออกมาว่า “อย่ายุ่งกับพี่ใหญ่ลั่วเทียน วิ่งไปเร็วๆ! ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับข้าทั้งนั้น!”
“หุบปากนังแพศยา.” ลั่วหลินดึงผมของเธอทำให้เธอลุกขึ้นจากพื้น.
ถึงว่าแม้เรื่องเหล่านี้จะยังดำเนินอยู่เธอก็ตะโกนว่า “พี่ใหญ่ลั่วเทียนรีบไปเร็วๆเข้า ไม่ต้องห่วงข้า!”
“แกกล้ายุ่งกับผู้หญิงของเจ้านาย! แกต้องการตาย!” ฟสงเล่ยคำรามด้วยความโกรธและลุกขึ้นยืน เหมือนกับคิงคองที่เต็มไปด้วยความต้องการฆ่าขณะที่เขารีบวิ่งออกไป.
“ฮึ่ม!”
“คนรับใช้ของตระกูลลั่วกล้าที่จะทำท่าทางต่อข้า? แกต้องการตาย!” ดวงตาของลั่วหลินเปลี่ยนไปขณะที่เขาปล่อยฝ่ามือ.
“ปัง!”
เกิดการปะทะกันของฝ่ามือลั่วหลิน ทำให้ฟางเล่ยกระเด็นกลับไป 5-6เมตรก่อนทีี่จะตกพื้นอย่างแรง เลือดได้ถูกพ่นออกจาปากของเขา.
ความแข็งแกร่งของพื้นฐานระดับ 9 มีพลังเกินกว่าที่หางเล่ยจะเป็นฝ่ายตรงข้าม!
โดยไม่รอให้ฟางเล่ยลุกขึ้นมาสาวกตระกูลลั่วก็จู่โจมไปที่เขา.
ใบหน้าของฟางเล่ยมีแต่สิ่งสกปรกขณะที่เขาต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมดของเขา.ดวงตาของเขาดูเหมือนจะพ่นไฟได้ “เจ้านาย หนีไปเร็วๆ ตอนนี้หนีไปเร็ว!”
หัวใจของฟางเล่ยหงุดหงิดและกรามของเขาก็ตกลง.เขาตะโกนอยู่ในใจ “ทำไมๆๆ ข้าจึงไม่สามารถเพราะปลูกได้?ทำมข้าจึงไม่สามารถปกป้องนายน้อยได้? ทำไม…?”
“ครึ่นๆ!”
พลังแปลกๆระเบิดออกจากร่างของเขาที่มาจากส่วนลึกของตันเถียน ที่ด้านหลังศรีษะของเขามีแสงสีแดงน่าเกลียดปรากฎขึ้น…
ซ่งหยวนไคว่ขมวดคิ้วและพูดเสียงต่ำ “ลั่วเทียนคนฉลาดจะไม่สู้เมื่อไม่มีโอกาส วิ่งไปเร็วๆก่อนที่มันจะสายเกินไป.”
กระทิงกำลังวิ่งมาที่เขาถ้าเขาไม่วิ่งก็ไม่มีทางไหนที่จะปกป้องเขาได้.
ตาของลั่วเทียนตอนนี้กลายเป็นสีแดงเลือด ขณะที่เขามองไปที่ซูเอ๋อร์และฟางเล่ยความตั้งใจฆ่าปรากฎออกมาอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
เขาไม่ได้ขยับตัวแม้ว่าตอนนี้เขาจะมองไปที่กระทิงี่กำลังจะมาถึง หมัดของเขาถูกกำแน่น.
“หนี!”
“นายน้อยไม่ว่าอย่างไรรีบหนีไปเร็ว!”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียนหนีไปเร็ว!”
“555… ไอ้เศษขยะนี้ต้องได้รับความกลัวจนขาดสติโดยนายน้อยลั่วหลิน. ตอนนี้เรามาดูการแสดงออกของคนโง่คนนี้และมาดูกันว่าเขาต้องการเป็นนายน้อยตระกูลลั่วอยู่อีก? นี่เป็นการแสดงที่ตลกที่สุด!”
“เฮ้ย ไอ้ขยะทำไมไม่รีบตายๆไปซะที.”
ด้วยการดูถูกเยาะเย้ยเหล่านี้หัวใจของลั่วเทียนก็เริ่มที่จะสงบลงจนไม่ได้ยินเสียงอะไร.
ทันใดนั้น…
“Berserk!”
ลั่วเทียนตะโกนออกมาขณะที่ความเร็วและความแข็งแกร่งของเขาถูกยกไปจนถึงขีดสุดก่อนที่จะวิ่งไปข้างหน้า
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจที่ลั่วเทียนคิดจะต่อสู้ขณะที่ชีวิตของตนเองอยู่บนเส้นด้าย แต่เมื่อพวกเขาเห็นเขาวิ่งไปอีกทางพวกเขาก็เริ่มหัวเราะ
“ไอ้เศษขยะนั่นกำลังวิ่งไปหากระทิง…เขาอาจจะคิดว่าเขาอยู่ได้ไม่นานดังนั้นเขาเลยตัดสินใจที่จะตาย.”
“5555…”
ซ่งหยวนไขว่ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน แต่เขาก็ติดตามไปโดยไม่ลังเล.
นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่เงาของลั่วหมิงกระพริบมาอยู่ข้างๆลั่วหลินเพราะกลัวว่าซ่งหยวนไคว่จะแอบโจมตี.
ในขณะเดียวกัน…
อึกคนที่อยู่ในเงามืดในป่าก็ลุกขึ้นมาและหัวเราะ. “555เด็กคนนี้รู้ว่าอะไรดีสำหรับเขาและตัดสินใจที่จะตาย. กระทิงตัวนี้เกิดมาเพื่อเขา!”
โจวเฮินหร่านมองลงไปที่ลั่วเทียนด้วยความหยิ่งยโสขณะที่เขาวิ่งไปที่กระทิง.
เป้าหมายของเขาคือการตายของลั่วเทียน เมื่อลั่วเทียนตายตระกูลลั่วจะระส่ำระส่ายและเขาจะประสบความสำเร็ขกับเป้าหมายอันนั้น.
ทั้งสามคนที่อยู่ในขั้นก่อตั้งได้ปรากฎตัวขึ้นแล้ว.
ซ่งหยวนไคว่เริ่มหกหู้อยู่ในใจและพูดกับตัวเอง “ไอ้อึนี่ ดูเหมือนว่าข้าจะไม่อาจปกป้องชีวิตเด็กคนนี้ได้.”
ลั่วหมิงและโจวเฮินหร่านต้องการให้ลั่วเทียนตายและทั้งสองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญก่อนตั้งระดับ3 ซ่งหยวนไคว่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือพวกเขาทั้งสองได้ในเวลาเดียวกัน.
เขาอาจจะตกไปสู้อันตรายด้วย.
ถ้าเขาหนีตอนนี้ไม่มีใครสามารถจับเขาได้ แต่…
จากการมองดูลั่วเทียนที่ยังคงวิ่งไปทางกระทิงตาของซ่องหยวนไคว่หกแคบขณะที่พูดกับตัวเอง “เด็กน้อยคนนี้ เจ้าจะทำอะไร?”
“เวทย์เสน่ห์!”
ทันใดนั้น…
เมื่อมาถึงระยะในการใช้เวทย์เสน่ห์ ลั่วเทียนรีบใช้ทันทีขณะที่ระบบแสดงความสำเร็จออกมา: 1%
เขายังคงอยู่ภายใต้การใช้งานของเบอร์เซิร์กและความสามารถของเขายังคงเพิ่มขึ้นสองเท่า.
อย่างไรก็ตามความสำเร็จก็ยังอยู่ในระดับต่ำสุดจนไม่อาจจะต่ำไปมากกว่านี้ได้
เมื่อสกิลถูกใช้ก็มีแสงสีขาวปกคลุมไปทั่วตัวของกระทิงก่อนจะหายไปในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาที.
“การรับสมัครล้มเหลว!”
กระทิงโกรธและกระโจนเข้าหาลั่วเทียนเมื่อมันล้มเหลว เขาหลบได้อย่างหวุดหวิด เมื่อคูลดาวน์เสร็จเขาก็ใช้เวทย์เสน่ห์อีกครั้ง.
“การรับสมัครล้มเหลว!”
เขาหลบหลังจากพยายามรับสมัคร.
ไม่มีใครรู้ว่าลั่วเทียนกำลังพยายามทำอะไรขณะที่ซ่งหยวนไคว่มีเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก.ทางเด้านกระทิงได้เข้ามาใกล้ลั่วเทียนพร้อมกับการโจมตีแต่ละครั้งและในสถานการณ์อันตรายลั่วเทียนก็ใกล้ดับชีวิตเขามากขึ้น.
“เวทย์เสน่ห์…”
“การรับสมัครล้มเหลว!”
“เวทย์เสน่ห์.”
“การรับสมัครล้มเหลว!”
กระทิงได้กลายเป็นโกรธลั่วเทียนเป็นอย่างมากและตอนนี้มันก็อยู่ห่างจากลั่วเทียนไม่ถึงสามก้าว เขาของมันระยิบระยับได้แสงเย็นๆถ้าใครถูกเขาของมันโจมตีต่อให้มีชีวิตนับร้อยมันก็ไม่อาจจะมีชีวิตได้!
“ระวังนายน้อย!”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียน!”ซูเอ๋อร์กลัวเกินกว่าจะปิดตา.
ซ่งหยวนไคว่ขมวดคิ้วขณะที่เขาต้องเร่งเข้าไปช่วยเขาอย่างด่วน แต่มันก็สายเกินไปแม้จะเป็นเขา เขาก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจระดับ 4 ได้.
เหล่าผู้คนเริ่มมีรอยยิ้มเมื่อสถานการณ์ของลั่วเทียนกลายเป็นย่ำแย่และกล่าวว่า “แม่งไอ้เศษขยะนี้มันควรจะตายได้ไปนานแล้ว.”
โจวเฮินหร่านปรบมือและพึมพัม “ภารกิจของข้าเสร็จสิ้นสักที!”
ลั่วเทียนขมวดคิ้วเพราะเขาไม่มีพลังเหลือพอที่จะหลบได้ เขาหยุดหายใจและตะโกนใช้เวทย์อีกครั้ง.
แสงสีขาวปรากฎอีกครั้งและครอบคลุมกระทิงและได้ยินเสียงแตกๆ
เขาของกระทิงห่างไปจากลั่วเทียนไม่กี่เมตรและหยุดลงอย่างกระทันหัน.
เสียงแจ้งเตือนระบบดังขึ้น.
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นลั่วเทียนประสบความสำเร็จในการรับสมัคร!”
ในขณะนั้น…
การแสดงของกระทิงก็เปลี่ยนไปเป็นลูกวัวและถูแขนเขา มันเริ่มล้มลงไปที่พื้่นและกลิ้งไปรอบๆ.
ในเวลานั้น…
ลั่วเทียนหันไปมองทุกคนในตอนนี้ และพูดอย่างเย็นชา“ทุกคน ที่นี่ ต้อง ตายยย!”