เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 171 - ข้าต้องหน้าด่านเข้าไว้
นิยาย เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย Chapter 171 – ข้าต้องหน้าด่านเข้าไว้
“ติ้ง!”
ได้ยินเสียงแจ้งเตือนเต็มสองหู.
ลัวเทียนกําลังจะตายเพราะความสุข เมื่อเห็นแถบความก้าวหน้าของสายเลือดหมื่นสัตว์ร้าย.
“ขอแสดงความยินดีด้วยกับผู้เล่น ลั่วเทียน ที่ได้รับสายเลือดของคางคงตา
ฟ้า โทดท์ ท่านจะหลอมรวมกับมันหรือ ไม่?”
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นลั่วเทียนที่รวบรวมสายเลือดได้ครบ 9,999 สายพันธุ์ ตอนนี้ขาดเพียงแค่ 1 สายพันธุ์ก็จะรวบรวมครับ สายเลือดหมื่นสัตว์ร้าย!”
“เวรเอ้ย!”
“ข้าขาดไปแค่อันเดียว!”
สายตาของลัวเทียนดูเหมือนจะเปล่ง ประกายอย่างฉับพลันขณะที่เขามีความ สุข.
จริงๆแล้วลัวเทียนไม่คิดว่าจะได้หลอมสายเลือดครบทั้ง 10,000 สายเลือด.
สิ่งที่เขาต้องการจริงๆคือสายเลือดได้พ่าย!
สายเลือดมังกรคราม,สายเลือดนกสีชาด….สานเลือดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ นั่นคือสายเลือดที่เขาต้องการ แม้ว่าสายเลือดจากการรวบรวมของหมื่นสัตว์ร้ายจะแข็งแกร่ง แต่มันจะแข็งแกร่งกว่าสายเลือดมังกรคราม?
มู่หรงหวั่นเจียมีสายเลือดมังกรที่แท้จริง,
ขณะที่ลั่วเทียนได้รับสายเลือดหมีสัตว์ร้าย มันก็คงไม่แย่นักสําหรับเขา?
เพื่อที่จะบดขยี้มู่หรงหวั่นเจี๋ย ลั่วเทียนต้องการให้เขาระเหยไปอย่างสมบูรณ์ มันไม่ใช่แค่ใช้ความแข็งแกร่งเท่านั้ ทักษะการต่อสู้และอุปกรณ์ ลั่วเทียนต้ องการบดชย์เขาด้วยสายเลือดเช่นกัน ลั่วเทียนต้องการบดขยี้เขาจนถึงจุดที่เขาไม่มีแม้แต่เวลาที่จะหอบ นี่คือสิ่งที่เขาต้องการทําให้สําเร็จอย่างแท้จริง
ไม่มีความแตกต่างกันระหว่างสายเลือดมังกรคราม และสายเลือดมังกรที่แท้จริงมากนัก น่าจะเป็นแค่ระดับที่แตกต่าง
แต่ลั่วเทียนก็จะไม่ยอมแพ้.
เขาต้องการสายเลือดมังกรคราม,เสื้อขาย,นกสีชาดและเต่าโลหิต ที่รวมเข้าด้วยกัน ด้วยวิธีนี้มันสามารถมองผ่านสายเลือดมังกรที่แท้จริงไปได้จนไม่อยู่ในสายตา และทําให้ลั่วเทียนบดขยี้มู่หรงหวั่นเจียได้อย่างสมบูรณ์!
แม้ว่าลั่วเทียนจะไม่ได้ต้องการแก่นโลหิตนี้…
แต่มันก็ไม่ใช่สิ้นที่คนอื่นไม่ต้องการ!
ฟาวเล่ย!
อ้วนเล่ยจะสามารถทะลวงขึ้นไปได้หลังจากกินแก่นโลหิต ความสามารถของเขาที่พิเศษเกินกว่าของมนุษย์ทั่วไป เมื่อเขาต่อสู้กังเฉินซงในเมืองภูเขาหยก เกล็ดโลหิตก็ได้ปกคลุมเจ้าอ้วน มันไม่ได้ง่ายที่จะทําให้เกิดขึ้น ถ้าเขาได้ดูดซับแก่นโลหิตที่แตกต่างกันกว่าหมื่นสายเลือด?
และแก่นโลหิตของเขาก็ดูดซับมาจาก สัตว์ปีศาจระดับสูง แก่นโลหิตก็มีคุณภาพสูงเช่นกัน มันมีพลังงานมากอยู่ภายใน ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ที่เจ้าอ้วนจะกลืนกินมัน…
ลั่วเทียนหวังให้ถึงวันนั้นเป็นอย่างมาก!
“แฮ่ก แฮ่ก, เขาจะคิดถึงข้าไหม?”
“อาจจะเป็นไปได้ว่านายท่านกําลังคิด ถึงข้าอยู่?”
ที่ทางเข้าเมืองดาบสวรรค์,
ชายที่กํายําที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ พร้อมจะระเบิดพลังออกมา
เขาสูงถึง 2.5 เมตรและหนักกว่า 300 จิน(150กิโลกริม
หรือ330ปอนด์) เขาถือดาบสั้นที่ทําจากกระดูกของสัตว์ปีศาจ ที่มีกลิ่นอายกดขี่ออกมา ทําให้เขาดูสะดุดตาเป็นอย่างมากและทําให้ผู้คนใกล้ๆต่างก็หลีกห่างเขา ราวกับว่าพวกเขาจะกลัวยั่วยุให้พุทธต้องโกรธเกรี้ยว.
นี่คือเจ้าอ้วน ฟางเล่ย!
เขามาถึงเมืองดาบสวรรค์ตามที่วางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้!
ในเวลนี้..
เขาจูงมือเด็กน้อยที่สวมเสื้อสีขาว ปิดบังใบหน้าของนางยืนอยู่หน้าประตูใหญ่
มองขึ้นไปบนกําแพงดูเหมือนว่ามันจะสูงเสียดเมฆเขาพึมพํา: “มันทั้งใหญ่ ทั้งสูง งั้นนี่ก็คือเมืองดาบสวรรค์ใช่ไหม?”
“เหอะ เหอๆ…”
“นายท่าน ข้ามาแล้ว.” ฟางเล่ยยิ้มอย่างโง่เขลา ในขณะที่หวใจเต็มไปด้วย ความต้องการ เขามีอารมณ์มากขึ้นเมื่อรู้ ว่ามันเป็นเวลากว่า 9 เดือนแล้วที่เขาจะได้พบเจ้านายของเขาอีกครั้ง ตามคําบอกเล่าของลั่วเทียน เขาจะต้องทะลวงเข้าไปในปราณเชียวชาญสุดยอดภายในเวลาสิบเดือน
แต่เขาใช้เวลาเพียงสองเดือนเพื่อทําการทะลวงมัน!
ความเร็วของชายคนนี้ในการทะลวง การบ่มเพาะนั้นผิดเพี้ยนไปเช่นกัน!
“พี่อ้วน มองดูขนมเทียนนั่น! ขนมเทียนฮวาาา ข้าต้องการกินขนมเทียน…”
เด็กสาวคนนี้ก็คือชุนชุนอย่างแน่นอน,
ชุนชุนปล่อยมือจากเจ้าอ้วนและวิ่งเข้าไป
ฟางเล่ยวิ่งตามนางไปพร้อมกับให้สัญญาภายในหัวใจ
“นายท่าน!”
“ก่อนที่ท่านจะมาถึงเมืองดาบสวรรค์ ข้าจะทําอาณาเขตไว้รอท่าน!
นี่เป็นเหตุผลที่ฟางเลยมาถึงเมืองดาบสวรรค์ก่อนถึงวันนัด.
เขารู้เหตุผลที่คั่วเทียนมาถึงเมืองดาบสวรรค์และมีเพียงพวกเขาที่จะช่วยแม่ ของชุนชุนออกมา ภายในเมืองที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ถัง พวกเขาต้องมีอิทธิพล ของตัวเอง!
แต่…
การต้องสร้างกองกําลังใหม่ภายในเมืองจักรวรรดินั้นยากมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย!
เทือกเขาวิญญาณ
ด้วยเปลวไฟที่ลุกไหม้และการย่างเนื้อของลั่วเทียนที่กําลังทําออกอย่างสบายๆบนใบหน้าของเขา เขาเพียงต้องการเลือดอีกหยดเดียวก็จะครบหมื่นสายเลือดและมันจะเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ให้กับเจ้าอ้วน หากเขารู้เรื่องนี้เป็นไปได้ว่าเขาจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ
“อร่อยมาก!”
“มันอร่อยมาก มันอร่อยจริงๆ ยัมยัม! ยี่ยี่สี่..” ฟานซางเจี้ยนมีหน้าตาที่พอใจอย่างมากในขณะที่เขากําลังแกว่งขาทั้งสอง ท้องของเขานูนขึ้นมาเล็กน้อย ทําให้คําถามของลั่วเทียนได้หายไปกับอาหาร,
ลัวเทียนยิ้มอย่างแผ่วเบาและพูดว่า: “กินเยอะๆ ถ้ามันดี”
ฟายซางเจี้ยนเรอก่อนที่จะพูดว่า: “ข้าต้องหยุดสักพัก จากนั้นข้าจะกินน่องอื่นๆได้แน่ ฮี่ฮี่…นายท่าน ทักษะการทําอาหารของท่านเป็นเทคนิคจากบรรพชนงั้นหรือ? รสชาติมันอร่อยเกินไปแล้ว
มันอาจกล่าวได้ว่าฟานซางเจี้ยนกินอาหารอร่อยมากมายทั้งบนบกและในน้ําตลอดชีวิตของเขา แต่เขาไม่เคยกินเนื้อย่างแสนอร่อยมาก่อน
“แน่นอนว่ามันถูกสืบทอดมาจากบรรพ ชนของข้า”
“นี่เป็นสูตรลับที่ตกทอดกันมาว่าหมื่นปี นอกจากนี้ยังมีคาถาลับเช่นกัน มันจะต้ องไม่รั่วไหลออกไปขณะที่ข้าทํา เจ้าเข้าใจหรือไม่?” ลั่วเทียนพูดขณะที่ลอบหัวเราะอย่างลับๆ
ฟานซางเจี้ยนกลายเป็นจริงจังและตอ บกลับ: “ข้าเข้าใจ ข้าจะไม่เปิดเผยสิ่งเหล่านี้แน่นอน”
คราวนี้
ต้นไม้รอบๆแกว่งไกว.
ลั่วเทียนขมวดคิ้วเบาๆ…
และเขากลายเป็นระวังตัวมากยิ่งขึ้น.
นอกจากนี้ในเวลาเดียวกัน…
มีโนมที่สูงกว่าฟานซางเจี้ยนสองสามเซนติเมตรออกมาจากพุ่มไม้และตะโกน: “รับเสด็จองค์ชาย!”
“หืม?”
พวกเขามองดูแล้วเป็นโนมในวัย ผู้ใหญ่ที่กําลังวิ่งเข้ามาก่อนที่จะคุกเข่าต่อหน้าฟานซางเจี้ยนพร้อมกับน้ําตาคลอ. “องค์ฝ่าบาท ท่านกลับมาแล้ว! พระบิดาและพระมารดาของพระองค์กําลังหาท่านอยู่ทั่วทุกที่!”
มีการแสดงออกที่เป็นสุขบนใบหน้า ของฟานซางเจี้ยน เขาก้มตัวลงไปช่วยพยุงโนมตัวนั้นและถาม: “ลุงกัวใต้ ท่านพูดจริงหรือเปล่า? ลุงฟานไม่ได้ทําอะไรกับพระบิดา-มารดาข้านะ?”
นี่คือโนมวัยผู้ใหญ่ที่ชื่อว่ากัวใต้,
การแสดงออกของเขานั้นผิดธรรมชาติ เล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบเห็น ร่องรอยกลับกลอกในสายตาของเขา.
แน่นอน…
ฟานซางเจี้ยนไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้เพราะเขายังเป็นเด็กอายุ 7 ขวบ มีเพียงคน อย่างลั่วเทียนที่มีชีวิตมาสองครั้งแล้ว เท่านั้นถึงจะสังเกตเห็นการแสดงออกที่ดํามีดเหล่านี้
กัวใต้ตอบทันที่: “ไม่เลย นาย พลฟ่านได้รับการไว้วางใช้จากบิดาท่า นอย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาใดๆ ในอนาคต นั่นเป็นสาเหตุที่ข้าถูกส่งมาที่นี่ เพื่อตามหาท่าน ท่านควรจะกลับไปกับข้าให้เร็ว เพราะพระบิดา-มารดาของท่านคิดถึงท่านจะแย่แล้ว”
“จริงหริ?”
“ข้ารู้ว่าลุงฟานจะไม่รังแกพระบิดา-มารดาข้าจริงๆ”
ฟานซางเจี้ยนยิ้มอย่างมีความสุข.
“ข้าจะกลับไปกับเจ้าทันที” ฟานซางเจี้ยนมีความสุขอย่างมาก ในเวลาเดียวกันเขาดึงมือลั่วเทียนและพูดว่า: “ลุงกัวใต้ นี่คือเพื่อนมนุษย์ของข้า เขาเป็นคนคอยดแลข้ามาตลอดทั้งวัน เพราะงั้น
ข้าเลยต้องการพาเขาไปเพื่อตอบแทนบางสิ่ง”
“มนุษย์?”
การแสดงของกัวใต้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาของเขาเย็นชาเป็นอย่างมาก เขาจ้องมองลัวเทียนสั้นๆ และมีร่องรอยการเป็นศัตรูในดวงตาของเขา
ลัวเทียนยิ้มอย่างสุภาพและพูดว่า: “ข้าชื่อว่าลัวเทียน”
กัวใต้ไม่มองลั่งเทียนเลยแม้แต่น้อย น้ําเสียงของเขาเปลี่ยนไปและพูดว่า: “องค์ฝ่าบาท กฎของเราห้ามมิให้นํามนุษย์ไปในดินแดนของเรา การพามนุษย์ไปนั่นหมายความว่าท่านกําลังฝ่าฝืนกฎของเผ่าเรา”
สายตาของฟานซางเจี้ยนหลุบต่ํา
จากนั้นเขาก็มองไปที่ลั่วเทียนและมี การแสดงที่ซึมเศร้าเล็กน้อยและพึมพํา: “เจ้านาย เผ่าโนมของเราห้าไม่ให้มนุษย์ เข้าไปในดินแดนของเรา แม้ว่าข้าจะเป็น องค์ชายของพวกเขา แต่ข้าก็ไม่อาจพา ท่านไปข้างในได้ ดังนั้นเราควรจะทํา อย่างไรดี?
ลัวเทียนยิ้มอย่างอดทนและพูดว่า: “มันไม่เป็นไร ข้าจะส่งเจ้าจนถึงทางเข้า เผ่าโนม และข้าจะไม่เข้าไปข้างใน”
กัวใต้พูดอย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ํา เสียงเชิงต่อว่า: “การส่งเขาไปที่ทางเข้า เผ่าเราก็ไม่ได้เช่นกัน สิ่งที่ดีที่สุดคือมนุษย์ที่ต่ําต้อยอย่างเข้าออกห่างจากข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ ไม่งั้นก็อย่ามาโทษที่ข้าไม่สุภาพ.”
“บัดซบ!”
“ไอ้ตัวเล็ก กล้าทําหน้าด้านแม้ว่าข้าจะอยู่ด้านหน้าของเจ้า?!”
ทันทีหลังจากนั้น…
เปลวไฟแห่งความโกรธก็ลุกโชนในใจของลั่วเทียน!