เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 168 - วิ่งเข้าสู้ดงสัตว์ปีศาจ
นิยาย เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย
Chapter 168 – วิ่งเข้าสู้ดงสัตว์ปีศาจ
ฉินหยู่เอ่อจากไปแล้ว
มันคล้ายกับตอนที่หลี่ซูเอ่อจากไปเช่นกัน
ทั้งหมดนี้เพื่อที่พวกเขาจะได้พบกันอีกครั้ง!
เหลือเวลาอีกประมาณ 9 เดือนก่อนที่ ภารกิจแรงค์ S จะหมดเวลา ถั่วเทียนต้องทําภารกิจช่วยชีวิตแม่ของชุนชุนให้สําเร็จ
นี่เป็นเรื่องที่เขาได้ให้สัญญากับชุนชั่นอีกด้วย
ดังนั้น…
ภายใน 9 เดือนนี้เขาจะต้องไปเยี่ยมเมืองดาบสวรรค์,
ในวลาเดียวกันเขาต้องเข้าใจพลังขององค์ไวโอเล็ตที่ทรงพลัง พลังที่อยู่เบื้องหลังของเมืองทลายสวรรค์และขอบเขต การบ่มเพาะของมู่หรงหวั่นเจ๋งถั่วเทียนต้องใช้พลังของเขาทั้งหมดเพื่อเตรียมพร้อมยสําหรับสามปี
มู่หรงหวั่นเจียต้องเดินเหมือนหมาที่น่าสมเพช!
ถั่วเทียนได้ให้สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมแพ้ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาต้องเหยียบย่ํามู่หรงหวั่นเจียไว้ใต้เท้าของเขาตอนนี้
ลั่วเทียนเหลือมองไปที่โนมด้วยสีหน้าอึมครึมฟานซางเจี้ยนที่มีความสูงเท่าต้นขาของเขา. “องค์ชายน้อย โปรดนํา ทางด้วย”
ฟานซางเจี้ยนขมวดคิ้วเบาๆและพูด: “เจ้าอยากไปจริงๆ?”
“หืม?”
“เจ้ารู้สึกเสียใจ?” เสียงของลัวเทียนมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ฟานซางเจี้ยนรีบกระโดดไปข้างหน้าและพูดว่า: “ไม่, ไม่, ไม่เสียใจเลย.”
หลังจากที่พูดอย่างนั้นเขาก็เริ่มน้ําทาง
พวกเขากําลังมุ่งหน้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของเทือกเขาวิญญาณ
ข่าวลือบอกว่า…
ส่วนที่ลึกที่สุดของเทือกเขาวิญญาณมีสัตว์ปีศาจในรูปแบบมนุษย์ ความแข็งแกร่งของมันมากพอที่จะท้าทาย สวรรค์,
เพื่อที่จะปลดผนึกในม้วนเวทย์โบราณลัวเทียนต้องเอาตัวไปเสี่ยงกับอันตรายเพียงเท่านั้น
เนื่องจากมันเป็นม้วนเวทย์โบราณ มันต้องซ่อนสมบัติโบราณบางอย่างไว้
นี่ถือเป็นโอกาสดีของถั่วเทียน หากเขาต้องการเหยียบย่ํามู่หรงหวั่นเจียใน อีกสามปีนี้ เขาจะต้องได้รับสมบัติโบราณบางอย่างเพื่อเสริมตัวเอง นอกเหนือจากระบบเลเวลอัพแล้ว ลั่วเทียนต้องมีบางอย่างสํารองไว้เพื่อที่เขาจะได้อุ่นใจ!
เขาต้องแข็งแกร่งขึ้น!
มนุษย์และโนมกําลังเดินไปตามเทือกเขาวิญญาณ
พวกเขาเดินไม่เร็ว.
ถั่วเทียนไม่ได้เร่งฝีเท้าเลย ลึกเข้าไปในเทือกเขาวิญญาณถ้าเขาเจอสัตว์ปีศาจระดับสูงบางตัวออก ด้วยความแข็งแกร่งระดับปราณวิญญาณขั้น 8 ของเขาก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะปกป้องตัวเอง,
พวกเขาเดินทางไปอย่างระมัดระวัง
หลังจากผ่านไปสามวัน…
ลัวเทียนรู้สึกถึงบางอย่างแปลกๆ เพราะว่าเขาไม่เห็นสัตว์ปีศาจแม้แต่ตัวเดียวในช่วงเวลาสามวันที่ผ่านมา
มันควรรจะมีสัตว์ปีศาจในเทือกเขาลึกแห่งนี้บ้างแต่นี่! ไม่มีแม้สักตัว ถั่วเทียนจะเพิ่มเลเวลได้อย่างไรการที่จะกลายเป็นปราณวิญญาณขั้น 9 ได้โดยไม่มีสัตว์ปีศาจสักตัว มันคงเป็นเรื่องแค่ความ ฝันเท่านั้น
“องค์ชายน้อย เจ้าแน่ใจหรือว่านี่เราเข้ามาในเทือกเขาวิญญาณ?” ลัวเทียนถาม.
ฟานซางเจี้ยนตอบ: “แน่นอน หรือว่าเจ้าคิดว่ามันคือที่ไหน?”
จากนั้นยั่วเทียนก็ถามต่อ: “ทําไมเราไม่เจอสัตว์ปีศาจที่นี่เลย? โชคดีที่ข้า ได้เตรียมเนื้อสัตว์ปีศาจอยู่ไม่อย่างนั้นเราได้อดตายไปแล้ว?”
ฟานซางเจี้ยนเริ่มกลืนน้ําลายของเขาเมื่อคิดถึงเนื้อที่ย่างโดยลั่วเทียนจากนั้นเขาก็พูดว่า: “ไม่ต้องห่วงเราจะได้เจ อมันบ้างระหว่างการเดินทางอีกไม่นานและมันก็เป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีใครอยู่แถวนี้ดังนั้น….เจ้าสามารถย่างเนื้อให้ข้ากันได้ไหม? ข้าเริ่มหิวแล้ว”
ฟานซางเจี้ยนไม่มีแรงพอที่จะเดินต่อไปอีกเมื่อคิดถึงเนื้อย่าง
ลัวเทียนกรอกตาและพูดว่า: “ไปเก็บกิ่งไม้แห้งมาเจ้ารู้ไหมวันนี้เจ้ากินไป หกครั้งแล้วเพราะงั้นข้าเลยไม่รู้ว่ากระเพาะเล็กๆของเจ้าจะจุมันได้มากแค่ไหนและข้ายังไม่เคยเห็นเจ้าไปขี้เลย”
ฟานซางเจี้ยนวิ่งออกไปอย่างมีความสุขเพื่อที่จะรวบรวมกิ่งไม้แห้ง ขณะที่พูดกับตัวเอง: “เข้ามนุษย์ก็ไม่ได้ทําตัวแย่กับข้านักอย่างน้อยก็ไม่ได้เลวร้าย เหมือนอย่างที่ท่านพ่อบอกไว้ เฮ้อ…ข้าสงสัยว่าพ่อกับแม่ข้ากับกําลังทําอะไรอยู่ตอนนี้และลุงฟานเพิ่งจะฆ่าพวกเขาจริงๆ?”
“เฮ้อ…”
“มันจะดีถ้าข้าสามารถพาสหายคนนี้เข้าไปในอาณาจักรโนมจากนั้นพ่อแม่ของข้าจะไม่ถูกลุงฟานเพิ่งรังแกตลอดเวลา”
เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ทําให้อารมณ์ของเขาดูหดหูเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นานา…
เขาก็กลับมาพร้อมกับกิ่งไม้จํานวนมาก.
ลัวเทียนทําความสะอาดเนื้อ
เนื้อที่เขาใช้นั้นหมัดด้วยเกลือเพื่อให้รสชาติและเนื้อสัมผัสดีขึ้นเล็กน้อย.
หลังจากที่กินเนื้อย่างชิ้นใหญ่เข้าไปหลายชิ้นท้องของฟานซางเจี้ยนก็โป่งนูนออกมาจากนั้นเขาก็พึมพํา: “มันดีจริงๆ ข้าหวังว่าจะได้กินเนื้อย่างแบบนี้ตลอดชีวิตของข้า”
ลัวเทียนยิ้มและดับไฟ. “ถ้าเจ้าอิ่มแล้วงั้นเราก็เดินทางต่อทันที
ฟ้านซางเจี้ยนยึดเอวของเขาและกลิงขึ้นมายืนหลังจากนั้นก็ก้าวเท้าออกไปพพลางพูดว่า:“ทางนี้!”
ถั่วเทียนมองไปรอบๆอย่างต่อเนื่องเขาส่งสัมผัสวิญญาณของเขาออกไป แต่ก็ยังไม่พบสัตว์ปีศาจในบริเวณใกล้นี้ได้ เขารู้สึกว่ามันแปลกเกินไปในเทือกเขาวิญญาณมันควรจะมีสัตว์ปีศาจเดินไปมารอบๆ
หัวในของเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าฟานซางเจี้ยนกําลังซ่อนอะไรบางอย่างจากเขา,
บางทีไอ้ตัวเล็กนี่ไม่ต้องการพาเขาไปยังดินแดนโนมและพาออกห่างจากสถานที่นั้น
แต่…
ตลอดกานเดินทางเขาไม่เคยพาเขากลับมาทางเดิมเลย ลั่วเทียนได้ทิ้งเครื่องหมายไว้เพื่อป้องกันเรื่องนี้และเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขากําลังเดินไปยังทางใหญ่ๆ ตลอดเวลาดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงเป็นเรื่อง ที่ดี?
ลัวเทียนรู้สึกมันแปลกเกินไป
แต่เนื่องจากพวกเขามาไกลขนาดนี้แล้วลั่วเทียนจึงไม่ต้องการละทิ้งการเดินทางสิ่งเดียวที่เขาทําได้คือการเดินตาม ฟานซางเจี้ยนจากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง: “ถ้าไอ้สารเลวนี่กล้าหลอกข้าจริงๆ ข้าจะตีกันเขาให้ขี้ไม่ได้อีกต่อไปเลย”
เช้าจรดเย็น
วันนึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว.
นี่เป็นวันที่ห้าแล้ว
พวกเขายังไม่ถึงดินแดนโนมของฟานซางเจี้ยนเลย.
พวกเขายังไม่เจอสัตว์ปีศาจแม้แต่ตัวเดียวไม่มีแม้แต่สัตว์ปีศาจระดับ 1.
ลัวเทียนเริ่มรู้สึกหดหูอย่างมาก…
ขณะที่ฟานซางเจี้ยนมีความสุขมากขึ้นทุกวัน
“เจ้าคือเนื้อย่างน้อยๆ ข้ารักมันอย่างไม่มีสิ้นสุด…”
ฟานซางเจี้ยนพลางเดินกระโดดและฮัมเพลงเนื้อย่างอย่างมีความสุข
“เจ้านาย เจ้านาย มันถึงเวลากินข้าวเช้าแล้วข้าต้องไปเก็บกิ่งไม้แห้งแล้ว?”
หลังจากที่อยู่ด้วยกันมาหลายวันฟานซางเจี้ยนก็เริ่มเรียกลัวเทียนว่าเจ้านาย.
และหลังจากผ่านไปหลายวัน เขาได้รับความรู้สึกนี้นอกจากพ่อแม่ของเขาถั่วเทียนทําดีกับเขาอย่างมากแน่นอน…
ที่สําคัญที่สุดคือความสามารถของลั่วเทียนในการปรุงเนื้อที่ยอดเยี่ยมฟานซางเจี้ยนก็ราวกับตกแตนตัวน้อยๆที่ถูกล่อลวงด้วยเนื้อย่างของถั่วเทียน,
ลัวเทียนกางมือของเขาและพูดว่า:“วันนี้เจ้าไม่ต้องไปรวบรวมกิ่งไม้แล้ว.”
ฟานซางเจี้ยนตกใจกับคําพูดนั้นและพูดว่า: “เจ้านายจะทําเองหรอ? ไม่ดีเลยองค์ชายคนนี้รู้สึกอายเล็กน้อยเอ๊ะ…ทําไมเจ้ายังไม่ออกไปและยังยืนอยู่ที่นี่?”
ถั่วเทียนยกมือขึ้นและตีกันฟ้านซางเจี้ยน…
ฟ้านซางเจี้ยนกระโดดอย่างรวดเร็วและหัวเราะคิกคัก. “ข้าล้อมเจ้าเล่น! ข้าจะให้เจ้าเก็บกิ่งไม้ได้อย่างไร? งานต่ําต้อยเหล่านี้แน่นอนว่าข้าจะทําเอง.”
จากนั้นยั่วเทียนพูดขึ้น: “ไม่จําเป็นเพราะพวกเราไม่มีเนื้อสัตว์แล้ว เราไม่เจอสัตว์ปีศาจเลยในระหว่างการเดินทาง ของเขาเพราะงั้นเราจะมีเนื้อสัตว์ได้อย่างไร?”
“ห้าาา?!”
ฟานซางเจี้ยนอุทานด้วยความตกใจ: “สวรรค์ข้าไม่มีเนื้อกินแล้ว?!”
“จ้อกม..จ้อกม..”
เสียงท้องร้องดังมาจากตัวของเขา,
ฟานซางเจี้ยนเหมือนกับลูกบอลที่ถูกปล่อยลมขณะที่เขาเริ่มกระสับกระส่าย.
ไม่นานหลังจากนั้น…
เขายืนขึ้นและพูดว่า: “ข้ามีสถานที่ที่เต็มไปด้วยสัตว์ปีศาจ ตามข้ามา!”
หลังจากที่พูดอย่างนั้น…
โดยไม่รอให้ลัวเทียนตอบ เขาก็รีบวิ่งไป.
ถั่วเทียนขมวดคิ้วและรีบตามเขาไปจากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง: “สัมผัสวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่าข้า? จริงๆแล้วเขาสามารถสัมผัสถึงสัตว์ปีศาจได้ในขณะที่ข้าไม่ทําไม่ได้?”
ทั้งสองวิ่งออกไปอย่างเต็มที่
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ลั่วเทียนก็รู้ทันทีว่าพวกเขาได้มาถึงที่ที่เต็มไปด้วยยอดเขานับไม่ถ้วนมีหลายคนนั่งกันอย่างเนื่องแน่นและดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ขยับเลย! “นี่มันที่บ้าที่ไหนเนี่ย?”
“บี้มมม!”
พร้อมกับเสียงสั่นสะท้าน
แผ่นดินสั่นไหวและยอดเขาขนาดใหญ่ก็เผยให้เห็นขนาดที่แท้จริงของมัน
สัตว์ปีศาจ! มันมีขนาดใหญ่มากตัวหนึ่ง!
พลังกดดันจํานวนมากแผ่เข้ามาและเข้าไปยังทะเลสติของถั่วเทียนทันทีเหงื่อเย็นๆเริ่มหยดหลังของเขาในพื้นที่รอบๆมีสัตว์อสูรระดับ 6 หรือมากกว่าอยู่มีแม้กระทั่งสัตว์ปีศาจระดับ 8! “แม่โว้ยยย! ข้าเพิ่งจะวิ่งเขาไปในดงสัตว์อสูรปีศาจ?”
แม่งเอ้ยข้าจบสิ้นแล้ว!