เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 166 - ไอ้เด็กโง่
นิยาย เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย
Chapter 166 – ไอ้เด็กโง่
ภูเขาแกนปีศาจ?!
เมื่อถั่วเทียนได้ยินอย่างนั้นหัวใจของ เขาเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย. “ต้องมีแกนปีศาจมากแค่ไหนถึงจะเรียกว่าเป็นภูเขาได้เนี่ย?!”
มีแกรปีศาจหลายอันบนร่างของฟาน ซางเจี้ยนและหนึ่งในนั้นเป็นหนึ่งในห้า ธาตุนั่นหมายความว่าลั่วเทียนสามารถเลือกคนเข้าไปในภูเขาได้?
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ถั่วเทียนตกตะลึงอย่างสุดขีด
เฉินหยู่เอ่อร์และถังซิ่วต่างก็มีสีหน้าตกใจ.
แม้ว่านิกายเมฆครามก็ไม่อาจมีโชคที่น่ากลัวขนาดนี้แกนปีศาจเป็น ภูเขา…มันมหาศาลขนาดไหน?!
เผ่าโนม.
พวกมันเป็นเผ่าที่ชอยสะสมและมีความสุขกับสิ่งของมีค่า
ในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหมดของทวีปนี้โชคชะตาของมันเทียบเท่ากับเผ่ามังกร.
เผ่ามังกรยืนอยู่บนจุดสูงสุดซึ่งไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนเทียบความมั่งคั่งได้จากเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมายเผ่าโนมอาจจะมีความมั่งคั่งน้อยกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นพวกโนมมักจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินดังนั้นจึงไม่มีใครหามันเจอได้.
นี่มันคล้ายกับพวกโนมในเกมส์
แม้ว่าหัวใจของลั่วเทียนจะเตรียมพร์อมเอาไว้แล้วกับคําตอบของโนม แต่เขาก็ยังหวั่นไหวจากคําว่า – แกนปีศาจเป็น
ภูเขา,
ลัวเทียนกลับมาสงบและกลับมา อ่อนน้อมอีกครั้ง.“องค์ชายเผ่าโนมบ้านของเจ้าอยู่ที่ไหน?เจ้าช่วยเอาแกนปีศาจธาตุไม้และน้ําให้ข้าได้ไหม? ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างเต็มที่”
คราวนี้ ฟานซางเจี้ยนไม่ได้แสดงความเย่อหยิ่งและตอบอย่างระมัดระวัง:“บ้านของข้าอยู่ลึกเข้าไปในภูเขา”
“โอ?”
“งั้นเจ้าพาข้าไปได้ไหม??”ลั่วเทียน
ถาม.
ตาของฝ่ายซางเจี้ยนสั่นเทาเล็กน้อยก่อนที่จะตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ได้ ฯ
“รับคําง่ายเกินไปไหม?”
“เจ้าตัวน้อยนี่พยายามจะหลอกเราอีกครั้งน้างชายสุดหล่อเจ้าต้องระวังตัวด้วยในบันทึกของทวีปเทียนหยวนเผ่าโนมถูกอธิบายว่าเป็นพวกเจ้าเล่ห์และขี้โกงเนื่องจากเขาตกลงง่ายเกินไปอาจมีบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้นอย่าตกหลุมพรางมัน”ฉินหยู่เอ่อร์แนะนํา.
ลัวเทียนก็เข้าใจเช่นกัน
เขาสังเกตเห็นดวงตาของโนมสั่นเทา และรู้ว่ามันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น.
แต่…
ถั่วเทียนต้องการแกนปีศาจสองอันสุดท้ายเพื่อที่จะสามารถเป็นม้วนโบราณให้เร็วที่สุดเขาต้องการสมบัติโบราณเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเขาและเพิ่มเลเวลให้เร็วที่สุดแม้เขาจะรู้ว่าฟ้านซาง เจี้ยนพยายามที่จะโกหกเขาแต่เขาก็ยังต้องลองดู
ท้ายที่สุด…
การฆ่าสัตว์ปีศาจในเทือกเขาวิญญาณและหวังให้แกนปีศาจจากทั้ง 5 ธาตุดรอปนั้นมันยากเกินไป
เนื่องจากมันเป็นอย่างนี้ เขาอาจจะต้องเสี่ยงกับโนมก็มีค่าเท่ากัน
สีหน้าของถั่วเทียนดูเย็นชาและริมฝีปากของเขายกยิ้มอย่างเย็นชา. “องค์ชายเผ่าโนมเจ้าไม่ได้พยายามหลอกข้าใช่ไหม?
สีหน้าของลัวเทียนแสดงออกราวกับว่ากลัวว่าโนมจะคืนคํา.
มันช่างน่ากลัวและากลัวโครตๆ
ฟานซางเจี้ยนไม่อาจทําอะไรได้นอกจากตัวสั่นความเจ็บปวกที่กันของเขาทําให้ใบหน้าของเขาซีดและส่ายหัวอย่างโง่งม:“ไม่มีทาง ไม่มีทางทําไมข้าต้องหลอกเจ้า? หลอกเจ้าแล้วข้าจะได้อะไร?ที่บ้านข้ามีแกนปีศาจเป็นภูเขาจริงๆตราบใดที่เจ้าตามข้ากลับไป ข้าจะช่วยเจ้าหาแกนปีศาจที่มีธาตุทั้ง 5 อย่างแน่นอน”
ขณะที่เขาพูด การแสดงออกของโนมก็แปลกๆเล็กน้อย
มันมีอาการอึมครึม.
แต่ถั่วเทียนไม่เห็นสิ่งเหล่านี้
ถั่วเทียนยิ้มอย่างพอใจและพูด: “มันเป็นเรื่องดีที่เจ้าไม่กล้สที่จะทําอย่างนั้นเพราะเจ้ารู้ว่าข้าจะทําอะไรเจ้าหากเจ้ากล้าหลอกข้าไม่เพียงแต่ก้นของเจ้าจะบวมเป็นดอกไม้น้องชายของเจ้าจะถูกและเอาให้หมากิน”
โนมจับหว่างขาของเข้าทันที่พร้อมกับ พยายามปกป้องมัน จากนั้นเขาก็พูดพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม: “ไม่ต้องห่วงไม่ต้องห่วงเลย!”
จากนั้นยั่วเทียนก็ถาม: “เจ้าจะไม่หนีไปใช่ไหม?”
“ม่ายย!”
“ม่ายเลย! แม้ว่าเจ้าจะตีข้าให้ตาย ข้า ก็ไม่หนีมือเจ้าหรอก หลังจากที่เจ้ามีกฎมิติที่ทรงพลังมาก!ข้าไม่เคยเห็นทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังมาก่อนในชีวิตข้าเลย!ฮ่ฮ่..” ฟานซางเจี้ยนพูดอย่างยิ้มๆพลางกระดิกหาง
ถั่วเทียนเยาะเย้ย: “ข้าสงสัยว่าเจ้าจะ กล้าอีกไหม!”
คิ้วของถังจิ๋วขมวดเล็กน้อยแต่พูดอย่างมีความสุขกับตัวเอง: “แน่นอนมันเป็นทักษะต่อสู้ที่มีกฎของมิติข้ากลัวว่าความสามารถต่อสู้แบบนี้จะทําให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ต่อคนอื่นต้นแบบของข้า เขาเป็นต้นแบบที่ยอดเยี่ยมเสียจริง”
ภายในหัวใจของถังจิ๋วบูชาถั่วเทียนมากขึ้นเรื่อยๆ
เขารู้สึกว่าตั๋วเทียนแข็งแกร่งขึ้นทุกวันและเขาก็มีความสามารถที่ต่างออกไปจากโลกนี้
เหมือนกับที่ไปเม่ยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้เด็กคนนี้เป็นความลึกลับที่ชีวิตอยู่
ลั่วเทียนเดินไปที่ปากถ้ําและมองขึ้นไปบนฟ้าจากนั้นเขาก็พูดว่า: “เราจะพักที่นี่กันคืนนี้”
พระอาทิตย์กําลังตกดินและท้องฟ้าก็จะมืดลงในครึ่งชั่วโมงจากนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่เหล่าสัตว์ร้ายจะออกหากิน,
แม้ว่าลั่วเทียนจะทะลวงไปถึงขอบเขตปราณวิญญาณเขาก็ยังไม่กล้าที่จะพักโดยไม่สํารวจด้วยความประมาท
มีสัตว์อสูรมากมายที่แข็งแกร่งมากในเทือกเขาวิญญาณดังนั้นปราณวิญญาณอย่างเขาก็ยังไม่เพียงพอที่จะอยู่รอดได้ง่ายๆ,
ถังจิ๋วและฉินหยู่เอ่อร์ไม่ได้คัดค้านอะไร.
ถั่วเทียนวางกิ่งไม้แห้งลงบนกองไฟจากนั้นเขาก็ฉีกเนื้อน่องชิ้นใหญ่ออกมาจากสัตว์ร้ายที่ฟานซางเจี้ยนฆ่ามาก่อนหน้านี้เมื่อก่อกองไฟตั๋วเทียนก็เริ่มย่างอย่างคล่องแคล่วและกลิ่นหอมของเนื้อ ย่างก็ลอยออกมาอย่างรวดเร็ว.
เขาโรยเกลือลงเล็กน้อย
ปล่อยให้เนื้อซึมซับรสชาติ
จากนั้นเขาก็โรยพริกไทยเล็กน้อยเพื่อให้รสชาติมีกลิ่นหอมมากขึ้น
“เปาะ!”
“แป๊ะ!”
เสียงน้ําหยดลงพื้นมาจากทิศทางของฟานซางเจี้ยนเขาพยายามที่จะกลืนน้ําลายของเขาลงขณะที่เขามองไปที่ลัวเทียนและถาม: “ทําไมเจ้าไม่ถ่องคาถา?เจ้าไม่ท่องคาถาขณะย่างเนื้อ?”
ลัวเทียนเกือบจะหัวเราะออกมาเขาไม่ คิดเลยว่าเพียง เจ้าเนื้ออย่างน้อยของเขาจะกลายเป็นคาถา
จากนั้นเสียงหัวเราะของเขาก็เงียบ..
ถั่วเทียนปิดตาลงด้วยสีหน้าที่จริงจัง บนใบหน้าของเขามือของเขาเริ่มพริ้วไหวไปมาในอากาศก่อนที่จะลืมตาและมองไปที่ฟานซางเจี้ยน, “คาถาจะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อทําท่ามือ.”
ถั่วเทียนร่ายมนต์พร้อมกับโบกมือไปมา
“เจ้าเนื้อย่างน้อย ด้วยความรักของ ข้าที่มีให้เจ้านั้นไม่สิ้นสุด…”
ฟานซางเจี้ยนกําลังมองทุกอย่างด้วยความจริงจังขณะที่เขาจดจําการเคลื่อนไหวของลัวเทียนเขาแอบยิ้มอยู่ข้างใน,“มนุษย์ชั่วช้านี้ กล้าที่จะเปิดเผยความลับในการย่างเนื้อ งี่เง่าจริงๆ!ฮ่าฮ่า ฮ่า…. บิดาของข้าพูดว่ามนุษย์นั้นเก่งกว่าเราแต่จากที่ข้าเห็น มนุษย์คนนี้โง่เง่าราวกับหมู!ฮ่าฮ่าฮ่า…”
หลังจากผ่านไปหลายนาที…
เนื้อย่างแสนอร่อยเสร็จแล้ว
ถั่วเทียนได้ส่วนหนึ่งกับฉินหยู่เอ่อและถังจิ๋วก่อน
พวกเขาสองคนยังแอบกลืนน้ําลายลงพวกเขากินอาหารอร่อนมามากมายทั้งจากทะเลจากบนบกโดยเฉพาะองค์ชายเก้าที่ได้ชิมอาหารนับไม่ถ้วนในชีวิตของเขาแต่อย่างใดก็ตามเนื้อนย่างของ ถั่วเทียนเกือบจะทําให้เขากลืนลิ้นตัวเอง.
ทั้งสองคนกินอาหารอย่างมีความสุขและกลืนลงไปในคอ
สิ่งนี้ทําให้ฟานซางเจี้ยนที่อยู่ข้างๆกลืนน้ําลายมากยิ่งขึ้นดวงตาของเขาส่องประกายขณะจ้องมองไปที่ลั่วเทียนอย่างไม่กระพริบตา
ถั่วเทียนถามยิ้มๆ: “แกอยากจะกินไหม?”
ฟานซางเจี้ยนพยักหน้าเหมือนกับไก่จิกข้าวสารขณะที่เขาตอบว่า: “แน่นอน!”
จากนั้นยั่วเทียนก็ตอบว่า: “ตราบใดที่เจ้าเชื่อฟังและพาข้าไปยังที่ที่ข้าสามารถได้รับแกนปีศาจ 5 ธาตุข้าจะเลี้ยงเจ้าด้วยเนื้อย่างนี้ตลอดชีวิตของเจ้า”
ทันทีหลังจากนั้น…
ลั่วเทียนก็ให้เนื้อย่างชิ้นใหญ่ที่สุดแก่เขา,
ฟานซางเจี้ยนมองไปที่เนื้อย่างชิ้นใหญ่และรู้สึกว่ามันมีอารมณ์ที่ท่วมท้นออกมาดูเหมือนว่าน้ําตาของเขาจะไหลออกมาเขามองไปที่ลั่วเทียนและกําลังจะพูดอะไรบางอย่างจากนั้นเขาก็วิ่งออกไปด้านข้างและเริ่มกินเนื้อย่างพร้อมกับกัดเข้าไปคําใหญ่ๆ
ลั่วเทียนหัวเราะเบาๆ: “แก้มันไอ้สารเลวน้อยจริงๆ!”