เกิดใหม่ทั้งทีขอเป็นผู้ดูแลฟาร์มผู้มั่งคั่งบ้างได้ไหมคะ? - เล่มที่ 19 ตอนที่ 538 อย่ารักษาข้า
- Home
- เกิดใหม่ทั้งทีขอเป็นผู้ดูแลฟาร์มผู้มั่งคั่งบ้างได้ไหมคะ?
- เล่มที่ 19 ตอนที่ 538 อย่ารักษาข้า
เล่มที่ 19 ตอนที่ 538 อย่ารักษาข้า
หลิงมู่เอ๋อร์ไตร่ตรองอยู่นาน สุดท้ายก็ยังคงตัดสินใจที่จะถามคำถามนี้ออกไป
นางมิอาจแน่ใจได้เลยจริงๆ ว่าตกลงแล้วอามู่ทั่วรู้เรื่องที่นางเคยตั้งครรภ์หรือไม่ การเปิดโปงดังกล่าวอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคนทั้งสองได้
ทว่ามีเพียงนางคนเดียวที่รู้ว่าพี่หญิงเซิงเอ๋อร์ใส่ใจเด็กคนนั้นมากเพียงใด อีกทั้งเมื่อครู่ที่นางตรวจชีพจรคร่าวๆ นางถึงได้รู้ว่าร่างกายของพี่หญิงเซิงเอ๋อร์มิอาจตั้งครรภ์ได้อีก!
หากนางตามหาความทรงจำของตนเองจนเจอ และได้รู้ว่าลูกที่นางพยายามไขว่คว้าให้ได้มาเพื่อคนที่นางรักไม่มีอยู่อีกต่อไป และนางก็มิอาจมีลูกได้อีกครา พี่หญิงเซิงเอ๋อร์จะต้องปวดร้าว เศร้าโศกเสียใจมากเพียงใดกัน!
“ที่แท้แล้วเจ้าก็รู้จักนางจริงๆ!”
อามู่ทั่วหยักยกมุมปากอย่างชั่วร้าย
วินาทีที่หลิงมู่เอ๋อร์ลอบตะโกนในใจว่าท่าไม่ดีแล้ว อามู่ทั่วก็พลันผิวปากขึ้นมา
ราวกับเป็นสัญญาณลับบางอย่าง จู่ๆ ก็มีคนเคาะประตูก่อนเข้ามา หลิงมู่เอ๋อร์หันสายตากลับไปมอง เห็นเพียงหญิงชราผู้หนึ่งที่โอบอุ้มเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขนของนาง
“นี่คือ…”
“ไม่ผิด ยามที่ข้าฟื้นขึ้นมาหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ซิงเอ๋อร์ก็กำลังตั้งครรภ์ท้องโตอยู่แล้ว! บางทีเจ้าอาจจะไม่เชื่อ เป็นข้าที่ถูกสตรีที่ผ่านการเข้าเรือนแล้วดึงดูดให้รักใคร่แล้วจริงๆ ยามที่ข้ารู้ว่าสามีของนางไร้ลมหายใจบนโลกใบนี้แล้ว ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดถึงมีความคิดเช่นนี้ ข้าปรารถนาจะปกป้องนาง ปกป้องพวกนางสองแม่ลูก!”
อามู่ทั่วเอ่ยด้วยท่าทีจริงจังเหลือคนานับ “ยามนั้นข้าเปิดเผยตัวตนและคิดจะพานางกลับวัง ทว่านางกลับปฏิเสธด้วยสีหน้าท่าทีแปลกประหลาด ในเมื่อเจ้ารู้จักนาง เช่นนั้นมิใช่ว่าข้าสามารถอาจหาญคาดเดาว่าแท้ที่จริงแล้วนางจะเป็น…”
“ไม่ใช่!”
หลิงมู่เอ๋อร์ปฏิเสธคำของเขาโดยแทบจะไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ
นางคิดว่า ในเมื่อเซิงเอ๋อร์ปิดปากเงียบไม่พูดถึงอดีต คงจะเป็นเพราะนางไม่ต้องการนึกถึงอดีตอันน่าเศร้าเหล่านั้นอีกต่อไป เช่นนั้นแล้วนางยังจะมีความจำเป็นใดที่ต้องกรีดเปิดรอยแผลเป็นที่ไม่ง่ายเลยกว่าจะสมานปิดในที่สุด
“ถูกต้อง ไม่ใช่!”
คิดไม่ถึงว่าแม้แต่อามู่ทั่วเองก็ยังเอ่ยปากปฏิเสธเช่นกัน อีกทั้งเขายังมีท่าทีเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง “น่าเสียดาย ยามที่ศัตรูไล่ตามมาถึง เพื่อที่จะช่วยข้า นางถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสและแท้งอย่างไม่คาดฝัน! ทว่าโชคยังดีที่ฝีมือหมอตำแยของซีอวี้นั้นเก่งกาจ ไม่เพียงแต่ช่วยมารดาได้ ยังช่วยเด็กให้รอดได้ด้วยเช่นกัน”
ยามที่เอ่ยนั้น อามู่ทั่วค่อยๆ รับเด็กมาอุ้มด้วยความอ่อนโยน ชายหนุ่มโอบอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน หยอกเย้าด้วยความระมัดระวังและคุ้นเคยยิ่งนัก “เป็นเด็กผู้ชาย แม้ว่าจะเป็นบุตรของผู้อื่น ทว่ามารดาของเขาคือพระชายารักของข้า ดังนั้นเขาก็คือเจ้าตัวน้อยของข้าเช่นกัน ข้าจะดูแลเขาให้เติบใหญ่อย่างดีที่สุด จะถ่ายทอดวิชาความรู้ของข้าให้ เพื่อที่ว่าในภายภาคหน้าเขาจะได้กลายเป็นแม่ทัพผู้ไร้พ่ายแห่งซีอวี้ เพราะเป็นเช่นนี้ถึงจะสามารถปกป้องมารดาของเขาได้ เพียงแต่ว่าเขายังไร้นาม ข้าไม่รู้อดีตของนางจึงไม่กล้ากระทำการสุ่มสี่สุ่มห้า แม่นางหลิงอยากตั้งชื่อให้เขาหรือไม่?”
ยิ่งเห็นท่าทีประดุจบิดาที่โอบอ้อมอารีของอามู่ทั่วแล้ว หัวใจของหลิงมู่เอ๋อร์ก็อาบชโลมด้วยทะเลเลือด แม้แต่นางเองก็มิอาจควบคุมร่างกายมิให้สั่นเทาได้
นี่คือบุตรชายของฉินเสวียนถิงหรือ?
ในที่สุดพี่หญิงเซิงเอ๋อร์ก็ทำได้สำเร็จจริงๆ หลงเหลือสายเลือดของเขาเอาไว้บนโลกใบนี้ เพื่อเขา บุรุษที่นางรักสุดหัวใจ
หากคำนวณวันเวลาแล้ว ย่อมเป็นทารกที่เกิดก่อนกำหนด เด็กน้อยผ่ายผอมอยู่นิดหน่อย ทว่าหาได้ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเขาไม่
“เจ้าตัวน้อยจิ้มลิ้มน่ารักเหลือเกิน” นางยื่นมือ คิดจะแตะสัมผัสทว่าก็หวาดกลัว
ผู้ใดจะรู้ จู่ๆ อามู่ทั่วส่งเด็กเข้าสู่อ้อมแขนของนาง “ลองอุ้มสักหน่อยเถิด อีกไม่นานเจ้าก็จะกลายเป็นแม่คนแล้ว ได้ลองเรียนรู้ประสบการณ์ไว้ก่อนล่วงหน้า ย่อมพิเศษกว่าคนอื่นนัก”
หลิงมู่เอ๋อร์คิดจะปฏิเสธ ทว่าเมื่อนางก้มศีรษะลงกลับพบว่าเด็กน้อยที่ยังมีอายุไม่เต็มสามเดือนกำลังผลิยิ้มส่งให้กับนาง
ภาพตรงหน้าน่ารักสุดหัวใจจริงๆ
“ช่างเป็นดวงตาที่งดงามเหลือเกิน” นางถอนหายใจ ดวงตาของเด็กน้อยเหมือนพี่หญิงเซิงเอ๋อร์เหลือเกิน ทว่าองคาพยพทั้งห้ากลับเหมือนกับฉินเสวียนถิงทุกประการ
โทษของคนคนหนึ่ง ไม่ควรดึงคนอื่นในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง เด็กน้อยเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ควรแบกรับความผิดพลาดที่บิดาของเขาเคยก่อไว้ ดังนั้นเขาจะเติบโตขึ้นอย่างดีแน่นอน
หลิงมู่เอ๋อร์แสร้งทำเป็นอุ้มเขาเดินไปพลาง หยอกเย้าเขาไปพลาง ทว่าแท้จริงแล้วนางลอบกรีดนิ้วของตนเอง เพื่อหยดเลือดสองสามหยดไปที่มุมปากของเด็กน้อย น่าแปลกใจนักที่เด็กไม่ร้องไห้ออกมาสักแอะ แต่กลับดูดกลืนอย่างมีความสุขแทน
นี่เป็นเพียงของขวัญเดียวที่นางจะมอบให้เขาได้
เลือดของนางปกป้องเขาได้ ร้อยพิษมิอาจกล้ำกราย นางหวังเพียงว่าเด็กคนนี้จะมีชีวิตที่ปลอดภัยสงบสุขและเติบโตอย่างแข็งแรง
“ไอน้ำกลืนเมฆา ธาราแห่งความฝัน เกลียวคลื่นซัดสาดเมืองเยว่หยาง หยาดพิรุณโปรยปราย มัจฉาเวียนว่าย ท้องนภาในยามเหมันต์งดงามดั่งความฝัน ไม่ทราบว่านาม ‘เมิ่งเจ๋อ’ [1] เป็นเช่นไรเพคะ?” หลิงมู่เอ๋อร์ผู้ไม่ถนัดบทกวีโบราณ ทว่าไม่รู้เพราะเหตุอันใด จู่ๆ สมองของนางก็นึกถึงประโยคนี้ขึ้นมา
หลังจากที่อามู่ทั่วพึมพำทวนกับตนเองอีกหลายต่อหลายครา ชายหนุ่มก็พบว่าเขาเองก็ชื่นชอบนามนี้มากเช่นกัน ยามที่รับตัวเด็กไป ปากก็เอ่ยเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก “เมิ่งเจ๋อ เมิ่งเจ๋อน้อย ต่อไปนี้เจ้าจะมีนามว่าเมิ่งเจ๋อ ดีหรือไม่?”
เขาส่งสัญญาณให้แม่นมเข้ามาอุ้มเมิ่งเจ๋อ อามู่ทั่วประสานมือโค้งกายคำนับหลิงมู่เอ๋อร์ “ขอบใจแม่นางหลิงมาก สำหรับนามที่ตั้งให้นี้”
“ในเมื่อองค์ชายใหญ่ทรงโปรด ก็นับเป็นเกียรติของหม่อมฉันแล้วเพคะ แต่ว่า เมื่อครู่พระองค์เพิ่งจะตรัสว่าอามู่เต๋อกำลังพุ่งเป้าไปที่พระองค์ หากเขารู้ถึงตัวตนของเซิง… ซิงเอ๋อร์ ซิงเอ๋อร์จะยิ่งตกอยู่ในอันตรายนะเพคะ พระองค์ทรงตั้งใจว่าจะซ่อนซิงเอ๋อร์ไว้ที่นี่ตลอดหรือเพคะ?”
อามู่ทั่วส่ายศีรษะ “ทุกสามเดือน ข้าจะสั่งให้คนหาที่อยู่ใหม่ ทว่าข้าเชื่อว่าอีกไม่นาน เรื่องนี้จะไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว”
ทันทีที่สิ้นเสียง ปรายตาของเขาก็ประดับไปด้วยแววอำมหิตชั่วร้าย
ดูเหมือนความคิดด้านชั่วร้ายของเขาจะกลับมาครบสมบูรณ์แล้ว อามู่ทั่วย้อนกลับสู่ท่าทีเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายดังเดิม “แม่นางหลิง ยามนี้เจ้าคงรู้แล้วว่าเหตุใดข้าถึงขอร้องเจ้าเช่นนั้น?”
สังหารอามู่เต๋อ!
เมื่อเป็นเช่นนี้ ซิงเอ๋อร์ก็จะไม่ตกอยู่ในอันตรายอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถยืนเคียงข้างเขาอย่างสง่าผ่าเผย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังสามารถเข้าวังพร้อมกับเขาโดยไม่ต้องกังวลใดๆ อีกในชีวิต
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หลิงมู่เอ๋อร์ถึงได้รู้สึกกระตือรือร้นที่จะตอบตกลงกับเขายิ่งนัก!
“เรื่องที่แม้กระทั่งพระองค์ยังทำไม่สำเร็จ แล้วพระองค์ทรงรู้ได้อย่างไรว่าหม่อมฉันจะทำสำเร็จ?”
หลิงมู่เอ๋อร์มิได้ตอบตกลงในทันที สำหรับอามู่ทั่วแล้ว แม้นางจะรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณที่เขาช่วยเหลือพี่หญิงเซิงเอ๋อร์ ทว่าจากปลายหางตาก็สามารถรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ฉลาดล้ำ ไม่ได้ด้อยไปกว่าอามู่เต๋อเลย
“แม่นางหลิงเป็นคนฉลาดล้ำ เก่งกาจไม่ธรรมดา หากเจ้ายังทำไม่ได้แล้วละก็ ข้าไม่รู้แล้วจริงๆ ว่าผู้ใดจะทำได้”
อามู่ทั่วสะบัดศีรษะ “ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่ทำให้จิตใจขุ่นมัว เหตุผลที่ข้าเชิญแม่นางหลิงมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อตรวจรักษาฮูหยินของข้า พวกเราคุยกันเรื่องนี้จบแล้ว ข้าเชื่อว่ายามนี้แม่นางหลิงคงเชื่อว่าข้าไม่ใช่คนไม่ดีใช่หรือไม่? เช่นนั้นข้าก็ขอบังอาจถาม เจ้าสามารถรักษาซิงเอ๋อร์ให้หายขาดได้หรือไม่?”
คำถามเอ่ยได้ตรงประเด็น หลิงมู่เอ๋อร์แสดงสีหน้าลำบากใจที่แทบจะไม่เคยปรากฏให้เห็น
“หากหม่อมฉันเดาไม่ผิดละก็ บริเวณศีรษะของซิงเอ๋อร์ได้รับการกระแทกสองครา การเจ็บป่วยคราก่อนยังไม่ได้รับการรักษา ก็ต้องมาทนทุกข์เป็นหนที่สองสามติดต่อกัน หม่อมฉันขอเอ่ยตามตรง เป็นเรื่องยากมากเพคะ”
“ทว่าเจ้าคิดว่าเจ้าทำได้ใช่หรือไม่?”
หลิงมู่เอ๋อร์พยักหน้า แล้วก็ส่ายหัว แล้วก็พยักหน้าอีกครา “หม่อมฉันต้องการความร่วมมือจากนาง ทว่าเมื่อครู่พระองค์ก็ทรงเห็นแล้ว นางกับข้า…”
“เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”
ไม่รอให้หลิงมู่เอ๋อร์ได้เอ่ยตอบ อามู่ทั่วก็หันหลังหายกลับเข้าไปในห้องแล้ว
หลิงมู่เอ๋อร์ยืนอยู่คนเดียวในลานเรือน นางมองไปรอบทิศ จู่ๆ นางก็แย้มยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ต่อให้ทุบตีนางจนตาย นางก็คาดไม่ถึงว่าจะได้พบพี่หญิงเซิงเอ๋อร์อีกคราในซีอวี้
เซิงเอ๋อร์ คือสหายคนแรกในเมืองหลวงที่นางได้รู้จัก คือคนที่นางสามารถเอ่ยความในใจด้วยได้ เชื่อใจได้ ใช้ใจแลกใจได้! ทว่าเพราะฉินเสวียนถิง พวกเราจึงถูกบีบบังคับให้มิอาจเป็นพี่สาวน้องสาวที่ดีได้อีกต่อไป
นางติดหนี้พี่หญิงเซิงเอ๋อร์ไว้มากมายเหลือเกิน
“พี่สาวเซิงเอ๋อร์ วางใจเถิด ข้าจะต้องรักษาท่านให้หายให้จงได้”
ยามที่หันเหสายตากลับไปมองก็พบว่าอามู่ทั่วอยู่ด้านหลังของนางแล้ว นางจัดระเบียบความคิดของตนเอง ตั้งใจจะเดินเข้าไปหาเขา ทว่าเซิงเอ๋อร์กลับเดินออกมาจากด้านหลังของเขาด้วยท่าทีระมัดระวังแทน
ยิ่งเห็นนางเดินเข้ามาใกล้ ปฏิกิริยาแรกของเซิงเอ๋อร์ก็ควรเป็นความหวาดกลัว หรือไม่ยินดีต้อนรับ ทว่าไม่รู้ว่าอามู่ทั่วเป่าหูนางเช่นไร เซิงเอ๋อร์ถึงเป็นฝ่ายริเริ่มเดินเข้ามาหานางก่อน
“อาทั่วบอกว่า เจ้าสามารถรักษาข้าให้หายขาดได้ เป็นเรื่องจริงหรือ?” นางถามด้วยความระมัดระวัง ไม่กล้าสบสายตานางด้วยซ้ำ
หลิงมู่เอ๋อร์พยายามฉีกยิ้มที่คิดว่าอ่อนโยนที่สุด “แน่นอนว่าข้าจะทำให้ดีที่สุด”
“ข้าไม่ต้องการการรักษาจากเจ้า เมื่อครู่นี้เจ้าถึงขนาดรังแกสามีของข้าแบบนั้น! ทว่า… สามีบอกว่าเจ้าเก่งกาจยิ่งนัก เช่นนั้นข้าจะเชื่อเจ้าสักครา”
หลังจากโยนคำพูดทิ้งไว้ เซิงเอ๋อร์ก็พลันหมุนกายหันกลับไป เมื่อเห็นว่าหลิงมู่เอ๋อร์มิได้ตามมา หญิงสาวก็หันกลับอีกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ “ไม่ตามมาหรือ? ทำไม วิชาแพทย์ของหมอเก่งกาจถึงเพียงนั้น เพียงแค่ยืนอยู่ในลานเรือนก็สามารถตรวจโรคได้แล้วหรือ?”
เมื่อเห็นท่าทีที่จงใจก่อความวุ่นวายของนาง หลิงมู่เอ๋อร์ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะรีบตามนางไปอย่างรวดเร็ว
“ลำบากแม่นางหลิงแล้ว” ยามที่กำลังเดินผ่านอามู่ทั่ว ก็ได้ยินเสียงของเขาที่ดังแว่วขึ้น
ฝีเท้าของหลิงมู่เอ๋อร์หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ยามที่หันสายตากลับไปมอง นางก็พบว่าอามู่ทั่วมีรอยยิ้มซาบซึ้งอาบย้อมเต็มใบหน้า
“เป็นหม่อมฉันที่ต้องขอบพระทัยพระองค์แทนนางในอดีต”
คำพูดนี้ นางเชื่อว่าเขาจะเข้าใจ
ภายในห้อง เซิงเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ สองแขนเหยียดยาวเต็มไปด้วยสติ หลังจากเห็นนางเข้ามาแล้ว เซิงเอ๋อร์ก็ถอนหายใจด้วยความเศร้าสร้อย ราวกับว่านางได้เตรียมหัวใจให้พร้อมแล้ว “ตามที่ตกลง ข้าจะให้โอกาสเจ้าเพียงคราเดียวเท่านั้น หากเจ้าสามารถรักษาข้าได้จริง ข้าจะยอมให้เจ้าเป็นแพทย์ประจำตัวของข้า ทว่าหากเจ้าไม่สามารถบอกสาเหตุของอาการป่วยนี้ได้ ไม่ว่าอาทั่วจะเอ่ยเช่นไร ข้าก็จะไม่มีวันให้โอกาสเจ้าอีกคราแน่”
เป็นอีกคราที่หลิงมู่เอ๋อร์แย้มยิ้มออกมา หรือว่านี่อาจเป็นความในใจที่แท้จริงของพี่หญิงเซิงเอ๋อร์?
อืม นิสัยเช่นนี้ค่อนข้างน่ารักจริงๆ
“พี่หญิงโปรดวางใจ ข้าจะทำให้ดีที่สุด”
หลิงมู่เอ๋อร์เริ่มต้นตรวจชีพจรของนางอย่างจริงจัง จดจำอาการทั้งหมดไว้ในใจอย่างเงียบๆ และเอ่ยอาการป่วยของเซิงเอ๋อร์ออกมาสองสามครา และนั่นพาให้เซิงเอ๋อร์ผู้ไม่ค่อยเชื่อใจในคราแรก ค่อยๆ เปิดใจยอมรับนางช้าๆ และสุดท้ายถึงขนาดกลายเป็นมองนางด้วยความชื่นชมหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม
“สวรรค์ทรงโปรด เจ้าเก่งกาจมากจริงๆ ด้วย เจ้าสามารถทำนายทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ เจ้ารู้แม้กระทั่งฝันร้ายในทุกๆ วันของข้าด้วยหรือ?”
“นอนหลับไม่สนิทย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกาย ข้าจะเพิ่มใบสั่งยาควบคุมการนอนหลับลงในรายการโอสถของท่าน ท่านอาจรู้สึกง่วงซึมหลังจากรับประทาน นั่นเป็นเรื่องปกติ เข้าใจใช่หรือไม่?”
หลิงมู่เอ๋อร์เอ่ยไปพลาง หยิบพู่กันและหมึกขึ้นมาแล้วเริ่มจดบันทึก ทว่าจู่ๆ ก็มีมือนุ่มๆ แตะสัมผัสเข้าที่หลังมือของนาง
“ท่าน…”
“แน่นอนว่าวิชาแพทย์ของแม่นางเลิศล้ำ ทว่ายามที่อาการของข้ายังไม่กำเริบนี้ ข้าอยากจะขอเอ่ยอะไรบางอย่างกับแม่นาง”
นางจริงจังเป็นอย่างยิ่ง แววตาของนาง สีหน้าของนาง ท่าทีเช่นนี้ล้วนคล้ายกับเซิงเอ๋อร์ที่ไม่เคยสูญเสียความทรงจำยิ่งนัก
โลหิตไหลพลุ่งพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย นางตื่นเต้นจนคว้ามือของสตรีตรงหน้ามาจับ ยามที่ตั้งใจจะขานเรียกชื่อของนาง เพียงวินาทีถัดไป ก็ดูคล้ายว่าเซิงเอ๋อร์จะกลับกลายเป็นซิงเอ๋อร์อีกครา
“แม่นางรู้สึกว่าข้าแปลกประหลาดใช่หรือไม่ แท้จริงแล้วข้าเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดข้าถึงแปลกเช่นนี้ บางทีข้าอาจเป็นแค่คนที่ประหลาดมาแต่แรกก็ได้กระมัง”
นางผลิยิ้มเผยให้เห็นลักยิ้มดอกท้อน่ารักสองอันที่มุมปาก ทว่ายิ่งวิธีการที่นางก้มศีรษะลงอย่างขลาดอายนั้น กลับไม่ค่อยเหมือนเซิงเอ๋อร์แล้ว
“ข้าเป็นหมอ ข้าย่อมรักษาท่านให้หายขาดได้แน่ หากเป็นเพราะสาเหตุนี้ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป”
“ไม่ สิ่งที่ข้าต้องการขอร้องแม่นางมิใช่เรื่องนั้น” เซิงเอ๋อร์รีบอธิบาย ก่อนจะลอบมองไปข้างหลังนางอย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครแอบฟังอยู่ นางก็เอ่ยด้วยความระแวดระวังว่า “แม่นาง หากเป็นไปได้ ข้าขอร้องแม่นาง อย่ารักษาข้า!”
อย่ารักษาข้า!
เพียงสี่คำ ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง หลิงมู่เอ๋อร์ตื่นตกใจอย่างสมบูรณ์
“เพราะเหตุใด?”
“เอ่ยไปแล้วแม่นางอาจไม่เชื่อ แม้ว่าข้าจะไร้ซึ่งความทรงจำในกาลก่อน ทว่าตั้งแต่คราแรกที่ข้าได้เห็นหน้าแม่นาง จู่ๆ ข้าก็รู้เศร้าโศกเหลือเกิน ราวกับว่าเคยมีเรื่องที่ทุกข์ตรมเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น! อีกทั้ง ในคราแรกอาทั่วเองก็เคยถามเกี่ยวกับอดีตของข้าเช่นกัน ตราบใดที่เอ่ยถึงเรื่องในอดีต หัวใจของข้าก็จะรู้สึกเจ็บปวดยากจะรับไหวทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุอันใด! ข้ารู้ว่าการที่ข้าความจำเสื่อมบางทีอาจเป็นเรื่องจงใจที่ทำให้ข้าไม่จดจำเรื่องในอดีต ทว่าความรู้สึกเช่นนี้ช่างเลวร้ายเหลือเกิน ใจของข้าหดหู่ ทรมาน ศีรษะปวดร้าวอย่างยิ่งยวด แม่นางเข้าใจความหมายที่ข้าเอ่ยใช่หรือไม่?”
หัวใจของหลิงมู่เอ๋อร์เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย นางเข้าใจ นางจะไม่เข้าใจได้อย่างไร ย่อมเป็นเรื่องดีที่นางไม่อยากจดจำเรื่องราวน่าเศร้าเหล่านั้น ทว่าเพราะเหตุใด… นางบังอาจคาดเดา หากว่าแท้จริงแล้ว เซิงเอ๋อร์ไม่เคยสูญเสียความทรงจำเลยเล่า
เชิงอรรถ
[1] เมิ่งเจ๋อ (梦泽) เป็นชื่อบทกวีของหลี่ไป๋ หมายถึงความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น และแรงจูงใจ นอกจากนี้ยังหมายถึงความซื่อสัตย์และภักดี ขยัน มีความสามารถ และมีความสามารถในการสร้างความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา
——————————