เกิดใหม่ทั้งทีขอเป็นผู้ดูแลฟาร์มผู้มั่งคั่งบ้างได้ไหมคะ? - เล่มที่ 11 ตอนที่ 304 จับตามอง
- Home
- เกิดใหม่ทั้งทีขอเป็นผู้ดูแลฟาร์มผู้มั่งคั่งบ้างได้ไหมคะ?
- เล่มที่ 11 ตอนที่ 304 จับตามอง
เล่มที่ 11 ตอนที่ 304 จับตามอง
หลิงมู่เอ๋อร์เพิ่งจะก้าวออกไป เสียงเย้ยหยันขององค์ชายเจ็ดก็ดังมาจากด้านหลังทันที รวมถึงเซิงเอ๋อร์เองก็อยู่ข้างเขาเช่นกัน
“มู่เอ๋อร์” เซิงเอ๋อร์วิ่งเข้ามาหานางทันที ยามที่เห็นหยดน้ำตาที่มุมหางตาของนาง หญิงสาวพลันคว้าตัวสหายเข้ามากอดแน่นด้วยความทุกข์ใจทันที “ทำให้เจ้าต้องทรมานแล้วมู่เอ๋อร์ พวกเจ้าสองคนไม่ควรอยู่ในจุดนี้ จะต้องทำเช่นไรดี มู่เอ๋อร์ผู้น่าสงสารของข้า…”
น้ำตาที่นางกลั้นไว้รินไหลออกมาทันทีที่เซิงเอ๋อร์ปรากฎตัว หลิงมู่เอ๋อร์อิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของนาง ปล่อยให้หยาดน้ำใสไหลซึมเสื้อผ้าของสหาย ทว่าเมื่อตระหนักได้ว่าองค์ชายเจ็ดยังอยู่ที่นั่นด้วย นางจึงเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างดื้อรั้น
“องค์ชายเจ็ดคงไม่คิดจะลงโทษมู่เอ๋อร์จริงๆ แน่ ไม่เช่นนั้นคงจะไม่มาที่นี่ได้ทันเวลาเช่นนี้กระมัง?” นางฝืนเม้มริมฝีปาก ทว่ารอยยิ้มของนางน่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้เสียอีก
“โอ้ เจ้านี่ช่างเป็นสุนัขที่กัดหลู่ตงปิน ไม่รู้จักเจตนาดีของคนอื่นเสียจริง” องค์ชายเจ็ดส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ เขาโบกมือส่งสัญญาณให้ข้ารับใช้ที่ตามมาแบกซั่งกวนเซ่าเฉินขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นท่าทางระมัดระวังของคนรับใช้เหล่านี้ และเห็นซั่งกวนเซ่าเฉินที่กำลังจะจากนางไป หลิงมู่เอ๋อร์พลันรู้สึกมิอาจหักใจได้ ทว่าเพื่อไม่ให้องค์ชายเจ็ดเอาเปรียบนางได้ นางจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร “ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังมากถึงเพียงนั้น ข้าเพียงใช้โอสถสลายสติขนานหนักกับเขา ไม่ว่ากำลังภายในของเขาจะแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ไม่มีทางตื่นภายในเวลาไม่ถึงห้าชั่วยามแน่”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงมู่เอ๋อร์ องค์ชายเจ็ดพลันตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ที่แท้แล้วเจ้าก็เป็นสตรีใจเหี้ยมที่สุด เจ้าถึงกับหักใจปล่อยมือจากเขาได้จริงๆ”
“องค์ชายเจ็ดไม่จำเป็นต้องเยาะเย้ยข้า ข้าจะออกจากเมืองหลวงในไม่ช้า การกระทำเช่นนี้มิอาจทำร้ายข้าได้”
ยามเห็นท่าทางดื้อรั้นของหลิงมู่เอ๋อร์ องค์ชายเจ็ดก็ค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาหานางทีละก้าว “ไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดเสด็จพี่รองถึงได้หลงใหลในตัวเจ้าเช่นนี้ ขนาดยามร่ำไห้ยังงดงามเหลือเกิน ช่างมีเสน่ห์เป็นพิเศษจริงๆ”
หลังจากพูดจบ เขาก็ตระหนักได้ว่ามุมปากของเซิงเอ๋อร์กำลังสั่น เขาจึงกลับไปที่เรื่องหลักทันที “อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดชั่วร้ายเช่นนี้กับข้า ข้าได้ทำตามที่สิ่งที่ข้าได้ให้สัญญาเอาไว้แล้ว การประลองนี้ถือเป็นโมฆะ เจ้าไม่จำเป็นต้องแต่งงานไปอยู่ยังแคว้นซีอวี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ควรจะขอบคุณข้าสักหน่อยกระมัง”
หลิงมู่เอ๋อร์กุมมือแน่น มองเขาอย่างจริงจัง “ขอบพระทัยองค์ชายเจ็ด สำหรับความช่วยเหลือของท่าน”
เขาโบกมือเป็นสัญญาณว่านางไม่จำเป็นต้องสุภาพมากขนาดนั้น “ขอเอ่ยตามตรงไม่ปิดบัง ข้าคิดจะช่วยเจ้าแย่งชิงตัวเสด็จพี่รอง เพราะอย่างไรข้าต้องการทักษะทางการแพทย์ของเจ้า ทว่าคิดไม่ถึงว่ามั่วจวินเหยาจะเอาแต่ใจถึงเพียงนี้ เสด็จพ่อก็ชมชอบนิสัยของนางเช่นกัน ทว่าไม่เป็นไร อย่างไรเสียเจ้าก็จากไปแล้ว ไม่สำคัญว่าเสด็จพี่รองจะแต่งงานกับผู้ใดอีก”
คำพูดขององค์ชายเจ็ดเหมือนหนามทิ่มแทงเข้าไปในอกของหลิงมู่เอ๋อร์
นางขมวดคิ้ว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปรับอารมณ์อย่างรวดเร็วราวกับว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้น มุมปากของหญิงสาวแย้มรอยยิ้มอ่อนโยนและงามสง่า “มู่เอ๋อร์ขอแสดงความยินดีด้วยที่ความปรารถนาขององค์ชายเจ็ดกำลังจะประสบความสำเร็จ ขอให้ท่านโปรดจงวางใจ ตราบใดที่ข้าและครอบครัวจากไปอย่างปลอดภัย ข้าจะบอกความลับของข้าให้ท่านทราบในทันที”
องค์ชายเจ็ดรู้สึกตื่นเต้นมากยามได้ยินคำเหล่านี้ “ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวล ข้าได้เตรียมส่งเจ้าและคนจากตระกูลหลิงออกจากเมืองในวันพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้ว”
หลิงมู่เอ๋อร์ส่ายหัว “ไม่ ข้าจะไปคืนนี้”
เมื่อครู่นี้นางบอกว่าซั่งกวนเซ่าเฉินถูกนางวางยาและจะไม่ตื่นภายในเวลาไม่ถึงห้าชั่วยาม ทว่าแท้จริงแล้ว นางตั้งใจปกปิดอะไรบางอย่าง ซั่งกวนเซ่าเฉินได้กลีบดอกไป่หลิงเซียนมา พิษหมื่นพิษในร่างกายของเขาจะไม่รุกรานกัน นางกังวลว่าเวลาตื่นของเขาจะถูกเร่งให้เร็วขึ้น หากเขารู้ว่านางจะจากไปในคืนนี้ เขาอาจจะทำอันใดโง่ๆ ขึ้นมาแทน
นางเข้าใจแล้วจริงๆ ว่าการรักใครสักคนไม่ใช่การบังคับให้เขาอยู่เคียงข้าง หรือการเปลี่ยนเขา ทว่าเป็นการเคารพการตัดสินใจของเขา
ตัวตนของพวกเราแตกต่างกันมาก ความรักของพวกเราไม่ได้รับการสนับสนุนจากองค์ฮ่องเต้ แล้วเพราะเหตุใดพวกเราถึงต้องฝืนรักกันต่อไปอีก?
คิดเสียว่าซั่งกวนเซ่าเฉินที่นางรู้จักเสียชีวิตในสนามรบแล้ว
“เร่งด่วนมากขนาดนี้เชียว? มู่เอ๋อร์ ข้ายังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะพูดคุยกับเจ้า และข้ายังไม่ได้ขอบใจเจ้าเลย” เซิงเอ๋อร์เข้าใจสัญญาณจากสายตาขององค์ชายเจ็ด นางจับแขนของหลิงมู่เอ๋อร์ ทว่าคำพูดที่เอ่ยนั้นเป็นคำพูดที่มาจากใจจริง
ยามที่เห็นหลิงมู่เอ๋อร์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย องค์ชายเจ็ดพลันยกมือขึ้น ก่อนจะสวมกอดเซิงเอ๋อร์อย่างทะนุถนอม เขาจ้องไปที่ท้องของนางอย่างตื่นเต้น “ไม่ผิด เจ้าคือเซียนแพทย์ที่สามารถรักษาคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้จริงๆ แม้แต่เซิงเอ๋อร์เองก็ยังสามารถตั้งท้องได้ ข้าควรจะขอบใจเจ้าจริงๆ ทว่าข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะรีบร้อนจากไปเช่นนี้”
“พี่เซิงเอ๋อร์ตั้งครรภ์แล้วจริงหรือ?” หลิงมู่เอ๋อร์เองก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับนางในวันนี้ “ร่างกายของพี่เซิงเอ๋อร์แตกต่างจากคนทั่วไป ถึงแม้จะตั้งครรภ์แล้วก็ยังต้องได้รับการดูแล ข้าก็หวังว่าองค์ชายเจ็ดจะดูแลพี่เซิงเอ๋อร์อย่างดี”
องค์ชายเจ็ดส่ายศีรษะ “ไม่ เป็นเจ้าที่ต้องดูแลนางเอง”
ยามเห็นท่าทางไม่พอใจของนาง องค์ชายเจ็ดก็วางมือของเซิงเอ๋อร์ไว้ในฝ่ามือของนางทันที “นี่เป็นเหตุผลที่ข้าไม่ต้องการให้เจ้าจากไปในช่วงเวลานี้ ไม่ผิด เพราะเซิงเอ๋อร์เคยรับน้ำแกงป้องกันการมีบุตรมาก่อน แม้ว่าในที่สุดนางจะตั้งครรภ์สำเร็จ ทว่าสภาพครรภ์กลับไม่คงที่ ข้าเองก็ได้เฟ้นหาหมอมาหมดทั้งเมืองแล้ว ทว่ากลับไม่สามารถรับประกันได้ว่านางจะคลอดอย่างปลอดภัย ดังนั้นข้าอยากให้เจ้าดูแลนางสักพัก”
“ไม่ได้ ข้าจำเป็นต้องออกเดินทางในคืนนี้”
หลิงมู่เอ๋อร์ปฏิเสธอย่างเย็นชา นางตรวจสอบชีพจรของเซิงเอ๋อร์อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าองค์ชายเจ็ดไม่ได้โกหก นางแสร้งทำเป็นหยิบเม็ดยาออกมาจากกระเป๋าทว่าแท้จริงแล้วหยิบออกมาจากมิติเทพของนาง “แม้ว่านี่อาจจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าเจ้าจะคลอดบุตรอย่างราบรื่น แต่อย่างน้อยมันจะช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์คงที่ชั่วคราว ตราบใดที่พี่หญิงเซิงเอ๋อร์ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน และไม่อารมณ์เสียง่ายๆ ก็จะไม่มีปัญหา”
องค์ชายเจ็ดเฝ้าดูเม็ดยาบนฝ่ามือของนาง เขาแน่ใจว่านางหยิบมันออกจากคลังสมบัติลับ ตั้งแต่ที่เขาแน่ใจว่านางสามารถหายไปต่อหน้าต่อได้ และปรากฏขึ้นอีกครั้งอย่างกะทันหัน เขาก็สนใจใคร่รู้เกี่ยวกับสมบัติเหล่านั้น และอดใจรอที่จะคว้ามันมาไม่ไหวแล้ว
ดังนั้น เรื่องนี้ต้องไม่มีอันใดผิดพลาดอย่างเด็ดขาด
“ข้าสัญญาว่าจะช่วยเจ้าและครอบครัวของเจ้าให้ออกจากเมืองหลวง ดังนั้นข้าย่อมทำตามที่พูดอย่างแน่นอน ทว่าเซิงเอ๋อร์เองก็สำคัญสำหรับข้ามากเช่นกัน เจ้ารู้ดีว่าชีวิตนี้ข้าไม่ต้องการสตรีอื่นนอกจากนาง ดังนั้นการที่นางสามารถตั้งครรภ์ลูกของข้าได้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับข้า ไม่อย่างนั้น เจ้าก็ช่วยนางจนถึงที่สุด ช่วยให้นางพักฟื้นร่างกายให้ดีก่อนที่จะจากไป เจ้าคือเซียนแพทย์ ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีเวลาเพียงเล็กน้อย ทว่าข้าคิดว่านั่นก็น่าจะเพียงพอแล้ว”
หลังจากพูดจบ องค์ชายเจ็ดก็ผลักเซิงเอ๋อร์ให้ยืนเคียงข้างนาง
เซิงเอ๋อร์ได้รับสัญญาณจากสายตาอีกครั้ง แม้ว่านางจะรู้สึกละอายใจ ทว่าเพื่อรักษาชีวิตของมู่เอ๋อร์ให้ปลอดภัย นี่คือเงื่อนไขที่นางสัญญากับองค์ชายเอาไว้
“ใช่แล้ว มู่เอ๋อร์ ข้าไม่รู้ว่าหลังจากที่เจ้าจากไป เมื่อใดที่เราจะได้พบกันอีก หากเจ้าไม่ได้อยู่เคียงข้าง หัวใจของข้าก็มิอาจสงบลงได้ ไม่ง่ายเลยที่ได้ตั้งครรภ์เด็กคนนี้ ข้าเป็นห่วงจริงๆ ว่าเขาจะ…” เซิงเอ๋อร์เอ่ยอย่างกระวนกระวายพลางกำแขนของนางแน่น “ช่วยข้าหน่อยเถิด ตรวจร่างกายข้าอีกสักรอบ หากข้าสามารถให้กำเนิดเด็กคนนี้ได้อย่างปลอดภัยจริงๆ ข้าจะขอบคุณเจ้าชั่วชีวิต”
หลิงมู่เอ๋อร์ฟังคนหนึ่งร้อง คนหนึ่งรับ เมื่อเห็นสายตาที่หลบเลี่ยงของพี่เซิงเอ๋อร์ หลิงมู่เอ๋อร์ก็เข้าใจได้ในทันที
พวกเขาไม่ได้ขอให้นางดูแลเซิงเอ๋อร์ องค์ชายเจ็ดวางเซิงเอ๋อร์ให้เป็นเบี้ยข้างกายนาง เพื่อเฝ้าจับตามองนางเอาไว้!
แม้ว่าสายตาของเซิงเอ๋อร์จะหลบไปนั้นจะแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด ทว่าอย่างไรสายตาก็ได้สบไปแล้ว สุดท้ายแล้วนางก็มิอาจหลบเลี่ยงความรู้สึกที่เก็บซ่อนจากตนได้
องค์ชายเจ็ดคำนวณเอาไว้แล้ว เพื่อให้ได้ครอบครองมิติเทพ แน่นอนว่าเขาย่อมกังวลว่านางจะหนีไป อย่างไรเสียเขาก็มิอาจควบคุมนางได้
ให้เซิงเอ๋อร์ติดตามข้างกายนางเพื่อจับตามองนางตลอดเวลา หากมีเรื่องอันใดก็จะได้รายงานข่าวได้ตลอดเวลา ต้องชื่นชมที่เขาสามารถคิดแผนเช่นนี้ออกมาได้จริงๆ
“เช่นนั้นก็ตกลง ข้าจะจัดการเรื่องของพี่หญิงเซิงเอ๋อร์เอง ก่อนที่จะฟ้าจะมืดข้าจะดูแลร่างกายของนางให้ดี และรอข่าวดีจากองค์ชายเจ็ด”
ในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ องค์ชายเจ็ดพยักหน้าแสดงว่าพวกเขาสามารถออกไปจากที่นี่ได้แล้ว
“มู่เอ๋อร์ ข้าขอโทษ”
บนรถม้า จู่ๆ เซิงเอ๋อร์ก็คุกเข่าลงตรงหน้านาง หญิงมีครรภ์จะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?
แม้ว่าเซิงเอ๋อร์จะทรยศความเป็นพี่น้อง ทว่าหลิงมู่เอ๋อร์ก็ยังกังวลเกี่ยวกับร่างกายของนาง “พี่หญิงเซิงเอ๋อร์ ท่านกำลังทำอันใดอยู่? เจ้ารีบลุกขึ้นมาพูดกันดีๆ ร่างกายของท่านมิอาจทนต่อการทรมานเช่นนี้ได้”
มือข้างหนึ่งกดท้องไปพลาง อีกข้างก็พยุงให้นางลุกขึ้นมานั่งข้างๆ เซิงเอ๋อร์ร้องไห้ทั้งน้ำตา “ข้าขอโทษ มู่เอ๋อร์ เจ้าดีกับข้าเหลือเกิน ทว่าข้ากลับต้องขอโทษเจ้า แท้จริงแล้วข้าถูกส่งมา เหยียส่งข้ามาจับตาดูเจ้า เพราะกลัวว่าเจ้าจะหนีไป วันนั้น ข้าได้ยินบทสนทนาระหว่างเจ้ากับเหยียแล้ว แม้ข้าจะไม่รู้ว่าความลับของเจ้าคือสิ่งใด ทว่าหลังจากที่เหยียได้รู้ความลับเจ้าแล้ว เหยียย่อมไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่ เจ้าไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เถิด ฉวยโอกาสก่อนที่เหยียจะรู้ รีบหนีออกจากเมืองหลวงเสีย มิเช่นนั้น ไม่เพียงแต่ความลับของเจ้าเท่านั้น ทว่าชีวิตของเจ้าจะต้องแตกสลายหายไปด้วยแน่”
ไม่เคยคิดเลยว่าเซิงเอ๋อร์จะแบไพ่ทั้งหมดกับนางเช่นนี้
เมื่อครู่นี้นางเพิ่งโทษว่าเป็นความผิดของเซิงเอ๋อร์ นางคิดว่าเซิงเอ๋อร์ทรยศต่อความเป็นพี่น้อง
“พี่เซิงเอ๋อร์ ท่าน…”
“หากข้าไม่ตกลงว่าจะเป็นคนเฝ้าจับตามองเจ้า เหยียก็จะส่งคนอื่นไปแทนอยู่ดี มู่เอ๋อร์ ข้าถือว่าเจ้าเป็นน้องสาวของข้า ข้าจะหักหลังเจ้าได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เจ้าช่วยข้ามากขนาดนี้”
เซิงเอ๋อร์ปาดน้ำตาบนใบหน้าด้วยความกังวลใจ “ขอเอ่ยตามตรงไม่ปิดบัง ข้าเปลี่ยนคนขับรถม้าข้างนอกเป็นคนของตนเองแล้ว เขาไว้ใจได้และจะไม่นำข่าวไปบอกเหยียแน่ เจ้ารีบไปหา… ไปหาเสียนหวางเถิด เขาจะช่วยเจ้าแน่นอน”
เอ่ยจบ เซิงเอ๋อร์ก็เคาะรถม้าและคนขับรถม้าที่อยู่นอกประตูก็หันกลับมาทันทียามได้ยินสัญญาณที่คุ้นเคย
“มู่เอ๋อร์ ไม่ต้องกลัวไป รถม้ากำลังมุ่งหน้าไปยังจวนเสียนหวาง เขาปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี ย่อมต้องช่วยเหลือเจ้าแน่ พวกเจ้าออกจากเมืองหลวงไป แม้ว่าเหยียต้องการจะตามหาก็คงจะหาไม่พบในเร็วๆ นี้ อีกทั้งมีเสียนหวางคอยคุ้มครองอยู่ เจ้าจะต้องปลอดภัยแน่ ส่วนครอบครัวของเจ้า…”
เซิงเอ๋อร์ครุ่นคิด นางกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ “แม้ว่าข้าจะเป็นเพียงชายารองแห่งจวนองค์ชายเจ็ด ทว่าข้าก็ยังมีอำนาจอยู่ ข้าจะส่งคนไปพาพ่อแม่และญาติของเจ้าไปยังที่ที่ปลอดภัยเพื่อหลบซ่อน สำหรับหลิงจือเซวียน เขาเป็นบุตรบุญธรรมของจวนหนิงกั๋วโหว และยังเป็นพระราชบุตรเขยอีกด้วย ข้าเชื่อว่าไม่ว่าเหยียจะโกรธมากแค่ไหน เขาก็จะไม่ทำอันใดหลิงจือเซวียนง่ายๆ มู่เอ๋อร์ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือความปลอดภัยของตัวเจ้าเอง ไม่ต้องห่วงคนอื่น รีบไปเถิด”
นางคิดไม่ถึงว่าพี่เซิงเอ๋อร์จะจัดการทั้งหมดนี้ให้นางในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้
หลิงมู่เอ๋อร์กอดนางแน่นด้วยความซาบซึ้งใจ “พี่เซิงเอ๋อร์ ขอบคุณมากเจ้าค่ะ!”
“น้องโง่ เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอันใด เจ้าเรียกข้าว่าพี่สาวหนึ่งครั้ง ข้าก็จะเป็นพี่สาวของเจ้าไปชั่วชีวิต มีเหตุผลใดที่พี่สาวจะปล่อยให้น้องสาวปกป้องตนอยู่ฝ่ายเดียวเล่า”
เมื่อเห็นว่ารถม้าหยุดลง เซิงเอ๋อร์รู้ว่าพวกเขากำลังจะต้องบอกลากันแล้ว “ข้านึกขึ้นได้ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะได้สนทนากันแล้ว ข้าขอเตือนเจ้า อันที่จริงตั้งแต่นั้นมาเจ้าก็สงสัยเหยียแล้วใช่หรือไม่? ใช่แล้ว เขาต้องการฆ่าเจ้าจริงๆ หลังจากที่ได้รู้ความลับของเจ้า ดังนั้น เจ้าต้องไป มู่เอ๋อร์ ข้าขอโทษ หากเหยียทำอันใดให้เจ้าต้องเจ็บปวด โปรดเห็นแก่ข้า อย่าได้คิดบัญชีกับเขาเลย เจ้าจงไปเถิด ยามนี้ถึงจวนเสียนหวางแล้ว เสียนหวางจะปกป้องเจ้าอย่างแน่นอน”
“แล้วเจ้าเล่า?”