เกิดใหม่ทั้งทีขอเป็นผู้ดูแลฟาร์มผู้มั่งคั่งบ้างได้ไหมคะ? - เล่มที่ 8 ตอนที่ 211 สมควร
เล่มที่ 8 ตอนที่ 211 สมควร
หลิงไฉ่เว่ยไม่ได้สนใจความปวดร้าวแสบร้อนบนใบหน้าอีกต่อไป นางมองไปยังหลังมือของตนที่ถูกเข็มทิ่มแทง นางสารเลวสมควรตายนี่ ฝีมือช่างคล่องแคล่วจริงๆ นางหลีกเลี่ยงบางจุดอย่างชาญฉลาด แม้ว่าเลือดจะไม่ไหลแม้แต่หยดเดียว แต่กลับเจ็บปวดเป็นที่สุด
“นางสาร… หลิงมู่เอ๋อร์ ข้าขอถามเจ้าหน่อย เหตุใดเจ้าถึงรู้เรื่องที่ข้าเคยตั้งท้อง อีกทั้งเด็กก็ตายในครรภ์ด้วย?” นางหอบหายใจหนัก คิดว่าหลังจากซั่งกวนเซ่าเฉินกลับมา นางจะรายงานเขาให้ดีแน่ “อย่าพูดเรื่องประเภทแค่มองดูก็รู้แล้ว ข้าไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นข้าจึงไม่เชื่อเรื่องไร้สาระของเจ้า”
“เรื่องชั่วที่เคยทำไว้ อย่างไรก็ต้องปรากฏขึ้นสักวัน” หลิงมู่เอ๋อร์เหยียดยิ้มเย็นเย้ยหยัน “หากเจ้าไม่พูดถึงเรื่องนี้ ข้าก็คงลืมไปแล้ว ในตอนนั้นเจ้าวางแผนที่จะใช้ลูกในท้องขู่จ้วงต้าหลินและบังคับให้เขาหย่าร้างกับหลิงหูเตี๋ย ข้าคงไม่ได้เดาผิดกระมัง? แต่กลายเป็นว่าเด็กในท้องของเจ้าหยุดเติบโตด้วยเหตุผลบางอย่าง ก่อนจะเสียชีวิตไปนานแล้วแต่เพื่อแผนของตนเอง เจ้าถึงไม่ได้กำจัดเขาทันทีที่ทราบ ทว่าผลสุดท้ายเล่า? เหตุใดเจ้าถึงได้ปรากฏตัวอยู่ข้างกายเซ่าเฉินได้?”
ดวงตาของหลิงมู่เอ๋อร์เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ จังหวะการพูดเองก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน “ข้าได้ข่าวมาแล้วว่าก่อนหน้านี้เจ้ามีชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ซึ่งหมายความว่าเจ้าได้จากจ้วงต้าหลินไปแล้ว? เช่นนั้นท่านย่าเล่า? เจ้าเป็นบุตรสาวคนโปรดของนางมาโดยตลอด เป็นไปไม่ได้ที่ยามเจ้าเกิดเรื่อง นางจะทิ้งเจ้าไม่สนใจเจ้า ดังนั้นแล้วเจ้าจงอธิบายให้ชัดเจนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!”
หลิงไฉ่เว่ยเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหากนางไม่บอกความจริงในวันนี้ นางจะไม่สามารถเดินออกจากกระโจมได้โดยไม่บุบสลาย
นางเสียใจในภายหลังแล้ว นางไม่ควรมาที่นี่คนเดียวจริงๆ ซั่งกวนเซ่าเฉินควรได้เห็นความเลวร้ายของสตรีคนนี้ด้วยตาของเขาเอง
“จ้วงต้าหลิน เขาเป็นคนทรยศ เป็นคนโง่สารเลว!” ยามที่เอ่ยถึงชายคนนั้น ความเจ็บปวดฉายชัดในแววตาของหลิงไฉ่เว่ย
มือบนโต๊ะกำหมัดแน่นอย่างคนโกรธจัด “ข้าคิดว่าหากข้าตั้งท้องลูกของเขา ข้าก็จะสามารถจับเขาเอาไว้ได้ แต่สุดท้ายเพื่อรักษาชื่อเสียงของตนเอง เขากลับประกาศออกมาว่าเมล็ดพันธุ์ชั่วร้ายในท้องของข้าไม่ใช่ลูกของมัน เขาไม่เพียงแต่แต่งงานกับหลิงหูเตี๋ยเท่านั้น แต่เขายังทำร้ายข้าทุกที่และกดขี่ข่มเหงข้าอีกด้วย!”
เมื่อนึกถึงอดีตที่เจ็บปวด หัวใจของหลิงไฉ่เว่ยราวกับถูกมีดกรีดแทง “เป็นเขา ข้ามารู้ทีหลังว่าเขาเป็นคนฆ่าเด็กในท้องของข้าด้วยตนเอง เพียงเพราะชื่อเสียงและการสอบคัดเลือกขุนนาง จ้วงต้าหลินเป็นคนเลวที่ฆ่าคน!”
หลิงไฉ่เว่ยยิ่งเอ่ยยิ่งสั่นสะเทือน สองมือของนางกำแน่นอยู่บนท้อง ตรงนั้นเคยมีเสียงหัวใจเต้นดังอยู่
“ข้าไม่รู้ว่าหลิงหูเตี๋ยใช้กลอุบายยั่วยวนเช่นไรที่ทำให้จ้วงต้าหลินหลงใหล พวกเราสองคนล้วนเป็นภรรยาที่เท่าเทียม แต่จ้วงต้าหลินกลับรั้งอยู่ในห้องของนางทุกวัน และข้าก็กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งหมู่บ้าน พวกเขายังรวมหัวกันฆ่าลูกข้า!”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของนางเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ราวกับว่าหลิงมู่เอ๋อร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้านางเป็นศัตรูของนางก็ไม่ปาน
“อันที่จริง ข้าไม่ได้เอาเด็กออกไปทันที ข้าแค่ต้องการใช้เขาเพื่อทำให้จ้วงต้าหลินเปลี่ยนใจ แต่จริงๆ แล้วหลิงหูเตี๋ยเองก็ตั้งท้องเด็กคนหนึ่งเช่นกัน อีกทั้งแม่เทพในหมู่บ้านก็บอกว่านางได้ลูกชาย จ้วงต้าหลินหลงนางมากขึ้นไปอีกจนแทบจะมอบสิ่งที่ดีทั้งหมดให้กับนาง ข้าจะปล่อยให้หลิงหูเตี๋ยขึ้นมาขี่บนหัวของข้าได้อย่างไร ไม่ว่านางจะจัดการกับข้าอย่างไร ข้าก็จะคืนให้เป็นทบทวี ทว่าน่าเสียดายที่ฝีมือของข้าไม่อาจฉลาดเทียบเท่านาง ข้าจงใจหาคนที่จะกำจัดลูกของนาง แต่จ้วงต้าหลินกลับรู้เข้า เขาขอหย่ากับข้าโดยอ้างว่าข้าต้องการฆ่าลูกชายของเขาทันที”
“หลิงมู่เอ๋อร์ เจ้าเข้าใจความรู้สึกนั้นหรือไม่? ไม่ เจ้าไม่มีทางเข้าใจ ในใจข้ามีแค่เขา ข้าเป็นของเขาเสมอ แม้กระทั่งยามที่เขาต้องการข้า ข้าก็ยังละทิ้งความอัปยศทั้งหมดเพื่อให้ทุกอย่างกับเขา แต่ผลสุดท้ายนะหรือ เขาก็ไม่สนใจความผูกพันที่เรามีมานาน ฆ่าลูกของข้าเพื่อนางผู้หญิงเลวนั่น อีกทั้งหย่ากับข้าด้วย” หลิงไฉ่เว่ยที่สั่นสะเทือนไปทั้งหัวใจปาดน้ำตาออกจากหางตาด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
เมื่อเห็นท่าทางเจ็บปวดของนาง แม้ว่าหลิงมู่เอ๋อร์จะไม่ได้เอ่ยอันใด ทว่าในใจของนางตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่านางจะรู้อยู่เสมอว่าจ้วงต้าหลินไม่ใช่คนดี และหลิงไฉ่เว่ยเองก็นับว่าได้รับผลกรรมตอบแทนจากการกระทำของตนเอง
“ท่านย่าเล่า? หากนางรู้ว่าเจ้าต้องทนรับความอัปยศเช่นนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะนั่งดูอยู่เฉยๆ” เมื่อนึกถึงหญิงชราผู้ชั่วร้ายคนนั้น หลังจากห่างกันไปสองปี แววตาของหลิงมู่เอ๋อร์ก็ยังคงแฝงไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
ท่านย่ารักและเอ็นดูหลิงไฉ่เว่ยมากที่สุด เพราะนางหน้าตางดงาม อีกทั้งยังเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว นางใช้เวลาครึ่งชีวิตของตนในการมอบความรักความเอ็นดูทั้งหมดให้กับลูกคนนี้ ทั้งๆ ที่เป็นหญิงสาวชาวบ้าน แต่นางกลับถูกเลี้ยงดูราวกับคุณหนูใหญ่ในเมือง
นางใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้หลิงไฉ่เว่ยได้แต่งงานกับครอบครัวที่ดี
จ้วงต้าหลินเป็นคนที่เรียนหนังสือเพียงคนเดียวในหมู่บ้านและเขาจะเข้ารับการสอบคัดเลือกขุนนางเพื่อเป็นข้าราชการระดับสูงในอนาคต ไม่ง่ายเลยที่ท่านย่าจะหาว่าที่สามีที่ดีของหลิงไฉ่เว่ยพบ แล้วนางจะได้รับอนุญาตให้หย่าร้างตามเหตุผลนั้นได้อย่างไร?
“ท่านแม่นะหรือ? ฮ่า ฮ่าๆๆ” หลิงไฉ่เว่ยเหยียดยิ้มเย็น “พวกเขาล้วนเป็นคนเลวเหมือนกันหมด ไม่มีใครเป็นคนดีสักคน!”
นางคำราม เสียงแหลมของนางเสียดผ่านทะลุท้องฟ้า “ยามที่รู้ว่าข้าถูกหย่า พวกเขามาร้องขอความยุติธรรม แต่ผลลัพธ์เจ้าลองเดาดูสิ? พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาทวงความยุติธรรมแทนข้า แต่กลับมาเพื่อขอเงินจ้วงต้าหลิน! ไม่น่าเชื่อว่าสตรีดีๆ คนหนึ่งถูกพวกเขาทำลายเพียงเพื่อให้ได้รับเงินค่าเสียหาย”
ถ้านางไม่เห็นทั้งหมดนี้ด้วยตาของนางเอง นางคงไม่มีวันเชื่อว่ามารดาที่รักนางที่สุดจะเป็นคนเช่นนี้
“แต่ครอบครัวของจ้วงต้าหลินเองก็มิได้กินผัก ยินยอมให้กลั่นแกล้ง หากลูกในท้องของเจ้ายังอยู่ พวกเขาอาจให้เงินเจ้าเพื่อให้เจ้าใช้ชีวิตที่เหลือต่อ แต่ลูกของเจ้าตายไปแล้ว อีกทั้งเจ้ายังเกือบจะฆ่าลูกของหลิงหูเตี๋ยอีก พวกเขาจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆ ได้อย่างไร?” หลิงมู่เอ๋อร์มองเห็นได้อย่างชัดเจนในฐานะคนนอก
“ไม่ผิด ฮูหยินผู้เฒ่าในครอบครัวใหญ่ของจ้วงต้าหลินด่าข้ากลับว่าเด็กนั่นเป็นลูกของข้ากับคนอื่น และถึงกับขอให้หัวหน้าหมู่บ้านมาช่วยทวงความยุติธรรมคืนให้พวกเขาด้วย ข้าถูกพวกเขาไล่ออกจากบ้านมือเปล่า อีกทั้งท่านแม่ เพื่อรักษาหน้าของตนเอง นางรู้สึกเสียหน้าจึงไม่สนใจว่าข้าจะเป็นหรือตาย ไล่ข้าออกมา!”
หลิงไฉ่เว่ยยิ้มอย่างขมขื่น “หลิงมู่เอ๋อร์เจ้ารู้หรือไม่… เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าอาศัยอยู่ที่ใดหลังจากที่ข้าถูกไล่ออกจากบ้าน”
แม้แต่ในความฝันนางก็ไม่อยากย้อนคืนกลับไปคิดถึงอดีตอันแสนเจ็บปวดนั่น
“ข้าอาศัยอยู่ในบ้านเก่าโทรมที่พวกเจ้าเคยอยู่! เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันหนาวแค่ไหน เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าไม่กล้านอนตอนฝนตกเพราะมีรูรั่วของน้ำอยู่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าฤดูร้อนมันสกปรกเพียงใด งูหนูแมลงมด ล้วนมีทุกอย่าง ข้ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ข้าวิ่งกลับบ้านด้วยเท้าเปล่าเพื่อไปหาท่านแม่ แต่กลับไม่มีใครเปิดประตูให้ข้า!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หากเป็นคนธรรมดา หลิงมู่เอ๋อร์จะต้องเห็นอกเห็นใจนางและต้องการล้างแค้นให้นางอย่างแน่นอน
แต่คนคนนี้คือหลิงไฉ่เว่ย ผู้ที่กลั่นแกล้งรังแกนางมานานหลายปี เป็นศัตรูที่ทำร้ายนางจนตาย
“สมควร!”
“เจ้า…” หลิงไฉ่เว่ยโมโหจนแทบจะอ้าปากกลืนนางเข้าไป “เจ้าช่างใจร้ายเหลือเกิน หลิงมู่เอ๋อร์ ทว่าเจ้าคงจะคิดไม่ถึง ว่ายามที่ข้าจนตรอกที่สุดในชีวิต ข้าจะพบกับซั่งกวนเซ่าเฉิน!”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางยกมุมปากขึ้นด้วยความลำพองใจ ราวกับว่าความทุกข์ใดๆ ที่นางได้รับก่อนหน้านี้นั้นไม่มีค่าอะไรเลย
“บางทีสวรรค์อาจจะสงสารข้า อาจเป็นเพราะข้าหิวมาสามวันสามคืนแล้ว ข้าจึงตั้งใจว่าจะออกไปหาอะไรกิน ข้านึกว่าคนในหมู่บ้านเดียวกันจะสงสารข้าสักนิด ทว่าสหายที่ดีที่ข้าเคยเล่นด้วยก่อนหน้านี้ กลับไม่มีผู้ใดคิดจะเปิดประตูให้ข้าเลยสักคน ไม่เป็นไร ข้าคิดจะไปตกปลาในแม่น้ำ ผลลัพธ์นะหรือ เจ้าลองเดาดูเป็นอย่างไร?”
ดวงตาของนางเป็นประกาย “มีบุรุษคนหนึ่งนอนอยู่ริมแม่น้ำ ข้าคิดว่าเขาตายแล้วจึงตั้งใจจะไปดูว่าเขามีเงินติดตัวอยู่หรือเปล่า ทว่าข้ากลับพบว่าเขาคือพี่ชายบุญธรรมของเจ้า!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลิงไฉ่เว่ยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง รอยยิ้มที่ชั่วร้ายและบิดเบี้ยวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง “พี่ชายบุญธรรมของเจ้าใจดีกับเจ้าถึงขนาดนั้น เขามักจะเอาเนื้อมาให้ครอบครัวเจ้ากิน หากข้าช่วยชีวิตเขาจนเขาฟื้นขึ้นมา เขาจะปฏิบัติกับข้าอย่างนั้นหรือไม่? ดังนั้นแล้วข้าจึงใช้กำลังทั้งหมดที่มีเพื่อพาเขากลับมาที่บ้าน ข้าแอบกลับบ้านเพื่อขโมยเงินของแม่ไปรักษาเขา ไม่มีใครรู้ว่ามีบุรุษคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ในบ้านของข้า แม้ว่ายามนั้นข้าจะไม่อาจรับประกันได้ว่าตนเองจะสามารถช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้หรือไม่ ทว่าสวรรค์ดูแลเขาจริงๆ วันที่ห้าเขาฟื้นตื่นขึ้น เดิมทีข้าอยากจะขายความน่าสงสารของตนเองแทบแย่ อย่างไรเสียข้าก็คือผู้มีพระคุณของเขา บางทีเขาอาจจะคิดว่าข้าน่าสงสาร ไม่สนใจอดีตของข้า บางทีเขาอาจจะปฏิบัติกับข้าอย่างดี ทว่าผลสุดท้ายเขากลับจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิด”
หลิงมู่เอ๋อร์ได้ฟังถึงตรงนี้ก็ลุกจากเก้าอี้ด้วยความโกรธ “เจ้าจึงฉวยโอกาสนี้บอกเขาว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่นะสิ โอกาสงามถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่ใช้ประโยชน์จากมันเล่า?” หลิงไฉ่เว่ยยอมรับอย่างใจกว้าง นางมองไปทางหลิงมู่เอ๋อร์ด้วยสายตาที่ชั่วร้าย “ทว่าเจ้าไม่มีทางรู้ว่าเราใช้ชีวิตแบบใดในสิบวันนั้น”
นางหลับตาราวกับว่าทุกอย่างปรากฏอยู่ตรงหน้านาง “วันทั้งวันพวกเราอยู่ด้วยกัน ยามที่เขาเหนื่อยข้าก็พักเป็นเพื่อนเขา ยามที่เขาหิว ข้าก็จะทำอาหารอร่อยๆ ให้เขา ยามที่เขาเอ่ยว่าหนาว ข้าก็เข้าไปกอดเขา แต่ว่าเขาเองก็เป็นบุรุษ…”
“พอแล้ว!”
หลิงมู่เอ๋อร์ขัดจังหวะสิ่งที่หลิงไฉ่เว่ยยังเอ่ยไม่ทันจบอย่างเย็นชา มือของนางบีบคอคนตรงหน้าแน่น “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเรื่องที่เจ้าแต่งขึ้นมามั่วซั่วหรือ?”
ดวงตาของนางฉายแววตื่นตระหนกวาบผ่าน แต่ก็กลับฟื้นคืนสติได้อย่างรวดเร็ว “อันใดที่เรียกว่ามั่วซั่ว ข้ารู้ว่าเจ้ามิอาจทนฟังต่อได้ ทว่ามันเป็นเรื่องจริง”
หลิงไฉ่เว่ยเงยหน้าขึ้นอย่างดื้อรั้น “ข้าเป็นคนของซั่งกวนเซ่าเฉินแล้ว ดังนั้นไม่ว่าในอนาคตเขาจะจำเจ้าได้หรือไม่ ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ หลิงมู่เอ๋อร์ อย่างไรเสีย เจ้าก็มีท่านอ๋องเคียงข้างอยู่แล้ว แล้วเหตุใดถึงไม่ยอมปล่อยพวกเราไปเสียที”
“ปล่อยเจ้าไปไหน ปล่อยเจ้าไปตายนะหรือ?” หลิงมู่เอ๋อร์เอ่ยไปพลาง เข็มเงินในมือของนางกำลังจะปล่อยออกไปอีกครั้ง หลิงไฉ่เว่ยตกใจจนรีบซ่อนกายหลบ
“เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าข้า ข้าเป็นผู้มีพระคุณของเขา เขาบอกว่าเขาจะปกป้องข้าไปตลอดชีวิต ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับข้า คิดว่าเขาจะปล่อยเจ้าไปหรือไม่?”
ไม่มีทางแน่นอน
เฉินเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความถูกต้องมากที่สุด ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาไม่ต้องการที่จะติดหนี้บุญคุณผู้ใด แม้ว่ามันจะเป็นความช่วยเหลือเล็กน้อย เขาก็จะหาทางตอบแทนแน่นอน
ในเมื่อยามนี้เขาจำตัวเองไม่ได้ หากนางลงมือกับหลิงไฉ่เว่ยจริงๆ เกรงว่าตนเองคงจะไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีนัก
แต่น่าเสียดายที่หลิงมู่เอ๋อร์ไม่เคยรู้ว่าคำว่ากลัวนั้นเขียนอย่างไร
หลิงมู่เอ๋อร์หยิบยาออกมาตรงเข้ายัดปากของนาง ทว่าคิดไม่ถึงว่าหลิงไฉ่เว่ยระวังเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว นางคว้าแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะด้านข้างสาดไปตรงหน้า ในขณะที่หลิงมู่เอ๋อร์หลบหลีก หญิงสาวก็วิ่งออกไปนอกกระโจมแล้ว
“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก หลิงมู่เอ๋อร์ เจ้ากล้าวางยาข้าจริงๆ รอจนเซ่าเฉินกลับมา ข้าจะไม่ยอมให้เขาปล่อยเจ้าไปแน่!”
หลิงไฉ่เว่ยกำลังจะพุ่งออกไป แต่จู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ “ข้านึกออกแล้ว มิน่าเล่า เหตุใดเจ้าถึงรู้ข่าวว่าข้าตั้งท้องและบุตรตายก่อนคลอด ที่แท้เจ้าก็คือหมอที่เปิดโรงหมอในเมืองวันนั้น!”
เมื่อนึกถึงท่านหมอที่แท้จริงแล้วคือสตรีปลอมกายเป็นบุรุษแต่กลับหล่อเหลางดงาม เมื่อคิดว่ายามนั้นนางมองเหม่อด้วยหลงใหลในความหล่อเหลาของเขา หลิงไฉ่เว่ยอยากจะตบหน้าตัวเองจริงๆ
วันนั้น มีโรงหมอมากมายนักในเมือง นางล้วนมิได้ไป ตนเองไปแค่โรงหมอที่เพิ่งเปิดใหม่และราคาถูก นางคิดไม่ถึงว่าจะเป็นการนำจุดอ่อนไปส่งถึงมือนางถึงที่
แม้ว่านางจะเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตของซั่งกวนเซ่าเฉินเอาไว้ และแม้ว่าเขาจะเคยบอกว่าไม่ได้รังเกียจที่นางเคยแต่งงาน แต่นางถึงกับมีลูกมาแล้วคนหนึ่ง
บ้านเก่ามือสอง ไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือมีคนตายในบ้านหลังนั้น
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะนาง หลิงมู่เอ๋อร์
“เป็นเพียงสตรีแต่กลับเรียนวิชาแพทย์ของบุรุษ ข้าว่านี่ต้องเป็นวิธีที่เจ้าเอาไว้ใช้ยั่วยวนผู้ชายแน่นอน หลิงมู่เอ๋อร์ คอยดูเถอะ ซั่งกวนเซ่าเฉินเป็นของข้า ในเมื่อเจ้าเสียเขาไปแล้วก็อย่าได้คิดฝันแย่งเขากลับไปได้อีกเลย”