ภายในโกดังสินค้าของบริษัทแม็กซิมัสในปัจจุบันมีทั้งเกวียน และสินค้ามากมาย แต่เมื่อเทียบกับขนาดของสถานที่แห่งนี้บวกกับคนงานน้อยนิด โกดังยามนี้จึงเงียบเชียบไร้ซึ่งผู้คน แม้ว่าจะมีคนแอบลอบเข้ามาก็ไม่ง่ายที่จะถูกพบเจอได้ ยกเว้นแต่ว่าคนคนนั้นจะถูกจับตาอยู่ก่อนแล้วนั่นเอง
คนสองคนกำลังนั่งคุกเข่ากับพื้น และใช้ฝ่ามือของพวกเขาสัมผัสกับศิลาปูพื้นอยู่ ด้วยแสงจากออร่าเวทมนตร์ที่เรืองรองออกมาแม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย แต่เมื่ออยู่ในความมืดไม่ว่าใครก็สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน
‘ไม่ใช่คนที่อยู่ในงานเลี้ยงงั้นเหรอ?’ เรญ่าที่แอบซุ่มดูจากด้านบนคานของโกดังได้พิจารณาทั้งสองคนที่กำลังร่ายเวทย์อยู่อย่างระมัดระวัง แม้ว่าจะสามารถจู่โจมฝ่ายตรงข้ามได้โดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว แต่การหาข้อมูลก่อนลงมือก็เป็นเรื่องที่รอบคอบมากกว่า
“ปัง!” เสียงประตูเล็กด้านข้างโกดังถูกผลักเปิดออกอย่างแรงจนไปกระแทกกำแพงเสียงดัง
นั่นทำให้คนร้ายทั้งสองที่กำลังดำเนินการบางอย่างนั้นไหวตัวทันที แต่การเคลื่อนไหวนั้นก็เป็นมืออาชีพมาก ทั้งสองคนไม่ได้รีบตีฝ่าหนีออกไป แต่กลับแยกย้ายกันไปซ่อนตัวตามซอกหลืบแทน
ในเวลาเดียวกันสามสาวจอมเวทย์แห่งซีเคร็ทการ์เด้น ก็พุ่งเข้ามาภายในโกดังอย่างรีบร้อน สายตาของพวกเธอสอดส่ายมองไปทั่วบริเวณเพื่อมองหาคนร้ายที่เดนิสได้ไปแจ้งข่าวก่อนหน้านี้ ส่วนที่หน้าประตูแอดเลอร์ที่ห้ามหญิงสาวทั้งสามไม่อยู่ก็รีบวิ่งตามมาทันที
“เดี๋ยวก่อนขอรับท่านทั้งสาม อย่าเพิ่งใจร้อนไป ได้โปรดรอท่านภามมาก่อนเถอะ เรื่องนี้เราจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบนะขอรับ” หัวหน้าหน่วยจู่โจมแห่งซีเคร็ทการ์เด้นรีบห้ามปรามทั้งสามคนอีกครั้ง เขาทั้งกลัวว่าสายลับที่เข้ามาจะหนีไปได้ หรือไม่ก็ทำร้ายพวกเธอจนบาดเจ็บสาหัส ด้วยความที่มีประสบการณ์เป็นหัวหน้าหน่วยในกองทัพ เขาจึงไม่คิดประมาทเด็ดขาด
“ไม่ได้ ความลับของพวกเราเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจให้คนนอกรู้เรื่องนี้ได้ แอดเลอร์รีบปิดทางเข้าออกทุกทางเร็วเข้า พวกข้าจะหาตัวมันเอง” จอมเวทย์หญิงอดีตหัวหน้าหน่วยเทพอัคคีรีบสั่งการทันที เมื่อบีดีเลียได้มีโอกาสออกมาอยู่ในแนวหน้าอีกครั้ง ก็ไม่อยากให้งานที่ตัวเองรับผิดชอบต้องผิดพลาด
“คุณชายเดนิสกำลังเข้ามาปิดล้อมที่นี่ขอรับ พวกเรามีหน้าที่คุมสถานการณ์ไปก่อน แต่ไม่ว่าอย่างไรท่านภามก็ได้ย้ำมาแล้วว่าไม่ให้ทำอะไรโดยพลการ ท่านหญิงโปรดใจเย็นด้วยเถอะ” อดีตทหารวัยกลางคนพยายามห้ามปรามเหล่าหญิงสาวใจร้อนด้วยความยากลำบาก
อีกด้านหนึ่ง ด้านหลังกองลังไม้บรรจุสินค้า หนึ่งในสายลับผู้ลักลอบเข้ามายังโกดังแห่งนี้ เธอคือหญิงสาวในเสื้อเชิ้ตขาว และสวมกางเกงหนังขายาวสีดำรัดรูป ด้วยเส้นผมสีน้ำเงิน และดวงตาสีน้ำเงินเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกได้เลยว่าเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดา
เมื่อการปรากฏตัวของคนจากภายนอกเธอสามารถรับรู้ และเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ความเป็นมืออาชีพเช่นนี้ย่อมเกิดจากทักษะที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่เธอนั้นยังคงไม่รู้ว่าต้องมาพบเจอกับกลุ่มคนที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะแม้จะซ่อนตัวอย่างดีเพียงใดก็ไม่อาจรอดพ้นการตรวจจับไปได้
“กี้!กี้!” เสียงแหลมเล็กดังขึ้นเหนือศีรษะของหญิงสาว แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ตัวของเธอถูกแรงมหาศาลบีบรัดพันธนาการไว้ทั้งตัวเสียแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นต้นตอของเสียงนั้นเลยด้วยซ้ำ
“ไม่นะ!” หญิงสาวผมสีน้ำเงินร้องอุทานตกใจ แม้ว่าจะฝึกฝนมาดีแค่ไหนแต่เมื่อเจอเรื่องที่เหนือความคาดหมาย และเกินความสามารถในการเอาตัวรอดของตน หญิงสาวก็ไม่อาดเก็บอารมณ์ไว้ได้
“อ้าก! ไม่นะ ม่าย!” จู่ๆเสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมาจากอีกมุมของโกดังอย่างทรมาน ไม่มีใครทราบได้ว่าเขาถูกเล่นงานได้อย่างไร แต่เมื่อฟังจากเสียงก็รู้ได้เลยว่าเขาคงจะทรมานน่าดู ซึ่งทุกคนก็สามารถคาดเดาได้ว่าชายคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในผู้ที่ลักลอบเข้ามานั่นเอง
หลังจากนั้นไม่นานแขกมากมายที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองในวันนี้ ก็วิ่งตามหลังเจ้าภาพเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นจากเสียงร้องด้านในโกดัง ซึ่งปรากฏเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งนอนสลบอยู่ ท่ามกลางวงล้อมของคนงานบริษัทแม็กซิมัสเท่านั้น สามนักเวทย์สาว และแอดเลอร์ต่างก็ไม่อยู่ในที่แห่งนี้แล้ว
“ท่านภาม นี่มันเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ? คนคนนี้คือ?” เนลล่า หญิงสาวจากตระกูลอินดิโก้ที่อยู่ด้านข้างกล่าวถามชายหนุ่มเจ้าของโกดัง เธอเป็นหนึ่งในแขกไม่กี่คนที่ไม่ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรโลเลี่ยน จึงไม่อาจคาดเดาเรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นได้เลย
“ไม่มีอะไรหรอกขอรับคุณหนู ชายคนนี้คงจะเป็นโจรเข้ามาลักขโมยของเท่านั้นแหละ เดี๋ยวอย่างไรข้าขอตัวสอบสวนชายคนนี้ก่อนที่จะมอบให้กับเจ้าหน้าที่ก็แล้วกัน เชิญคุณหนูเนลล่าตามสบายเลยนะขอรับ ข้าต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วย” ภามเชิญให้เหล่าแขกเหรื่อในงานออกไปจากโกดังก่อน
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ หากมีโอกาสข้าก็อยากจะทำความรู้จักกับท่านภามให้มากกว่านี้นะเจ้าคะ” กล่าวจบเนลล่าก็จากไปด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ในใจของเธอมีความรู้สึกชื่นชมชายหนุ่มอย่างบอกไม่ถูก แต่สำหรับคนมากมายรอบข้างที่ได้ยินคำพูดของเธอก็เข้าใจในความหมายนั้นชัดเจนเลยทีเดียว นั่นก็คือเธอต้องการสานสัมพันธ์กับชายหนุ่มแน่นอน
นอกจากคนของภามแล้วยังเหลือกลุ่มพันธมิตรโลเลี่ยนอีกบางส่วน พวกเขาคิดเห็นตรงกันว่าสายลับที่นอนสลบอยู่ตรงหน้านี้น่าจะมีจุดประสงค์ เพื่อมาสืบข้อมูลของผลึกเวทมนตร์ก้อนยักษ์นั้นไม่ผิดเพี้ยน แต่ในเมื่อที่นี่เป็นโกดังของภามพวกเขาจึงต้องถามความเห็นของชายหนุ่มก่อน
แต่เนื่องจากในตอนนี้เจ้าของบริษัทมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ ซึ่งไม่สามารถบอกกับคนอื่นได้ เขาจึงอนุญาตให้สมาชิกของกลุ่มโลเลี่ยนทำการสอบสวนเองได้ตามสบาย ส่วนภามนั้นขอตัวกลับไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อจัดการเรื่องราวบางอย่างก่อน
เมื่อภามได้นั่งเงียบๆในห้องทำงานของตน เขาก็มีสมาธิเพียงพอที่จะเรียบเรียงข้อมูลต่างๆให้เป็นระเบียบเป็นขั้นเป็นตอน โดยอย่างแรกก็คือการติดต่อโทรจิตไปหาเจ้ามังกรน้อยแพนดั้น
‘แพนดั้น ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหนแล้ว?’
‘ป่าทางใต้ของฟลอริสตี้ขอรับ ผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดา นอกจากความสามารถด้านเวทยมนตร์ของนางแล้ว อุปกรณ์เวทย์ที่นางมีอยู่ร้ายกาจถึงกับคลายพันธนาการของข้าได้ แถมยังช่วยให้นางหนีได้เร็ว และซ่อนพลังจากการตรวจจับของข้าได้อีก ท่านภามคิดว่านางเป็นใครขอรับ?’ แพนดั้นตอบกลับมายาวเหยียด และยังถามคำถามกลับด้วย
‘เอิ่ม…ข้าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน คิดว่าต้องใช้เวลาสอบสวนคนที่มากับนางด้วยสักพัก ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่ก็คงจะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เราพอจะรู้แล้วว่าจอมเวทย์หญิงที่มีไอเทมเวทย์ที่ไม่ธรรมดาต้องการสืบหาผลึกเวทย์ แพนดั้นเจ้ายิ่งต้องไม่ปล่อยให้นางคลาดสายตานะรู้ไหม’ แม้ว่าจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวของผู้ร้ายเลย แต่อย่างน้อยก็พอจะได้เบาะแสบางอย่างมาบ้าง ภามจึงต้องย้ำเตือนความสำคัญของภารกิจนี้
‘รับทราบขอรับ แต่ว่าสี่สาวที่ตามข้ามาพร้อมกับตาลุงหนึ่งคนนั้นข้าว่าท่านเรียกพวกนางกลับเถอะ ความเร็วแค่นั้นไม่มีทางตามทันแน่นอน’ มังกรน้อยอดไม่ได้ที่จะสงสารผู้ที่มีความสามารถ แต่ไม่มากพอเหล่านั้น
‘แหะๆ ขอบใจที่บอก ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะตามไปจนมืดค่ำนั่นแหละ’ ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกลำบากใจอยู่บ้างที่ต้องเรียกสาวๆกลับมาทั้งที่พวกนางอุตส่าห์มีความตั้งใจที่จะทำงานเสียอย่างนั้น แต่ในเมื่อการติดตามเป้าหมายครั้งนี้มันเกินความสามารถ ถ้ายังฝืนเกินไปอาจจะเสียเวลาไปเปล่าๆ
MANGA DISCUSSION