แม้พวกนักฆ่าจะไม่เล่าอะไรออกมาสักคำ หลังจากเค้นคอทรมานไม่ว่าวิธีใดก็ตามแต่ ภามก็จัดแจงฝังร่างไร้วิญญาณของทั้งสองไว้อย่างดีในป่าแห่งนั้น แล้วก็ใช้เวลาอีกชั่วโมงหนึ่งเพื่อรักษาบาดแผลของเรญ่า ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ภามต้องพิถีพิถันในการถอนหนามแต่ละเล่มออกจากตัวของเธอ
แน่นอนว่าหนามที่แตกกระจายไร้เป้าหมายเหล่านั้นล้วนทิ่มแทงไม่เลือกที่ ภามจึงจำเป็นต้องสัมผัสไปเกือบทั่วร่างกายของหญิงสาวผู้อ่อนแรง แม้ว่าจะเขินอายเพียงใดชายหนุ่มก็ไม่แสดงออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย ผิดกับเรญ่าที่ทั้งเจ็บทั้งอายอยู่เป็นชั่วโมง กว่าการรักษาจะเสร็จสิ้น
ซึ่งเรื่องราวการรักษาเรญ่านี้ ภามไม่ได้เล่ารายละเอียดออกมาให้ชายสองคนที่อยู่หน้าบาร์เหล้าแห่งนี้ฟังอย่างแน่นอน
“ท่านภาม แล้วอย่างนี้เราก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยสิขอรับ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นคนส่งนักฆ่าพวกนี้มา” ทีโอเรียที่ฟังอย่างตั้งใจมาตลอดกล่าวถามขึ้น
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ที่จริงการเดินทางมาเมืองฟลอริสตี้ครั้งนี้ไม่ได้มาเพียงแค่ข้ากับเรญ่า ยังมีแพนดั้นที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดอีกด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะได้เจอหรอกนะ เจ้านั่นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาข้อมูล นักฆ่าอีกคนที่เราจับไว้ตอนนี้สารภาพความจริงมาหมดแล้ว” ภามอธิบายออกมาอย่างภาคภูมิใจที่เจ้ามังกรน้อยทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนทั้งทีเรียน และทีโอเรียก็ตื่นเต้นด้วยเช่นกันที่ภามมีผู้ช่วยที่ร้ายกาจอยู่อีกคน
แต่ในส่วนของหญิงสาวผมดำด้านข้างภามกลับรู้สึกขนลุก และหน้าซีดขึ้นมาเล็กน้อย แน่นอนว่าเป็นเพราะเจ้านายของเธอพูดชื่อของมังกรมายาแสนร้ายกาจ ที่เข้าไปปั่นป่วนสมองของเธอจนต้องยอมแพ้มาแล้วนั่นเอง
“ท่านเรญ่าเป็นอะไรไปหรือขอรับ?” บาร์เทนเดอร์หนวดโค้งกล่าวถามขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าที่ออกอาการไม่สู้ดีนั้น
“เปล่า! ข้าไม่เป็นอะไร แค่อ่อนเพลียนิดหน่อยเท่านั้น” หญิงสาวรีบปฏิเสธความมีพิรุธทันที
ภามที่เห็นท่าทางแปลกๆของผู้ช่วยสาว ก็เข้าใจไปว่าเธอยังไม่หายเจ็บดีแม้ว่าเวทย์รักษาของเขา จะทำให้บาดแผลภายนอกหายไปแล้วโดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น แต่บาดแผลลึกด้านในอาจหลงเหลืออยู่บ้างเพราะชายหนุ่มไม่เชี่ยวชาญด้านนี้มากพอ
“เดี๋ยวข้าจะพาเจ้ากลับไปพักผ่อนดีกว่า ธุระที่นี่ก็เสร็จแล้วด้วย” ภามตัดสินใจลุกขึ้นทันที ไม่เช่นนั้นหญิงสาวคงไม่ยอมขยับเพราะเกรงใจเขาเป็นแน่
“เอ้อ! ท่านภามขอรับข้ามีอีกเรื่องจะถาม เผื่อจะได้ไปประกาศหาลูกค้า” จู่ๆที่เรียนก็เรียกชายหนุ่มที่กำลังจะจากไป
“ว่าไงล่ะ?”
“สินค้าที่บริษัทแม็กซิมัสรับขนส่งมีอะไรบ้างหรือขอรับ?”
“เรื่องนี้เองเหรอ ก็เป็นสินค้าทุกชนิดตั้งแต่วัตถุดิบทางการเกษตร อาหารสำเร็จรูปหรือสิ่งของทุกชนิดนั่นล่ะ และหากกิจการเป็นไปด้วยดีเราก็จะเพิ่มการขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองไปด้วย ตอนนี้มีเพียงที่นี่กับฮาเวสตี้เท่านั้น เพราะฟาร์มของข้าอยู่ที่นั่น ถึงไม่มีใครจ้างแต่เราก็มีผลผลิตของตัวเองอยู่แล้ว” ภามอธิบายออกมาอย่างชัดเจน
“อย่างนี้ก็ถือว่าดีนะขอรับ สินค้าหลากหลายก็มีโอกาสหาลูกค้าได้มากขึ้น” ทีเรียนเห็นด้วยกับนโยบายนี้
“อ้อใช่ อีกเรื่องหนึ่งบริษัทแม็กซิมัสนี้เป็นเพียงกิจการย่อยของเราเท่านั้น อย่างไรงานหลักของพวกเราก็คือการทำฟาร์ม ข้าขอต้อนรับพวกเจ้าทั้งสองอย่างเป็นทางการสู่ ซีเคร็ตการ์เด้น ฟาร์มลึกลับแห่งเทือกเขาแม็กซิมัส” กล่าวจบเจ้าของฟาร์มก็พยุงตัวของหญิงสาวข้างกายเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม
20.00 น. ณ ฟาร์มกลางหุบเขาลึกลับ
ในห้องพักของบีดีเลียบนอาคารที่พักพนักงาน บุตรีแห่งเจ้าเมืองฮาเวสตี้กำลังเช็ดตัวให้กับญาติผู้พี่ของเธอ หรือก็คือท่านชายเดอริก เฟลมเมียนั่นเอง ภายใต้แสงโคมไฟหัวเตียงส่องสว่างพอให้เห็นว่าตอนนี้ชายหนุ่มผู้บาดเจ็บหนักกำลังตัวร้อนไข้ขึ้น
“แม้ว่าบาดแผลจะถูกรักษาไปหมดแล้ว แต่พวกเราที่นี่ไม่มีใครเป็นจอมเวทย์รักษาเฉพาะทางเลย บาดแผลภายในจึงยังไม่อาจฟื้นตัวทั้งหมด บวกกับที่เสียเลือดไปมาก เขาจึงเป็นไข้ตัวร้อนขึ้นมาอย่างที่เห็นนี่แหละ โชคดีที่ได้ยาที่มีอาปรุงขึ้นมาจึงทำให้อาการไม่หนักหนาอะไร” วานีลหญิงสาวผมแดงผู้งดงาม กล่าวอธิบายให้กับหญิงสาวผมดำที่กำลังเช็ดตัวคนไข้อยู่
“ที่เขาต้องเป็นอย่างนี้ก็เพราะข้า เขายังอยู่ที่ฮาเวสตี้ก็เพื่อตามหา และปกป้องข้า ชีวิตทหารของตระกูลเฟลมเมียก็สูญเสียไปมากมายเพราะข้า ข้าที่เป็นพี่น้องกับเขาไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย ข้ามันไม่ได้เรื่องจริงๆ” จู่ๆหญิงสาวผมดำก็ตัดพ้ออย่างโศกเศร้า และกล่าวโทษตัวเอง พร้อมกับร่างที่ทรุดลงไปกับพื้น
“หักห้ามใจเสียบ้างเถอะบีดีเลีย ทหารแห่งเฟลมเมียต่อสู้เพื่อความถูกต้อง การสละชีวิตของพวกเขาล้วนเป็นที่น่าจดจำ ความรู้สึกของข้าในตอนนี้ก็อึดอัดไม่ต่างจากเจ้า อย่าลืมสิว่าเดอริกก็เป็นญาติของข้าเช่นกัน ครอบครัวข้าก็ถูกพวกมันกลั่นแกล้งไม่ต่างกัน เจ้าต้องอย่ายอมแพ้แล้วลุกขึ้นสู้” วานีลเข้าไปประคองร่างของบีดีเลียให้ลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง
ภายใต้แสงไฟสลัว และเสียงสะอื้นไห้ อันเป็นบรรยากาศที่แสนสลดหดหู่ใจ มือของชายหนุ่มผู้นอนบาดเจ็บไม่ได้สติก็กระตุกขึ้นมาครั้งหนึ่ง แม้ทั้งสองสาวจะไม่ได้สังเกตเห็น แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าอาการป่วยของเดอริกเริ่มดีขึ้นแล้วนั่นเอง
ไม่ไกลไปจากที่พักพนักงานของฟาร์มเท่าไร นั่นก็คือบริเวณทุ่งหญ้ากว้างซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยบ้าน ที่ยังสร้างไม่เสร็จหลายหลัง ด้านข้างของพื้นที่นั้นมีบ้านพักชั่วคราวของคนงานตั้งอยู่ ด้านนอกมีไฟกองใหญ่ถูกก่อขึ้น และผู้คนมากมายนั่งรายล้อมกินดื่มกันอยู่อย่างผ่อนคลาย
แต่ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่หญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งยืนเด่นเป็นประธานของที่ชุมนุมในคืนนี้ มีอาตั้งใจมาหาเหล่ากองทหารใหม่ในวันนี้ ก็เพื่อแจกของใช้ที่จำเป็น พร้อมกับรับฟังปัญหาต่างๆที่พวกเขาพบในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นในการทำภารกิจ และเรื่องความเป็นอยู่ในฟาร์ม
สำหรับหญิงสาวผู้ชาญฉลาดที่เกิดในตระกูลการค้าใหญ่โต ความสามารถในการสื่อสาร และทำความเข้าใจผู้คนนั้นเป็นสิ่งที่เธอถนัด แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายเช่นนี้ก็ตาม
“ท่านมีอาขอรับ ข้าสามารถดื่มไวน์แดงที่ท่านบ่มเองทุกวันเลยได้หรือไม่ รสชาติของมันช่างล้ำเลิศยิ่งนัก เกิดมาข้าไม่เคยดื่มไวน์ที่วิเศษถึงเพียงนี้เลยขอรับ” ชายวัยกลางคนที่ตอนนี้หน้าแดง เพราะความเมามายตะโกนขึ้นเสียงดัง
“ไอ้นี่! ท่านภามเลี้ยงอาหารเจ้าอย่างดีสามมื้อยังไม่พอใจ แล้วยังอยากจะดื่มไวน์ฟรีอีกรึ เดี๋ยวข้าต้องสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว!” เบ็นพลโล่ผมสีม่วงตะโกนด่าเพื่อน ที่เขาเพิ่งชวนมาเข้าร่วมใหม่วันนี้
“โธ่ๆ ไหนๆท่านภามก็ร่ำรวย เรื่องแค่นี้หาใช่เรื่องใหญ่ อย่างไรข้าก็ไม่เกี่ยงงานหนักอยู่แล้ว ไม่ว่าจะในฟาร์ม หรือในสนามรบ ขอแค่ได้ดื่มไวน์ทุกวันก็พอ” ชายขี้เมาตะโกนเถียงกับเพื่อนเสียงดัง
“เอาล่ะทุกคน หยุดก่อน! แล้วฟังข้า” มีอาตะโกนเสียงดังหยุดคนที่กำลังถกเถียงกันวุ่นวายตรงหน้า
สายตาของหญิงสาวกวาดมองโดยรอบเพื่อให้ทุกคนเงียบ และตั้งใจฟังตนเองสักครู่ เมื่อทุกคนให้ความสนใจกับเธอแล้ว จึงเริ่มตอบคำถามที่ขี้เหล้าคนนั้นกล่าวถาม
“แม้ว่าอาหารของฟาร์มจะเลี้ยงให้กับทุกคน แต่สำหรับสุราทุกประเภทจะเลี้ยงเฉพาะวันที่มีงานเลี้ยงเท่านั้น แต่ถ้าหากใครอยากซื้อจากข้าก็สามารถทำได้ เพียงสิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนไม่ใช่เงิน ข้าต้องการแต้มผลงานเท่านั้น ตามที่ได้ชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ผู้ที่ทำงานก็จะได้แต้มไปด้วยนั่นแหละ” มีอาอธิบายเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนสินค้าพิเศษนี้อย่างชัดเจน ซึ่งทุกคนก็เข้าใจได้ในทันที
“สุดยอดไปเลยขอรับ! ข้าจะไม่ขี้เกียจเด็ดขาด ให้บุกน้ำลุยไฟยากเย็นแค่ไหนข้าก็จะทำ เพื่อแต้มซื้อไวน์ของข้า ฮ่าๆๆ” ชายขี้เหล้าตะโกนยินดีเสียงดังกลางที่ชุมนุม แต่ก็ไม่มีใครถือสาเขา แถมยังหัวเราะชอบใจกับท่าทางที่มีความสุขนั้น
มีอาหันหลังแล้วก็ถอนหายใจ
“เฮ้อ! เมื่อไรท่านภามจะกลับมานะ ข้าคิดถึงท่านแล้ว” มีอาบ่นออกมาเบาๆ
MANGA DISCUSSION