กลุ่มคนสวมผ้าคลุมมีฮู้ดสีดำเกือบสามสิบคน ค่อยๆเดินโอบล้อมกองอัศวินแห่งตระกูลกลาเซียเข้ามาเรื่อยๆ แต่ละคนสวมหน้ากากประหลาดที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็เป็นหน้ากากรูปสัตว์ บางคนก็เป็นหน้าปีศาจ บางคนก็สวมหน้ากากที่มีลวดลายประหลาด
“คุ้มกันท่านชาย!” หัวหน้าอัศวินออกคำสั่งกับลูกน้อง ซึ่งการเคลื่อนไหวของพวกเขาต่างจากเดิมเล็กน้อย จากเดิมที่รุมล้อมเดอริกเอาไว้ก็เพียงหันหลังกลับไปตั้งท่าเตรียมต่อสู้กับกลุ่มคนปริศนารอบด้านพร้อมกับขยายวงให้ใหญ่ขึ้นเพื่อล้อมรอบเจ้านายของตน
ท่านชายผมขาวเมื่อได้เห็นกลุ่มคนตรงหน้าก็รับรู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้ต้องไม่ธรรมดา เพราะอย่างน้อยศรอัคคีเมื่อครู่ก็เป็นการโจมตีที่แม่นยำมาก ต้องอาศัยความสามารถของผู้ร่ายในการควบคุมทิศทาง ซึ่งคนที่จะทำอย่างนี้ได้ย่อมไม่ใช่จอมเวทย์ทั่วไป
‘จอมเวทย์หญิงคนนี้ฝีมือน่าจะพอๆกับข้า ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเก่งเช่นนี้หรือไม่ แม้ว่าคนของเราจะเยอะกว่าก็จริง แต่ข้าก็ไม่อาจคาดเดาแผนการของคนลึกลับเหล่านี้ได้ อืม หรือว่าควรลองเจรจาดูก่อน’
หลังจากตัดสินใจได้แล้วเดเมียนก็หันไปจ้องมองจอมเวทย์หญิงผู้สวมหน้ากากมังกรแดง เพื่อกล่าวบางอย่าง
“ข้าเดเมียน กลาเซีย ทายาทอันดับหนึ่งแห่งตระกูลกลาเซีย พวกเจ้าขัดขวางการจับกุมคนร้ายของข้า มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?” บุตรแห่งดยุคกลาเซียกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงหนักแน่น และแววตาที่จริงจัง คำพูดของเขาไม่ได้แสดงความคุกคามมากมายอะไร สำหรับผู้ฟังโดยทั่วไปแล้วคงจะรู้สึกได้ว่านี่คือคำกล่าวที่จริงจังไร้ซึ่งคำลวงใดๆ
แต่สำหรับกลุ่มคนลึกลับพวกเขากลับรู้สึกว่าผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า ช่างโกหกได้แนบเนียนใบหน้า และแววตาที่ไม่เผยพิรุธแม้แต่น้อยช่างเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างแท้จริง แม้จะรู้อยู่แก่ใจตนก็ไม่แสดงออกมาอย่างกับว่าไม่รู้สึกผิดในการกระทำอันชั่วช้าสักนิดเดียว
ใบหน้าภายใต้หน้ากากมังกรแดงนั้นบิดเบี้ยวไปด้วยความเกลียดชัง และโกรธแค้น แต่เธอก็พยายามควบคุมสงบสติอารมณ์เอาไว้ก่อน เพราะเธอไม่อยากปะทะกับศัตรูที่มีจำนวนมากกว่า ที่มานี่ก็มีจุดประสงค์เพื่อช่วยคนเท่านั้น
“ท่านชายกลาเซีย พวกเรามาที่นี่มีความต้องการเพียงอย่างเดียว คือพาท่านชายเฟลมเมียจากไป ไม่ว่าท่านจะต้องการจับกุมเขา หรือฆ่าเขา พวกเราก็ไม่อาจยอมรับได้ หากท่านต้องการสูญเสียพวกเราก็พร้อมสู้เช่นกัน” เสียงสตรีที่ก้อง และทุ้ม ฟังดูก็รู้ว่านั่นไม่ใช่เสียงแท้จริงของเธอ มันถูกแปลงออกมาด้วยอุปกรณ์บางอย่าง แต่คำที่กล่าวออกมาของเธอก็บ่งบอกเป้าหมาย และการตัดสินใจอันแน่วแน่ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
เมื่อได้ฟังความต้องการของฝ่ายตรงข้ามแล้ว เดเมียนก็ขมวดคิ้วทันทีด้วยความขัดใจ เขาเป็นคนรอบคอบ และสุขุมเยือกเย็น แต่เมื่อเรื่องราวไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจก็ไม่อาจห้ามอาการที่แสดงออกมาได้ เขาไม่อยากจะต่อสู้ในสถานการณ์ที่ไม่รู้อะไรเลยเช่นนี้ จึงทำได้แต่หาข้อมูลเพิ่ม
“พวกเจ้าเป็นใคร และต้องการช่วยเหลือคนผู้นี้ไปเพื่ออะไรกัน? การกระทำของพวกเจ้ามันเท่ากับผิดกฎหมาย ถ้าพวกเจ้ายอมถอยข้าจะไม่เอาความ” ท่านชายสูงศักดิ์ยังคงกล่าวเหมือนกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง
“หึ! พวกเราซีเคร็ตการ์เด้น(Secret Garden) มีเป้าหมายช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ และเดือดร้อนเท่านั้น กองทัพตระกูลเฟลมเมียถูกล่าสังหารโดยกองทัพตระกูลกลาเซีย ทั้งที่ไม่ได้มีพระราชโองการ นี่ก็ชัดเจนว่าคนที่ผิดกฎการทำสงครามระหว่างตระกูลขุนนาง คือท่านนะท่านชายกลาเซีย อีกอย่างท่านบอกว่าท่านชายเฟลมเมียเป็นคนผิดต้องถูกจับกุม แต่การโจมตีเมื่อครู่คือการจงใจสังหารเขาชัดๆ” จอมเวทย์มังกรแดงกล่าวออกมาตามจริงด้วยความมั่นใจ
“นี่พวกเจ้า! กล้าให้ร้ายตระกูลกลาเซียเชียวรึ! อย่างไรข้าก็ยังยืนยันคำเดิมว่าภารกิจของข้านั้นทำบนความถูกต้องชอบธรรม หาได้มาใส่หน้ากากปกปิดตัวตนเช่นพวกเจ้า!” เดเมียนเถียงกลับด้วยท่าทางที่ไม่ยินยอมเหมือนกับว่าตนถูกกล่าวหา
“ฮ่าๆๆ ปิดบังตัวตนงั้นรึ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตัวเจ้าต้องการอวดอ้างอำนาจตระกูลจึงต้องเปิดเผยใบหน้าหรอกรึ? แต่ดูทหารของเจ้าสิ ล้วนสวมหมวกเหล็กเป็นหน้ากากกันมิดชิดทั้งนั้น ไม่รู้ว่าภายใต้ชุดเกราะนั้นเป็นยอดอัศวินหรือโจรถ่อยกันแน่!” หญิงสาวตอบกลับด้วยคำพูดที่ดูหมิ่นเหยียดหยามฝ่ายตรงข้ามอย่างมาก
“มันจะมากเกินไปแล้ว! พวกเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ตระกูลกลาเซียของข้าเป็นผู้กล้าแห่งสนามรบ ปกป้องจักรวรรดิกาลอเรียด้วยใจอันมุ่งมั่น ต่อสู้ศัตรูร้ายอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค กิตติศัพท์อันเกรียงไกรของตระกูลใหญ่แห่งแดนเหนือมีใครบ้างไม่รู้จัก!” เดเมียนประกาศกล้าถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลออกมาเสียยืดยาว ผิดวิสัยของคนพูดน้อยอย่างที่เขาเป็น
ซึ่งความผิดปกตินี้ก็มีคนในกลุ่มผ้าคลุมดำสังเกตเห็น จึงรีบหยิบบัตรประจำตัวซึ่งเป็นไอเทมเวทมนตร์สำหรับติดต่อสื่อสารขึ้นมาถือไว้ แล้วส่งโทรจิตบอกถึงพิรุธของศัตรูให้จอมเวทย์มังกรแดงได้รับรู้ทันที
‘บีดีเลีย เดเมียนต้องการถ่วงเวลาให้อาการของเดอริกแย่ลง ส่วนที่มันยังไม่โจมตีเข้ามาคงเพราะไม่รู้ว่าฝ่ายเรามีกำลังมากน้อยแค่ไหน ถึงเลือกวิธีนี้แทน เราต้องรีบชิงตัวเดอริกมาให้เร็วที่สุด ยิ่งตอนนี้พวกมันไม่มีข้อมูลของเรา เราจึงได้เปรียบที่จะลงมือทันที’ จอมเวทย์หญิงชราภายใต้หน้ากากเรียบๆสีแดงที่ยืนอยู่ด้านหลังกล่าวขึ้น
‘ว่าไงนะ! อย่างนั้นข้าจะรีบสั่งการทันทีเจ้าค่ะ’ บีดีเลียตอบกลับเลนก้าด้วยความร้อนใจ แต่หญิงสาวก็พยายามสงบนิ่งเอาไว้
แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะโต้วาทีกลับใส่ฝ่ายตรงข้าม เพราะในมือของบุตรีแห่งบารอนได้ถือการ์ดประจำตัวไว้ตลอดพร้อมสื่อสารกับทีมงานทุกเมื่อ
‘แอดเลอร์เล็งยิงอัศวินที่ล้อมท่านชายเฟลมเมียอยู่ทั้งหมด ไซเลอร์ยิงที่หัวหน้าศัตรู อย่าให้เข้าใกล้ท่านชายเฟลมเมียได้ เบ็นพาคนเข้าปะทะทหารที่ปกป้องหัวหน้าศัตรูทันที วานีลกับเดนิสไปพาเดอริกออกมา!’ อดีตหัวหน้าหน่วยเทพอัคคี ในวันนี้เธอได้รับหน้าที่บัญชาการรบอีกครั้งในนามของกองทัพซีเคร็ตการ์เด้น
การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของกลุ่มผู้สวมหน้ากาก ทำให้กองทัพกลาเซียชะงักไปเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ไม่ได้แตกตื่น เพียงประจำตำแหน่งของตัวเอง และยกดาบขึ้นมาปัดป้องลูกธนูแม้ว่าจะปัดได้บ้างไม่ได้บ้างก็ตาม
ส่วนอัศวินที่คุ้มครองเดเมียนนั้นมีโล่อยู่กับตัวจึงรีบยกขึ้นมาป้องกันทันที แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเข้ามาป้องกันเจ้านายที่ยืนห่างออกมาหลายก้าว ท่านชายก็ถูกลูกศรที่แฝงพลังเวทย์ดอกหนึ่งยิงเข้าที่ใต้ไหปลาร้าด้านซ้าย ซึ่งเป็นรอยต่อของชุดเกราะได้อย่างแม่นยำ
แม้ว่าทายาทแห่งตระกูลกลาเซียจะมีม่านพลังน้ำแข็งบางๆห่อหุ้มกายอยู่ก่อน แต่พลังของลูกศรนี้ไม่ธรรมดา เขาถึงกับหงายหลังล้มลงไปกระแทกพื้นอย่างไม่อาจต้านทานแรงได้ แต่ก็ไม่ทันที่ลูกศรถัดไปจะมาถึง เหล่าอัศวินก็ถือโล่เข้ามาช่วยป้องกันไว้ได้เสียก่อน
“ถอยก่อนเถิดขอรับท่านชาย” หัวหน้าอัศวินกล่าวแนะนำ
“บัดซบ! พวกเราถอยก่อน!” เมื่อตัวเองที่เป็นผู้นำทัพเสียท่า แม้จะมีกำลังมากกว่าแต่ก็นับว่าอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบแล้ว เดเมียนจึงจำเป็นต้องตัดสินใจถอยก่อนที่ความเสียหายจะมากไปกว่านี้
แต่อยู่ๆท่านชายผมขาวก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงที่เขามาที่นี่ก็เพื่อสังหารทายาทตระกูลเฟลมเมียให้ได้ ระหว่างที่อัศวินช่วยกันลากตัวของเขาไปตามพื้น มือซ้ายของเดเมียนก็ชูออกไปด้านหน้าพร้อมกับปลดปล่อยศรน้ำแข็งใส่ร่างของเดอริกที่นอนโชกเลือดอยู่กลางสมรภูมิ
“ไอซ์ โบลด์!” คราวนี้ศรน้ำแข็งถูกยิงออกไปถึงเจ็ดลูกด้วยความเร็วที่แทบไม่อาจมองทัน แต่แน่นอนว่าฝ่ายซีเคร็ตการ์เด้นได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว
“ไฟร์วอลล์! ไฟร์วอลล์!” สองพี่น้องตระกูลมูเน่ภายใต้หน้ากากขาวลายจันทร์เสี้ยวหนึ่งสีแดง หนึ่งสีน้ำเงิน ทั้งสองคนแทบจะร่ายเวทย์กำแพงไฟออกมาพร้อมกัน กำแพงที่มีเปลวเพลิงลุกโชนซ้อนเป็นสองชั้น มันมีทั้งความหนาแน่นจากพลังเวทย์ และความร้อนจากเปลวไฟ ศรน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาต่างก็สลายไปจนหมดสิ้น
MANGA DISCUSSION