8.00 น. ณ เมืองฟลอริสตี้
ภามในชุดผ้าคลุมสีดำ พร้อมกับเรญ่าในชุดคลุมแบบเดียวกันเดินออกมาจากโรงแรมระดับกลางแห่งหนึ่ง ที่แห่งนี้ภามได้รับคำแนะนำจากบีดีเลียให้มาพัก ซึ่งมันค่อนข้างสะอาดสะอ้าน และเงียบสงบเหมาะกับภารกิจที่ชายหนุ่มตั้งใจมาทำที่นี่
สิ่งแรกในเช้าวันนี้ที่ภามตั้งใจจะทำก็คือไปยังที่ว่าการเมือง เขาต้องการรู้ข้อมูลสถานที่ในเมืองฟลอริสตี้แห่งนี้ให้เร็ว และมากที่สุดเพื่อประหยัดเวลา การจ่ายเงินนิดหน่อยเพื่อการบริการที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
ที่ว่าการเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองชั้นใน ระหว่างทางภามก็ได้เดินชื่นชมบรรยากาศรอบๆไปด้วย ซึ่งเห็นได้ว่าเมืองนี้มีขนาดเล็กกว่าเมืองฮาเวสตี้เกือบครึ่งหนึ่ง แต่ผู้คนที่นี่กลับมีความสดใสมากกว่า แม้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว แต่พวกเขาก็ยังออกมาค้าขายกันทุกหนแห่ง
แม้แต่การติดต่อราชการเจ้าหน้าที่ก็มีอัธยาศัยไมตรีมาก พวกเขาไม่ได้รังเกียจชาวบ้านยากจนเลยแม้แต่น้อย ทุกๆคนดูเหมือนจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่น่าเชื่อว่าเมืองฟลอริสตี้กับฮาเวสตี้จะอยู่ติดกัน ถ้าคนที่ไม่เคยรู้มาก่อนคงจะคิดว่าเป็นละประเทศกันแน่นอน
“อรุณสวัสดิ์ขอรับ มีอะไรให้แผนกที่ดินรับใช้หรือไม่?” ชายหนุ่มในชุดขุนนางชั้นผู้น้อยกล่าวทักทายภามที่เดินตรงเข้ามาหาที่เคาน์เตอร์
“สวัสดี ข้าสนใจจะเช่าโกดังสินค้าเพื่อเปิดเป็นธุรกิจขนส่ง ท่านพอจะแนะนำได้บ้างหรือไม่?” เกษตรกรหนุ่มเริ่มเปิดประเด็นก่อน
“โอ้! เรื่องนั้นสบายมาก เชิญท่านมาดูผังเมืองทางนี้ เมืองฟลอริสตี้ก็เหมือนกับเมืองขนาดกลางอื่นๆ แบ่งเป็นชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ถ้าท่านต้องการโกดังขนาดใหญ่ก็คงต้องเป็นตัวเมืองชั้นนอกมีที่ว่างทั้งด้านตะวันออก ตะวันตก และทิศใต้เลย แต่ข้าขอแนะนำให้เลือกย่านการค้าด้านตะวันตกจะดีกว่า” เจ้าหน้าที่หนุ่มแนะนำด้วยความกระตือรือร้น ท่าทางเขาคงอยากให้ภามเลือกเช่าที่ตรงนั้นจริงๆ
แม้ว่าความเป็นจริงคนที่ควรจะมาช่วยภามน่าจะเป็นมีอา หรือบีดีเลีย แต่ชายหนุ่มกลับเลือกเรญ่ามาเป็นผู้ช่วยของเขา นั่นก็เพราะมุมมองในฐานะนักฆ่าของเธอนั้นไม่เหมือนใคร แม้ว่าร้านค้าจะอยู่ในย่านการค้าจะเป็นเรื่องดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่ธุรกิจทุกประเภทเสมอไปที่ต้องเป็นเช่นนั้น
โดยเฉพาะเมื่อบริษัทขนส่งแม็กซิมัสเป็นเพียงกิจการบังหน้าเท่านั้น สิ่งที่จำเป็นจริงๆของการทำกิจการนี้ก็คือทำให้เหมือนกับว่าที่นี่ทำธุรกิจจริงๆ ซึ่งการมีพื้นที่กว้างขวางไว้ก่อนก็สามารถทำสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้นโดยไม่มีพิรุธ และถ้ามีค่าเช่าถูกก็จะเป็นการดีอย่างยิ่ง
“ถ้าหากข้าต้องการไปดูทั้งสามที่เลยได้หรือไม่” เรญ่าเป็นคนกล่าวถามกับเจ้าหน้าที่หนุ่ม
“ก็ได้หรอกขอรับ แต่ท่านต้องไปด้วยตัวเองนะ ข้าไม่สามารถพาท่านไปได้แต่อย่างไรก็ตามโกดังทั้งสามแห่งก็ไม่ได้หายากอะไร และอีกอย่างถ้าพวกท่านมาทำกิจการขนส่งที่นี่ชาวบ้านจะต้องดีใจมากแล้วต้องช่วยเหลือพวกท่านเต็มที่แน่นอน” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงยินดี
“ข้าก็นึกว่าพวกเราจะแย่งลูกค้าของคนที่นี่เสียอีก ยิ่งฤดูหนาวแบบนี้ไม่รู้ว่าจะมีของอะไรให้ส่งกันรึเปล่า คงต้องแย่งลูกค้ากันน่าดูเชียวล่ะ” ภามพูดให้ดูเหมือนกับต้องเจอกับปัญหาที่พ่อค้าทั่วๆไปต้องเป็นกังวล
“พวกท่านที่เพิ่งมาเมืองนี้คงยังไม่รู้อะไร เมืองฟลอริสตี้ของเราขึ้นชื่อเรื่องการปลูกดอกไม้ และสมุนไพร แม้ว่าฤดูหนาวจะทำให้ผลผลิตลดลงไปมาก แต่ที่นี่ก็ยังมีพืชอีกหลายชนิดที่ยังสามารถเพาะปลูกได้แม้ว่าหิมะจะตกลงมาก็ตาม อุปสรรคเดียวที่ชาวบ้านต้องพบเจอก็คือสมาคมการค้าต่างหาก” เจ้าหน้าที่หนุ่มเข้ามากระซิบใกล้ๆภามเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน
“สมาคมการค้าทำไมเหรอ?” เจ้าของฟาร์มกล่าวถามเสียงเบาด้วยความสนใจ
“ก็พวกนั้นผูกขาดการค้าดอกไม้ และสมุนไพรไว้ที่ตัวเองกลุ่มเดียว ราคาของพวกชาวบ้านต้องถูกกดลงไปเยอะ นี่ถ้ามีพวกท่านมาช่วยด้านขนส่งนะพวกชาวบ้านคงไม่ต้องเสียค่าคนกลางแพงๆให้สมาคมพ่อค้าแล้วล่ะ แค่จ้างท่านให้ไปส่งของให้กับลูกค้าก็ราคาถูกกว่ากันเยอะ” เจ้าหน้าที่หนุ่มยิ่งพูดเสียงเบาลงไปอีก เพราะเรื่องนี้อาจทำให้เกิดความไม่พอใจต่อเหล่าพ่อค้าได้
“เอิ่ม…แต่ถ้าข้าไปตัดราคาพวกเขาอย่างนี้คงเป็นข้าเองที่เดือดร้อนน่ะสิ ไม่นานคงต้องปิดกิจการหนีไปเสียก่อน” ภามก็กล่าวมาตามตรงเช่นกัน แม้ว่าเขาจะไม่กลัวการปะทะกับพวกพ่อค้า แต่เขาก็ไม่อยากจะมีปัญหาอื่นเข้ามาแทรกแซงงานหลัก ยิ่งกิจการนี้เป็นเพียงฉากบังหน้าเท่านั้น
อีกทางด้านหนึ่ง ณ หมู่บ้านริมทะเลสาบลูน่าซองค์ หมู่บ้านแห่งนี้นอกจากจะมีที่ดินเพาะปลูกแล้วยังอยู่ใกล้กับป่าสนอีกด้วย ชาวบ้านที่นี่จึงมีอีกอาชีพในหน้าหนาวก็คือตัดฟืนไปขาย และในขณะที่ชายวัยกลางคนสิบคนกำลังตัดไม้อยู่ในป่านั้น จู่ๆก็ปรากฏชายลึกลับสองคนยืนจ้องพวกเขาจากมุมมืด
แต่ด้วยความคุ้นเคยกับป่าแห่งนี้เมื่อมีบรรยากาศเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย ชายกำยำทั้งสิบก็สามารถรู้สึกได้ทันที และก็ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาอย่างโชกโชนก็ทำให้พวกเขาไม่ได้ตกใจอะไร เพียงแค่คอยสอดส่ายสายตาไปทั่วอย่างเงียบๆเท่านั้น
ซึ่งนั่นก็ทำให้ชายลึกลับที่แต่งตัวเหมือนนักผจญภัยสองคนนั้น รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว ทำให้พวกเขายังไม่เคลื่อนไหวใดๆ และรีบปรึกษากันทันที
“เจ้าคิดเหมือนข้าไหมวัน? ท่าทางของพวกมันเหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าเราอยู่ที่นี่” ชายผมขาวหันไปกล่าวถามสหาย
“ข้าก็คิดเหมือนเจ้านั่นแหละทู ไม่นึกเลยว่าทหารธรรมดาจะมีประสาทรับรู้ถึงพวกเราได้ เตรียมตัวรับมือให้ดี” ชายผมดำก็หันกลับมาตอบเช่นกัน
“ตู้ม!!!!” พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของทั้งสองคนก็ระเบิดออก แต่ชายลึกลับทั้งสองก็สามารถกระโดดขึ้นกลางอากาศได้ในวินาทีสุดท้าย แม้จะไม่สามารถหลบหนีได้ทั้งหมดแต่ก็ลดแรงปะทะไปได้เยอะ สองคนกระเด็นไปคนละทิศทางล้มกลิ้งคลุกฝุ่นไปกับพื้นหลายตลบ
พวกเขาต่างก็พยายามลุกขึ้นอย่างไม่ยินยอมพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แม้จะไม่สาหัสแต่ก็บอบช้ำไปทั้งตัวกว่าจะประคองตัวขึ้นมาได้ คนตัดฟืนทั้งสิบล้อมรอบตัวชายลึกลับทั้งสองไว้แล้ว
“บัดซบ! ข้าเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของโอเมก้า ไม่มีทางเสียท่าทหารเลวอย่างพวกเจ้าหรอก!” ชายผมดำที่ชื่อวันเค้นเสียงในลำคอออกมาอย่างยากลำบาก
“ไม่ได้มีแค่พวกเขาหรอกนะ” บีดีเลียเดินช้าๆเข้ามายืนตรงหน้านักฆ่าทั้งสองคน
“เจ้า! เจ้าไม่ได้ถูกลักพาตัวไปรึ? ทั้งหมดเป็นแผนการของเจ้าสินะ หึ! แต่อย่างไรก็ไม่อาจชนะพวกเราโอเมก้า…อั๊ก!!!” ทูที่เมื่อเห็นการปรากฏตัวของบุตรสาวเจ้าเมืองก็เข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง แต่เนื่องจากเขาพูดมากเกินไปจึงถูกเตะไปที่ใบหน้าอย่างแรงจนสลบไป
“แอดเลอร์ สองคนนี้ให้ท่านจัดการสอบสวนก็แล้วกัน ไม่รู้ว่านักฆ่าอีกคนอยู่ที่ไหนเราต้องหาตัวมันให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะทำร้ายคนอื่น ข้าขอตัวไปแจ้งแก่หน่วยอื่นก่อน” บุตรีแห่งดยุคสั่งการเสร็จก็เดินจากไป พร้อมกับหยิบการ์ดประจำตัวขึ้นมาเพื่อส่งข้อความไปยังสมาชิกฟาร์มคนอื่นที่แบ่งกลุ่มไปติดต่อกับเหล่าทหารเก่าให้เตรียมตัวรับมือกับนักฆ่าที่อาจปรากฏตัวขึ้นได้
ภาม และเรญ่าเดินมาถึงโกดังให้เช่าด้านตะวันตกของเมืองฟลอริสตี้ ที่นี่เป็นอาคารของที่ทำการเมือง และราคาค่าเช่าก็ถูกกว่าโกดังของสมาคมพ่อค้ามาก ซึ่งเรื่องนี้เองที่ทำให้ชายหนุ่มต้องมาตรวจสอบที่นี่ด้วยตัวเอง เพราะราคามันถูกเกินไปจนน่าสงสัย
“ท่านภามคิดว่าเหตุใด โกดังราคาถูกกลางย่านการค้าถึงไม่ถูกพวกพ่อค้าเช่าไปทำกำไรต่อล่ะเจ้าคะ?” จู่ๆหญิงสาวผมดำมัดหางม้าก็หันมาถามชายหนุ่มที่กำลังยืนพิจารณาโกดังขนาดใหญ่ตรงหน้า
“นั่นสินะ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้บอกเหตุผลออกมาด้วย แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้คงจะมีเบื้องหลังแน่นอน เผลอๆสมาคมพ่อค้าที่เมืองนี้อาจกลายเป็นของโอเมก้าไปแล้ว เจ้าว่าเป็นไปได้หรือไม่?” ภามหันไปจ้องหน้าถามกับเรญ่า
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่ที่นี่มีตัวแทนของโอเมก้าแน่นอน ส่วนเรื่องการเมืองภายในเราคงต้องตรวจสอบอีกที” หญิงสาวตอบกลับไปตามตรง
MANGA DISCUSSION