ยามราตรีอันเงียบสงัด และเหน็บหนาวของเมืองฮาเวสตี้ถูกทำลายลงด้วยกองทหารจำนวนมากที่วิ่งไปทั่วเมือง เพื่อหาเบาะแสของบุตรีแห่งเจ้าเมือง แต่เหตุการณ์นี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับยอดฝีมือผู้ลอบเร้นเลยสักนิด ภามปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่าพร้อมกับบีดีเลียในสำนักงานโอเมก้า
ทั้งสองคนยืนอยู่ท่ามกลางห้องทำงานขนาดใหญ่ ที่มีเพียงแสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างให้แสงสว่างเท่านั้น อดีตทหารในชุดแบทเทิลสูทสีดำใช้มือแตะไปที่กล่องสีดำใบเล็กที่ติดอยู่กับเข็มขัดของเขา แล้วหน้าจอโฮโลแกรมสีฟ้าที่มีเพียงภามคนเดียวที่มองเห็นก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
หน้าจอปรากฏเป็นช่องตารางสี่เหลี่ยมจำนวนมาก ภายในช่องเหล่านั้นมีภาพของอุปกรณ์เครื่องมือ และสิ่งของต่างๆมากมาย ภามเลื่อนหน้าจอด้วยปลายนิ้วไปยังรูปภาพสิ่งของที่เขาต้องการ นั่นก็คือกล้องวงจรปิด เขาแตะนิ้วไปที่ภาพของมัน และทันใดนั้นพวกมันก็ปรากฏอยู่บนมือของเขาเรียบร้อย
กล้องวงจรปิดที่ว่านี้มีขนาดเล็กมาก มันคืออุปกรณ์สอดแนมขนาดเล็กจิ๋ว ตัวกล้องใหญ่กว่าลูกเต๋าเพียงเล็กน้อย รวมทั้งไมโครโฟนจิ๋วขนาดพอๆกัน พวกมันถูกเชื่อมต่อด้วยสายไฟสั้นๆที่ต่อไปยังแบตเตอรี่ และกล่องสำหรับเสียบการ์ดบันทึกความจำ ขนาดไมโครเอสดีการ์ดที่ใช้กับสมาร์ทโฟนทั่วไป
การกระทำของชายหนุ่มภายใต้หมวกเหล็กราชสีห์ทมิฬนั้น ช่างดูลึกลับในสายตาของบุตรสาวเจ้าเมืองเพราะเธอไม่เห็นหน้าจอโฮโลแกรมนั้น รู้เพียงว่าเขาขยับมือไปมาในความมืด เหมือนกับว่ากำลังทำพิธีกรรมบางอย่างที่ไม่มีแม้กระทั่งแสงของออร่าพลังเวทย์ แต่วัตถุแปลกๆนั้นก็เข้ามาอยู่ในมือแล้ว
“ท่านภาม ท่านกำลังจะทำอะไรรึ?” ตอนแรกหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มจะมาค้นหาเอกสารข้อมูลสำคัญของกลุ่มโอเมก้า แต่เมื่อเธอเห็นท่าทางแปลกของภามเธอก็รู้สึกว่าชายหนุ่มอาจมีจุดประสงค์อื่น
“ข้าจะมาติดตั้งอุปกรณ์สอดแนม ที่เรียกว่ากล้องวงจรปิด มันสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหว และเสียงได้เป็นเวลาถึง 3 วัน ก่อนที่จะค่อยๆลบเหตุการณ์แรกไล่ไปเรื่อยๆ พร้อมกับบันทึกเหตุการณ์ใหม่ไปด้วย” ชายหนุ่มอธิบายคร่าวๆ
“มันเป็นอุปกรณ์เวทย์เช่นนั้นรึ? ข้าไม่เคยรู้จักมันมาก่อนเลย” บีดีเลียกล่าวถามอย่างสงสัย
“ไม่ใช่ของแบบนั้นหรอก แต่ที่เจ้าจะไม่รู้จักก็ไม่แปลกเพราะมันมาจากบ้านเกิดของข้าที่ไกลแสนไกล เอาเป็นว่ามันสามารถบันทึกเหตุการณ์ที่ฮาเซลทำในห้องนี้ได้ทุกอย่าง และด้วยข้อมูลที่ข้ารู้มาเจ้าแก่อ้วนนั่นสั่งการทุกอย่างจากที่นี่ ทั้งงานเบื้องหน้า และงานเบื้องหลัง มันจึงเหมาะที่สุดแล้วที่จะติดไว้ที่นี่
ภามตอบคำถามหญิงสาวไปพร้อมกับการติดตั้งอุปกรณ์ไปด้วย นอกจากกล้องวงจรปิดชุดแรกที่ติดไว้บนเพดานด้านหลังโต๊ะทำงานของฮาเซลแล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์ดักฟังที่ติดไว้ใต้โต๊ะทำงานอีกชิ้นหนึ่ง ชายหนุ่มจัดการสิ่งเหล่านี้ด้วยความชำนาญ และรวดเร็ว เพื่อไม่ให้บีดีเลียต้องรอนาน
“ท่านนี่ดูมีความชำนาญในด้านนี้มากเหมือนกันนะ” จู่ๆบีดีเลียก็กล่าวประโยคนี้ขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ก็อาชีพเก่าน่ะ ข้าทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว” ภามยังคงกล่าวโดยไม่ใส่ใจกับคำพูดของหญิงสาวเท่าไร เพราะเขายังคงต้องทำงานแข่งกับเวลา ซึ่งระหว่างนั้นเขาก็เรียกอุปกรณ์ออกมาจากกล่องมิติที่ข้างเอวอีกสองสามชิ้น
“ท่านเคยเป็นทหารไม่ใช่รึ? ข้านึกว่าท่านจะถนัดเรื่องการต่อสู้ในสนามรบมากกว่าเสียอีก” หญิงสาวในชุดสีแดงกล่าวถามด้วยความสงสัย
“ทหารก็มีหลายหน่วยงานนะ และถ้าเป็นหน่วยพิเศษก็จะถูกฝึกให้มีความสามารถรอบด้าน การลอบเร้นสอดแนมศัตรูเพื่อหาข้อมูลนั่นก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ดั่งคำโบราณที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ภามพูดไปพร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้อง เพื่อออกไปติดกล้องที่โถงทางเดิน โดยไม่กังวลว่าจะมีคนมาพบเห็นแม้แต่น้อย
“…” สุดท้ายบีดีเลียก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆ แม้ชายหนุ่มจะบอกว่าเชี่ยวชาญการลอบเร้นสอดแนม แต่สิ่งที่เขาทำนั้นอย่างกับว่าเดินเล่นในบ้านตัวเองโดยไม่ระแวดระวังภัยรอบตัวเลยสักนิด
เช้าวันรุ่งขึ้นภายในเมืองฮาเวสตี้ก็เกิดเรื่องใหญ่ที่รับรู้กันไปทั่วทั้งเมือง รวมทั้งพื้นที่ภายใต้การปกครองใกล้เคียง นั่นก็คือเหตุการณ์ที่บุตรีแห่งเจ้าเมืองถูกลักพาตัวไปโดยยอดฝีมือ ซึ่งได้มีการติดประกาศตามหาตัวหญิงสาวไว้ทั่วเมือง และบรรยายถึงคนร้ายว่าเป็นจอมเวทย์ระดับสูงเพียงเท่านั้น
ซึ่งความวุ่นวายจากการค้นบ้านประชาชนไปทั่วเมืองยังคงไม่จบสิ้นลง เนื่องจากเมืองฮาเวสตี้เป็นเมืองใหญ่ แต่เมื่อประตูเมืองปิดลงก็ทำให้การค้า และการเดินทางต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว แม้คำวิพากษ์วิจารณ์จากหลายๆคนจะบอกว่าหญิงสาวคงถูกพาตัวออกจากเมืองไปแล้วก็ตาม
ณ ฟาร์มกลางหุบเขาลึกลับ
โรงอาหารพนักงานในเช้าวันนี้ได้มีสมาชิกใหม่มาร่วมรับประทานอาหาร เสียงของเหล่าหญิงสาวสนทนากันอย่างออกรส เมื่อบีดีเลีย วานีล และมีอา เพื่อนทั้งสามได้มาอยู่พร้อมหน้า แถมยังมีเมโลเอ้ และเดนิสมาร่วมวงด้วย ทำให้บรรยากาศในฟาร์มวันนี้คึกคักขึ้นมาเยอะ
ส่วนเจ้าของฟาร์มหนุ่มในตอนนี้เขาขี่ม้าออกไปยังกลางทุ่งหญ้ากว้างภายในฟาร์ม พร้อมกับหญิงสาวผมดำที่ขี่ม้าอีกตัวตามหลังมาติดๆ จนกระทั่งทั้งสองคนไปหยุดพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่สุดขอบรั้วของฟาร์ม และก็เป็นเรญ่าที่กล่าวออกมาก่อน
“ท่านภามมีเรื่องอันใดถึงต้องมาคุยกับข้าไกลถึงที่นี่?” นักฆ่าสาวถามขึ้นเมื่อเธอรู้สึกว่านี่คงเป็นเรื่องสำคัญที่จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้
“เจ้าตัดสินใจได้รึยัง ว่าจะเข้าร่วมกับข้าเพื่อทำลายกลุ่มโอเมก้าทั้งหมด?” เกษตรกรหนุ่มในชุดทำฟาร์มกล่าวถามถึงเรื่องที่เขาให้เธอไปพิจารณา
“เฮ้อ! ข้าไม่อยากทรยศต่อท่านฮาเซล แม้ว่าทางที่เขาเลือกเดินมันจะโหดร้ายก็ตาม แล้วอีกอย่างท่านภามถึงแม้ท่านไม่ฆ่าข้า กลับไว้ชีวิตรวมทั้งให้ข้าอยู่ที่นี่ก็จริง แต่นั่นเพราะข้าถูกทำให้พ่ายแพ้ ไม่ได้แปลว่าท่านมีบุญคุณที่ข้าจะต้องตอบแทน โดยการหักหลังต่อผู้ที่ชุบเลี้ยงข้ามา” เรญ่าตอบออกมาตามตรงด้วยความรู้สึกที่หนักแน่นของเธอ
“อืม…ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้าบอกมานี้ อย่างนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องทรยศต่อฮาเซล แต่ช่วยข้าทำลายกลุ่มโอเมก้าเพียงเท่านั้นล่ะ?” ชายหนุ่มถามกลับอีกครั้ง ถึงแม้คำถามมันจะไม่ต่างจากเดิมเท่าไร แต่ชัดเจนแล้วว่าความหมายของมันไม่เหมือนเดิม
“ท่านหมายความว่ายังไงกันแน่?” หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความนัย แต่ก็ยังไม่ชัดเจนถึงสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการจะสื่อ
ภามที่ได้ยินคำถามนี้ก็รู้เลยว่า อย่างน้อยเขาก็ยังคงสามารถเจรจากับเรญ่าได้
“ข้าจะให้เจ้าไปสืบข่าว และทำลายสมาชิกคนอื่นในกลุ่มโอเมก้า ยกเว้นฮาเซลยังไงล่ะ เจ้าคงจะไม่บอกนะว่าเพราะมันส่งผลทางอ้อมต่อฮาเซลด้วยจึงจะไม่ทำ” ภามชี้แจงเป้าหมายของเขาออกมา พร้อมกล่าวดักทางไว้เรียบร้อย ท่าทางของเขายังสบายๆไร้กังวล
“…แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆไม่ใช่หรือไง!” เรญ่าที่สีหน้าเครียดขึ้นมา กล่าวออกด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น เธอรู้สึกเหมือนกับว่าชายหนุ่มตรงหน้าพูดกวนประสาท
“ตอนนี้เจ้าก็ตระหนักได้แล้วไม่ใช่หรือไง ว่ากลุ่มโอเมก้าเพาะเลี้ยงนักฆ่าโดยการล่อลวงเด็กน้อยมาฝึกฝนเพื่อประโยชน์กับตัวเองเท่านั้น อีกอย่างถ้าพวกเจ้าทำงานพลาดไม่ใช่ว่าต้องรับโทษตายจากองค์กรอย่างนั้นเหรอ? ชีวิตพวกเจ้ามีค่าแค่เป็นเครื่องมือของพวกมันเท่านั้น!” เจ้าของฟาร์มย้ำไปที่ความรู้สึกของหญิงสาวอีกครั้ง
“แต่!…” เรญ่าถึงกับพูดไม่ออกอีก เพราะที่ผ่านมาชีวิตของเธอก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
“แล้วก็ยังมีอีกอย่างหลังจากที่ข้าอ่านความทรงจำของเจ้าแล้ว มันก็ทำให้ข้าสงสัยขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง การโจมตีหมู่บ้านของเจ้าในวันนั้น อาจเป็นแผนของพวกโอเมก้าเพื่อปล้นหมู่บ้านก็ได้ แถมยังมีโอกาสนำพวกเด็กที่พ่อแม่ตายไปในวันนั้นกลับไปฝึกเป็นนักฆ่าอีก ถามหน่อยเถอะ เจ้าได้แก้แค้นให้แม่ตามที่ฮาเซลมันสัญญาไว้แล้วรึยัง?” อดีตทหารใช้การจี้จุดอ่อนภายในใจของหญิงสาวเพื่อให้ได้ตระหนักเห็นความเป็นจริง
MANGA DISCUSSION