ประตูมิติสู่ร้านค้าของพระเจ้าเปิดอ้าออก ภามหอบข้าวของมากมายพะรุงพะรังมาตั้งไว้บนพื้น แล้วก็มองพิจารณาดูพวกมันด้วยความเหนื่อยใจ
‘นี่เราหมดเงินไปหลายเหรียญทองเลยนะเนี่ย เฮ้อ!’
แม้ว่าเกษตรกรหนุ่มจะบ่นเสียดายอยู่ในใจ แต่ความจริงแล้วเงินเก็บของเขานั้นมีถึงนับแสนเหรียญทองเลยทีเดียว ด้วยความที่เคยใช้ชีวิตยากลำบากมาก่อนจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ แต่สิ่งของมากมายที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่จะใช้สำหรับแผนการในอนาคต
แต่สิ่งแรกที่ภามจะทำต่อไปนั้นไม่ใช่การแกะพวกมันออกจากกล่อง แต่เป็นการเดินไปเคาะประตูห้องนอนแขกที่อยู่ใกล้กันแทน
“เรญ่า ข้าจะเข้าไปนะ” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกหญิงสาวที่อยู่ในห้อง
“…”ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา อย่างกับว่าห้องนี้ไม่มีใครอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“เรญ่า ได้ยินรึเปล่า?” ภามเรียกเสียงดังขึ้น
“…” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับอีกเช่นเคย
สำหรับภามที่เป็นผู้ใช้พลังเวทมนตร์ปิดผนึกแห่งนี้ไว้ไม่ให้ใครเข้า และออกได้ เขาย่อมรู้ว่าหญิงสาวยังคงอยู่ในนั้น เพียงแค่เธอกลับไม่ขานรับเสียงเรียกจากชายหนุ่มเท่านั้น แต่อดีตทหารอย่างภามก็พอจะรู้ว่านักฆ่าอย่างเรญ่าคงกำลังแอบอยู่หลังประตูเพื่อดักจู่โจมเขาอย่างแน่นอน
เกษตรกรหนุ่มผู้มีพลังระดับมหาจอมเวทย์คิดได้ดังนั้น จึงผนึกพลังไปที่ดวงตาของเขาเพื่อใช้สำหรับมองทะลุเข้าไปสำรวจภายในห้อง แต่ภาพที่เห็นกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
“ฉิบหายละ!” ภามอุทานขึ้นมาเสียงดัง พร้อมกับรีบเปิดประตูเข้าไปทันที
สิ่งที่ชายหนุ่มเห็นนั่นก็คือหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนเตียง ไม่รอช้าภามรีบพุ่งเข้าไปดูอาการเธอทันที เขาจับจ้องไปยังใบหน้ายามหลับของเธอ ซึ่งดูอ่อนโยนน่าสัมผัส…เอ้ย! ไม่ใช่สิ เรญ่ากำลังหลับ หลับสนิทเกินกว่าปกติไปมากนัก เหมือนกับว่าร่างกายแน่นิ่งไร้ลมหายใจมากกว่า
ภามที่เห็นอย่างนั้นก็ตกตะลึงดวงตาเบิกโพลง เขารู้สึกเหมือนกับว่าเป้าหมายที่เขาตั้งใจจะช่วยเหลือเธออาจล้มเหลวลงก่อนที่จะได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ แต่ไม่นานชายหนุ่มก็ค่อยๆตั้งสติขึ้นมาได้อีกครั้ง และเอื้อมมือเข้าไปจะแตะหน้าผากของเธอเพื่อลองวัดอุณหภูมิร่างกาย
แต่เมื่อมือของชายหนุ่มยื่นไปใกล้ใบหน้าไร้ความรู้สึกนั้น ดวงตาของเรญ่าก็เปิดขึ้นอย่างกะทันหันและจับจ้องไปยังดวงตาของภามด้วยแววมุ่งร้าย พร้อมกับที่มือข้างขวาของเธอพุ่งเข้ามาคุมข้อมือของชายหนุ่ม จากนั้นมืออีกข้างก็พุ่งสวนเข้าที่ใบหน้าภามอย่างรวดเร็ว
“แก๊ง!” เสียงโลหะกระทบกันเสียงดังกังวาน เหล็กปลายแหลมกระเด็นออกจากมือของเรญ่าไปตกลงบนที่นอน
“เลิกขัดขืนดิ้นรนเสียเถอะ เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก” ภามคว้าจับมือข้างซ้ายที่อาวุธเพิ่งหลุดจากมือไปเมื่อครู่ ซึ่งมันกำลังสั่นอย่างช่วยไม่ได้เพราะแรงสะท้อนอย่างแรงจนทำให้อาวุธนั้นถึงกับหลุดมือ
“เป็น..เป็นไปได้ยังไง! ข้าแทงเหล็กนั่นไปที่คอขอเจ้าแต่มันกลับแทงไม่เข้า! มันคืออาวุธที่แทงทะลุได้แม้แต่ม่านพลังเวทย์ชั้นสูงเชียวนะ” นักฆ่าสาวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองเป็นอย่างยิ่ง
“ม่านพลังเวทย์ชั้นสูงเหรอ? ฮ่ะๆ ข้าไม่ได้ใช้มันหรอกนะ แต่ใครๆก็บอกว่าข้าคอแข็ง มันก็คงจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า” ภามกล่าวออกมาสบายๆอย่างไม่ใส่ใจกับพฤติกรรมของหญิงสาวตรงหน้าที่อยากจะสังหารเขาแม้แต่น้อย
ตอนนี้ในจิตใจของเรญ่าถึงกับสั่นสะท้าน ไพ่ตายของเธอที่จะใช้สังหารศัตรูตัวร้ายไม่อาจได้ผลเลยแม้เพียงนิดเดียว ทั้งที่ผ่านมาเธอเคยฆ่าจอมเวทย์ระดับสูงไปมากมายด้วยเหล็กแหลมนั่นด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ชีวิตของหญิงสาวต้องตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของชาวไร่ลึกลับตรงหน้าของเธอ
เกษตรกรหนุ่มที่เห็นใบหน้าขาวซีด และหมดหวังของนักฆ่าสาวเขาจึงปล่อยมือออกจากข้อมือของเธอ แล้วเข้าไปหยิบเหล็กแหลมลงอักขระเมื่อครู่มาเก็บไว้ก่อน เพื่อไม่ให้โอกาสเรญ่าคิดทำสิ่งที่เข้าท่าอีก จากนั้นเขาก็ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งข้างๆเตียงของหญิงสาว
“เจ้าคิดว่าถูกฮาเซลหลอกใช้รึเปล่า?” ภามกล่าวเข้าประเด็นทันที
“เขาเป็นคนให้ชีวิตใหม่กับข้า เลี้ยงดูข้าแทนแม่ที่เสียไป ฝึกสอนให้ข้าต่อสู้ และกำจัดพวกโจรชั่วที่คอยปล้นชิงชาวบ้านให้หมดไป เขาทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้น” เรญ่ากล่าวออกมาตามความรู้สึกของเธอ เพราะหญิงสาวยอบรับอยู่แล้วว่าการโกหกนั้นไม่อาจจะปิดบังซ้อนเร้นความจริงจากชายหนุ่มได้
“เอ๋? แต่เมื่อวันก่อนที่ข้าอ่านใจเจ้า ตอนนั้นข้ารู้สึกได้ถึงจิตใจที่สั่นไหวไม่มั่นคงอยู่นา อืม…เจ้าก็โตจนป่านนี้แล้ว คงจะรู้แล้วสินะว่าที่จริงฮาเซลพาตัวเจ้ามาเลี้ยงดู และฝึกฝนก็เพื่อจะให้เป็นเครื่องมือฆ่าคนของเขา แต่ด้วยความที่เขาดีกับเจ้ามากกว่าเด็กฝึกคนอื่นๆ มันจึงยังทำให้เจ้ามีความรู้สึกที่ดีกับเขาเหลืออยู่” ภามกล่าวยืดยาวด้วยน้ำเสียงสบายๆ พร้อมกับจ้องไปที่ดวงตาของเรญ่า
“อึก!….เจ้า!” หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก ชายตรงหน้าเธอพูดจี้ใจดำได้ตรงประเด็นทุกอย่าง แม้แต่ความจริงที่เธอเลี่ยงจะยอมรับมัน เรญ่าจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับความจริงอยากหดหู่
ด้วยท่าทางของนักฆ่าสาว และแววตาที่พ่ายแพ้ของเธอ นั่นเป็นสัญญาณว่าภามควรจะเริ่มต้นแผนการต่อไปได้สักที ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวออกมา
“ข้าต้องการที่หยุดยั้งสงครามที่กำลังเกิดขึ้นที่ทางใต้ ซึ่งถ้าช้าไปกว่านี้มันจะลุกลามขึ้นมาจนทำลายไปทั้งจักรวรรดิกาลอเรีย ผู้บริสุทธิ์จะต้องล้มตายไปอีกมากมาย ที่สำคัญกลุ่มโอเมก้าก็เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังสงครามนี้ ข้าจำเป็นจะต้องกวาดล้างพวกมันให้หมดสิ้น และข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า เรญ่า” ชายหนุ่มบอกเป้าหมายที่แท้จริงของเขาให้กับหญิงสาวได้รับฟัง
“…เจ้าจะทำได้อย่างไรกัน เรื่องใหญ่โตถึงเพียงนั้น” หญิงสาวกล่าวถามขึ้นมาด้วยความไม่แน่ใจ
“ข้าไม่ได้ทำมันด้วยตัวคนเดียว ยังมีคนอื่นๆอีกมากมายที่ข้าต้องขอความช่วยเหลือ แต่เจ้า เรญ่า เป็นคนแรกที่ข้าขอให้มาร่วมมือในเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้” ภามบอกออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา แต่มันแฝงไปด้วยความจริงจังที่ออกมาพร้อมกับสายตามั่นคงของอดีตทหารหนุ่ม
“คือ…ข้าไม่คิดว่า…” หญิงสาวยังคงลังเลที่จะให้คำตอบ
“เจ้ายังไม่ต้องรีบตัดสินใจตอนนี้ก็ได้ ยังมีเวลาให้เจ้าคิดอีกนาน แต่ตอนนี้เจ้าช่วยข้าในเรื่องเล็กน้อยสักอย่างได้หรือไม่” ชายหนุ่มให้อิสระในการตัดสินใจแก่นักฆ่าสาว
“เรื่องอะไรล่ะ?” แม้ว่าจะยังไม่ไว้วางใจชายหนุ่มผู้ร้ายกาจ แต่เรญ่าก็ไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายเธอจึงลองที่จะทำตามคำขอนั้น
สองชั่วโมงผ่านไป
ภามได้ขอให้เรญ่ามาช่วยเขาประกอบกล้องวงจรปิดที่เพิ่งซื้อมาใหม่จากร้านค้าของพระเจ้า โดยที่เขาไม่ได้บอกกับเธอว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไร หลังจากนั้นเขาก็แนะนำวิธีใช้สิ่งของต่างๆในบ้านหลังนี้แก่เธอ ซึ่งมันก็ทำให้หญิงสาวผมดำคนนี้ทำตัวไม่ค่อยถูกอยู่เหมือนกัน
ไม่เพียงเท่านั้น ภามยังพาเรญ่าไปแนะนำตัวกับสมาชิกของฟาร์มทุกคนในเวลาอาหารเย็นที่โรงอาหาร แม้หลายๆคนจะรู้สึกกังวลที่เจ้านายปล่อยเธอออกมาใช้ชีวิตอย่างอิสระภายในไร่ แต่พวกเขาก็เงียบไว้ไม่ได้กล่าวสิ่งใดเพราะรู้อยู่แล้วว่าภามนั้นย่อมเตรียมแผนการไว้อย่างรอบคอบแล้ว
และสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ภามได้ทำในวันนี้ ก็คือการมอบบัตรสีเขียวที่หน้าตาเหมือนคีย์การ์ด ให้กับสมาชิกทุกคน รวมทั้งเรญ่าด้วย
“สิ่งนี้มันคืออะไรหรือขอรับท่านภาม?” อลันกล่าวถามขึ้นมาเป็นคนแรก
“นี่เรียกว่าคีย์การ์ด ใช้สำหรับผ่านเข้าออกฟาร์มแห่งนี้โดยที่ไม่ต้องมีข้านำทาง ต่อไปพวกเจ้าสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระแล้วนะ” ภามกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม สิ่งนี้เป็นไอเทมพิเศษที่พระเจ้าหัวม่วงเป็นคนสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อขายให้กับภามโดยเฉพาะ ในราคาเพียง 1 เหรียญทองต่อชิ้นเท่านั้น
“แล้วเจ้าแน่ใจเหรอว่าจะมอบมันให้กับข้า?” เรญ่ากล่าวโพล่งขึ้นมาต่อหน้าฝูงชน ที่ต่างก็ไม่ไว้ใจในตัวเธอ
“อื้ม…ข้าให้เจ้า” ภามตอบรับอย่างหนักแน่น
MANGA DISCUSSION