ภายในห้องรับแขกระดับ VVIP ตอนนี้ภามที่เพิ่งเดินเข้ามารู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เขารู้ว่าเด็กหญิงตรงหน้าไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรเขานอกจากจับจ้องมาเท่านั้น ก็ทำให้ขาที่กำลังจะก้าวต่อไปนั้นหยุดชะงักทันที ชายหนุ่มจึงได้แต่ต้องพูดออกไปเพื่อสลายแรงกดดันนั้น
“คือ…ท่าน…ผมนั้นไม่ได้สังกัดหน่วยนั้นแล้วครับ แม้แต่ก่อนที่จะตายผมก็ย้ายไปเป็นทหารพรานแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับจากประโยคที่เด็กสาวผมม่วงเอ่ยเรียกเขาด้วยความจริงจัง
“แต่ความสามารถของเจ้าก็ยังคงอยู่ เอาล่ะช่างมันเถอะ อย่างน้อยถือว่าจิตใจของเจ้านั้นแข็งแกร่งมากพอจะเป็นผู้ที่ถูกเลือกล่ะนะ มานั่งตรงนี้สิ” เด็กสาวผู้ทรงพลังกล่าวจนจบแล้วก็สลายความกดดันนั้นลง จนเหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่
“ขอบคุณครับ” ภามตอบรับอย่างง่ายดาย และเข้าไปนั่งที่เก้าอี้รับแขกตรงข้ามเด็กน้อย ตอนนี้ในใจของเขารู้สึกโล่งขึ้นมาทันที หลังจากแรงกดดันนั้นหายไป
สายตาของเด็กหญิงผมสีม่วงยังคงจดจ้องไปที่ภาม แต่การที่เธอไม่ได้กล่าวอะไรออกมามันทำให้เขารู้สึกอึดอัดแม้ว่าจะไม่มีพลังกดดันใดๆเลยก็ตาม ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน
“ท่านเป็นใครหรือครับ?” ภามกล่าวถามพร้อมจับจ้องไปที่ดวงตาสีม่วงของเด็กหญิงตรงหน้า
“…ข้าเป็นพระเจ้าของโลกใบนี้” เธอกล่าวออกมาด้วยสีหน้า และน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง
“พระเจ้า…อย่างงั้นเหรอ? แล้วคนที่ส่งผมมาที่นี่ในตอนแรกนั้นเป็นใครกันล่ะครับ?” ภามเริ่มสับสนไปหมดแล้ว ทำไมพระเจ้าถึงมีอีกองค์ หรือว่าโลกแห่งนี้จะมีพระเจ้าหลายองค์ นั่นก็เป็นสิ่งที่อดีตทหารจากต่างโลกนั้นอยากรู้มากในเวลานี้
เด็กสาวในชุดสีม่วงค่อยๆวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ แล้วก็กรอกตามองบนพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความรำคาญ
“เฮ้อ!”
“เอิ่ม…คือผมไม่ทราบจริงๆครับ” ภามได้แต่นั่งตัวเกร็งเมื่อเห็นท่าทางไม่พอใจของพระเจ้าองค์น้อย กลัวว่าเธอจะปลดปล่อยแรงกดดันนั้นออกมาเล่นงานเขาอีก
“หึ! เอาล่ะ ตั้งใจฟังให้ดีล่ะ ข้าจะพูดเพียงแค่ครั้งเดียว” พระเจ้ากลับมากล่าวอย่างเย็นชา และจ้องไปที่ภามด้วยสายตาไม่พอใจเล็กน้อย
“คะ…ครับ” เกษตรกรหนุ่มตอบรับด้วยความโล่งอกที่เธอไม่ได้ทำอะไรเขา
“ข้าคือพระเจ้าของโลกใบนี้ ส่วนพระเจ้าที่พาเจ้ามายังโลกนี้นางคือพระเจ้าฝึกหัด ซึ่งนางได้ถูกส่งตัวมาทำงานแทนข้าชั่วคราวในระหว่างที่ข้าไปพักร้อน และบังเอิญว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นที่โลกแห่งนี้เข้าพอดี พระเจ้าฝึกหัดจึงจำเป็นต้องใช้คำสั่งฉุกเฉินในระหว่างที่ข้าไม่อยู่ นั่นก็คือการอันเชิญผู้กล้าจากต่างโลกเพื่อมายับยั้งหายนะที่จะเกิดขึ้น และภาม เจ้าก็คือผู้กล้าคนนั้น” พระเจ้ากล่าวมายืดยาวเพื่อให้ชายหนุ่มเข้าใจเป้าหมายที่วิญญาณเขาได้ข้ามมิติมาอยู่ที่โลกนี้
อดีตทหารจากต่างโลกกำลังอึ้งกับข้อมูลที่เด็กหญิงพระเจ้าบอกแก่เขา ภามจำได้ว่าวันนั้นพระเจ้าโลลิฝึกหัดเคยบอกกับเขาประมาณว่า เพราะเขาเป็นคนรันทดที่ทำความดีเสียสละชีวิต พระเจ้าจึงตอบแทนด้วยการให้ชีวิตใหม่ และพร 3 ประการ แต่ไม่ได้บอกเรื่องผู้กล้าอะไรทั้งนั้น
“เอ่อ…แต่ว่า…” ชายหนุ่มอยากจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่ก็ต้องถูกขัดเสียก่อน
“ฟัง!…ให้จบก่อน” พระเจ้ากล่าวขัดขึ้น
“…ครับ” ภามก็ได้แต่ตอบรับ และตั้งใจฟังต่อ
“การที่พระเจ้าฝึกหัดเลือกวิญญาณของเจ้ามานั้น เป็นเพราะเจ้ามีคุณสมบัติพื้นฐานที่เหมาะสมกับการเป็นผู้กล้า ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ค่อยเข้าตาข้าเท่าไรก็เถอะ แต่เมื่อเจ้าขอพรข้อที่ต้องการใช้ชีวิตที่สงบสุข เรียบง่ายนั้น…มันทำให้เจ้าไม่สามารถทำงานของผู้กล้าได้น่ะสิ! มันจะไปมีประโยชน์อะไรที่เจ้ามาอยู่ที่นี่ และก็ไม่ต้องมาถามนะว่าหาวิญญาณคนอื่นมาแทนได้รึไม่ คำตอบก็คือไม่ได้! เพราะฉะนั้นตอนนี้ ภาม เจ้าจงเป็นผู้กล้าที่แท้จริงซะ!” พระเจ้าโลลิตัวน้อยตะโกนเสียงดังขึ้นๆเรื่อยๆ ด้วยต้องการระบายความอัดอั้นที่มีอยู่ในใจออกมาให้แก่ชายหนุ่มได้รับรู้
หลังจากที่ภามได้ยินเรื่องราวดังนั้นก็ถึงกับตาขวากระตุก เมื่อคิดย้อนกลับไปในวันที่พระเจ้าฝึกหัดผมดำที่ถักเปียน่ารักๆคนนั้นว่าการใช้ชีวิตเรียบง่ายพร้อมด้วยพลัง และสิ่งของอำนวยความสะดวกจากโลกก่อนนั้นคือรางวัลตอบแทนจากการเสียสละชีวิตเพื่อช่วยผู้คนมากมาย
‘แต่ในวันนี้ กลับมาบอกว่าทุกสิ่งที่ได้รับมานั้นต้องมีค่าแลกเปลี่ยน โดยการเป็นผู้กล้าไปกอบกู้โลกเนี่ยนะ! แต่ว่าด้วยพลังของเราเองก็ไม่อาจที่จะต่อต้านเธอได้’ ภามที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วก็รู้สึกช็อกไปเหมือนกัน
“นี่! เจ้าคงยังไม่ลืมไปหรอกนะว่าพระเจ้านั้นได้ยินสิ่งที่เจ้าคิดน่ะ” พระเจ้าผมม่วงทักชายหนุ่มที่ก้มหน้าเครียดกับเรื่องราวของตัวเอง
“….” ชายหนุ่มไม่อาจจะตอบสิ่งใดออกมาได้เลย
พระเจ้าในร่างเด็กหญิงตัวน้อยผมสีม่วง จับจ้องไปยังใบหน้าอันหม่นหมองของชายหนุ่มจากต่างโลก เธอไม่ได้เพียงได้ยินเสียงที่ภามคิดอยู่ในใจ แต่ยังรับรู้ถึงความรู้สึกในจิตใจเบื้องลึกของชายหนุ่มได้ด้วย
อดีตอันข่มขื่นสุดรันทดที่ผลักดันให้ภามได้กลายเป็นสุดยอดนักรบหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และมันก็ยังทำให้เขาย้ายไปเป็นทหารพรานที่เงินเดือนน้อยกว่า และชีวิตลำบากกว่าอย่างไม่ใยดีความก้าวหน้าเลยสักนิด และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้พระเจ้าตัวน้อยถึงกับยิ้มออกมาอย่างสะใจ
“ภาม…เจ้าไม่ต้องกังวลเกินไปนัก ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อยึดสิ่งที่มอบไปแล้วคืนจากเจ้า แต่ข้าจะขอบอกเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง ถ้าเจ้าไม่ทำหน้าที่ของผู้กล้าแล้วล่ะก็โลกนี้คงต้องจบสิ้น รวมทั้งความสงบสุข เรียบง่ายที่เจ้าต้องการก็ต้องพินาศไปด้วยเช่นเดียวกัน” คราวนี้พระเจ้าได้กล่าวเข้าเรื่องด้วยความจริงจัง
“ต้องเป็นผม…เท่านั้นสินะ” ภามยังคงก้มมองเท้าตัวเอง แต่เขาก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เด็กสาวตรงหน้าบอกมาได้ ทั้งฟาร์ม ทั้งผู้ช่วย และเพื่อนๆของเขารวมทั้งเมืองฮาเวสตี้จะต้องล่มสลาย หากเขาไม่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จ
“ใช่แล้ว เพราะการพาวิญญาณของคนจากโลกอื่นข้ามมายังโลกนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าไม่สามารถหาคนอื่นมาแทนได้ทันเวลาก่อนโลกนี้จะล่มสลาย ส่วนการมอบพรวิเศษข้าก็ไม่สามารถมอบให้ผู้อื่นได้แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามพรข้อที่ 3 ของเจ้า พลังที่ใช้เพื่อปกป้องคนที่รักนั่นเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ผู้กล้าเท่านั้นถึงจะมีได้ พระเจ้าน่ะไม่มีทางที่จะมอบพลังให้กับคนไร้ค่าหรอกนะ จงจำไว้ให้ดี” พระเจ้ากล่าวย้ำกับชายหนุ่มอีกครั้ง
“เฮ้อ!…แล้วตอนนี้ผมต้องทำยังไง?” ภามเงยหน้าขึ้นสบตากับพระเจ้าโลลิ ตอนนี้เขาจำเป็นต้องยอมรับชะตากรรม อย่างน้อยก็เพื่อปกป้องสิ่งสำคัญของตัวเอง
“สงครามที่เกิดขึ้นทางใต้ของอาณาจักรฟาร์เมียไม่ใช่เรื่องปกติ และมันมีปีศาจร้ายอยู่เบื้องหลัง ความจริงหน้าที่ของเจ้าก็คือกำจัดจอมมารเพื่อไม่ให้สงครามเกิดขึ้น แต่ว่าการเริ่มต้นในฐานะผู้กล้าของเจ้ามันล่าช้ามาเกือบปี ตอนนี้เจ้าคงต้องมีงานเพิ่มในการหยุดยั้งสงครามไปด้วย” พระเจ้าหยุดพูดเพื่อให้ภามได้ย่อยข้อมูล และขบคิดเรื่องราวความเป็นมาสักครู่
“จะให้ผมเข้าไปหยุดสงครามได้ยังไง? การต่อสู้ระหว่างอาณาจักรมนุษย์มีแต่คนด้วยกันทั้งนั้น ปีศาจที่บงการก็อยู่ไหนไม่รู้ แล้วถึงแม้จะหยุดสงครามครั้งนี้ได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าพวกเขายังจะรบกันต่ออยู่ดี” ภามที่ไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับสงครามครั้งนี้เลยได้แต่ถามออกมาเท่านั้น
“เจ้าเริ่มต้นแผนการเป็นผู้กล้าช้าไปก็จริง แต่ตัวเจ้านั้นมีความรู้ความสามารถด้านการรบมาแต่เดิมอยู่แล้ว อย่างแรกให้หาสหายร่วมรบซึ่งตอนนี้เจ้าก็รู้จักอยู่แล้วหลายคน อย่างที่สองข่าวสารต่างๆก็สามารถรวบรวมได้จากเมืองฮาเวสตี้นี่แหละ ที่สำคัญกลุ่มโอเมก้าก็เป็นหนึ่งในเบื้องหลังสงครามครั้งนี้ด้วย คงไม่มีปัญหาที่จะถอนรากถอนโคนพวกมันใช่ไหมภาม” กล่าวจบพระเจ้าก็สบสายตามีเลศนัยไปยังดวงตาที่เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างของชายหนุ่มตรงหน้า
MANGA DISCUSSION