เกมราชันสงครามออนไลน์ - ตอนที่ 86 ค้อนสั่นสะเทือน
นิยาย เกมราชั้นสงครามออนไลน์
ตอนที่ 86 ค้อนสั่นสะเทือน
“ผู้ประมูลหมายเลข 777” คนที่อยู่ใน เงาด้านหน้ากายกล่าว ก่อนจะเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้า ๆ ในมือถือกระดาษที่ขาดครึ่งไว้แผ่น
กายหยิบกระดาษที่ฉีกไว้ก่อนหน้านี้ออกมา ซึ่งมันเป็นเพียงการยืนยันตัวตน ง่าย ๆ กระดาษในมือของกายทาบไปพอดีกับลอยขาด ซึ่งถ้าผู้ประมูลหมาย เลข 69 คือตัวจริง มันก็ไม่มีอะไรผิดพลาดอยู่แล้ว
“ของอยู่ไหน” กายถามออกมา
“ตรงนั้น…แล้วของข้าละ” ผู้ประมูลหมายเลข 69 ชี้ไปที่ข้างถังขยะในเงา มืดของกําแพง มันมีกล่องไม้ที่นํามาวางไว้ล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว บนกล่องมีถุงผ้าใส่บางอย่างวางไว้อยู่ ด้วยไม่ต้องเดาก็รู้ว่านั้นคือ เหรียญทอง 2,500 เหรียญตามที่กายขอไป
กายพยักหน้าเป็นการบอกว่ารู้แล้ว เขาหยิบหินลูกบาศก์ที่ห่ออยู่ในห่อผ้าออก มาจากกระเป๋าในเสื้อโค้ต จากนั้นก็โยนให้กับผู้ประมูลหมายเลข 69
ผู้ประมูลหมายเลข 69 รีบมาอย่างง่ายดาย ก่อนจะรีบเปิดดูด้วยความพอใจ มันเตรียมจะหันหลังเดินจากไป แต่กายยังไม่หมดธุระ เขารีบถามผู้ประมูลหมายเลข 69ทันที
“เจ้าได้พิมพ์เขียวอะไร?”
คําถามนี้ทําเอาผู้ประมูลหมายเลข 69 หันมาตั้งท่าระวังกาย มือยื่นจับไปที่ข้าง กางเกงราวกับคว้าจับปืน กายที่เห็นถึงกับยืนนิ่ง เพราะเขาไม่คิดว่า NPC คนนี้จะมีปืนซ่อนไว้อยู่
ไม่ใช่ช่างโลหะธรรมดาซะแล้วสิ..
กายค่อย ๆ ยกมือขึ้นเป็นการบอกว่า ตัวเองไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร
“ข้าไม่มีเจตนาร้ายอะไร แต่รู้สึกเรื่องที่เกิดขึ้นในโถงประมูลวันนี้แปลกประหลาดเกินไป ราวกับมีใครกําลังใช้วัตถุดิบเพื่อตามหาบางอย่าง”
หมอนี่ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ..
ผู้ประมูลหมายเลข 69 มองไปที่กาย และกล่าว “เจ้าไม่ควรยุ่งเรื่องนี้ถ้าไม่รู้อะ ไร”
“ได้..ถ้างั้นพวกเราควรไปได้แล้วและหวังว่าจะได้พบกันอีก”
กายถอยหลังไปที่กล่องไม้อย่างระวัง ทางด้านผู้ประมูลหมายเลข 69 ก็ถอย ออกไปอีกฝั่งโดยไม่ละสายตาจากกายเช่นกัน จนกระทั่งทั้งสองแยกกันไปละทาง กายจึงรีบออกไปจากที่นี่พร้อมกับกล่องไม้ในมือที่หนักนับร้อยกิโลกรัม แต่กลายกลับถือมันวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งมาถึงที่ร้านไร้ขอบเขตก็เป็น เวลาเช้าพอดิบพอดี แสดงอาทิตย์ที่ยังขึ้นตรงเวลาสาดส่องแสกแรก กายก็เห็นว่ามีสองคนยืนรออยู่หน้าร้านแล้ว
“พวกเจ้าทําไมไม่เข้าไปในร้าน
“ท่านเดวิน” นาธานและมิล่าหันมา ทักทายกายด้วยความเคารพ ก่อนที่มิล่า จะพูดต่อว่า “ข้าพึ่งมาถึงเมื่อสักครู่ เลยยังไม่ได้เข้าไป”
“ช่างเถอะงั้นเข้าไปพร้อมข้า นาธานช่วยข้ายกกล่องไม่ใบนี้เข้าไปด้านในด้วย ส่วนเจ้ามิล่าไปที่ร้านอาหารประจําของข้าและซื้ออาหารมาสามชุดก็แล้วกัน วันนี้งานน่าจะยุ่งน่าดู”
“ค่ะท่านเดวิน” มิล่ารับคําก่อนจะรับเหรียญทองที่กายส่งมาและเดินไปที่ร้านอาหารที่กําลังเปิดแต่เช้า
ส่วนกายนั้นไขกุญแจเปิดประตูร้านเดิน เข้าไปด้านใน โดยมีนาธานถือกล่องไม้ ตามหลังมา
กายเข้ามาในโรงตีเหล็ก ก่อนจะให้นา ธานจุดไปที่เตาหลอมเตรียมทุกอย่างให้พร้อม วันนี้เขาจะลงมือหลอมสร้างค้อนสั่นสะเทือนขึ้นมา
กายเดินไปจัดเตรียมวัตถุดิบระหว่าง เฝ้ารอนาธานจัดการจุดเตาหลอม
ค้อนสั้นสะเทือนต้องใช้โลหะหลายชนิด สองอย่างที่หายากคือโลหะสันพ้อง และหินลูกบาศก์ที่เป็นหัวใจสําคัญ ส่วนแร่หินดํานั้นใช้ซ่อมเกราะเกล็ดทมิฬ กายยกมันออกไปวางด้านข้าง ก่อนจะหยิบวัตถุดิบอื่น ๆ ที่เตรียมไว้ก่อนหน้านั้นออกมา
“เจ้าออกไปด้านนอกพร้อมกับกล่องมี และดาบพวกนั้นจัดการใช่ด้ามและวางมันบนชั้น ส่วนที่เหลือให้เก็บไว้ในกล่องยังไม่ต้องขาย”
“ครับ”
“อย่าเข้ามาจนกว่าข้าจะเรียก” กายหันไปกับนาธานอีกครั้ง
นาธานไม่เข้าใจ แต่ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะออกไปด้านนอกและปิดประตูโรงตีเหล็กลง เหตุผลที่กายให้นาธานออกไปนั้น เพราะเขาไม่อยากจะมีเรื่องผิดพลาดในขั้นตอนการสร้าง แน่นอนว่ากายไม่อยากให้นาธานหรือใครมาเห็น เขาสร้างค้อนสั่นสะเทือนด้วย
กายหยิบหนังสือบันทึกช่างโลหะออกมาจากหน้าอกก่อนจะเปิดไปที่หน้า พิมพ์เขียวอ่านทวนทุกอย่างอีกรอบในระหว่างที่รออุณหภูมิของเตาหลอมคงที่
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงความร้อนในเตาหลอมก็มาถึงจุดหนึ่ง กายปิดหนังสือลุกขึ้นไปใส่ถ่านหินและไม้เพลิง เข้าไปอีกสามสี่ท่อน ก่อนจะเริ่มลงมือทํางาน
เราต้องหลอมแร่เหล็กและเอาพวกสิ่งสกปรกออกจากเนื้อของโลหะออกให้หมดก่อน จากนั้นก็ใส่โลหะสั่นพ้องเข้าไปหลอมขึ้นรูปอีกขึ้นด้วยแม่พิมพ์ กลายเป็นเหล็กดิบสั่นพ้อง และตามด้วยวัตถุดิบอีกสี่ห้าชนิดและนําพวกมันมาหลอมบีบอัดเข้ากับหินลูกบาศก์อีกครั้ง
ส่วนแม่พิมพ์นั้น…กายหันไปมองแม่พิมพ์ที่เขาสร้างรอไว้อยู่แล้วมันมีขนาดสองเมตรคูณสองเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่มากเป็นพิเศษ
กายใส่โลหะและมองพวกมันหลอมละลายด้วยอุณหภูมิที่สูง ก่อนจะยกกล่องไม้ ใส่โลหะสั่นพ้องลงไปตามจํานวนที่คํานวณเอาไว้
อุณหภูมิในโรงตีเหล็กสูงขึ้นและสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้แต่กายที่ทนทานกับ ความร้อนยังรอบปาดเหงื่อบนใบหน้า ก่อนจะหันไปตักถ่านหินและไม้เพลิงโยนเข้าไปที่เตาหลอมครั้งแล้วครั้งเล่า
ด้านนอกนาธานและมิล่านั้นรับรู้ได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นในร้านอย่างแปลกประหลาด ทั้งสองมองไปที่โรงตีเหล็กในทันที ยังดีที่พวกเขารู้ว่าโรงตีเหล็กนั้นมีการป้องกันที่ได้มาตรฐานมาก ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงคิดว่าไฟกําลังไม่ร้านแล้ว
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกอย่างหลอมเข้า ด้วยกันแล้วเนื้อของมันแดงฉานมีสีเทา แทรกตัวอย่างน่าแปลกประหลาด กายผลักคีมที่เป็นเหมือนคานยกทุ่นแรงเข้ามา ล็อกจับไปที่เบ้าหลอมโลหะ ก่อนจะออกแรงดึงล็อกอย่างสุดกําลังค่อย ๆ ขยับเบ้าหลอมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโลหะหลอมเหลว
กายเทเนื้อโลหะเหลวไหลลงในรูแม่พิมพ์ ปริมาณของโลหะหลอมเหลวนั้นพ อดีไม่ขาดไม่เกินไม่ล้นแม่พิมพ์ตามที่กายคํานวณไว้อย่างแม่นยํา
ก่อนที่เขาจะผลักเบ้าหลอมขนาดใหญ่กลับออกไป และมองดูแม่พิมพ์ด้านหน้าอย่างรอคอย
กายมองดูเวลาที่หน้าจอสถานะของตนอย่างใจจดใจจ่อไม่พลาดแม้แต่วินาทีเดียว ในมือก็กําค้อนคู่ใจอย่างแนบแน่น
“120 วินาที
“200 วินาที
“2,000 วินาที ตอนนี้แหละ”
เมื่อถึง 2,000 วินาทีกายก็ง้างค้อนตีเหล็กในมือร้องคํารามออก พร้อมกับใช้ศิลปะการต่อสู้ ทุบขั้น 2 ทุบสุดแรงไปที่แม่พิมพ์ดัง
ตูม!!!
แม่พิมพ์แตกกระจายออกในทันที่เผยให้เห็นวัตถุลูกบาศก์สีแดงด้านใน มันคือโลหะดิบสั่นพ้องที่พร้อมสําหรับขึ้นต่อไป
“ต้องทําให้มันเล็กลง” กายกัดฟันกลืนน้ําลาย เขารู้ว่างานนี้ไม่ง่ายอย่างแน่นอน..
3 ชั่วโมงต่อมากายยังคงอยู่ในโรงตีเหล็กไม่ได้ออกไปไหน ตอนนี้มีดสัhน 8 นิ้ว 12 นิ้วและดาบยาว 26 นิ้วขายครบจํานวนแล้ว ทําให้ร้านนั้นไม่มีลูกค้าอยู่ มิล่าและนาธานจึงว่างหลังจากนี้
ทั้งสองเงี่ยหูแนบชิดกับประตูหลังร้า นที่เชื่อมไปที่โรงตีเหล็ก เพื่อฟังว่ากาย กําลังทําอะไร แต่พวกเขากลับไม่ได้ยิน แม้แต่เสียงทุบเหล็กออกมาจากในโรงตีเหล็ก ซึ่งปกติแล้วหจะได้ยินมันเวลากายทํางาน
“ทําไมข้าได้ยินแต่เสียงท่านเดวิน เสียงท่านดูเหนื่อยมาก…ลองฟังสิ” นาธานพยายามบอกให้มิล่าฟัง
“แปลกมาก” มิล่าฟังแต่ก็ได้ยินแบบเดียวกับที่นาธานได้ยิน
กายที่ตอนนี้ร่างท่อนบนเปลือยเปล่า กําลังใส่หินลูกบาศก์เข้าไปในก้อนที่อยู่ ตรงหน้าก่อนจะนํามันไปเผาไฟอีกครั้งจนแดงฉาน และก็ทํางานทุบมันอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง
จนถึงตอนนี้หินลูกบาศก์ที่ใช้เข้าไป นั้นเป็นชิ้นสุดท้ายแล้ว
ค้อนในมือกายทุบต่อเนื่องไปที่โลหะ เพื่อบีบอันและขึ้นรูปเป็นค้อนสั่นสะเทือน แต่ความแรงของมันนั้นไม่ใช่การทุบปกติ แต่เป็นการทุบที่กายเปิดใช้งานศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจํากัด พละกําลัง ขั้น 1 แล้ว
กายสําเร็จศิลปะการต่อสู้พละกําลัง เมื่อสองวันก่อน ซึ่งนั้นรวมถึงทักษะขี่ม้าเบื้องต้นและศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจํากัด ความเร็วด้วย
เสียงค้อนที่กายทุบลงปะทะกับค้อน สั่นสะเทือนแต่ไม่ได้ส่งเสียงดังออกมา เพราะความพิเศษของค้อนสั่นสะเทือนที่ ตอนนี้กําลังเป็นรูปเป็นร่างของขึ้นมา ในการทุบลงไปแต่ละครั้งนั้นจะมีแรงสะท้อนส่งกลับมา และการสั่นไหวที่แปลกประหลาดทําลายเสียงรอบข้างไปจนหมดสิ้น
ตะวันตกดินทั้งนาธานและมิล่านั้นกลับ ไปแล้ว แต่กลายยังอยู่ในโรงตีเหล็ก ผม เฝ้ายุ่งเหยิง ดวงตาแดงกล่ํา ร่างกายโค ลงเคลง แขนทั้งสองข้างสั่นไว้เบา ๆ ขณะที่เขาหยุดนิ่งไม่ขยับไปไหน
ด้านหน้ามี ค้อนสั่นสะเทือนที่เสร็จสมบูรณ์วางอย่าง มันยังมีหยดของเหลวเปียกอยู่บนตัว เพราะพึ่งยกขึ้นผ่านการชุบแข็ง หัวค้อนใหญ่แทบเท่าสองศีรษะของคนธรรมดารวมกัน หัวค้อนและด้ามจับเป็นวัตถุชิ้นเดียวกัน วัดความยาวจากหัวค้อนสุดปลายได้หนึ่งเมตร
กายเดินเข้ามาเอาผ้าเช็ดไปที่ค้อนสั่นสะเทือน เผยให้เห็นสีของค้อนออกเทา ด้านเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษในรูปลักษณ์ของมัน
แต่กายรู้ว่าความธรรมของค้อนสั่นสะเทือนคือสิ่งที่ทําให้มันพิเศษ
“สถานะอาวุธ
“ค้อนสั่นสะเทือน”
“ระดับ 5 ขั้นสูงสุด”
“ความสัมพันธ์ 88%”
“ผู้สร้าง เดวิน”
ระดับ 5 ขั้นสูงสุดเทียบเท่าดาบเดซี่ แต่มูลค่าของมันมากกว่ามาก เพราะวัตถุดิบที่ใช้มากกว่าสองสามเท่า ความสัมพันธ์กับอาวุธ 88 เปอร์เซ็นต์ แบบนี้ค่อยคุ้มค่าเหนื่อย…
กายพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนในโรงตีเหล็กในทันทีด้วย ความเหนื่อยล้า โดยไม่สนใจว่าจะร้อนหรือเลอะเปรอะเปื้อนแม้แต่น้อย
เสียงกรนของกายกลบเสียงทั้งหมดใน โรงตีเหล็กจนหมด ในระหว่างนั้นหน้า หนังสือของบันทึกช่างโลหะก็เปิดขึ้นไปมาด้วยตนเอง
ลูกไฟสีฟ้าลอยออกมาจากหนังสือวนเวียนไปที่ค้อนสั่นสะเทือน ก่อนที่มันจะสัมผัสเบา ๆ ไปที่ตัวค้อนสั่นสะเทือน และลอยกลับเข้าไปในหนังสือเหมือนเช่นเคย
กายตื่นขึ้นมาบังคับร่างกายของตัวเองได้อีกครั้ง ตอนนี้ด้านนอกยังคงมืดอยู่ เพราะมันพึ่งผ่านมาสองสามชั่วโมง ตั้งแต่ที่กายนอนหมดแรงไป
“หิวเป็นบ้าเลย”
ชายหนุ่มลูบท้องของตนเอง ก่อนจะลุกและเดินออกไปที่ร้าน มันมีอาหารที่เขาฝากมิล่าซื้อไว้อยู่ ซึ่งตอนนี้เย็นจืดชืดไปหมดแล้ว แต่กายไม่รอช้ากลืนกินมันจนหมด เขาถึงบรรเทาอาการหิวลงได้
กายมองดูสภาพที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลและเศษผงตามตัว กับความเหนียวเหนอะหนะ ทําให้เขารู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก เขามองไปที่ถึงนี้ในห้องน้ําก่อนจะเดินไปจัดแจงลากพวกมันเติมน้ําจนเต็ม กายไม่ได้แช่น้ําอุ่น เพราะในวันนี้เขาอยู่กับความร้อนมาทั้งวัน
เขาหย่อนตัวเองลงไปในน้ําเย็น ๆ ในถัง สองมือจับขอบข้างถึงถอนหายใจ อย่างผ่อนคลายปล่อยใจไปกับการแช่น้ําเย็น ๆ ซึ่งทําให้ผิวที่แสบร้อนจากความร้อนรู้สึกดีขึ้นมา
“อีกสิบเอ็ดวันข้าก็ต้องออกเดินทางไปทําภารกิจแล้ว เราซ่อมเกราะเกล็ดทมิฬ ให้เสร็จและไปซื้อมาที่คอกม้าเฟรเดริกด้วย”