เกมราชันสงครามออนไลน์ - ตอนที่ 81 ออร่าตกค้าง
นิยาย เกมราชั้นสงครามออนไลน์ ตอนที่ 81 ออร่าตกค้าง หลังจากนำม้าไปคืนที่คอกม้าเฟรเดริกกายก็ตรงกลับร้านไร้ขอบเขตในทันทีกายจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำจนกระทั่ง 4 ทุ่มตรงกายก็ลงไปที่โรงตีเหล็กหลังร้านและลงมือจัดการของรางวัลที่ได้มาในวันนี้ กายเริ่มจากธนูโลหะระดับ 4 พอเปิดกล่องไม้ด้านในมีธนูโลหะที่ยังไม่ขึ้นสายยาวปีกบนถึงปีกร่างประมาณ 1.4 เมตรซึ่งถือว่ายาวมากพอสมควรแต่ด้วยส่วนสูงของกายก็สามารถใช้ธนูโลหะนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาด้านในกล่องยังมีลูกศรโลหะ 12 ดอกที่มีหัวศรเงางามถ้าโดนศรพวกนี้ยิงใส่พร้อมด้วยศิลปะการต่อสู้เจาะทะลวงบางที่เกราะเกล็ดทมิฬคงไม่อาจจะต้านมันได้ นอกจากนั้นยังมีสายธนูที่ทำจากเอ็นของสัตว์ถักทอกับเส้นโลหะและสายขึ้นคันพร้อมด้วยอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็นต้องบอกว่าในกล่องมีของทุกอย่างครบครันเลยทีเดียว “ค่าสถานะอาวุธ” “ธนูโลหะของกองทัพนครดาราฟ้า” “ระดับ4” “ความสัมพันธ์กับธนู15%” “ผู้สร้างเอ็กกัส” “เอ็กกัสคงจะเป็นช่างโลหะที่ทำงานให้กับกองทัพของนครดาราฟ้า”กายไม่รู้จักช่างโลหะคนนี้แต่ธนูนี่ถูกสร้างมานานแล้วบางทีช่างโลหะที่ชื่อเล็กกัสอาจจะกลายเป็นอาจารย์ช่างโลหะไปแล้ว กายวางมือลูบไปตามคันธนูโลหะที่เย็นยะเยือกก่อนจะดึงมือกลับปิดฝากล่องไม้และหันไปสนใจที่กล่องของดาบหักสังหาร ทันทีที่กายเปิดฝากล่องขึ้นมามันก็รู้สึกราวกับบรรยากาศในห้องหนาวเย็นนมาอย่างผิดปกติกายถึงกับหรี่ตามองภายใต้แสงของตะเกียงน้ำมันไฟเนื่องจากตัวดาบหักสังหารที่วางอยู่ในกล่องนมันเหมือนกับมีคราบเลือดเปื้อนเปรอะอยู่ทันใดนั้นเลือดก็ไหลทะลักออกจากกล่องตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนที่ดังไปทั่วทั้งโรงตีเหล็กนี่มัน… กายหันหลังไปมองรอบห้องตอนนี้รอบตัวของกายเป็นสนามรบไปแล้วมันมีแต่การฆ่าฟันสงครามและความตายกลิ่นเน่าของซากศพที่ทับถมกันแต่ผ่านไปไม่ถึงสามวินาทีภาพทุกอย่างก็หายไป เดี๋ยวไม่ถูกต้อง… ในตอนนั้นเองกายก็ต้องตกใจเพราะมันพึ่งรู้ตัวว่ามือของตนไม่ได้จับที่ฝากล่องแต่กำลังถือดาบหักสังหารอยู่ในมือกายจับไปที่ดาบหักสังหารและถือขึ้นมาตอนไหนก็ไม่ทราบ กายวางดาบหักสังหารลงในทันที “ภาพลวงตาไม่น่าใช่น่าจะเป็นออร่าของดาบที่ยังหลงเหลืออยู่และเป็นอิทธิพลจากดาบที่เคยเป็นระดับ7หรือ8มาก่อนแม้ระดับมันจะต่ำลงมาบ้างแต่สิ่งที่ดาบเคยสังหารผู้คนและสิ่งชีวิตไปจำนวนมากนั้นไม่อาจจะปฏิเสธได้” สายตาของเขาจับจ้องไปที่ดาบก่อนจะตัดสินใจยกดาบขึ้นมาอีกครั้งมันไม่มีภาพลวงตาหรือออร่าที่สะกดกายอีก น่าสนใจ… กายถือดาบและวิเคราะห์มัน “หลังจากที่ดาบช่วงปลายหักครึ่งไปก็เหลือความยาวแค่30นิ้วถ้าดาบยังไม่หักมันคงยาวเหมือนพวกดาบฟันขาม้าที่ยาวถึง4748นิ้วแต่ก็ถือว่ายาวมากสำหรับดาบทั่วไปแล้วดังนั้นต่อให้หักไปก็คงจะไม่มีปัญหาถ้าดาบสามารถซ่อมแซมได้และมีจิตวิญญาณในดาบอีกครั้งมันน่าจะสามารถกลับไปที่ระดับเดิมได้แต่ตอนนี้เรายังไม่ไม่สามารถทำได้..” “ถึงจะเป็นแบบนั้นดาบนี้ถ้านับในเรื่องวัสดุมันก็คือดาบที่มีวัสดุเทียบเท่าระดับ7หรือไม่ก็8สามารถเทียบเท่ากับดาบระดับ5ขั้นสูงสุดได้สบายส่วนสีมันเป็นสีดำเทาออกสีคล้ำของเลือดหน่อยๆน่าจะมาจากสีของเลือดที่แห้งติดกับดาบในตอนที่เจ้าของคนก่อนใช้มันสู้รบในสงครามหรือไม่ก็อาจจะเพราะตัวดาบที่แช่อยู่ในเลือดและซากศพของสงครามจนกระทั่งใครสักคนไปเจอมันแต่เบื้องบนของสถาบันกลับประเมินมันเป็นแค่สมบัติระดับ5ที่สามารถมอบให้กับนักเรียนของสถาบันเป็นรางวัลได้น่าจะเพราะศักยภาพของดาบมีจำกัดแต่เราก็ชอบมัน” กายเหวี่ยงดาบไปมาเพื่อทดสอบสองสามครั้งแม้น้ำหนักขนาด40กิโลกรัมจะทำให้ท่าทางของกายเงอะงะไปบ้างแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะกายกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกปิดจำกัดพละกำลัง “สถานะอาวุธ” “ดาบหักสังหาร(เสียหาย)” “ระดับ5/9” “ความสัมพันธ์กับดาบ 40%” “ผู้สร้างโดโก” กายมองค่าความสัมพันธ์ที่สูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ สูงมากบางที่อาจจะเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนแรกถ้าใช้มันจนชินมีออาจจะมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์…ส่วน 5/9 ตัวหน้าน่าจะหมายถึงระดับของอาวุธในปัจจุบันถ้าอย่างนั้นตัวเลขข้างหลังคือระดับก่อนที่มันจะเสียหาย เฮ้ย..เดี๋ยวสิใหนข้อมูลที่เขียนหน้ากล่องไม้บอกว่ามันอาจจะเป็นระดับ7หรือไม่ก็8แต่นี่มันระดับ 9 “ฮ่า!ๆสุดยอด!!…เราได้ดาบเสียหายระดับ 9 มา”กายยิ้มไม่หุบมันรู้สึกพอใจและไม่ผิดหวังที่ตัดสินใจเลือกดาบหักสังหารถ้าไม่ใช่ผู้เล่นที่เรียกค่าสถานะของอาวุธมาตรวจสอบได้ก็ยากที่จะบอกว่าดาบเล่มนี้เป็นระดับ 9 มาก่อน “ถึงว่าทำไมออร่าที่ตกค้างในดาบถึงส่งผลต่อรุนแรงต่อเราแม้จะเพียงแค่เปิดมันขึ้นมาในตอนแรกจนมันสะกดให้เราถือดาบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวถ้ามันสมบูรณ์จะมีพลังขนาดไหน” เมื่อเก็บดาบหักสังหารเข้าไปที่เดิมกายก็ตัดสินใจจะเอาม้วนสำเนาของศิลปะการต่อสู้ขึ้นไปอ่านที่ห้องนอนเพราะตอนนี้ยังพอมีเวลาให้กายอ่านอยู่ก่อนที่จะถึงเที่ยงคืน ม้วนสำเนาศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดเปิดออกมันมีบันทึกตั้งแต่ขั้น1ไปจนถึงขั้น 3 ซึ่งถ้ากายเลือกม้วนที่เป็นระดับ 4 มันก็จะบันทึกไปจนถึงระดับ 4 แทนที่จะแยกไปหนึ่งม้วนสำเนาต่อหนึ่งขั้นม้วนสำเนาที่ทางสถาบันศาสตร์นักรบทำขึ้นมักจะเป็นแบบนี้เพื่อให้นักเรียนโดยเฉพาะ กายไม่สนใจเพราะไม่ว่าอย่างไหนเขาก็ยินดีที่ได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้พวก สิ่งที่บันทึกไว้นั้นเป็นศิลปะการต่อสู้ดังเดิมที่สุดนั้นหมายถึงมันมีแต่เนื้อหาโดยตรงไม่ได้มีความเห็นหรือการดัดแปลงอะไรจากนักรบคนอื่นๆดังนั้นถ้ากายจะฝึกก็ต้องไปวิเคราะห์และตีความเอาเอง แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียวเพราะในบางครั้งการเรียนรู้ด้วยตนเองแม้มันจะยากแต่ก็กลายเป็นการปูพื้นฐานในศิลปะการต่อสู้นั้นๆได้อย่าง “อ่านเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น 1” “อ่านเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น 2” “อ่านเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น 3” กายกวาดสายตาไปตามม้วนสำเนาก็มีข้อความแจ้งเตือนจากระบบขึ้นมา ถ้าเรียนกับ NPC จะต้องสั่งการสอนถ้าอ่านจากม้วนสำเนาหรือหนังสือก็เพียงแค่อ่านสินะแต่จากการสอนค่าประสบการณ์จะพัฒนาขึ้นไปพร้อมกันส่วนอ่านจากหนังสือหรือม้วนสำเนาจะต้องอ่านให้จบก่อนถึงจะฝึกเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ได้ กายไม่รอช้าลงมืออ่านในทันที… จนกระทั่งเที่ยงคืนมาเยือนก็หมดในโลกราชันของวันนี้แล้ว เวลา 00:00 วันที่ 26 เมษายนปีที่ 70 หรือตรงกับเวลาในโลกราชันก็คือวันที่ 9 เดือน 2 ปีดาราที่ 997 ในโลกราชัน หลังจากกายล็อกอินออกไปและเข้ามาเล่นในอีกวันตัวของกายยังถือม้วนสำเนาไว้อยู่ สองสัปดาห์ที่เข้าเล่นเกมราชันมันเหมือนผ่านมาเดือนกว่าไม่มีผิดคงต้องบอกเพราะเราเริ่มชินการใช้ชีวิตในโลกราชันมากกว่าโลกภายนอกมากแล้ว… กายยิ้มมุมปากก่อนจะส่ายหัวแล้วหันมาอ่านม้วนสำเนาที่อยู่ในมือต่อ “การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังนั้นคือการเพิ่มพละให้กับร่างกายเป็นหนึ่งในการฝึกฝนร่างกายที่สืบทอดมาจากโบราณว่ากันว่าร่างเนื้อของมนุษย์แฝงไว้ด้วยความสามารถที่ไม่อาจจะคาดเดาเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ…” “สิ่งมีชีวิตอื่นนั้นสืบทอดวิธีการควบคุมพวกมันผ่านสัญชาตญาณ….มนุษย์เรานั้นไม่ใช่ดังนั้นเราจึงหาทางและฝึกฝนจนในที่สุดก็เป็นรูปแบบของการปลดล็อกขีดจำกัดเหตุที่ต้องแบ่งเป็นชั้นก็เพื่อรักษาสมดุลและการทำให้ร่างกายเคยชินเพราะไม่เช่นนั้นร่างอาจจะระเบิดออกเป็นชิ้นๆได้จากการฝืนข้ามขีดจำกัดของระดับ” “ขั้นแรกของการฝึกฝนคือรูปแบบเพิ่มพลังให้กับร่างกาย…หลังจากการสำเร็จขั้นที่หนึ่งพละกำลังจะเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์จากปกติ…” กายอ่านการจนจบขั้นแรกในตอนนั้นเองข้อความของระบบก็ดังขึ้น “ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้นที่1สำเร็จ” แต่เขายังไม่หยุดแค่นั้นกายยังอ่านขั้นที่สองต่อไปจนกระทั่งข้อความของระบบดังขึ้นมาอีกครั้ง “ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้นที่2สำเร็จ” กายเลือนสายตาไปที่ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น3แต่แล้วก็เกิดบางสิ่งขึ้นนั้นก็คือเขาไม่สามารถอ่านมันได้พูดให้ถูกคือแม้จะอ่านแต่ไม่อาจจะเข้าใจภาพจำมันจะเบลอหายไปในเวลาไม่กี่วินาที “เป็นแบบเดียวกับครั้งที่เราอ่านทุบขั้น3ตอนที่ยังฝึกฝนไม่ถึงขั้น2นั้นหมายความว่าต้องฝึกฝนศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังจนถึงขั้นที่2ก่อนถึงจะอ่านขั้นต่อไปได้แต่ถ้าทำไม่ได้ต่อให้มีขั้น3หรือขั้นอื่นๆมันก็เป็นเพียงกระดาษที่ไร้ค่า เมื่อรู้ดังนั้นกายก็ไม่ฝืนอ่านต่อเขาหยิบม้วนสำเนาศิลปะการต่อสู้ความเร็วขึ้นมาอ่านต่อซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะมีเนื้อหาคล้ายกับของการปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังเพียงแต่การฝึกฝนเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้น “ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดความเร็วขั้นที่1สำเร็จ” “ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดความเร็วขั้นที่2สำเร็จ” และก็เหมือนเช่นเคยกายไม่สามารถอ่านเนื้อหาของขั้นที่3ได้เหมือนกับศิลปะการต่อสู้ก่อนหน้า กว่าจะรู้ตัวตอนนี้ก็เป็นเวลาตี2ครึ่งในโลกราชันแล้วกายดับตะเกียงน้ำมันไฟและหลับตาลงนอนแม้เขาจะเป็นนักรบฝึกหัดขั้น2แล้วแต่ก็ควรจะพักผ่อนบ้าง เช้าวันต่อมาทั้งนาธานและมิล่าต่างมาที่ร้านก่อนเวลาเปิดหนึ่งชั่วโมงส่วนหนี้งก็เพื่อเข้ามาช่วยกายในโรงตีเหล็กและสังเกตการทำงานของกายเพื่อเรียนรู้ กายไม่ได้ห้ามและนั้นทำให้การทำงานของเขาเร็วขึ้นไปอีกเมื่อมีผู้ช่วย… การทำงานหยุดลงจนกระทั่งช่างไม้กิลเดินทางมาถึงของและกล่องไม้ยังไม่ต่างจากเดิมมากนักช่างไม้กิลยังทำมามากกว่าเดิมอีกเท่าตัวนอกจากนั้นยังมีพวกสายและเครื่องหนังพร้อมด้วยปลอกมีดสั้นกายให้มิล่าจัดพวกมันไปวางที่มุมหนึ่งของชั้นวางของภายในร้านที่จัดเตรียมไว้ หลังจากทุกอย่างจัดการเสร็จกายก็ปล่อยให้มิล่าและนาธานอยู่หน้าร้านส่วนตัวเขานั้นกลับไปที่โรงตีเหล็กหลังร้านในสถานที่ร้อนระอุที่สุดก่อนจะจัดการเก็บกวาดของจนมีพื้นที่กว้างให้สามารถทำการฝึกฝนได้ “ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น 0/2(0%)”กายนึกถึงวิธีการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่เคยอ่านมาเมื่อคืนนี้ กายหลับตาลงปรับรูปแบบการหายใจและเริ่มรวบรวมพละกำลังของร่างกายที่มีทั้งหมด…
นิยาย เกมราชั้นสงครามออนไลน์
ตอนที่ 81 ออร่าตกค้าง
หลังจากนำม้าไปคืนที่คอกม้าเฟรเดริกกายก็ตรงกลับร้านไร้ขอบเขตในทันทีกายจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำจนกระทั่ง 4 ทุ่มตรงกายก็ลงไปที่โรงตีเหล็กหลังร้านและลงมือจัดการของรางวัลที่ได้มาในวันนี้
กายเริ่มจากธนูโลหะระดับ 4 พอเปิดกล่องไม้ด้านในมีธนูโลหะที่ยังไม่ขึ้นสายยาวปีกบนถึงปีกร่างประมาณ 1.4 เมตรซึ่งถือว่ายาวมากพอสมควรแต่ด้วยส่วนสูงของกายก็สามารถใช้ธนูโลหะนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาด้านในกล่องยังมีลูกศรโลหะ 12 ดอกที่มีหัวศรเงางามถ้าโดนศรพวกนี้ยิงใส่พร้อมด้วยศิลปะการต่อสู้เจาะทะลวงบางที่เกราะเกล็ดทมิฬคงไม่อาจจะต้านมันได้
นอกจากนั้นยังมีสายธนูที่ทำจากเอ็นของสัตว์ถักทอกับเส้นโลหะและสายขึ้นคันพร้อมด้วยอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็นต้องบอกว่าในกล่องมีของทุกอย่างครบครันเลยทีเดียว
“ค่าสถานะอาวุธ”
“ธนูโลหะของกองทัพนครดาราฟ้า”
“ระดับ4”
“ความสัมพันธ์กับธนู15%”
“ผู้สร้างเอ็กกัส”
“เอ็กกัสคงจะเป็นช่างโลหะที่ทำงานให้กับกองทัพของนครดาราฟ้า”กายไม่รู้จักช่างโลหะคนนี้แต่ธนูนี่ถูกสร้างมานานแล้วบางทีช่างโลหะที่ชื่อเล็กกัสอาจจะกลายเป็นอาจารย์ช่างโลหะไปแล้ว
กายวางมือลูบไปตามคันธนูโลหะที่เย็นยะเยือกก่อนจะดึงมือกลับปิดฝากล่องไม้และหันไปสนใจที่กล่องของดาบหักสังหาร
ทันทีที่กายเปิดฝากล่องขึ้นมามันก็รู้สึกราวกับบรรยากาศในห้องหนาวเย็นนมาอย่างผิดปกติกายถึงกับหรี่ตามองภายใต้แสงของตะเกียงน้ำมันไฟเนื่องจากตัวดาบหักสังหารที่วางอยู่ในกล่องนมันเหมือนกับมีคราบเลือดเปื้อนเปรอะอยู่ทันใดนั้นเลือดก็ไหลทะลักออกจากกล่องตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนที่ดังไปทั่วทั้งโรงตีเหล็กนี่มัน…
กายหันหลังไปมองรอบห้องตอนนี้รอบตัวของกายเป็นสนามรบไปแล้วมันมีแต่การฆ่าฟันสงครามและความตายกลิ่นเน่าของซากศพที่ทับถมกันแต่ผ่านไปไม่ถึงสามวินาทีภาพทุกอย่างก็หายไป
เดี๋ยวไม่ถูกต้อง…
ในตอนนั้นเองกายก็ต้องตกใจเพราะมันพึ่งรู้ตัวว่ามือของตนไม่ได้จับที่ฝากล่องแต่กำลังถือดาบหักสังหารอยู่ในมือกายจับไปที่ดาบหักสังหารและถือขึ้นมาตอนไหนก็ไม่ทราบ
กายวางดาบหักสังหารลงในทันที
“ภาพลวงตาไม่น่าใช่น่าจะเป็นออร่าของดาบที่ยังหลงเหลืออยู่และเป็นอิทธิพลจากดาบที่เคยเป็นระดับ7หรือ8มาก่อนแม้ระดับมันจะต่ำลงมาบ้างแต่สิ่งที่ดาบเคยสังหารผู้คนและสิ่งชีวิตไปจำนวนมากนั้นไม่อาจจะปฏิเสธได้”
สายตาของเขาจับจ้องไปที่ดาบก่อนจะตัดสินใจยกดาบขึ้นมาอีกครั้งมันไม่มีภาพลวงตาหรือออร่าที่สะกดกายอีก
น่าสนใจ…
กายถือดาบและวิเคราะห์มัน
“หลังจากที่ดาบช่วงปลายหักครึ่งไปก็เหลือความยาวแค่30นิ้วถ้าดาบยังไม่หักมันคงยาวเหมือนพวกดาบฟันขาม้าที่ยาวถึง4748นิ้วแต่ก็ถือว่ายาวมากสำหรับดาบทั่วไปแล้วดังนั้นต่อให้หักไปก็คงจะไม่มีปัญหาถ้าดาบสามารถซ่อมแซมได้และมีจิตวิญญาณในดาบอีกครั้งมันน่าจะสามารถกลับไปที่ระดับเดิมได้แต่ตอนนี้เรายังไม่ไม่สามารถทำได้..”
“ถึงจะเป็นแบบนั้นดาบนี้ถ้านับในเรื่องวัสดุมันก็คือดาบที่มีวัสดุเทียบเท่าระดับ7หรือไม่ก็8สามารถเทียบเท่ากับดาบระดับ5ขั้นสูงสุดได้สบายส่วนสีมันเป็นสีดำเทาออกสีคล้ำของเลือดหน่อยๆน่าจะมาจากสีของเลือดที่แห้งติดกับดาบในตอนที่เจ้าของคนก่อนใช้มันสู้รบในสงครามหรือไม่ก็อาจจะเพราะตัวดาบที่แช่อยู่ในเลือดและซากศพของสงครามจนกระทั่งใครสักคนไปเจอมันแต่เบื้องบนของสถาบันกลับประเมินมันเป็นแค่สมบัติระดับ5ที่สามารถมอบให้กับนักเรียนของสถาบันเป็นรางวัลได้น่าจะเพราะศักยภาพของดาบมีจำกัดแต่เราก็ชอบมัน”
กายเหวี่ยงดาบไปมาเพื่อทดสอบสองสามครั้งแม้น้ำหนักขนาด40กิโลกรัมจะทำให้ท่าทางของกายเงอะงะไปบ้างแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะกายกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกปิดจำกัดพละกำลัง
“สถานะอาวุธ”
“ดาบหักสังหาร(เสียหาย)”
“ระดับ5/9”
“ความสัมพันธ์กับดาบ 40%”
“ผู้สร้างโดโก”
กายมองค่าความสัมพันธ์ที่สูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์
สูงมากบางที่อาจจะเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนแรกถ้าใช้มันจนชินมีออาจจะมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์…ส่วน 5/9 ตัวหน้าน่าจะหมายถึงระดับของอาวุธในปัจจุบันถ้าอย่างนั้นตัวเลขข้างหลังคือระดับก่อนที่มันจะเสียหาย
เฮ้ย..เดี๋ยวสิใหนข้อมูลที่เขียนหน้ากล่องไม้บอกว่ามันอาจจะเป็นระดับ7หรือไม่ก็8แต่นี่มันระดับ 9
“ฮ่า!ๆสุดยอด!!…เราได้ดาบเสียหายระดับ 9 มา”กายยิ้มไม่หุบมันรู้สึกพอใจและไม่ผิดหวังที่ตัดสินใจเลือกดาบหักสังหารถ้าไม่ใช่ผู้เล่นที่เรียกค่าสถานะของอาวุธมาตรวจสอบได้ก็ยากที่จะบอกว่าดาบเล่มนี้เป็นระดับ 9 มาก่อน
“ถึงว่าทำไมออร่าที่ตกค้างในดาบถึงส่งผลต่อรุนแรงต่อเราแม้จะเพียงแค่เปิดมันขึ้นมาในตอนแรกจนมันสะกดให้เราถือดาบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวถ้ามันสมบูรณ์จะมีพลังขนาดไหน”
เมื่อเก็บดาบหักสังหารเข้าไปที่เดิมกายก็ตัดสินใจจะเอาม้วนสำเนาของศิลปะการต่อสู้ขึ้นไปอ่านที่ห้องนอนเพราะตอนนี้ยังพอมีเวลาให้กายอ่านอยู่ก่อนที่จะถึงเที่ยงคืน
ม้วนสำเนาศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดเปิดออกมันมีบันทึกตั้งแต่ขั้น1ไปจนถึงขั้น 3 ซึ่งถ้ากายเลือกม้วนที่เป็นระดับ 4 มันก็จะบันทึกไปจนถึงระดับ 4 แทนที่จะแยกไปหนึ่งม้วนสำเนาต่อหนึ่งขั้นม้วนสำเนาที่ทางสถาบันศาสตร์นักรบทำขึ้นมักจะเป็นแบบนี้เพื่อให้นักเรียนโดยเฉพาะ
กายไม่สนใจเพราะไม่ว่าอย่างไหนเขาก็ยินดีที่ได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้พวก
สิ่งที่บันทึกไว้นั้นเป็นศิลปะการต่อสู้ดังเดิมที่สุดนั้นหมายถึงมันมีแต่เนื้อหาโดยตรงไม่ได้มีความเห็นหรือการดัดแปลงอะไรจากนักรบคนอื่นๆดังนั้นถ้ากายจะฝึกก็ต้องไปวิเคราะห์และตีความเอาเอง
แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียวเพราะในบางครั้งการเรียนรู้ด้วยตนเองแม้มันจะยากแต่ก็กลายเป็นการปูพื้นฐานในศิลปะการต่อสู้นั้นๆได้อย่าง
“อ่านเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น 1”
“อ่านเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น 2”
“อ่านเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น 3”
กายกวาดสายตาไปตามม้วนสำเนาก็มีข้อความแจ้งเตือนจากระบบขึ้นมา
ถ้าเรียนกับ NPC จะต้องสั่งการสอนถ้าอ่านจากม้วนสำเนาหรือหนังสือก็เพียงแค่อ่านสินะแต่จากการสอนค่าประสบการณ์จะพัฒนาขึ้นไปพร้อมกันส่วนอ่านจากหนังสือหรือม้วนสำเนาจะต้องอ่านให้จบก่อนถึงจะฝึกเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ได้
กายไม่รอช้าลงมืออ่านในทันที…
จนกระทั่งเที่ยงคืนมาเยือนก็หมดในโลกราชันของวันนี้แล้ว
เวลา 00:00 วันที่ 26 เมษายนปีที่ 70 หรือตรงกับเวลาในโลกราชันก็คือวันที่ 9 เดือน 2 ปีดาราที่ 997 ในโลกราชัน
หลังจากกายล็อกอินออกไปและเข้ามาเล่นในอีกวันตัวของกายยังถือม้วนสำเนาไว้อยู่
สองสัปดาห์ที่เข้าเล่นเกมราชันมันเหมือนผ่านมาเดือนกว่าไม่มีผิดคงต้องบอกเพราะเราเริ่มชินการใช้ชีวิตในโลกราชันมากกว่าโลกภายนอกมากแล้ว…
กายยิ้มมุมปากก่อนจะส่ายหัวแล้วหันมาอ่านม้วนสำเนาที่อยู่ในมือต่อ
“การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังนั้นคือการเพิ่มพละให้กับร่างกายเป็นหนึ่งในการฝึกฝนร่างกายที่สืบทอดมาจากโบราณว่ากันว่าร่างเนื้อของมนุษย์แฝงไว้ด้วยความสามารถที่ไม่อาจจะคาดเดาเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ…”
“สิ่งมีชีวิตอื่นนั้นสืบทอดวิธีการควบคุมพวกมันผ่านสัญชาตญาณ….มนุษย์เรานั้นไม่ใช่ดังนั้นเราจึงหาทางและฝึกฝนจนในที่สุดก็เป็นรูปแบบของการปลดล็อกขีดจำกัดเหตุที่ต้องแบ่งเป็นชั้นก็เพื่อรักษาสมดุลและการทำให้ร่างกายเคยชินเพราะไม่เช่นนั้นร่างอาจจะระเบิดออกเป็นชิ้นๆได้จากการฝืนข้ามขีดจำกัดของระดับ”
“ขั้นแรกของการฝึกฝนคือรูปแบบเพิ่มพลังให้กับร่างกาย…หลังจากการสำเร็จขั้นที่หนึ่งพละกำลังจะเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์จากปกติ…”
กายอ่านการจนจบขั้นแรกในตอนนั้นเองข้อความของระบบก็ดังขึ้น
“ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้นที่1สำเร็จ”
แต่เขายังไม่หยุดแค่นั้นกายยังอ่านขั้นที่สองต่อไปจนกระทั่งข้อความของระบบดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้นที่2สำเร็จ”
กายเลือนสายตาไปที่ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น3แต่แล้วก็เกิดบางสิ่งขึ้นนั้นก็คือเขาไม่สามารถอ่านมันได้พูดให้ถูกคือแม้จะอ่านแต่ไม่อาจจะเข้าใจภาพจำมันจะเบลอหายไปในเวลาไม่กี่วินาที
“เป็นแบบเดียวกับครั้งที่เราอ่านทุบขั้น3ตอนที่ยังฝึกฝนไม่ถึงขั้น2นั้นหมายความว่าต้องฝึกฝนศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังจนถึงขั้นที่2ก่อนถึงจะอ่านขั้นต่อไปได้แต่ถ้าทำไม่ได้ต่อให้มีขั้น3หรือขั้นอื่นๆมันก็เป็นเพียงกระดาษที่ไร้ค่า
เมื่อรู้ดังนั้นกายก็ไม่ฝืนอ่านต่อเขาหยิบม้วนสำเนาศิลปะการต่อสู้ความเร็วขึ้นมาอ่านต่อซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะมีเนื้อหาคล้ายกับของการปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังเพียงแต่การฝึกฝนเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้น
“ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดความเร็วขั้นที่1สำเร็จ”
“ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดความเร็วขั้นที่2สำเร็จ”
และก็เหมือนเช่นเคยกายไม่สามารถอ่านเนื้อหาของขั้นที่3ได้เหมือนกับศิลปะการต่อสู้ก่อนหน้า
กว่าจะรู้ตัวตอนนี้ก็เป็นเวลาตี2ครึ่งในโลกราชันแล้วกายดับตะเกียงน้ำมันไฟและหลับตาลงนอนแม้เขาจะเป็นนักรบฝึกหัดขั้น2แล้วแต่ก็ควรจะพักผ่อนบ้าง
เช้าวันต่อมาทั้งนาธานและมิล่าต่างมาที่ร้านก่อนเวลาเปิดหนึ่งชั่วโมงส่วนหนี้งก็เพื่อเข้ามาช่วยกายในโรงตีเหล็กและสังเกตการทำงานของกายเพื่อเรียนรู้
กายไม่ได้ห้ามและนั้นทำให้การทำงานของเขาเร็วขึ้นไปอีกเมื่อมีผู้ช่วย…
การทำงานหยุดลงจนกระทั่งช่างไม้กิลเดินทางมาถึงของและกล่องไม้ยังไม่ต่างจากเดิมมากนักช่างไม้กิลยังทำมามากกว่าเดิมอีกเท่าตัวนอกจากนั้นยังมีพวกสายและเครื่องหนังพร้อมด้วยปลอกมีดสั้นกายให้มิล่าจัดพวกมันไปวางที่มุมหนึ่งของชั้นวางของภายในร้านที่จัดเตรียมไว้
หลังจากทุกอย่างจัดการเสร็จกายก็ปล่อยให้มิล่าและนาธานอยู่หน้าร้านส่วนตัวเขานั้นกลับไปที่โรงตีเหล็กหลังร้านในสถานที่ร้อนระอุที่สุดก่อนจะจัดการเก็บกวาดของจนมีพื้นที่กว้างให้สามารถทำการฝึกฝนได้
“ศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังขั้น 0/2(0%)”กายนึกถึงวิธีการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่เคยอ่านมาเมื่อคืนนี้
กายหลับตาลงปรับรูปแบบการหายใจและเริ่มรวบรวมพละกำลังของร่างกายที่มีทั้งหมด…