เกมราชันสงครามออนไลน์ - ตอนที่ 78 ห้องเก็บสมบัติของสถาบันศาสตร์นักรบ
เกมราชันสงครามออนไลน์ ตอนที่ 78 ห้องเก็บสมบัติของสถาบันศาสตร์นักรบ
ตอนที่ 78 ห้องเก็บสมบัติของสถาบันศาสตร์นักรบ
ขณะที่กายและผู้ช่วยทั้งสองอย่างนาธานและมิล่ากําลังทํางานในหน้าที่ของตนเองอยู่ภายในร้าน เสียงเคาะประตูร้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง มิล่าที่ได้รับหน้าที่ประจําอยู่หน้าร้านก็วิ่งออกมาเปิดประตูอย่างกระตือรือร้น
“สวัสดีค่ะ ร้านเรายังไม่เปิดมีอะไรให้ช่วยค่ะ” มิล่าทักทายชายวัยกลางคนและเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม
“เออ…” ช่างไม้กิลดูจะแปลกใจที่เห็นว่าร้านของกายมีเด็กสาวมาเปิดประตู มันลองหันไปดูป้ายร้านอีกครั้งเพราะกลัวจะมาเคาะผิดหลัง แต่พอเห็นว่าเป็นร้านของช่างโลหะหนุ่มคนเดิม ช่างไม้กิลก็รู้ว่าตัวเองมาถูกร้านแล้ว
“ข้าเอาด้ามจับมาส่งให้เดวิน”
“ถ้างั้นเชิญเข้ามาด้านในก่อน เดี๋ยวข้าจะรีบไปตามท่านเควินมาให้ค่ะ” มิล่าพาทั้งสองเข้ามาในร้าน ก่อนจะรีบไปตามกายที่ตอนนี้อยู่ในเตาหลอมเหล็กที่ร้อนระอุ
เธอเห็นกายที่กําลังจับค้อนในมือทุบไปที่โลหะสีแดงอย่างต่อเนื่อง ทางด้านของนาธานนั้น เหงื่อท่วมตัวกําลังตั้งใจเทโลหะหลอมเหลวหล่อเป็นแท่งเหล็กดิบ
กายหันมามองมิล่าด้วยความสงสัยว่าเธอมีอะไร
“มีคนมาส่งของให้ท่านค่ะ”
คนส่งของ…คงจะเป็นช่างไม้กิล
“บอกช่างไม้กิลว่ารอข้าสักครู่”
“ได้ค่ะ”
กายจัดการงานที่อยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเรียกให้นาธานออกมาพักด้านนอกด้วย นาธานปาดเหงื่อบนหน้าและตัว แม้จะไม่มีความแสดงความเหนื่อยล้าให้เห็นมากนัก แต่เพราะนาธานยังปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิได้ จึงแสดงอาการแบบนี้
พอเห็นนาธานแล้ว กายก็นึกถึงวันแรกที่เข้าไปทํางานที่โรงตีเหล็กไร้เวลาขึ้นมา
คงต้องรีบจัดการงานในร้าน มีอาและลิลี่จะได้ไม่รอนาน
“เจ้ายกกล่องไม้นั้นมาด้วย แล้วค่อยกลับมายกกล่องไม้อีกอัน” กายชี้ไปที่กล่องไม้ที่ใส่ใบมีดสั้นทั้ง 8 นิ้วและ 12 นิ้วที่ทําเสร็จสําหรับขายวันนี้ และกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งเป็นกล่องที่ใส่ใบดาบยาวไว้
ส่วนตัวมันก็ถือกล่องโลหะเล็ก ๆ ออกไป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ใช้ตอนประกอบด้ามดาบ
“ครับ” นาธานรีบทําตามที่กายสั่งยกกล่องไม้อย่างง่ายดาย
“พวกนี้คือของสําหรับวันนี้ ข้ายังทําเผื่อไว้บางส่วนด้วยเช่นกัน” นาธานส่งด้ามจับชี้ไปที่กล่อง
“ขอบคุณมากช่างไม้กิล”
“ไม่เอาน่า ข้าทําเพราะเจ้าให้เงินดี มาเริ่มประกบด้ามจับกันเถอะ จริงสิ เด็กสองคนนี้คือ?”
“ พวกเขาคือผู้ช่วยที่ข้าจ้างมา ยังไงให้ทั้งสองคนช่วยช่างไม้กิลประกอบด้ามจับด้วยก็แล้วกัน”
“ได้แน่นอนนั้นจะทําให้งานของข้าเบาขึ้น”
หลังจากนั้นกาย นาธาน มิล่า ช่างไม้กิลกับลูกสาวช่วยกันประกอบด้ามจับและปลอกเข้าด้วยกันก่อนที่จะนําไปวางที่ร้าน ซึ่งมันใช้เวลาน้อยมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อน
หลายคนช่วยกันมันดีอย่างนี้เองสินะ
กายมองในร้านด้วยความพอใจ แม้ทั้งนาธานและมิล่าจะยังไม่ได้เป็นช่างโลหะฝึกหัดเต็มขึ้น แต่การใส่ด้ามจับและงานเก็บรายละเอียดให้กับมีดสั้นและดาบยาวนั้นก็ถือว่าทําได้อย่างสบาย ทําให้กายพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“จริงก่อนที่จะกลับข้าเกือบลืมบอกว่าสหายข้าที่เปิดร้านเครื่องหนังยินดีจะขายพวกสายสะพาย ปลอกมีดสั้นที่ทําจากหนังและของอื่น ๆ มาที่ร้านเจ้าในราคาส่ง ถ้าเจ้าไม่ติดขัดอะไร สามารถจ่ายเงินให้กับเขาล่วงหน้าได้เลย”
“หมายความว่าเขาจะไม่ส่งของมาฝากขายให้กับข้า”
“ก็คงอย่างนั้น แต่เพราะของประเภทเครื่องหนังนั้นมีราคาแพงทางสหายข้าคงไม่อยากจะเสี่ยงขาดทุน อีกอย่างเขาเป็นร้านที่ไม่ใหญ่ จึงมีเงินสํารองไม่มากนัก”
“ไม่เป็นไร ข้าไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นสักครู่” กายหันหลังวิ่งกลับไปที่ชั้นสอง จากนั้นก็หยิบเหรียญทองแบ่งออกเป็นสองถุง หนึ่งให้กับช่างไม้กิลและอีกหนึ่งจ่ายให้กับสหายร้านเครื่องหนังของช่างไมกิล เพื่อเป็นเงินมัดจําไปก่อน
หลังจากช่างไม้กิลกลับออกไป มันก็เกือบจะถึงเวลาเปิดร้านแล้ว กายไม่ได้อยู่ต่อ แต่ให้มิล่าและนาธานคอยเฝ้าร้านไว้ เพราะตอนนี้มันต้องรีบไปที่สถาบันศาสตร์นักรบตามที่นัดกับมีอาไว้
กายนั่งรถม้ามาที่ด้านในสถาบันศาสตร์นักรบโดยตรง หลังจากไม่ได้เข้ามาที่นี่สักพัก ทางสถาบันศาสตร์นักรบดูจะเงียบกว่าปกติมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนักเรียนชั้นปี 1 สอบตกไปตั้ง 800 คน ทําให้ทางสถาบันศาสตร์นักรบไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก
“เฮ้…ทางนี้” เสียงของลิลี่ดังมาแต่ไกล กายหันไปมองก็เห็นกับมีอาและลิลี่
กายรีบวิ่งไปหาทั้งสองก่อนที่จะถามกลับมา “พวกเจ้ามารอข้านานหรือยัง”
“เปล่า…เราฟังมากันเมื่อสักครู” มีอาตอบกาย
“อืม”
กาย มีอา ลิลี่ ทั้งสามเดินไปที่ด้านในของปราสาทของสถาบันศาสตร์นักรบ ซึ่งทั้งสามคนนั้นต้องไปติดต่ออาจารย์คาร์เตอร์ เซนลินทําเรื่องให้กับพวกเขา
แต่เมื่อไปถึงอาจารย์คาร์เตอร์เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะมารับรางวัล จึงหยิบเอกสารซึ่งเป็นกระดาษแข็งที่มีตราประทับสองสามจุด จํานวนสามใบส่งให้กับทางพวกเขา ก่อนจะให้กายและทั้งสองคนเอาหนังสือยืนยันตัวตนออกมา
อาจารย์คาร์เตอร์พาพวกเขาไปแก้ไขหนังสือยืนยันตัวตนและบันทึกข้อมูลบางส่วนลงไป ซึ่งใช้เวลาไม่นานก่อนจะยื่นส่งคืนให้กับพวกเขา
“พวกเจ้าสามคนคือพวกที่มาช้าสุด ดังนั้นของที่เล็งอยู่อาจจะโดนคนก่อน ๆ เอาไปแล้ว”
“ขอบคุณอาจารย์คาร์เตอร์มากขอรับ พอดีข้าลืมว่าต้องมารับรางวัล
“ข้าสองคนก็เช่นกัน” มีอาพูดเสริมส่วนลิลี่นั้นเธอไม่ได้สนอะไรมากนัก
“ถ้างั้นข้าจะแนะนําอะไรเจ้าอย่างหนึ่งก็แล้วกัน ถ้าเข้าไปเลือกศิลปะการต่อสู้ ลองเลือกพวกที่เป็นประเภทปลดล็อกขีดจํากัด เพราะมันมีค่ามากกว่า ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ และที่สําคัญมันไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเหรียญทอง” อาจารย์คาร์เตอร์แนะนําทั้งสามคนด้วยความหวังดี
“ขอบคุณขอรับ/เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์คาร์เตอร์” ทั้งสามคนขอบคุณอาจารย์คาร์เตอร์จากใจ มีอาจารย์น้อยคนที่จะใส่ใจพวกเขาแบบนี้
“ไปเถอะเอาเอกสารที่ข้าให้ไปยืนกับผู้ดูแลที่ห้องเก็บสมบัติของสถาบันศาสตร์นักรบ อย่าได้เสียเวลาอีก พวกเจ้ายังต้องรีบฝึกฝนและข้าหวังว่าพวกเจ้าจะทําภารกิจสําเร็จ รีบขึ้นเป็นชั้นปี 2 และแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ บางทีอีกไม่นานโลกราชันจะวุ่นวายขึ้นอีกมาก” อาจารย์คาร์เตอร์พูดประโยคสุดท้ายด้วยเสียงที่เบาจนพวกเขาแทบไม่ได้ยิน
หลังจากนั้นทั้งสามก็เดินไปที่ห้องสมบัติที่อาจารย์คาร์เตอร์บอก ในระหว่างนั้นกายก็ถามมีอาเรื่องศิลปะการต่อสู้ที่อาจารย์คาร์เตอร์บอก
“ข้าถามอะไรหน่อย ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อคขีดจํากัดที่อาจารย์คาร์เตอร์พูดถึงมันคืออะไร”
“ให้มีอาอธิบายดีกว่า ข้าไม่เก่งเรื่องนี้เท่าไหร่” ลิลี่รีบโยนให้มีอาในทันที
มีอาตอบรับด้วยความยินดี เริ่มอธิบายให้กับกายได้ฟัง
“เจ้ารู้จักศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธแล้ว มันก็คือ ศิลปะที่ใช้กับอาวุธและกระบวนท่าต่าง ๆ ส่วนศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจํากัด ก็คือศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ปลดปล่อยขีดจํากัดของร่างกาย
“ศิลปะที่ปลดปล่อยขีดจํากัดของร่างกาย” กายทวนคําพูดของมีอา
“ใช่ สมมุติเจ้าใช้ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจํากัดพละกําลัง เจ้าจะมีพลังที่มากขึ้นกว่าปกติ ตามขั้นที่เจ้าฝึกถึง ซึ่งตระกูลของข้ามีศิลปะนี้อยู่ แต่อันอื่น ๆ นั้นหายากและถ้าได้จากทางสถาบัน ศาสตร์หรือนครดาราฟ้าจะต้องทําสัญญาห้ามเผยแพร่เนื้อหาของศิลปะการต่อสู้รูปแบบปลดล็อกขีดจํากัด แต่แน่นอนว่าต่อไม่ให้ทําสัญญาก็ไม่มีใครต้องการแบ่งปันผู้อื่นอยู่แล้ว” ลิลี่พูดเสริมให้กับมีอา
มีอาพูดต่อ “เพราะไม่มีใครต้องการให้คนอื่นแข็งแกร่งกว่าตนเอง แต่อันที่จริงมันก็พอจะหาได้ข้างนอกบ้าง ซึ่งราคานั้นหลายหมื่นทองเลย โดยเฉพาะขั้นสูงขึ้นไป”
หมื่นทอง!
กายกลืนน้ําลายไม่รู้ตัว เงินจํานวนหมื่นเหรียญทองนั้นมันคําจํานวนที่มากมายนัก แม้กายจะรู้ว่าอีกไม่นานถ้าทําร้านไร้ขอบเขตไปเรื่อย ๆ อาจจะเก็บเงินได้หมื่นเหรียญทอง แต่มันก็ต้องใช้เวลาแรงกายและทุนทรัพย์
ดูเหมือนเราต้องขยันมากขึ้น
ในระหว่างที่กายครุ่นคิดพวกเขาก็เดินมาถึงห้องเก็บสมบัติของสถาบันศาสตร์นักรบแล้ว มันเป็นประตูโลหะมีทหารยามเฝ้าอยู่ 4 นาย ซึ่งกายไม่อาจจะรู้ได้ว่าพวกเขามีระดับพลังอะไร
“รุ่นพี่ข้ามารับรางวัลของการทดสอบปี 1 นี่คือเอกสารที่ข้าได้มาจากท่านอาจารย์คาร์เตอร์” มีอาบอกกับหนึ่งในทหารยามพวกนั้น
รุ่นพี่อย่างนั้นเหรอ ปีสองหรือสามกันแน่ ถ้าอย่างนั้นทางสถาบันศาสตร์นักรบ ก็ให้พวกเขามาทําหน้าที่ตรงนี้ บางทีมันคงเป็นภารกิจ
“พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้าไปบอกกับท่านอาจารย์กรีฟรีลอสก่อน” กล่าวจบรุ่นพี่ทหารยามก็หยิบเอกสารของทั้งสามและเดินหายเข้าไปที่หลังประตูโลหะ
บรรยากาศกลับมาน่าอึดอัดอีกครั้ง รุ่นพี่ทั้งสามคนแม้จะไม่มองมาที่กาย มีอา และลิลี่ แต่ก็ทำให้พวกเขารู้สึกเหงื่อตกได้
“เจ้าว่าพวกเขาถึงระดับนักรบแท้จริงหรือยัง” ลิลี่ขยับเข้ามาใกล้มีอาและถามออกมา
“น่าจะเข้าไม่แน่ใจ ปกติแล้วถ้าเป็นระดับนักรบแท้จริงขั้น 1 พวกเขาคงจะจบการศึกษาและถูกบรรจุเข้าไปในกองทัพแล้ว” มีอาตอบกลับไปด้วยเสียงที่เบามาก ๆ
ลิลี่ด้วยความอยากรู้จึงกระซิบถามต่อ “เจ้าว่าพวกเขาเรียนซ้ําชั้นไหม หรือเป็นพวกที่สอบไม่จบหรือไม่”
ระหว่างที่ลิลี่และมีอาคุยกันนั้นกายผู้เงียบขรึมอยู่คนเดียวก็ไม่คิดว่าลิลี่จะถามออกมาแบบนั้น มันรู้สาวน้อยคนนี้ไม่เกรงกลัวอะไร แต่เล่นมาพูดนินทาใกล้ ๆ รุ่นพี่แบบนี้ มันก็ทําให้กายกลัวว่ารุ่นพี่จะโมโหเดินมาอัดพวกมันสักสองสามครั้ง แน่นอนว่ากายคงโดนหนักสุด เพราะรุ่นพี่พวกนี้คงไม่ทําร้ายสาวน้อยอย่างลิลี่และสาวสวยอย่างมีอาลงได้แน่
“อะแฮ่ม…ข้าว่าเรารอเงียบ ๆ ดีกว่า”
“เจ้าจะกลัวอะไร…” ลิลี่หันไปตอบกาย
“แล้วถ้าเจ้าไม่กลัวจะกระซิบทําไม” กายพูดสวนไปลลี่ถึงกับพูดไปต่อไม่ถูก
“นั้นก็จริง ถ้าเจ้าโดนรุ่นพี่รุมอัดข้าจะไม่ช่วย” มารีบถอยออกห่างจากลิลี่
“มีอาเจ้าก็คุยกับข้า” แต่แล้วดูเหมือนลิลี่จะนึกอะไรขึ้นได้จึงหันไปมองกายและพูดออกมา “จริงสิ ข้าลืมไปเลย เดวิน เมื่อวันนั้นเจ้าล้อว่าข้าเป็นลิง เจ้าด้วยมือา”
“ข้าจําไม่ได้”
“ข้าก็จําไม่ได้เช่นกัน”
ทั้งสองบอกปฏิเสธทันที่อย่างพร้อมเพรียงราวกับพวกเขารู้ใจกัน แต่ก่อนที่จะได้พูดต่อ เสียงฝีเท้าที่ดังมาจากหลังประตูก็ดังขึ้น
“พวกเจ้ามีเวลา 1 ชั่วโมงเลือกของที่ตรงกับรางวัลที่พวกเขาได้รับ”