เกมราชันสงครามออนไลน์ - ตอนที่ 69 ความรู้สึก
เกมราชั้นสงครามออนไลน์
ตอนที่ 69 ความรู้สึก
กลุ่มนักเลงที่ย้อนกลับมาสามคนยืนจ้องมองกาย อันยา และดีนจากทางด้านหลัง กายรีบหันไปอีกทาง แต่ปรากฏว่ามันก็มีอีกสามคนมาขวางทางไว้เช่นกัน
เส้นทางหนีถูกบิด ถ้าอย่างนั้นพวกมันก็คงไม่ได้หนีไปตั้งแต่แรก คงจะวิ่งออกไปให้เราเข้ามาช่วยอันยา ไม่สิ!พวกมันไม่จําเป็นต้องทําแบบนั้น บางทีตอนที่หนีพวกมันอาจจะนึกขึ้นได้และย้อนกลับมาดู
ตอนนี้เราจะพูดไปก็ไม่มีประโยชน์พวกมันน่าจะเดือดน่าดูที่โดนเราหลอก
นักเลงร่างใหญ่ยกท่อเหล็กพุ่งตรงเข้าหากายในทันที มันคิดจะฟาดกายด้วยแทนเหล็กซึ่งถ้าโดนอย่างน้อยกาย คงนอนหยอดน้ําข้าวต้มไปอีกสองสามเดือน
“อ่า…ไม่นะ” อันยาร้องด้วยความกลัว แต่เพราะกลัวเกินไปเธอจึงหลับตาตามสัญชาตญาณเพื่อไม่ให้เป็นการโดนท่อเหล็กฟาดตาย
ทางด้านของดีนแฟนหนุ่มของอันยาก็ตกใจกลัวจนแข็งค้างไปเช่นกัน แต่มันกลับไม่มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของกายดังออกมาอย่างที่ทุกคนคิด นอกจากเสียงของเหล็กที่ฟาดลงไปที่พื้นดัง แกร็ง!
กายมองดูเหล็กที่ฟาดลงพื้นห่างออกไปไม่กี่คืบ มันตกใจอย่างมากในตอนที่นักเลงร่างใหญ่โจมตีมา แต่ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายด้วยความเคยชินในการหลบหลีก กายหลบมาได้อย่างเหลือเชื่อ
“หึ หลบเก่งนี้ไอ้หนู” นักเลงร่างใหญ่พูดเสียงดังข่มขวัญอย่างเต็มที่ แต่อันที่จริงมันกําลังกลบเกลื่อนความขายขี้หน้าของมันที่ตีไม่โดนเด็กหนุ่ม
กายไม่สนใจรีบถอยมาตั้งหลัก ในจังหวะนั้นเองนักเลงอีกคนที่อยู่ด้านหลังฉวยโอกาสในตอนนั้นตีกายจากทางด้านหลัง
“ระวัง” อันยาร้องเตือนเสียงดัง
กายที่ได้ยินรีบกลิ้งตัวไปกับพื้นหลบไปได้อีกครั้ง นักเลงคนนั้นโมโหอย่างมากหันไปตบอันยาเข้าหนึ่งที่ก่อนจะชี้หน้าดีนและบอก “จับแฟนแกและทําให้มันหุบปากไปซะ! ไม่อย่างนั้นแกทั้งคู่ได้ตายเป็นผีเฝ้าตรอกนี้แน่”
“ได้ ๆ ผมจะทํา” ดีนรีบคว้าตัวอันยาเข้ามากอดและเอามือปิดปากเธอไว้ อันยาพยายามดิ้นรน แต่เธอไม่มีทางสู้แรงของดีนได้
ตอนนี้หลังจากหลบการโจมตีสองครั้งกายก็โดนต้อนมาจนมุมอยู่ที่หนึ่ง กายหันหลังเข้าหากําแพง ด้านหน้ามี 4 คนล้อมเขา อีกสองคุมเชิงอยู่วงนอกกันกายหลบหนี
พวกมันเป็นนักเลงมืออาชีพมาก.. แม้กายจะไม่รู้ว่านักเลงมืออาชีพเป็นไงก็ตาม
“เอาแม่งเลย” นักเลงร่างใหญ่เป็นตัวเปิดอีกเช่นเคย กายไม่รู้จะทําไงจึงทิ้งตัวลงท่อเหล็กฟาดเข้าที่กําแพงอย่างแรงจนเกิดประกายไปเนื่องจากเหล็กขูดกับหนังปูน กายกําหมัดแน่นต่อยเข้าไปที่น้องชายของชายร่างใหญ่อย่างแรงดัง ปัก! ไม่ต้องบอกก็สามารถจินตนาการถึงความเจ็บปวด ท่อเหล็กในมือชายร่างใหญ่ลงตามมาด้วยมันทิ้งตัวลงมือกุมเป้า ใบหน้าเขียวคล้ําพูดล้ําอึ้งไม่เป็นภาษา
กายคว้าท่อเหล็กจากที่ชายร่างใหญ่ทําหล่นเมื่อสักครู่ขึ้นมา มาชี้ไปซ้ายขวาข่มขู่นักเลงที่เหลือ
“แค่นี้พอดีกว่า ฉันไม่อยากทํามากกว่านี้” กายทําใจดีสู้เสือ อันที่จริงมันกลัว
“รออะไรอยู่ จัดการมันสิวะ” นักเลงร่างใหญ่มือกุมเป้าสั่งให้นักเลงที่เหลือลงมือ
“เล่นแม่งเลย” นักเลงอีก 3 คนจับท่อเหล็กแน่นตีไปที่กาย กายเห็นเช่นนั้นก็จับท่อเหล็กในมือในตอนนั้นเองมันก็ราวกับรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคยที่ยากจะอธิบาย
กายใช้ท่อเหล็กบัดการโจมตีจากทั้งสามคนอย่างง่ายดาย ก่อนจะฟาดไปที่หัวเขาของหนึ่งในนั้นด้วยแรงเกือบทั้งหมด ทําให้ตัวของชายคนนั้นเสียหลังลอยขึ้นจากพื้นก่อนที่ตัวจะหล่นกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง
“อ๊ากกก…เข่า เข่าฉันนน” นักเลงที่โดนฟาดที่เข่าจับหัวเข่าของตัวเองร้องแหกปากดังลั่น แต่กายยังไม่หยุดแค่นั้น อาศัยจังหวะที่อีกสองคนอึ้งฟาดไปที่หลังของหนึ่งในนั้น
ด้วยแรงฟาดหัวของชายคนนั้นกระแทกเข้ากับกําแพงดัง ปัก! เลือดอาบหน้าล้มลงไป แต่ต่อให้กายจะเก่งแค่ไหน มันก็เหนื่อยเป็นโดยเฉพาะร่างกายที่ไม่ค่อยได้ออกกําลังกายอย่างจริงจัง จึงเปิดโอกาสให้นักเลงที่ใกล้กายฟาดท่อเหล็กไปที่แขนของชายหนุ่มอย่างแรง
กายยกแขนขั้นมากันตามสัญชาตญาณ มันรู้ได้ถึงความเจ็บปวดจากแขนอย่างชัดเจน พร้อมกับตัวที่เซล้มไปกับพื้น
“มันล้มแล้ว ตีมันซ้ําอีก” ตอนนี้อีกสองคนที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลัง ก็เข้ามารุมฟาดกายด้วยท่อเหล็กในทันที
ขอโทษครับ ไรท์แค่ยากจะระบายครับ ถ้าใครอ่านมาถึง ตรงนี้แสดงว่าแมวชื่อ “มาช่า” ของไรท์ได้โดนรถชนตายตอนที่ไรท์เขียนมาถึงตรงนี้พอดี เวลาคือ 19.30 น. วันที่ 10 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 ความสูญเสียครั้งที่ 5 ในปีนี้
บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าความตายและการจากลาจะมาพรากสิ่งที่เรารักจากไปตอนไหน
ดังนั้นไรท์ขอให้ผู้อ่านทุกท่านใส่ใจกับสิ่งที่มีค่าให้เหมือนกับว่าทุกวันจะเป็นวันสุดท้ายที่เราได้พบหน้ากันครับ และขอให้ทุกคนสู้ไปต่อกับชีวิตที่ยังมีอยู่ของตนเอง เพื่อจะได้เก็บความทรงจําที่มีค่าของเขาเหล่านั้นที่เราเสียไปให้มีชีวิตในความทรงจําของเราต่อไปครับ ขอบคุณจาก WITTERRY ไรท์จะเขียนตอนนี้ต่อให้เสร็จ
กายยกท่อเหล็กของตนเองกันท่อเหล็กทั้งสามที่ฟาดเข้ามา ไม่ยั้ง แต่แรงของมันเพียงคนเดียวไม่มีทางสู้สามคนได้แน่นอน ทําให้มีหลายครั้งที่ท่อเหล็กฟาดโดนตัวกาย อีกทั้งนักเลงพวกนั้นยังใช้ทั้งเท้าหมัดเข่าใส่ให้กายไม่ยั้ง
แบบนี้ไม่ดีแน่
ชายหนุ่มกัดฟันแน่นพยายามไม่คิดถึงเลือดที่หางคิ้วซึ่งกําลังไหลออกมา
“ย้ากกก…” กายแหกปากร้องเสียงดังเพื่อเรียกพลังของตนเองพุ่งกอดเอวหนึ่งในนักเลงจนทั้งสองชนเข้ากับกําแพงด้านหลัง ก่อนจะต่อยไปที่ใบหน้าของมันไม่ยัง อีกสองคนก็ไม่คิดว่ากายจะมีแรงฮึดสู้ขนาดนี้มันรีบเข้าไปช่วยเพื่อนนักเลงของตนที่ตนนี้เลือดท่วมหน้าที่ปูดเขียวไปหมด
ปัก
ท่อเหล็กฟาดเข้าไปที่หลังของกายอย่างรุนแรง แต่ชายหนุ่มกับไม่สะทกสะท้าน อันที่จริงต้องบอกว่าตอนนี้กายคลุ้มคลั่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันหันกลับมามองนักเลงอีกสองคนนั้นด้วยสายตาเย็นชาราวกับสัตว์ร้ายที่พึ่งตื่นขึ้นมา
“มองมองหน้าแบบนั้นหมาย…หมายความว่าไงว่ะไอ้ลูกหมา”
“แก.. ”
นักเลงสองคนสั่นไปทั้งตัวพวกมันยกท่อเหล็กชี้ใส่กาย ด้วยมือสั่นเทา กายไม่สนใจเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจนน่าหวาดกลัวกระโจนขึ้นจากพื้นดินพร้อมกับร้องคํารามตามความเคยชินออกมาในชั่วอึดใจ
“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ฟาดฟันขั้น 1” ฟาดท่อเหล็กในมือเข้าใส่หนึ่งในนักเลง แต่ในจังหวะก่อนที่ท่อเหล็กจะโดนกายก็เหมือนได้สติขึ้นมา มันรีบเบียงเบนทิศทางการฟาดท่อเหล็กของลงไปด้านข้างกําแพงตึก
ตูม!
กําแพงปูนถึงกับสั่นเบาๆ ยากจะมีใครสังเกตเห็น แต่พวกที่เหลือเห็นรอยแตกของกําแพงที่ท่อเหล็กฝังลึกไว้กว่า 5 เซนติเมตรอย่างชัดเจน ท่อเหล็กในมือของกายบิดงอผิดรูป ตรงที่มือจับถึงกับทิ้งรอยนิ้วมือของกายไว้ราวกับท่อเหล็ก เป็นเพียงดินน้ํามันที่อ่อนนุ่มในมือของกาย
กายดึงท่อเหล็กออกมาจากกําแพง ก่อนจะหันไปจ้องมองสองนักเลงที่ยังไม่เป็นอะไร ทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ขาทั้งสองข้างสั่นเทา มันรีบถอยหนีด้วยความกลัวคล้ายกับคนสติแตก คนที่เหลืออีก 4 คนก็เห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้นมันรีบพาตัวเองวิ่งหนีไปราวกับหมูกับหมา
นับตั้งแต่ที่พวกมันเป็นนักเลงมาไม่เคยคิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
“ก..กาย นายเป็นอะไรไหม” อันยาดิ้นจนหลุดจากดีนที่จับตัวเธอไว้ หญิงสาวรีบเข้าไปดูลูกพี่ลูกน้องของเธอ ใบหน้าของกายบวมช้ําและที่หัวมีเลือดออก อันยาคิดจะยื่นมือไปช่วยกายกดแผล แต่ชายหนุ่มห้ามเธอไว้
นอกจากหัวแตก แผลฟกช้ําตามตัวกายและมือทั้งสองที่จับท่อเหล็กถลอกเปิดออกจนเลือดไหลเล็กน้อยกับรู้สึกหมดแรงและปวดที่แขนมาก นอกนั้นกายก็คิดว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมาก
“เธอรีบกลับไปที่บ้านก่อนดีกว่า” พูดจบกายก็ถือท่อเหล็กในมือเดินออกไปจากซอยนี้ในทันที
อันยาแผ่นหลังกายเดินจากไป ก่อนที่จะหันไปมองดีนที่ตอนนี้ตกใจกลัวจนหว่างขาของมันเปียกไปแล้ว อันยาไม่สนใจดีนอีกเธอรีบวิ่งออกจากซอยแห่งนี้ตรงไปแจ้งความกับตํารวจในทันที ซึ่งส่วนหนึ่งหญิงสาวต้องการให้ทางตํารวจดําเนินการดึงเอาเงินของเธอคืนมา
ทางด้านของกาย มันไม่ได้ไปที่โรงพยาบาล แต่ไปที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 แทน ตอนนี้กายไม่รู้ว่าเจ้ซาเรียกลับมาแล้วหรือยัง แต่กายคิดว่าตนควรจะไปหาเจ้ซาเรียก่อน คนขับรถขับไปส่งกายด้วยท่าทางหวาดระแวงราวกับกาย เป็นคนร้ายที่วิ่งมาโบกรถหนีตํารวจ แต่กายไม่สนใจ มันจ่ายเงินลงจากรถทันทีที่ถึงจุดหมาย
หลังจากไปถึงหน้าร้านเกมเสมือนจริงที่ปิดอยู่ กายลองเคาะเรียกสองสามครั้ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก…
ซาเรียที่ในปากคาบอมยิ้มเปิดประตูออกมาด้วยความสงสัย แต่พอเห็นสภาพของกายเธอก็นิ่งไปสักพักก่อนจะบอกว่า “เข้ามาข้างในก่อน”
กายพยักหน้าตกลงเดินเข้าไปด้านในร้าน ซาเรียรีบเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลในร้านที่ไม่เหมือนกับของทั่วไปออกมาจัดการทําความสะอาดแผลที่หัวของกายก่อนในทันที จากนั้นก็ตามด้วยการล้างแผลจนสะอาด
ซาเรียหยิบสเปกระปองของที่ใช้ระดับกองทัพออกมาฉีดใส่แผลที่หัวของกาย เลือดหยุดไหลทันที จากนั้นก็ใช้ปลาสเตอร์ยาชนิดที่ปิดแผลแตกแบบนี้ออกมา ดึงปีกทั้งสองเพื่อให้แผลปิดเข้าหากัน
“ปวดฉิบหายเลย…” กายพูดออกมาตามเคยชิน แต่พอรู้ว่าอยู่ต่อหน้าเจ้ซาเรียจึงรีบขอโทษออกมา
“ขอโทษครับเจ้ซาเรีย”
“ไม่เป็นไร กินยานี่มันช่วยแก้ปวด” ซาเรียส่งยาเม็ดสีขาวมาให้กาย กายไม่รอช้า กินมันเข้าไป แม้จะขมแต่ก็ไม่กล้าคายออกจําใจกลืนน้ําตามไป
“นายไปโดนอะไรมา” ซาเรียถามด้วยความจริงจัง
“เออ..พอดีไปมีเรื่องกับพวกนักเลงมา” กายพูดจบพอเห็นสีหน้าของเจ้ซาเรียที่จ้องมาเขม็ง มันจึงรีบพูดเสริม “เธอกําลังโดนนักเลงพวกนั้นทําร้าย เพราะแฟนหนุ่มของเธอไปมีปัญหากับนักเลงพวกนั้น”
“มันมีกันอยู่กี่คน”
“หก แค่หกคน”
“นายคนเดียวกัดการมันได้ทั้งหมด”
“เปล่าผมจัดการมันไปสี่คน ก่อนที่อีกสองจะพากันวิ่งหนีไป” กายยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ ซาเรียมองกายอย่างเฉยเมย
กายเงียบไปสักพักก็กล่าวออกมา “แต่ในตอนสุดท้ายมันมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น”
“เรื่องแปลก ๆ?” ซาเรียรู้สึกสนใจเรื่องแปลกๆของกาย เธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเคาร์เตอว์ เปิดลิ้นชักหยิบอมยิ้มอันใหม่ขึ้นมาแกะห่อออก ก่อนจะใส่ปากอมรอ ฟังกายพูดออกมาอย่างตั้งใน
“ที่ผมจะบอกมันอาจจะดูแปลกๆไปหน่อย ถ้าบอกแล้วอย่าหาว่าผมบ้านะ”
ซาเรียไม่ตอบยังจ้องมองกาย นั้นทําให้กายรีบเล่าออกมาในทันที
“ตอนสุดท้ายผมเผลอใช้ศิลปะการต่อสู้แบบในเกมราชัน สงครามออนไลน์ตามความเคยชิน ในตอนนั้นพอใช้มันเพราะคิดว่านี่คือเกม อยู่ๆก็รู้สึกว่าแขนทั้งสองมีแรงขึ้นมามหาศาล มันมากถึงขนาดที่ผมสามารถฟาดกําแพงจนแตกร้าวด้วยท่อเหล็กธรรมดา” กายหยิบท่อเหล็กที่บิดเบี้ยวออกมาให้เจ้าซาเรียดู
ทั้งร้านเกมเสมือนจริงเงียบลงในทันที มีเพียงเสียงจากเครื่องฟอกอากาศเท่านั้นที่ทํางานอย่างช้าๆ